บทที่ 602

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการสาวสวยก่อนหน้านี้ก็กลับเข้ามา แต่ครั้งนี้ ด้านหลังของเธอ เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีท่าทางหวาดกลัว ไม่กล้าเงยหน้า

เซียวฉางควนและสมาชิกสมาคมศิลปะจีนคนอื่นๆ ก็สงสัย คิดในใจว่า ไอ้หนุ่มคนนี้น่ะหรือ ที่หงห้าเตรียมการแสดงมา?

วัยรุ่นคนนี้ มองไปแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษเลยนี่!

แต่ว่า ในตอนนั้นเอง พอวัยรุ่นคนนั้นเข้าห้องอาหารมา ก็ไม่พูดจา แล้วรีบโค้งคำนับหงห้า พูดทั้งเคารพและหวั่นกลัวว่า “คุณอาหง ผมมารายงานตัวครับ เชิญตรวจเช็คเลย”

คนที่เข้ามา ก็คือหลิวหมิง

วันนั้น ที่ช็องเซลิเซียนสปา หลังจากที่สลักคำว่า ตกอับ ไปแล้ว ท่านหงห้าก็เคยบอกกับเขาไว้ หลังจากนี้ทุกสัปดาห์จะต้องมารายงานตัวกับตนเอง ตนเองจะตรวจสอบด้วยตัวเอง

ก็เพื่อว่า จะให้มั่นใจว่าไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ได้ลบรอยแผลเป็นออกไป และไม่ได้ปกปิดรอยแผล

แต่ว่า ท่านหงห้าไม่รู้ว่า ที่เขามาวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อรายงานตัว แต่มาเพื่อดูต้นทาง

ตั้งแต่เข้าประตูมาถึงตอนนี้ หลิวหมิงก็จดจำจำนวนบอดี้การ์ดไว้

หลังจากเข้าห้องอาหารมา ก็สังเกตมองคนในห้องอาหาร

พบว่าในห้องมีแต่คนแก่ ก็เลยวางใจ

พ่อให้คนแก่พวกนี้เป็นเพื่อนของหงห้า ก็คงจะไม่มีแรงสู้อะไร ตนเองคว้ามีดฟันไป ก็จัดการคนพวกนี้ได้แล้ว

ในตอนนี้ ท่านหงห้าก็พูดกับหลิวหมิงว่า “หลิวหมิง คนที่มาวันนี้ เป็นคนระดับผู้นำของสมาคมศิลปะจีนจินหลิง ในเมื่อเป็นสมาคม

ศิลปะ ก็ต้องมีความรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับด้านงานเขียนอักษรจีน มา แกเงยหน้าขึ้น ให้คุณเซียวและคนอื่นๆ ชื่นชมอักษรจีนบนหน้าผากแกหน่อย ให้ทุกท่านวิจารณ์กันหน่อย!”

ได้ยินดังนั้น หลิวหมิงก็เจ็บใจที่ถูกเหยียดหยาม!

เขาอยากจะหันหน้าหนี แต่ในใจก็รู้ดี ว่าพ่อตนเองกำลังรอตนเองกลับไปบอกข่าว แล้วก็จะพาคนเข้ามารุมฆ่า

ดังนั้น ตนเองจะต้องอดทน จะแสดงละครก็แสดงให้สุด!

พอคิดถึงจุดนี้ เขาก็ได้แต่กัดฟัน แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้น เอาหน้าผากของตนเองเผยให้ทุกคนได้ชม

ถึงแม้คุณท่านพวกนี้จะมีอายุไม่น้อยแล้ว ก็ต้องมีตายฝ้าฟางกันบ้าง แต่ว่า คำว่า ตกอับ บนหน้าผากของเขาช่างสะดุดตาเสียจริง!แวบเดียวทุกคนก็มองออก!

ประธานเพ๋ยพูดอย่างแปลกใจว่า “นี่มัน……นี่มันอะไรกันครับเนี่ย? คุณชายท่านนี้ ทำไมถึงได้สลักคำว่า ตกอับ ลงบนหน้าผากตนเอง? ”

ท่านหงห้าพูดเสียงเย็นว่า “ไอ้หนุ่มคนนี้ปกติแล้วปากไม่ค่อยดี ชอบว่าคนอื่นตกอับ แล้วมาหาเรื่องอาจารย์เย่ แล้วยังด่าอาจารย์เย่ว่า ตกอับ ในเมื่อเขาชอบคำนี้ ผมก็เลยให้เขาสลักมันบนหน้าผาก ให้เขาอยู่กับคำนี้ไปตลอดชีวิต”

เซียวฉางควนถามอย่างตกใจว่า “ที่สลักตัวอักษรบนหน้าผากเขา ก็เพราะว่าเขาหาเรื่องลูกเขยผมงั้นหรือ? ”

“ใช่ครับ!” ท่านหงห้าพยักหน้า แล้วพูดว่า “ความยิ่งใหญ่ของอาจารย์เย่ลูกเขยคุณ ไม่อาจจะให้ไอ้กระจอกนี่มาดูถูกได้!”

ประธานเพ๋ยพูดอย่างตกใจว่า “ไอ้หยา ฉางควน ทำไมคุณไม่เคยบอกผมเลย ว่าคุณมีลูกเขยที่เก่งกาจแบบนี้!”

“ใช่น่ะสิ!” สวี่เหวินหย่วนก็พูดอึ้งๆ ว่า “ฉางควน คุณนี่หลบซ่อนเสียลึกเลยนะ ช่างถ่อมตัวจริงๆ !”

เซียวฉางควนก็หัวเราะ “ไอ้หยา ลูกเขยของผมคนนั้นก็ทำตัวเรียบง่าย ดังนั้นผมก็ไม่สมควรโอ้อวดใช่ไหมล่ะ!”

ทุกคนก็ชมเชย

หลิวหมิงเห็นใบหน้าได้ใจของเซียวฉางควน ในใจก็คิดอย่างอาฆาตว่า ที่แท้ไอ้แก่อย่างมึงนี่เอง ที่เป็นพ่อตาของไอ้สารเลวเย่เฉิน!

เช่นนั้น วันนี้มึงก็ถือว่าวิ่งเข้ากระบอกปืนกูเองเสียแล้วล่ะ!

วันนี้ กูจะเอาชีวิตมึงให้ได้!

ถือว่าเป็นดอกเบี้ย ที่กูต้องตามหาตัวลูกเขยมึง!