เมื่อสองปีก่อน กองทหารรับจ้างแม่ม่ายดำเคยรับภารกิจหนึ่ง โดยมีหน้าที่คุ้มกันเจ้าพ่อถ่านหินคนหนึ่งของรัสเซีย ชายคนนั้นเป็นผู้ที่เพิ่งขึ้นมามีอิทธิพลหลังจากโซเวียตแตก ใช้ผลประโยชน์จากรูรั่วของกฎหมายในช่วงนั้นกอบโกยความมั่งคั่งให้ตัวเองอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตามเจ้าพ่อถ่านหินคนนี้มีชื่อเสียฉาวกระฉ่อน เขารู้ว่ามีผู้คนมากมายคาดหวังให้เขาตาย จึงเก็บตัวอยู่ใน สหราชอาณาจักรมาตลอด ภายหลังมีเหตุจำเป็นทำให้ต้องกลับมารัสเซีย จึงได้จ้างวานกองกำลังแม่ม่ายดำ
เพื่อให้ผู้จ้างวานปลอดภัย เวลานั้นเจอร์รีทุ่มเทมันสมองวางแผนการคุ้มกันอย่างหนัก แทบจะคิดคำนวณถึงปัญหาและเหตุการณ์ฉุกเฉินทุกประเภท แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังเกิดขึ้น
กลางดึกจันทร์สว่าง ฟ้ากระจ่างดาวคืนหนึ่ง มีคนบุกเข้ามาลอบสังหารในคฤหาสน์ของเจ้าพ่อถ่านหินคนนั้น เวรยามคุ้มกันที่อยู่ล้อมรอบด้านนอกต้านทานไว้ไม่อยู่ กระสุนธรรมดาถูกตัวคนผู้นั้น แต่กลับไม่ได้รับบาดแผลใดๆ นี่ทำให้เจอร์รีที่อยู่หน้าจอกล้องวงจรปิดตกตะลึงอย่างหนัก เขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการทหารรับจ้างมาหลายต่อหลายปี ยังไม่เคยเห็นมือลอบสังหารที่แข็งแกร่งขนาดชายคนนี้ หรืออาจพูดได้ว่า คนผู้นั้นแข็งแกร่งจนเหมือนไม่ใช่คน
ว่ากันว่ารับเงินใครมาต้องคุ้มกันเขาจากหายนะ เมื่อรับจ้างวานแล้ว เจอร์รีจึงไม่ปล่อยให้ผู้จ้างวานรับอันตรายใดๆ เด็ดขาด ระบบป้องกันและกับดักที่เขาติดตั้งไว้ในใจกลางคฤหาสน์ จึงได้ใช้งานในที่สุด แล้วกับระเบิดที่ทำงานโดยระบบสัมผัสก็หยุดฝีเท้าของชายคนนั้น
แต่เรื่องราวกลับยังไม่จบลง หลังจากกลุ่มควันจางลง พวกเจอร์รีกลับพบว่านอกจากบาดแผลเล็กน้อยกับเสื้อผ้าที่ถูกไหม้ไฟจนหมดบนร่างของเขา คนผู้นั้นกลับไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
อีกทั้งร่างของชายคนนั้นยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างกายที่สูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร กลับหดเล็กลงหลายเท่า ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยขนสีเทา ส่วนปากยื่นยาวนูนออกมา ดูราวกับมนุษย์หมาป่าในตำนานฝั่งตะวันตกอย่างไรอย่างนั้น
โดยเฉพาะสิบนิ้วบนมือสองข้างของคนผู้นี้ กลับกลายเป็นเหมือนมีดสั้นทั้งสิบเล่ม หน่วยคุ้มกันที่ล้อมรอบ พออยู่ภายใต้กรงเล็บอันแหลมคมของเขา กลับไม่มีใครเลยที่สามารถหยุดยั้งฝีเท้าของคนผู้นั้น ล้วนถูกเฉือนอกผ่าท้อง บรรยากาศละเลงไปด้วยเลือดอย่างวิปริตพิสดาร
อีกทั้งคนผู้นี้ยังเหมือนสามารถสืบรู้ตำแหน่งที่ซ่อนของเจ้าพ่อถ่านหิน เมื่อเห็นว่าผู้บุกรุกผู้นั้นจะเข้าไปภายในห้อง บรูกแมนก็ไปสกัดขวางทางคนที่มีพลังพิเศษผู้นั้น
หลังผ่านการห้ำหั่นมานับครั้งไม่ถ้วน ต่อให้บรูกแมนเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ก็ยังเชื่อมั่นในชัยชนะ ความเก่งกาจของคู่ต่อสู้เองก็กระตุ้นความดุดันของเขาเช่นกัน หลังจากรู้ว่าอาวุธโลหะธรรมดาไม่อาจทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้ บรูกแมนจึงใช้มีดปลายปืนทำจากอัลลอยเข้าต่อสู้กับอีกฝ่าย
ไม่อาจปฏิเสธว่าประสบการณ์การรบของบรูกแมนช่ำชองอย่างยิ่ง เป้าหมายการโจมตีของเขาทั้งหมดคือการทำลายดวงตาหรือคอหอย จนอีกฝ่ายต้องร้องขอชีวิต หลังจากเข้าตะลุมบอนกับอีกฝ่ายสักพัก ผู้มีพลังพิเศษสายพันธุ์มนุษย์หมาป่าผู้นี้ ก็ค่อยๆ ถูกบรูกแมนบุกจนเพลี่ยงพล้ำ
ในที่สุดบรูกแมนก็สามารถคว้าโอกาส ควักลูกตาข้างขวาของศัตรูออกมาได้ แต่ว่าราคาที่เขาต้องจ่ายก็คือการถูกกรงเล็บของอีกฝ่ายตรึงแน่นอยู่หน้าประตู จากส่วนใบหน้าจรดถึงหน้าอกล้วนถูกศัตรูเฉือนออกจนอวัยวะสีเขียวคล้ำภายในช่องท้องทะลักออกมา
ขณะเดียวกันที่บรูกแมนได้รับบาดเจ็บ เสียงระเบิดก็ดังขึ้นกึกก้อง ควันหนาฟุ้งและกลิ่นดินปืนฉุนจมูกลอยตลบอบอวลทั่วทุกทิศ
ตอนที่กลุ่มควันสลายหายไป เจอร์รีก็แบกปืนยิงจรวดขนาดเกือบเท่าส่วนสูงของเขาไว้บนบ่า ปรากฎอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ที่เจ้าพ่อถ่านหินซ่อนตัวอยู่ และมนุษย์หมาป่าคนนั้นที่เพิ่งผ่าท้องของบรูกแมน ก็กลับกลายเป็นชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายอยู่บนพื้นโดยรอบ
เหตุการณ์นั้นแม้แต่สมาชิกคนอื่นในกองกำลังแม่ม่ายดำยังต้องตะลึงตาค้าง แม้ว่าแต่ละคนจะมีเทคนิคในการสังหารและป้องกันตัวอันโดดเด่น แต่ใครก็ไม่อาจคาดคิด ว่าผู้นำร่างบางจนออกจะดูผอมแห้ง และเหมือนไม่เคยมีความสามารถในการออกรบเลย กลับสามารถพลิกผันสถานการณ์ในนาทีสุดท้ายได้
และบรูกแมนเองก็ยังไม่ตาย หลังจากผ่านการช่วยชีวิตแล้ว เขาก็สามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างปาฎิหารย์ เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของการประกาศยุบกองกำลังทหารรับจ้างแม่ม่ายดำ
เพราะไม่มีใครสามารถแทนที่ตำแหน่งการสู้รบในกองกำลังของบรูกแมน เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบความสามารถในการบังคับบัญชาของเจอร์รี
หลังจากผ่านการรักษาเกือบสองปี บรูกแมนจึงนับว่าหายดีขึ้น แต่แผลเป็นที่หลงเหลือบนใบหน้าเขา กลับยังคงทิ้งเงามืดใว้ในจิตใจของกองทหารรับจ้างแม่ม่ายดำ ใครก็ไม่อาจคาดคิดได้ว่า ภารกิจชิ้นแรกที่พวกเขารับหลังจากหายดี กลับกลายเป็นการเผชิญหน้าผู้มีพลังวิเศษอีกครั้ง
เจอร์รีเลื่อนสายตากลับไปยังใบหน้าบรูกแมน กล่าวเสียงเบา “พวกนายควรจะเข้าใจว่า หากรับมือกับคนแบบนั้น ต่อให้ต้องยากลำบากสักแค่ไหน ฉันก็ไม่หวังให้ใครก็ตามในหมู่พวกนายต้องรับบาดเจ็บอีก”
ในคำพูดของเจอร์รีเต็มไปด้วยความขมขื่น ในช่วงสองปีที่ผ่านมาของการแยกตัวกองกำลัง เขาไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่คงสืบเสาะหาข้อมูลเรื่องผู้มีพลังพิเศษ
สิ่งที่ทำให้เจอร์รีตกตะลึงก็คือ บนโลกใบนี้มีด้านที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้อยู่จริงๆ และมนุษย์หมาป่าคนนั้นที่พวกเขาเผชิญหน้า ไม่ได้นับว่ามีพลังโจมตีโดดเด่นในโลกของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ!
ดังนั้นหลังจากสรุปว่าเยี่ยเทียนเป็นผู้มีพลังวิเศษ เจอร์รีจึงเปลี่ยนแผนการรบในทันที ถ้าสามารถใช้วิธีปกติธรรมดากำราบเยี่ยเทียนได้ก็ดี แต่ถ้าหากทำไม่ได้ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะให้กองทหารรับจ้างที่เหลือส่งเยี่ยเทียนลงนรก
ส่วนเรื่องระเบิดนั้นจะก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมากแค่ไหน เจอร์รีไม่คิดเอามาใส่ใจ ภารกิจที่เขารับมาครั้งนี้จะได้เงินตอบแทนเป็นจำนวนสามสิบล้านดอลลาร์อเมริกา หากมีเงินก้อนนี้ แม้จะต้องถอนตัวออกจากวงการทหารรับจ้างอีกครั้ง ก็เพียงพอจะให้พวกเขาใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างสุขสบาย
“เจอร์รี ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก!”
บรูกแมนพยักหน้าที่ดุดันเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะมีจิตใจแข็งแกร่งยากที่คนทั่วไปจะเทียบเทียม แต่ถ้าหากเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอันน่าหวาดหวั่นอย่างมนุษย์หมาป่านั่นอีกแล้ว มันคือฝันร้ายชัดๆ
“พวกนายเองก็ไม่ต้องกังวลไป ผู้มีพลังวิเศษก็เคยถูกพวกเราจัดการไปแล้วนี่?”
เจอร์รีโบกมือ กล่าวว่า “เอาล่ะ ทุกคนไปพักผ่อนเถอะ ไอ้พวกกองกำลังดาร์คไนท์ ทำไมยังไม่ส่งข่าวคราวกลับมานะ?
กองกำลังที่คอยจับตาดูเยี่ยเทียนนั้นมีชื่อว่ากองกำลังดาร์คไนท์ อันมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการกองทหารรับจ้างเช่นเดียวกัน ชื่อเสียงของเขาไม่ได้มาจากการโจมตี ทว่าเป็นการส่งข่าวลอบสังหารและการแทรกแซงข้อมูล จึงได้รับภารกิจการจับตาดูเยี่ยเทียนในครั้งนี้
“ผู้มีพลังวิเศษ หรือพวกเขาหมายถึงผีดูดเลือดที่ปรากฎตัวในไซบีเรีย?”
เยี่ยเทียนที่แอบซ่อนลมปราณทั่วตัวอยู่ภายในความมืดนอกอาคารบ้าน ผุดนึกถึงเคิร์ทที่เรียกตนเองว่าท่านเคานท์ขึ้นมาในความคิด ถึงแม้เจ้าหมอนั่นจะตายอย่างน่าสมเพช แต่เยี่ยเทียนก็ไม่อาจปฏิเสธว่า เขามีพลังวิเศษที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจมีได้จริงๆ
เมื่อเห็นว่าคนทั้งหลายในห้องกำลังจะแยกย้าย เยี่ยเทียนก็ปลดปล่อยปราณหลายสายของเขาให้แทรกเข้าไปยังภายในร่างของคนเหล่านั้น โดยเฉพาะคนที่ชื่อเจอร์รี ยิ่งได้รับความใส่ใจจากเยี่ยเทียนเป็นพิเศษ คนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ขนาดที่เยี่ยเทียนยังนึกหวาดหวั่นอยู่ลึกๆ ไม่มีใครอยากปล่อยศัตรูประเภทนี้ให้หลุดรอดไป
ครุ่นคิดอยู่สักครู่ แล้วเยี่ยเทียนก็ถอนตัวออกจากตัวอาคารอย่างไร้สุ้มเสียง เขาสามารถกำจัดคนทั้งหมดภายในบ้านสองหลังนี้ได้ แต่นั่นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เป้าหมายของเยี่ยเทียนคือจอมบงการที่อยู่เบื้องหลังต่างหาก
สิบนาทีหลังจากนั้น เยี่ยเทียนก็ย้อนกลับไปโรงแรม โดยขึ้นจากทางบันไดหนีไฟไปยังชั้นที่เขาอยู่
เพียงห้านาทีหลังจากเขากลับมาถึงห้อง พนักงานโรงแรมคนหนึ่งก็กดกระดิ่งประตู แม้คนผู้นั้นจะพูดอย่างสงบเสงี่ยมว่ามาส่งคูปองอาหารเช้า แต่เยี่ยเทียนกลับยังสัมผัสได้ว่าหัวใจของเขาเต้นระรัว เห็นได้ชัดว่าเป็นคนจากกองกำลังดาร์คไนท์ที่เจอร์รีพูดถึงนั่นเอง
“หนทางสู่สวรรค์มีไม่เดิน ไร้ประตูสู่นรกกลับพุ่งลงไป”
หลังจากส่งพนักงานคนนั้นไปแล้ว เยี่ยเทียนก็ส่ายหน้า ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสะสางความแค้นเคืองระหว่างเขากับซ่งเสี่ยวหลงเสียที คนผู้นี้ช่างเหมือนกับอสรพิษตัวหนึ่ง คอยแต่จะลอบทำร้ายเขาจากในมุมมืดไม่เสื่อมคลาย ครั้งนี้นับว่าลงทุนครั้งใหญ่ จนอาจจะต้องตายในต่างแดนเข้าจริงๆ
ค่ำคืนผ่านไปโดยสงบ เช้าวันต่อมาตอนแปดโมงครึ่ง หวาจวินมาเคาะประตูห้องของเยี่ยเทียน หลังจากเยี่ยมชมเหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กแล้ว พวกเขาก็กลับเคปทาวน์กันได้ เพราะนี่เป็นที่สุดท้ายของแผนการเดินทางครั้งนี้แล้ว
“พี่จ้าวครับ เหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กเป็นสถานที่สำคัญของแอฟริกาใต้ และมันก็คือเหมืองทองแห่งแรกของโจฮันเนสเบิร์ก ซึ่งถูกขุดมาเป็นเวลาถึงหนึ่งร้อยสิบหกปี”
ขณะที่อยู่บนเส้นทางไปเหมืองทองโยฮันเนสเบิร์ก หวาจวินอธิบายข้อมูลของเหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กตามหน้าที่ เพียงแต่เขาไม่รู้เลยว่า เยี่ยเทียนที่นั่งอยู่เบาะหลังได้ไปเยี่ยมชมเหมืองทองตั้งแต่เมื่อคืนจนทั่วแล้ว
หลังจากอธิบายให้เยี่ยเทียนฟังแล้ว หวาจวินก็กล่าวว่า “จริงสิ พี่จ้าว ในแต่ละวันเหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กรับนักท่องเที่ยวเยอะมาก ข้างในจะมีไกด์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ ถึงตอนนั้นผมจะไม่ตามคุณไปด้วยนะครับ…”
แตกต่างจากเหมืองทองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเคปทาวน์เหล่านั้น เหมืองทองคำโจฮันเนสเบิร์กเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การขุดทองของแอฟริกาใต้ ในทุกๆ วันจะมีทักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคนลงไปยังเหมืองทองลึกกว่าหลายร้อยเมตรเพื่อเยี่ยมชม และคนแต่ละกลุ่มที่เข้าไปจะต้องมีไกด์รับหน้าที่พาเยี่ยมชมเหมืองทอง
“ตกลง ผมเข้าใจแล้ว”
เยี่ยเทียนตกปากรับคำ แต่กลับนึกด่ากองกำลังของเจอร์รีขึ้นมาในใจ แม้ว่าเหมืองทองแห่งนี้จะอยู่ไกลปืนเที่ยง แต่เกรงว่าทั้งนักท่องเที่ยวและพนักงานรวมกันไม่ต่ำกว่าพันคน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เจอร์รีกลับลงมือทำได้ลงคอ
เหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กอยู่ห่างจากกลางเมืองหลายสิบกิโลเมตร หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เยี่ยเทียนก็มองเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสี่ตัวของเหมืองทองโจฮันเนสเบิร์กอีกครั้ง
ทว่าแตกต่างจากความเวิ้งว้างไร้ผู้คนเมื่อวาน วันนี้ที่นี่กลับเนืองแน่นมากเป็นพิเศษ รถทัวร์เจ็ดแปดคันจอดชิดกับทางเข้าเหมืองทอง ไกด์นำเที่ยวแต่ละคนต่างกำลังอธิบายข้อควรระวังการเข้าชมเหมืองในแต่ละภาษาให้ลูกทัวร์ของตนเองฟัง
“ใครจะไปคิดว่าใต้ดินนี้จะฝังระเบิดที่ทำให้ร่างแหลกเป็นจุณได้?”
หลังลงมาจากรถยนต์อเนกประสงค์ ก็นึกถึงระเบิดTNTอันรุนแรงใต้ดินนั่นขึ้นมา เยี่ยเทียนยังนึกกังวลอยู่ในใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะอยากจัดการคนที่มาหาเรื่องตัวเองครั้งนี้ให้หมดในทีเดียว เขาคงไม่คิดหวนกลับลงมาที่นี่อีกครั้ง
…………………………….