เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2052 กินหัวใจ
ทะเลเมฆลอยอยู่บนท้องฟ้ามันดูเหมือนทะเลแต่มันก็คล้ายภูเขาจํานวนนับไม่ถ้วนในความเป็นจริงมันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างอิสระ
นี่คือท่าไม้ตายและไพ่ตายของฟางหยวน
ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!
ท่าไม้ตายนี้ลึกลับมาก
นอกจากนี้มันยังถูกดัดแปลงโดยฟางหยวน นอกเหนือจากวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งพลังปราณเขายังใช้วิญญาณบนเส้นทางมนุษย์อีกนับไม่ถ้วนเพื่อสนับสนุนมัน
มันสามารถใช้ปราณทุกชนิดบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นปราณแห่งชีวิต ปราณแห่งความตายปราณดาบปราณกระบี่ปราณวายุปราณแสงและอื่นๆยิ่งมีทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณมากเท่าใด ท่าไม้ตายนี้ก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้นมันสามารถปลดปล่อยพลังโจมตีที่แข็งแกร่งและสามารถดูดพลังปราณจากภายนอก
ฉีเซียงทิ้งท่าไม้ตายนี้ไว้เบื้องหลัง ผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่ของโลกใบนี้ไม่กล้าท้าทายหมื่นภัยพิบัติแม้แต่ครั้งเดียวแต่ถ้ำสวรรค์ของเซียงกลับสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้ก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมานับครั้งไม่ถ้วน
หลังจากกลืนกินถ้ำสวรรค์ของเซียง ฟางหยวนใช้แสงแห่งปัญญาดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตระหว่างสงครามชะตากรรมเขาใช้ท่าไม้ตายนี้ทําลายกําแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดและดูดซับมัน
หลังจากครั้งแรก เขายังทําลายมันเป็นครั้งที่สอง
นอกจากนั้นฟางหยวนยังใช้ตัวตนของบรรพชนทะเลปราณดูดซับพลังปราณมากมายจากถ้ำสวรรค์ต่างๆ ที่ทําให้ทะเลปราณในมิตช่องว่างจักรพรรดิเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลดังนั้นพลังอํานาจของท่าไม้ตายนี้จึงบรรลุถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว
ด้วยความตั้งใจของฟางหยวน เขาปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตออกไปทันที
เสาปราณสีขาวพุ่งลงจากท้องฟ้าและกลืนกินก่อนเนื้อเข้าไป
“บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้น เซี่ยเอ๋อที่อยู่ไม่ไกลรู้สึกหูดับ แม้นางจะอยู่ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะผล็กน้ำแข็งแต่นางยังต้องปิดเปลือกตาเพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาของนางบอดจากคลื่นกระแทก
ก้อนเนื้อถูกกดลงบนทุ่งหญ้าของภาคเหนือน้อย แผ่นดินสั่นสะเทือนรอยแตกร้าวก่อตัวขึ้นบนพื้นราวกับใยแมงมุมเสาปราณสีขาวยังโจมตีก้อนเนื้ออย่างไม่หยุดยั้งและกดมันจมลงไปใต้ดินมากขึ้นเรื่อยๆ ก้อนเนื้อค่อยๆหดตัวลงภายใต้พลังอํานาจของเสาปราณสีขาว
เสียงโหยหวนดังออกมาจากรูพลนบนก้อนเนื้อ
นี่คือเสียงกรีดร้องของเจตจํานงสวรรค์!
เสาปราณสีขาวคงอยู่ประมาณยี่สิบลมหายใจก่อนจะเลือนหายไป
ทะเลเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าหดตัวลงถึงแปดสิบส่วนแต่ก้อนเนื้อพบกับความสูญเสียมากกว่า
มันหดตัวเล็กลงมากและดูเหมือนซากศพนอนอยู่ในหลุมลึกกว่าพันเมตร
ฟางหยวนถอนหายใจเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้เขาใช้ความคิดจนถึงขีดจํากัด
หม็นภัยพิบัติที่เกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋มากกว่าสามพันร่องรอยหยุดลงชั่วคราว
นี่เป็นโอกาสที่หายากฟางหยวนรีบใช้ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยพันธนาการสวรรค์เพื่อปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ทันที
ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาสามารถปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ได้มากกว่าหนึ่งร้อยร่องรอย หากร่วมกับก่อนหน้านี้เขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้น ทางสวรรค์มาแล้วมากกว่าหนึ่งร้อยหกสิบร่องรอย
เมื่อฟางหยวนปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ได้ถึงสองร้อยร่องรอยในที่สุดเตสวรรค์ก็เริ่มตอบสนอง ก่อนเนื้อในหลุมหายไปขณะที่ลูกเห็บเริ่มตก
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังสามารถรักษาสถานการณ์และสามารถกลับไปให้ความสนใจกับโลกภายนอก
ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขได้รับความเสียหายอย่างหนัก การโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เทพปีศาจจิตวิญญาณเพิกเฉยต่อการโจมตีของถั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆ เป้าหมายของเขามีเพียงฟางหยวนเท่านั้น
แม้ฟางหยวนจะพยายามซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเขาแต่สถานการณ์ยังเลวร้าย
“บม!”
ในที่สุดรูช่องโหว่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขเทพปีศาจจิตวิญญาณมองฟางหยวนที่นั่งอยู่ภายในผ่านรูนี้ด้วยเจตนาสังหารใบหน้าของฟางหยวนค่อนข้างซีดขาวหลังจากเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต
ฟางหยวนอยู่ในสภาพไม่ดีนัก
เทพปีศาจจิตวิญญาณมีประสบการณ์มากมาย นั่นทําให้เขาตัดสินใจใช้ไพ่ตายทันทีท่าไม้ตายอมตะกินหัวใจ!
“ท่าไม้ตายนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตํานานมนุษย์คนแรกฟางหยวนเจ้าจบแล้วคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเจ้าไม่สามารถปิดกันมัน”เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวด้วยเจตนาสังหาร
ในเวลาต่อมาใบหน้าของฟางหยวนก็กลายเป็นบิดเบี้ยวเขาจับหน้าอกของตนด้วยความเจ็บปวดราวกับหัวใจของเขากําลังถูกกัดกินโดยสัตว์ร้าย
ต่านานมนุษย์คนแรก
มนุษย์คนแรกมองไปยังสัตว์ร้ายที่ไร้ศีรษะ“ต่อไปข้าจะกินส่วนสําคัญที่สุดของสถานการณ์เลวร้าย”
วิญญาณความเข้มแข็งหัวเราะ“นี่เป็นตัวเลือกที่โง่เขลา!”
ร่างกายของสัตว์ร้ายสั่นสะท้านขึ้นก่อนที่ภัยพิบัติจะพุ่งออกจากลําคอของมันและโจมตีมนุษย์คนแรก
ภัยพิบัติเหมือนไฟที่เผากระดูกของมนุษย์คนแรกภัยพิบัติเหมือนค้อนที่ทุบกระดูกของมนุษย์คนแรกภัยพิบัติเหมือนลมและฝนที่กวาดผ่านร่างกายอันเปลือยเปล่าของมนุษย์คนแรกภัยพิบัติ เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงบนศีรษะของมนุษย์คนแรก
วิญญาณความหวาดกลัวตะโกน “โอ้สวรรค์คนน่ากลัวเกินไปแล้ว มนุษย์จะตายอย่างแน่นอน!”
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวให้กําลังใจ “มนุษย์อย่ากลัว!”
วิญญาณตัวตนและวิญญาณทัศนคติตะโกนพร้อมกัน“ข้าแข็งแกร่งมากภัยพิบัติทั้งหมดเป็นเพียงละอองฝนและสายลมที่ไม่สาคัญ!”
วิญญาณความอ่อนแอ วิญญาณการทรยศและวิญญาณความหวาดกลัวต้องการให้มนุษย์คนแรกหลบหนีไป“มนุษย์รีบหนีไป อย่าเชื่อคําพูดของวิญญาณตัวตนมันกําลังหลอกเจ้า!”
มนุษย์ติดอยู่ในภัยพิบัติ เขาไม่สามารถหลบหนี
เมื่อภัยพิบัติปรากฏขึ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะวิ่งหนี
“น่ากลัวเกินไปแล้ว ไปกันเถอะลืมมนุษย์ซะ”วิญญาณความอ่อนแอ วิญญาณการทรยศและวิญญาณความหวาดกลัวบินหนีไปพร้อมกัน
“พวกทรยศ!”วิญญาณตัวตนโกรธมากมันจับวิญญาณทั้งสามและกัดพวกมัน
วิญญาณทั้งสามได้รับบาดเจ็บแต่พวกเขายังหลบหนีต่อไป
วิญญาณตัวตนต้องการไล่ล่าแต่วิญญาณกฎและวิญญาณระเบียบเตือน “อย่าไล่ล่าพวกมันการหลบหนีภัยพิบัติเพราะความหวาดกลัวความอ่อนแอและการทรยศตนเองจะนําไปสู่ความตายดีแล้วที่พวกมันจากไปวิญญาณความอ่อนแอและวิญญาณการทรยศไม่สามารถช่วยเราวิญญาณความหวาดกลัวก็ไร้ประโยชน์ต่อหน้าภัยพิบัติเช่นกันความหวาดกลัวจะนําความเจ็บปวดที่มากขึ้นมาสู่มนุษย์เท่านั้น”
“เจ้าพูดถูก” วิญญาณตัวตนหยุดไล่ล่า
วิญญาณแห่งความหวังส่องแสงขึ้นเพื่อสนับสนุนมนุษย์คนแรก “มนุษย์ตราบเท่าที่เจ้ายังมีความหวังอยู่ในหัวใจเจ้ายังมีโอกาสรอดจากสถานการณ์นี้”
วิญญาณความเข้มแข็งหัวเราะ “โอ้มนุษย์เจ้าช่างน่าสงสารนัก เจ้าเชื่อคําพูดไร้สาระของวิญญาณแห่งความหวังเจ้ารู้หรือไม่ว่าการมีความหวังในช่วงเวลาที่ยากลําบากมันจะทําให้เจ้าทุกข์ทรมานต่อไปเรื่อยๆความหวังคือสิ่งที่ทําให้เจ้าเจ็บปวดนานขึ้น เมื่อเจ้าหยุดมีความหวังเจ้าจะรู้สึกผ่อนคลายลง”
มนุษย์คนแรกไม่พูด เขาอดทนต่อการโจมตีของภัยพิบัติด้วยความยากลําบาก
แต่ไม่ว่าร่างกายของมนุษย์คนแรกจะงุ่มงอเพียงใดเขาก็ไม่ล้มลงบนพื้น
ในไม่ช้าวิญญาณความเข้มแข็งก็พบเหตุผล บนเท้าของมนุษย์คนแรกมีปีกแห่งอิสรภาพอยู่คู่หนึ่งแม้มันจะเล็กแต่มันก็กระพือปีกอย่างดื้อรั้นและช่วยให้มนุษย์คนแรกยังยืนอยู่ได้
วิญญาณความเข้มแข็งยังโจมตีด้วยคําพูดต่อไป “มนุษย์ข้าเริ่มรู้สึกชื่นชมเจ้าแล้วน่าเสียดายที่เจ้าจะล้มลงในไม่ช้ามองไปที่กระดูกของเจ้าตอนนี้พวกมันเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวจากภัยพิบัติ”
มนุษย์คนแรกเงียบ
เดิมที่กระดูกของมนุษย์คนแรกยังส่องประกายและไม่มีรอยแตกร้าวแต่ตอนนี้โครงกระดูกของเขาเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวมันดูเหมือนสามารถแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ตลอดเวลา
วิญญาณดวงอื่นๆเงียบ มีเพียงวิญญาณแห่งความหวังเท่านั้นที่ส่องประกายขึ้น “มนุษย์อย่ายอมแพ้ภัยพิบัติไม่น่ากลัวสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการสูญสิ้นความหวัง”
แสงแห่งความหวังแทรกซึมเข้าไปในรอยแตกของกระดูกบนร่างของมนุษย์คนแรก
ในชีวิตของทุกคนบนโลกใบนี้ รอยแตกร้าวจะปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวแต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่แสงแห่งความหวังจะเข้ามา
กระดูกของมนุษย์คนแรกดูดซับแสงแห่งความหวังเอาไว้และเริ่มกลืนกินภัยพิบัติที่อยู่รอบๆ
รอยแตกร้าวแต่ละรอยเหมือนปากจํานวนมากที่กลืนกินภัยพิบัติเข้าไป
“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” วิญญาณความเข้มแข็งตกใจมาก
ยิ่งโครงกระดูกของมนุษย์คนแรกกลืนกินภัยพิบัติเข้าไปเท่าใด กระดูกของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น
ภัยพิบัติสามารถทําลายผู้คนแต่มันก็ทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน