ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 773 สรรพสิ่งกลายเป็นบ่อกระบี่

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

สติของเยี่ยนจ้าวเกอจมลงสู่โลกแห่งจิตใจ เหมือนกับการแตะเตากลืนดินในตอนแรกอย่างไม่ผิดเพี้ยน

ไม่เพียงแต่เส้นแสงเท่านั้น สีดำอันล้ำลึกกลืนกินเสียงและกลิ่นไปพร้อมกัน ด้านในความมืดเต็มไปด้วยกลิ่นอายประหลาดที่ลวงวิญญาณของผู้คน

แต่สิ่งที่แตกต่างกับเตากลืนดินอยู่ที่ ไม่ทันไรตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอก็มีแสงอันเย็นเยียบกะพริบขึ้นมา มันเจิดจ้าจนตาเขาพร่าเลือน

ครั้นเพ่งสายตามองไป กลับเป็นปราณกระบี่สีขาวโพลนนับไม่ถ้วน พุ่งเข้ามาหาเขาชนิดครอบฟ้าคลุมดิน!

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ตื่นตระหนก ส่งความคิด เชื่อมต่อจิตกับเตากลืนดิน

ในโลกแห่งจิตใจของเขาพลันมีน้ำวนสีดำขลับกลุ่มหนึ่งผุดขึ้นมา

น้ำวนสีดำระเบิดแรงดึงดูดน่าตระหนกออกมา ขวางอยู่ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ กลืนกินปราณกระบี่สีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าไป

เพียงแต่ว่าปราณกระบี่สีขาวเหมือนไร้ขอบเขต พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ขาดสาย

น้ำวนสีดำแม้ว่าจะกลืนกินทุกสิ่งเหมือนกับหลุมไร้ก้น แต่กลับไม่อาจกลืนดินปราณกระบี่ได้หมด ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในสภาพยื้อยัน

เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งสังเกต ทางหนึ่งศึกษา

ปราณกระบี่สีขาวเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้วงสติของเขา พลังทำลายล้างส่งผลแค่จิตใจและวิญญาณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่มีอยู่จริง

นี่หมายความว่าฝักกระบี่กลืนฟ้าสามารถปล่อยปราณกระบี่อันเหี้ยมหาญจำนวนมหาศาลขณะอยู่ในมิติความจริงได้

เทียบกับเตากลืนดินแล้ว ฝักกระบี่กลืนฟ้ากลับมีคุณสมบัติโจมตี ไม่สมกับการเป็นฝักกระบี่แม้แต่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอใช้น้ำวนสีดำที่เกิดจากเตากลืนดิน ป้องกันการโจมตีที่พร้อมเพรียงของหมื่นกระบี่ไว้ได้ แต่ไม่อาจรุกคืบไปด้านหน้า

เขาไม่คิดจะใช้ของวิเศษอย่างอื่น เพราะอาจจะจับคู่กับฝักกระบี่กลืนฟ้าไม่ได้ดั่งหวัง

ชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย ‘ข้าไม่เชื่อจริงๆ ว่าปราณกระบี่นี้จะไม่มีที่สิ้นสุด’

ปราณกระบี่ไม่ใช่ไม่มีสิ้นสุดจริงๆ แต่จำนวนอันมหาศาลก็ทำให้คนต้องนึกทึ่งในใจ

ปราณกระบี่ที่เหมือนกับห่าฝนพุ่งออกมาราวหนึ่งเค่อ[1] สภาวะจึงค่อยๆ ลดต่ำลง

แต่ก็ไม่ได้หายไปทั้งหมด เพียงแต่ไม่ได้รุนแรงและถี่ยิบเช่นเมื่อครู่

ก่อนหน้านี้เหมือนกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ตอนนี้เป็นเพียงแค่ลำธารที่ไหลเอื่อย

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า นี่น่าจะเป็นสภาวะทั่วไป ก่อนหน้านี้เป็นเพราะปราณกระบี่ที่สะสมไว้ในฝักกระบี่มานมนานถูกปล่อยในชั่วพริบตา จึงได้ยิ่งใหญ่มหาศาลเหมือนมีไม่หมดไม่สิ้น

ปราณกระบี่ที่อยู่ในโลกแห่งจิตใจนี้ถูกระบายออกไปแล้ว แต่ว่าปราณกระบี่ที่สั่งสมอยู่ในฝักกระบี่ในโลกความเป็นจริงที่อยู่ด้านนอกยังคงมีอยู่ เพียงแต่ความคมกล้าที่สะสมไว้เพิ่งระเบิดออกมาเมื่อครู่นี้เอง

สติของเยี่ยนจ้าวเกอถ้าหากถอยออกจากฝักกระบี่ในตอนนี้ เช่นนั้นรอในตอนที่เขาเข้ามาอีกครั้ง ก็ยังต้องเผชิญกับการระเบิดของพิรุณกระบี่อีกรอบ

มีน้ำวนสีดำป้องกันอยู่ ความถี่ของพิรุณกระบี่ในตอนนี้ไม่อาจขัดขวางไม่ให้เยี่ยนจ้าวเกอเดินหน้าได้อีกแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอสาวเท้าขึ้นหน้า ภูเขาเงินที่ตั้งตระหง่านลูกหนึ่งโผล่ขึ้นมาด้านหน้าเขาในตอนนี้

หน้าตาในตอนแรกของยอดเขาไม่น่าจะใช่สีเงิน กระนั้นผิวของมันในตอนนี้กลับมีแสงสีเงินระยิบระยับคลุมอยู่

นั่นเพราะมีกระบี่คมจำนวนนับไม่ถ้วนปักอยู่บนยอดเขาลูกนี้

คมกระบี่กระจายอยู่ทั่ว ประกายกระบี่สีเงินรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ครอบคลุมยอดเขาเอาไว้ทั้งหมด ทำให้มองไม่เห็นหน้าตาในลักษณะเดิมของมัน

คมกระบี่ที่เปล่งแสงสีเงินระยิบระยับนี้ พุ่งขึ้นท้องฟ้าตลอดเวลา พอไปถึงกลางอากาศ ก็กลายเป็นปราณกระบี่สีขาว หลังจากหักเลี้ยวหนึ่งรอบ ก็หันมาพุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอด้านล่างต่อ

เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจมอง พบว่าอีกด้านหนึ่งของภูเขามีแสงสีเงินกะพริบอยู่ตลอดเช่นกัน กลับเป็นกระบี่จำนวนหนึ่งตกจากฟากฟ้ามาบนยอดเขา

ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าจะมีกระบี่คมกลายเป็นปราณกระบี่จู่โจมเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าจำนวนกระบี่ที่เสียบอยู่บนยอดเขากลับไม่มีทางลดลง

หนึ่งเพิ่มหนึ่งลด อยู่ในสมดุล

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว เปลี่ยนมาถึงอีกด้านหนึ่งของภูเขา สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา เป็นบึงน้ำขนาดยักษ์ที่เหมือนกับผิวทะเลสาบ

เมื่อมองไปด้านล่าง ในบ่อไม่มีน้ำ กลับเป็นปราณวิญญาณที่แตกต่างกัน รวมตัวกันอยู่ที่นี่เต็มไปหมด ทั้งยังซัดสาดอย่างต่อเนื่อง

เขาระวังตัวขึ้นเล็กน้อย สภาพของที่นี่คล้ายๆ กับสภาพของบ่อเลือดในมิติความเป็นจริงที่อยู่ด้านนอก

ด้านในบ่อเลือดมีกลิ่นซับซ้อนซึ่งผสมกลิ่นมากมาย เหมือนกับมีตัวตนที่แตกต่างมารวมตัวกัน

‘ปราณวิญญาณในบ่อเลือดถูกเหนี่ยวนำมาเสริมที่นี่’ เยี่ยนจ้าวเกอก้มศีรษะมองไป ตรงกลางบึงน้ำมีน้ำวนยักษ์กลุ่มหนึ่งกำลังหมุนไม่หยุด

ปราณวิญญาณแต่ละชนิดด้านนอกต่างถูกดึงไปยังก้นน้ำวน จากนั้นก็หายไป

ต่อมา กระบี่คมสีเงินหลายเล่มที่สาดประกายสีเงินก็พุ่งออกมาจากใจกลางน้ำวน วาดเป็นเส้นโค้งหลายเส้นกลางอากาศ แล้วปักลงบนยอดเขาด้านข้างบึงน้ำ กลายเป็นส่วนหนึ่งท่ามกลางกระบี่นับหมื่นเล่ม

เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็พยักหน้าอย่างช้าๆ

ความสามารถในการกลืนกินของฝักกระบี่กลืนฟ้าไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเตากลืนดิน แต่ว่าพลังแต่ละชนิดที่ถูกมันกลืนกิน จะถูกเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่อันดุดัน

เชื่อว่าเจ้าของคนเดิมของฝักกระบี่สามารถปล่อยปราณกระบี่เหล่านี้ออกไปเล่นงานศัตรูได้

จิตพลังที่แฝงอยู่ในบึงเปลี่ยนสรรพสิ่งกลายเป็นกระบี่ตรงหน้านี้ ก็คือการเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในฟ้าดินที่ถูกกลืนกินให้กลายเป็นปราณกระบี่

เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นสะท้าน เขาคำนวณอานุภาพองปราณกระบี่ที่อยู่ในโลกความเป็นจริงออกแล้ว ปราณกระบี่สายหนึ่งบางทีไม่ควรค่าแก่การพูดถึง แต่ว่าอานุภาพที่หมื่นกระบี่ส่งออกมาพร้อมกันนั้นน่ากลัวอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายไม่ทราบถึงเบื้องหลังของฝักกระบี่กลืนฟ้า โจมตีอย่างหน้ามืดตามัว การโจมตีของคนผู้นั้นจะถูกฝักกระบี่กลืนฟ้ากลืนกินและเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็จะถูกโต้ตอบด้วยหมื่นกระบี่ เช่นนั้นน่าจะตอบโต้ไม่ทัน

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือในระดับเดียวกัน ผลแพ้ชนะมักจะตัดสินที่ความแตกต่างระหว่างเส้นขนเท่านั้น หากฝ่ายหนึ่งมีฝักกระบี่กลืนฟ้า คู่ต่อสู้ของเขาย่อมมีจุดจบน่าอนาถ

ชายหนุ่มพิจารณารอบๆ การโจมตีของปราณกระบี่ยังคงอยู่ นี่หมายความว่าตนยังไม่ผ่านการทดสอบของฝักกระบี่กลืนฟ้า ไม่อาจหลอมของวิเศษชิ้นนี้ได้

การหลอมฝักกระบี่กลืนฟ้า ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่รอดจากการชำระล้างจากพิรุณกระบี่ก็นับว่าสำเร็จ

‘เตากลืนดินส่งผลกดดันจิตใจของผู้คนอย่างชัดเจน จำเป็นต้องควบคุมความปรวนแปรของอารมณ์ให้ได้ หากคิดจะหลอม นอกเสียจากจะมีพลังฝึกปรือถึงระดับหนึ่งแล้ว จะต้องดูการเอาชนะในด้านจิตใจด้วย’

ฝักกระบี่กลืนฟ้า เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมีหลักการเดียวกัน

ครั้นคิดถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ทำการตัดสินใจอย่างอาจหาญ พลันหยุดกระตุ้นเตากลืนดิน

น้ำวนสีดำที่กลืนกินปราณกระบี่ถูกเก็บกลับ เยี่ยนจ้าวเกอยืนนิ่งอยู่กับที่ รับพายุฝนปราณกระบี่ที่ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า

ปราณกระบี่ทะลุผ่านร่าง คนกลับไร้รอยขีดข่วน!

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะโดยไร้เสียง การทดสอบของฝักกระบี่กลืนฟ้า คือต้องการทำให้คนรักษาความเชื่อมั่น อย่าเกรงกลัว กล้าเผชิญกับอันตรายถึงตายตรงๆ ทำลายช่องโหว่ของจิตใจจากห้วงความเป็นความตาย

ถึงแม้พิรุณกระบี่จะไม่ได้หยุดลง การทดสอบยังดำเนินต่อ แต่เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้จิตใจผ่อนคลายลงแล้ว เพราะเขาทราบว่าควรจะผ่านการทดสอบของฝักกระบี่กลืนฟ้าอย่างไร

เขาเข้าใกล้บึงสรรพสิ่งกลายเป็นกระบี่ทีละก้าว มองดูปราณกระบี่แต่ละชนิดที่ซัดสาดอยู่ด้านใน จากนั้นก็กระโดดลงไปโดยไร้ความหวั่นเกรง

เยี่ยนจ้าวเกอถูกลากเข้าไปในน้ำวนตรงใจกลาง ตามการหมุนวนอย่างต่อเนื่องของปราณวิญญาณอย่างรวดเร็ว

เขาไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย มือเท้าเคลื่อนไหว เพิ่มความเร็วพุ่งเข้าไปหาน้ำวน

ด้านใต้น้ำวนน่าจะมีสิ่งอื่นอยู่อีก

นี่ถึงอย่างไรก็เป็นฝักกระบี่ฝักหนึ่ง

………………..

[1] หนึ่งเค่อ เท่ากับราวๆ 15 นาที