ตอนที่ 809 เหนือความคาดหมาย

หมอดูยอดอัจฉริยะ

“เจอร์รี ตัดสินใจอะไรหรือ?”

หลังจากได้ฟังบทสนทนาระหว่างเจอร์รีกับบรูกแมน เหมียวจื่อหลงก็ชักรู้สึกสงสัย เมื่อเขาเห็นภาพบนจอคอมพิวเตอร์เลือนหายไป ก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้ “เจอร์รี ที่นี่ยกให้คุณจัดการก็แล้วกันนะ ผมจะไปรายงานเรื่องนี้กับคุณซ่ง”

แม้ว่าเหมียวจื่อหลงจะไม่ได้มีความสามารถในการล่วงรู้อนาคตเหมือนอย่างเยี่ยเทียน แต่ในใจเขาก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมานิดๆ แล้ว ภาษิตว่า วิญญูชนไม่วางตนอยู่ในที่อันตราย เหมียวจื่อหลงก็เป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินอยู่เป็นล้านๆ ย่อมไม่ยินยอมจะอยู่รอให้เยี่ยเทียนบุกมาหาถึงที่แน่นอน

“คุณเหมียว ไม่ต้องกังวลไปหรอก ในเมื่อผมรับภารกิจนี้มาแล้ว ก็จะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงแน่นอน”

เจอร์รีคว้าแขนเหมียวจื่อหลงซึ่งกำลังจะจากไปไว้ แล้วพูดต่อ “ผมอยากจะเชิญคุณมาดูพลุที่สว่างแพรวพราวที่สุด คุณเหมียว เชื่อผมสิ นี่จะเป็นภาพที่งดงามตระการตาที่สุดที่คุณจะได้เห็นในชาตินี้เลยนะ”

“พลุ? ภาพที่งดงามตระการตาที่สุด?” เหมียวจื่อหลงสะบัดมือของเจอร์รีออก แล้วกล่าวด้วยสีหน้าระแวง “เจอร์รี นี่คุณละเมออยู่รึเปล่าเนี่ย?”

ในความคิดของเหมียวจื่อหลง กลุ่มทหารรับจ้างที่เจอร์รีส่งไปสามกลุ่มนั้น และกองกำลังต่อต้านรัฐบาลคองโกกลุ่มนั้นต่างก็พ่ายแพ้ไปหมดแล้ว เห็นทีใต้หล้านี้คงจะไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรเยี่ยเทียนได้อีกแล้ว เขาไม่รู้ว่า เจอร์รีไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน ดังนั้นในน้ำเสียงจึงเปี่ยมด้วยความเย้ยหยัน

“เปล่าเลย คุณเห็นของสิ่งนี้รึยัง?”

เจอร์รีชูมือขวาที่ถือเครื่องจุดชนวนระเบิดขึ้นมา “ใต้เหมืองทองแห่งโจฮันเนสเบิร์ก มีดินระเบิดทีเอ็นทีฝังอยู่หลายร้อยกิโลกรัม แค่ผมกดปุ่มนี้ลงไป เจ้านั่นก็จะถูกระเบิดจนไม่เหลือซากเลย ฮ่าๆๆ!”

เจอร์รีหัวเราะขึ้นมาอย่างคนเสียสติ พวกเคลวินและบรูกแมนต่างมองดูเขาด้วยสายตาซับซ้อนสับสน หากเดินก้าวนี้ไปแล้ว พวกเขาก็จะไม่เหลือทางให้ถอยกลับอีกเลย

“ดินระเบิด?!”

เหมียวจื่อหลงฟังแล้วอึ้งไป จากนั้นก็กลายเป็นลิงโลดยินดี “เร็ว รีบกดเลย ระเบิดมันให้ตาย ต้องระเบิดมันให้ตายนะ เจอร์รี ถ้ามันตายเมื่อไร ผมจะเพิ่มให้คุณอีกสิบล้านดอลลาร์เลย!”

ตั้งแต่ตอนที่ว่าจ้างกลุ่มมังกรเขียวที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อหลายปีก่อน เยี่ยเทียนก็เปรียบดั่งเมฆดำกลุ่มหนึ่งที่ปกคลุมอยู่ในใจของซ่งเสี่ยวหลงและเหมียวจื่อหลงมาโดยตลอด ซึ่งได้สร้างความกดดันให้พวกเขาไว้มากเหลือเกิน ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของเจอร์รี เหมียวจื่อหลงจึงร้องโหวกเหวกขึ้นมาอย่างลืมตัวทันที

“เพิ่มอีกสิบล้านดอลลาร์?”

เจอร์รีตาลุกวาว กลุ่มทหารรับจ้างทั้งหกกลุ่มที่เหมียวจื่อหลงจ้างมานั้น เขาก็เป็นคนติดต่อให้ทั้งหมด ตามข้อตกลงการแบ่งส่วนค่าตอบแทนในตอนนั้น กองกำลังแม่มายดำจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินยี่สิบล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนกลุ่มทหารรับจ้างอื่นๆ ก็จะได้จำนวนแตกต่างกันไปตั้งแต่ห้าล้านไปจนถึงสิบล้าน

ตอนนี้กลุ่มทหารรับจ้างถูกสังหารไปสามกลุ่มแล้ว เงินที่พวกนั้นทิ้งไว้ข้างหลังก็จะต้องนำมาแบ่งส่วนกันใหม่ ถ้ารวมเงินสิบล้านที่เหมียวจื่อหลงพูดมานี่เข้าไปอีก อย่างนั้นสุดท้ายกองกำลังแม่มายดำก็อาจจะได้เงินตอบแทนถึงห้าสิบล้านเหรียญสหรัฐ เพียงจำนวนตัวเลขนี้ ก็พอที่จะทำให้เจอร์รีตัดสินใจได้แล้ว

“จัดให้ตามที่คุณต้องการเลยคุณเหมียว!”

ใบหน้าของเจอร์รีฉายความคลุ้มคลั่งออกมาเล็กน้อย นิ้วโป้งมือขวากดลงไปหนักๆ ขณะเดียวกันก็เงยหน้ามองไปยังทิศของเหมืองทอง และไม่ใช่เขาคนเดียวเท่านั้น ยามนี้คนอื่นๆ เกือบทุกคนต่างก็เคลื่อนไหวลักษณะเดียวกัน

อุปกรณ์จุดชนวนระเบิดที่อยู่ในเหมืองทองแห่งโจฮันเนสเบิร์กนั้น เคลวินได้พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ จึงสามารถถ่ายทอดคำสั่งผ่านระบบไร้สายไปได้ไกลถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตร ซึ่งก็หมายความว่า ขณะเดียวกันกับที่กดชนวนลงไป เหมืองทองแห่งโจฮันเนสเบิร์กซึ่งอยู่ไกลออกไปหลายสิบกิโลเมตรก็จะกลายเป็นซากปรักหักพัง

“ตูม! ตูมๆ!!!”

หลังจากนิ้วโป้งของเจอร์รีกดลงไป เสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาจริงๆ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างตื่นตระหนกและประหลาดใจคือ เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวราวหูจะดับนั้น ไม่ได้มาจากภายในเหมืองทองแห่งโจฮันเนสเบิร์กซึ่งอยู่ไกลออกไปมาก แต่กลับดังขึ้นห่างจากกองกำลังแม่มายดำไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

ทหารรับจ้างสองกลุ่มที่เจอร์รีวางกำลังไว้นอกหุบเขาในตอนแรกนั้น ยามนี้กลับอยู่ในสภาพอเนจอนาถเหลือทน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวน กระสุนนับไม่ถ้วนกราดยิงออกไป ร่างคนหลายกลุ่มวิ่งตะบึงไปรอบทิศราวกับแมลงวันหัวขาด แต่หลังจากวิ่งออกไปได้ไม่กี่ก้าว สุดท้ายก็สิ้นลมหายใจล้มลงไปกองกับพื้น

“ก…เกิดอะไรขึ้น? นี่…นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเหมียวจื่อหลงก็เบิกโพลงขึ้นมาทันที คว้าคอของเจอร์รีไว้ แล้วคำรามเสียงดังลั่น “นี่น่ะเรอะดอกไม้ไฟที่แกบอก เจอร์รี อย่านึกว่าฉันจะไม่กล้าฆ่าแกนะ!”

เหมียวจื่อหลงถึงอย่างไรก็เคยฝึกวิชายุทธมายี่สิบกว่าปี คราวนี้จึงบีบคอเจอร์รีแน่นจนหน้าแดงก่ำทันที เพียงแต่ตอนนี้เจอร์รีกลับไม่ได้สนใจเลย ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“หยุดนะ ปล่อยเจอร์รีซะ!”

ผู้ที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็วที่สุดในที่นั้น ก็คือบรูกแมนแห่งกองกำลังแม่มายดำนั่นเอง แทบจะเวลาเดียวกับตอนที่เหมียวจื่อหลงเคลื่อนไหว บรูกแมนก็พลิกข้อมือ จ่อปืนพกเหยี่ยวทะเลทรายอันเปล่งประกายเย็นเยียบไปที่ขมับของเหมียวจื่อหลงแล้ว

“แกกล้าฆ่าฉัน?”

บนขมับของเหมียวจื่อหลงมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา การล้มเหลวติดต่อกันทำให้ความอดทนของเหมียวจื่อหลงเริ่มจะพังทลายแล้ว เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่า ทหารรับจ้างที่มียุทโธปกรณ์ชั้นสูงและและกองทหารที่ฆ่าคนได้เหมือนบี้มดเหล่านั้น ทำไมกลับทำอะไรเยี่ยเทียนไม่ได้เลยสักอย่าง?

“ปล่อยเจอร์รีซะ ไม่งั้นแกตาย!”

บรูกแมนไม่ใช่คนชอบพูดจามากความ แต่วาจาที่เปล่งออกมาจากปากของเขานั้น ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครกล้าทักท้วงเลยสักครั้ง กระทั่งเหมียวจื่อหลงยังรู้สึกได้ว่า นิ้วชี้ของบรูกแมนที่แตะอยู่บนไกปืนนั้น กำลังเริ่มออกแรงงอเข้ามาแล้ว

“ให้ตายเถอะ เจอร์รี คุณต้องให้คำอธิบายมานะ!”

การข่มขู่หมายเอาชีวิตนั้นทำให้เหมียวจื่อหลงเลือกที่จะยอมแพ้ หลังจากมือขวาคลายออกแล้ว เหมียวจื่อหลงก็พูดขึ้นอย่างขึ้งเคียด “ผมอยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจอร์รี คุณต้องอธิบายมานะ!”

“อธิบายรึ? ภารกิจล้มเหลวแล้วน่ะสิ นี่แหละคำอธิบาย!”

บนใบหน้าของเจอร์รีปรากฏรอยยิ้มขมขื่น เขาส่ายหน้าช้าๆ แล้วพูดว่า “คุณเหมียว เจ้าคนนั้นมันน่ากลัวเกินไปแล้ว ผมไม่ควรจะรับงานนี้จากคุณเลย”

“แล้วเพิ่งจะมาพูดตอนนี้เนี่ยนะ?” เหมียวจื่อหลงโมโหเดือดดาลขึ้นมาอีก “อย่างนั้นฉันควักเงินออกมาหกสิบล้านดอลลาร์ ไปซื้อหมูหกสิบล้านตัวมาทับมันให้แบนตายเสียก็ได้ แกต้องมีจรรยาบรรณในอาชีพตัวเองบ้างสิ!”

“คุณเหมียว เลิกโวยวายเถอะ ผมรู้น่ะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” เจอร์รีมองเหมียวจื่อหลงแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “บรูกแมน คราวนี้ฉันเป็นคนทำร้ายทุกคนเอง!”

ด้วยสติปัญญาของเจอร์รี จึงคาดเดาต้นสายปลายเหตุได้ไม่ยาก เรื่องที่พวกเขาไปติดตั้งระเบิดไว้นั้นจะต้องถูกเยี่ยเทียนรู้ก่อนล่วงหน้าแน่นอน จากนั้นเยี่ยเทียนก็ใช้วิธีไหนไม่ทราบ ถึงกับนำระเบิดเหล่านั้นมาซุกซ่อนไว้ท่ามกลางกองทหารรับจ้างสองกลุ่มนั้นได้

หลังจากที่เจอร์รีกดชนวนลงไป ดินระเบิดก็ระเบิดขึ้นมาจริงๆ แต่กลับไประเบิดขึ้นที่กลางกองทหารรับจ้างทั้งสองกลุ่ม อานุภาพของระเบิดทีเอ็นที เมื่อรวมกับวัตถุระเบิดที่พวกทหารรับจ้างนำมาด้วยแล้ว ในชั่วขณะเดียวจึงทำให้ทหารรับจ้างทั้งสองกลุ่มตายหมู่ไปทั้งหมด

ตอนนี้เจอร์รีรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาวาบหนึ่ง นั่นเป็นความหนาวที่แผ่ซ่านมาจากในกระดูก ซึ่งแทบจะทำให้เลือดของเขาแข็งตัวไปทั้งร่าง ต่อให้เป็นความฝันเขาก็ยังไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่า ในโลกนี้จะมีคนที่น่ากลัวถึงขนาดนี้อยู่ด้วย

ดินระเบิดทั้งหมดหลายร้อยกิโลกรัมนั้น ถูกซุกซ่อนไว้ลึกลงไปในหลุมเหมืองโดยผู้ที่เป็นมืออาชีพ คนธรรมดานั้นอย่าว่าแต่จะหาไม่พบเลย ต่อให้หาพบเข้าจริงๆ แล้วต้องการจะนำวัตถุระเบิดทั้งหมดในหลุมเหมืองที่ลึกถึงหนึ่งร้อยเมตรออกมา อย่างนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีทางทำสำเร็จได้เลย

แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่เพียงทำสิ่งนี้ได้เท่านั้น ยังนำชนวนและดินระเบิดเหล่านั้นมาติดตั้งไว้กลางกองทหารรับจ้างทั้งสองกลุ่มอย่างเงียบเชียบอีกด้วย ฝีมือระดับนี้ เจอร์รีไม่มีทางจินตนาการออกมาได้แน่นอน บางทีอาจมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถทำได้

ภาษิตว่า ผู้ที่สังหารผู้อื่น สักวันย่อมถูกผู้อื่นสังหาร เจอร์รีเริ่มจะตระหนักขึ้นมาแล้วว่า กองกำลังแม่มายดำของพวกเขานั้น มีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่งที่จะถูกลบล้างไปจากโลกนี้ภายในวันนี้เลย

“ฉันรู้สึกได้ มันมาแล้ว!”

หลังจากได้ยินเจอร์รีพูดขึ้น บรูกแมนก็มีสีหน้าเคร่งเครียด การทำอาชีพทหารรับจ้างซึ่งต้องผ่านความเป็นความตายมานานหลายปี ทำให้เขามีความสามารถเหนือมนุษย์อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือสามารถรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงล่วงหน้าได้ และความสามารถชนิดนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้

เมื่อบรูกแมนพูดมาเช่นนั้น กองกำลังแม่มายดำทุกคนจึงเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เคลวินที่ตอนแรกกำลังง่วนกับเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ก็มีปืนพกหน้าตาประณีตสองกระบอกปรากฏขึ้นในมือทั้งสองข้างราวกับใช้เวทมนตร์ ส่วนไคลด์ก็แหวกอกเสื้อออก เผยให้เห็นลูกระเบิดสารพัดแบบที่คาดเรียงรายอยู่บนอกของเขาอย่างแน่นขนัด

“แกก็เก่งเหมือนกันนี่ รู้สึกได้ด้วยรึว่าฉันมาแล้ว?” ขณะที่กองกำลังแม่มายดำกำลังเตรียมรับมือศัตรูตัวฉกาจ เสียงหนึ่งก็ดังมาจากทางเข้าหุบเขา เงาร่างของเยี่ยเทียนปรากฏขึ้นที่นั่น

เยี่ยเทียนฆ่าคนที่เหมืองทองแห่งโจฮันเนสเบิร์กไปเป็นร้อยคนติดต่อกัน แต่บนร่างกลับไม่มีคราบโลหิตแปดเปื้อนเลยสักนิด สีหน้าท่าทางดูสงบนิ่งเหมือนยามปกติ ราวกับว่าเพิ่งจะกลับมาจากการไปดื่มชากับสหายเก่าแก่ ไม่มีไอควันเถ้าระเบิดติดตัวมาเลยแม้แต่น้อย

มือขวาของเยี่ยเทียนยังหิ้วเด็กหญิงร่างผอมแห้งมาอีกคนหนึ่งด้วย ดวงตาทั้งคู่ของเด็กหญิงหลับสนิท ดูเหมือนจะหมดสติไปแล้ว

“เยี่ยเทียน? แก…เมื่อกี้ยังอยู่ที่เหมืองทองนั่นอยู่เลยไม่ใช่เรอะ?”

เมื่อเห็นเยี่ยเทียนมาปรากฏกายกะทันหัน เหมียวจื่อหลงก็โดดพรวดขึ้นมาราวกับเห็นผี เขาย่อมไม่รู้ว่า เยี่ยเทียนได้ทิ้งไอปราณของตัวเองไว้บนร่างของพวกเจอร์รี และหลังจากที่ไล่ต้อนทหารเด็กเหล่านั้นไปจนหมดแล้ว ก็พาเจียงซานเสาะหามาถึงที่นี่ทันที

“แกคือเหมียวจื่อหลงรึ?”

เยี่ยเทียนเงยหน้ามองไปที่เหมียวจื่อหลง แล้วพูดขึ้นอย่างเฉยชา “ไอ้เสือเหลยเป็นคนเปิดเผยจริงใจมาทั้งชีวิต นับว่าเป็นชายชาตรีคนหนึ่ง เพียงแต่เขาอาภัพในด้านบริวาร มีลูกชายคนหนึ่งก็กลายเป็นคนเย่อหยิ่งจองหอง ส่วนลูกศิษย์ก็ยังเป็นพวกเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก เหมียวจื่อหลง เรื่องที่ฉันเจอที่ไต้หวันเมื่อครั้งนั้น แกเป็นคนวางแผนละสินะ?”

แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เยี่ยเทียนจะกระทำการต่างๆ เพียงลำพัง แต่เขาก็มีแหล่งข่าวอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นถังเหวินหย่วนหรือตู้เฟยผู้เป็นประธานสมาคมหงเหมินคนใหม่ ต่างก็มักจะคอยแจ้งข่าวคราวต่างๆ ให้เยี่ยเทียนทราบเป็นครั้งคราว อย่างคดีกองกำลังมังกรเขียวในอดีตนั้น ที่จริงต้นตอก็ถูกเปิดเผยออกมานานแล้ว

“ม…ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ซ่งเสี่ยวหลงเป็นคนจัดการเองหมดเลย เยี่ยเทียน ฉันไม่เกี่ยวจริงๆ นะ!”

ไม่ทราบเพราะเหตุใด ยิ่งสีหน้าของเยี่ยเทียนสงบนิ่งเท่าไร เหมียวจื่อหลงก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจมากเท่านั้น ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ราวกับเป็นภูเขาไฟที่กำลังคุกรุ่นลูกหนึ่ง หากปะทุขึ้นมาเมื่อไร เขาก็จะถูกหลอมละลายเป็นเถ้าถ่านไปทันที

เมื่อหันไปเห็นพวกเจอร์รีที่อยู่ข้างๆ เหมียวจื่อหลงก็ราวกับพยายามคว้าฟางเส้นสุดท้าย ตะโกนขึ้นมาดังลั่น“เจอร์รี เก็บมันซะ ผมให้คุณหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ ไม่สิ สองร้อยล้านดอลลาร์เลย!”

…………………….