“ฮึ่ม ใครจะคิดว่าหมอนั่นแท้จริงแล้วคือราชา!”
“ไม่รู้ว่าเขามาจากเขตดวงดาวไหน”
“การที่สามารถกลายเป็นราชาได้ เขาจะต้องมาจากเขตดวงดาวที่แข็งแกร่งแน่นอน”
“เพียงแต่ว่าราชาคนนี้ช่างไร้ยางอายนัก เขาแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อยั่วยุเหวินตง”
“เหอะ แล้วใครใช้ให้พวกเขาขวางทางไม่ยอมให้คนอื่นขึ้นไปบนภูเขากันล่ะ? ข้าคิดว่าเหวินตงสมควรได้รับบทเรียนแล้ว ภูเขาวายุม่วงไม่ใช่ของเขา!”
“ใช่แล้ว!”
ผู้คนที่อยู่บริเวณตีนเขาพูดคุยกับ บางคนคิดว่าหลิงฮันไร้ยางอาย ในขณะที่บางคนคิดว่าหลิงฮันทำถูก
“ขึ้นไปยังภูเขากันเถอะ” จักรพรรดิพิรุณกล่าว เขาคันหมัดจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหลิงฮันเดินขึ้นไปบนภูเขา เหวินตงก็แสยะยิ้ม
พวกเจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหน? ทำไมเหล่าราชาถึงเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่จัดงานเลี้ยงน้ำชา? นั่นเพราะไม่ใช่ว่าใครก็สามารถขึ้นไปยังยอดเขาได้ง่ายๆ!
แม้สำหรับราชาการขึ้นไปบนยอดเขาจะเป็นเรื่องง่าย แต่ขนาดตัวเขาที่เป็นอัจฉริยะสี่ดาวก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลระหว่างทางขึ้นเขาจนไปไม่ถึงยอด
มีคำกล่าวว่าภูเขาวายุม่วงได้ถูกเซียนสลักตราประทับบางอย่างเอาไว้ทำให้ภูเขาปลดปล่อยปรงกดดันแปลกประหลาดออกมา จอมยุทธทั่วไปที่บรรลุระดับดาราสมควรล้มเลิกที่จะขึ้นเขาลูกนี้ไปเลย มีเพียงจอมยุทธที่ขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนถึงขั้นสมบูรณ์และบรรลุระดับดาราเท่านั้นถึงจะขึ้นเขาลูกนี้ได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งจำนวนระดับพลังบ่มเพาะที่ขัดเกลาจนถึงขั้นสมบูรณ์มีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งขึ้นเขาได้ง่ายขึ้น
จะบอกว่ากลุ่มของพวกหลิงฮันเป็นราชากันทุกคน?
ช่างน่าขัน ไม่มีทางเป็นไปได้!
ไม่เพียงแค่เหวินตง แต่ทุกคนล้วนแต่คิดเหมือนกัน จำนวนของราชานั้นมีน้อยมาก ทั่วทั้งเขตดวงดาวเขตใหญ่อาจจะมีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ ส่วนเขตดวงดาวเขตเล็กนั้นอาจจะมีเพียงหนึ่งคนสองคน หรืออาจจะไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว
ในขณะที่กลุ่มของหลิงฮันหกคนกำลังจะเดินขึ้นเขา ร่างสามร่างก็ลอยใกล้เข้ามา ในหมู่พวกเขามีอยู่คนหนึ่งที่สภาพย่ำแย่มาก แขนข้างซ้ายของร่างนั้นหายไปและมีโลหิตไหลออกมา
“นายน้อยเหวียน? นายน้อยเหวียน!” ผู้ติดตามราชาคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึง เขาจำร่างที่บาดแผลไม่ได้ในแวบแรกเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าที่ดาวมู่ถูแห่งนี้ โดยเฉพาะในบริเวณที่ใกล้เคียงกับภูเขาวายุม่วงจะมีใครกล้าทำร้ายคนของตระกูลหลิว
ใช่แล้ว ร่างที่บาดเจ็บไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิวซื่อเหวียนที่ถูกหลิงฮันสั่งสอน
“พี่ชายชิง!” ทันทีที่หลิวซื่อเหวียนเห็นอีกฝ่าย น้ำตาของเขาก็ไหลพราดออกมา
ในที่สุดข้าก็หาคนช่วยพบแล้ว!
เขาตื่นเต้นและคว้าไปจับร่างอีกฝ่ายด้วยแขนข้างเดียว “พี่ชายชิง ท่านต้องช่วยข้าแก้แค้น!”
“ใครกันที่เจ้าว่า?” ชายที่ถูกเรียกว่าพี่ชายชิงชะงักทันที
ชื่อของเขาคือจางชิง เขาไม่ใช่คนของตระกูลหลิวแต่เป็นผู้ติดตามของราชารุ่นเยาว์หลิวจวินเทียน แน่นอนว่าพลังของเขาไม่อาจดูถูกได้ เขาเป็นอัจฉริยะสี่ดาวที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถเรียกตนเองได้ว่าอัจฉริยะ
เขาติดตามหลิวจวินเทียนเนื่องจากอีกฝ่ายมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ที่มีโอกาสกลายเป็นเซียน!
จางชิงรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถกลายเป็นเซียนได้ในชีวิตนี้เขาจึงหวังจะพึ่งพาบารมีของหลิวจวินเทียนช่วยให้ในอนาคตเขามีโอกาสกลายเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์
“พวกมันคือกลุ่มสุนัขต่ำต้อย หืม!” ในตอนแรกดวงตาของหลิวซื่อเหวียนจดจ้องอยู่เพียงแค่จางชิง แต่ในขณะที่เขาเปิดปากพูดจู่ๆก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นยะเยือกที่น่าหวาดกลัว พอเขาหันหลังไปมองก็พบตัวการที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้
หลิวซื่อเหวียนหวาดกลัว เขารีบหลบไปอยู่ด้านหลังจางชิงและชี้นิ้วไปยังหลิงฮัน “พี่ชายชิง เป็นเขา! เป็นเขา! ท่านต้องจัดการสังหารเขาให้ข้า! ไม่สิ ท่านต้องทำให้เขาพิการแล้วให้ข้าเป็นคนลงมือสังหารเอง! แล้วก็สตรีสองคนนั้น ถึงแม้พวกนางจะปิดบังใบหน้าอยู่แต่ร่างกายถือว่าไม่เลวเลย…”
ชางจิงรู้สึกหวาดหวั่น
ถึงแม้เขาจะเป็นอัจฉริยะแต่จะสามารถทัดเทียมกับราชาได้?
ไม่มีทาง! นอกเสียจากว่าระดับพลังของเขาจะสูงกว่า
แต่พลังบ่มเพาะของเขาคือระดับดาราขั้นต้นเท่านั้น เขาจะแก้แค้นให้ได้อย่างไร?
“มัวทำอะไรอยู่พี่ชายชิง จัดการเขาเลย!” หลิวซื่อเหวียนกล่าวเร่งพร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจ
ที่เขาเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ชายชิงเป็นเพราะพี่ชายบอกเขาบอกให้เรียกเช่นนี้ แท้จริงแล้วสำหรับเขาอีกฝ่ายไม่ต่างอะไรกับสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์
ชางจิงไม่กล้าลงมือ เขากัดฟันพูดออกมา “นายน้อยเหวียน คนผู้นั้นคือราชา!”
ว่าไงนะ?
หลิวซื่อเหวียนตกตะลึง ด้วยการที่ชายของเขาเป็นราชาเขาย่อมรู้ดีว่าคำสองคำนี้หมายความว่าอย่างไร… ไร้เทียมทานในระดับพลังเดียวกัน!
ราชา… คำสองคำนี้ยิ่งใหญ่ราวกับขุนเขา เพียงแค่ได้ยินก็ทำให้คนอื่นหายใจไม่ทั่วท้อง
แต่หลิวซื่อเหวียนยังคงกล่าวออกมาด้วยท่าทีอวดดี “ราชาเองก็มีระดับ พี่ชายของข้าคือราชาระดับสอง!”
เป็นอย่างที่ว่า ราชาเองก็ถูกแบ่งระดับด้วยเช่นกัน ขัดเกลาพลังจนบรรลุขั้นสมบูรณ์หนึ่งระดับกับขัดเกลาจนบรรลุขั้นสมบูรณ์สองระดับนั้นต่างกัน แม้ยิ่งระดับพลังสูงขึ้นผลจากการบรรลุขั้นสมบูรณ์ของระดับพลังขั้นก่อนๆจะลดลง แต่ความต่างของพลังก็ยังคงมีอยู่เพียงแค่ไม่ได้มากมายอะไร
แต่สำหรับราชา ความต่างของระดับพลังเพียงเล็กน้อยก็ถือว่ามีผลอย่างมาก
หากชัดเกลาระดับพลังจนบรรลุขั้นสมบูรณ์หนึ่งระดับจะถูกเรียกว่าราชาระดับหนึ่ง จนบรรลุขั้นสมบูรณ์สองระดับจะถูกเรียกว่าราชาระดับสองและสามไปเรื่อยๆตามลำดับ ระดับสูงสุดของราชาคือระดับห้าเนื่องจากไม่มีระดับพลังให้ขัดเกลาต่อไปมากกว่านี้แล้ว
อย่างที่เคยกล่าวไปว่าจำนวนของราชานั้นมีน้อยแสนน้อย หนึ่งเขตดวงดาวอย่างมากก็มีเพียงสิบคน ยิ่งหากเป็นราชาระดับสองด้วยแล้วเกรงว่าหนึ่งเขตดวงดาวอาจจะมีเพียงคนเดียวหรือไม่มีเลย
หลิวจวินเทียนทีว่าคือราชาระดับสอง!
“พี่ชายข้า ต้องเรียกพี่ชายข้ามาจัดการเขา!” หลิวซื่อเหวียนเองก็รู้ว่าชางจิงไม่สามารถโค่นหลิงฮันได้
จางชิงรีบเป็นฝ่ายเสนอความคิดก่อนทันที “ข้าจะไปแจ้งนายท่านเดี๋ยวนี้!” เขารู้ว่าหลิวซื่อเหวียนรักน้องชายคนนี้มากขนาดไหน
“ฮึ่ม บังอาจทำร้ายข้ารึ? อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดไปได้!” หลิวซื่อเหวียนกล่าวอย่างหยิ่งยโส ที่นี้มีคนอยู่มากมาย เขาจึงไม่เกรงกลัวว่าถูกหลิงฮันสังหาร!
โพล๊ะ!
แต่ทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ร่างของเขาก็ถูกบดขยี้กลายเป็นฝนโลหิต