บทที่ 2061 พลังของหอพิพากษาปีศาจ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2061 พลังของหอพิพากษาปีศาจ

“อันตราย!” ใบหน้าของเทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นซีดเผือด

“หลบเร็ว!” เทพธิดาเมี่ยวหยินกรีดร้อง

หอพิพากษาปีศาจพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วทําให้เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกหายใจติดขัด
“ครีม…”

อย่างไรก็ตามแผ่นดินกลับเกิดการสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน หินและดินถล่มลงมาหอ

พิพากษาปีศาจพุ่งชนหินขนาดใหญ่อย่างรุนแรง

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆแยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศทาง

หอพิพากษาปีศาจบินขึ้นมาอีกครั้งแต่คราวนี้มันเล็งเป้าไปที่ไป่หนิงปิง

“เร็วมาก!” รูม่านตาของไป่หนิงปิงหดเล็กลง

หอพิพากษาปีศาจเริ่มโจมตี ไป่หนิงปิงสามารถหลบเลี่ยงแต่ไม่มีโอกาสโต้กลับ

“พวกเราควรทําอย่างไร?”เทพธิดากระต่ายขาวถามด้วยความกังวลเทพธิดาเมี่ยวหยินตอบ“ไปกันเถอะนี่เป็นความแค้นเก่าระหว่างพวกเขาปล่อยให้พวกเขา

ต่อสู้กัน”

เทพธิดากระต่ายขาวถูกเทพธิดาเมี่ยวหยินลากดึงออกจากสนามรบ“พวกเจ้าจะไปที่ใด?”แต่ฟางเจิ้งหันกลับไป

แม้เขาจะเกลียดไป่หนิงปิงแต่เขาไม่ลืมคําสั่งของฉินติงหลิง เทพธิดากระต่ายขาวและเทพ

ธิดาเมี่ยวหยินเป็นเบาะแสในการตามหาฟางหยวน เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกนางหลบหนี

หอพิพากษาปีศาจปล่อยแสงสีแดงเลือดออกไปทั่วสนามรบและกลืนกินไป่หนิงปิงและคน

อื่นๆเข้าไป

ภายใต้แสงสีแดงเลือด พวกนางรู้สึกราวกับเลือดในร่างกายถูกดึงออกไปด้วยพลังงานลึกลับ“หากเราไม่สามารถจัดการมันเราอาจถูกดูดเลือดออกไปทั้งหมด!”เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าว

อย่างจริงจัง

ท่าไม้ตายอมตะไปเซียง!

ไป่หนิงปิงประสบความสําเร็จในการเปลี่ยนร่างเป็นไป่เซียง

แสงสีแดงเลือดไม่ส่งผลกระทบต่อนางอีก

ท่าไม้ตายอมตะไปเซียงอนุญาตให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่น

เมื่อไป่หนิงปิงใช้ท่าไม้ตายนี้ นางสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ทันที

หัวใจของเทพธิดาเมี่ยวหยินจมดิ่งลงด้วยร่างไป่เซี่ยงไป่หนิงปิงสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดายอย่างไรก็ตามไป่หนิงปิงไม่ได้ทําเช่นนั้นตรงข้ามนางพุ่งเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความตื่น

เต้นและกระตือรือร้น

“คนบ้า!” เทพธิดาเมี่ยวหยินพึมพําด้วยความรู้สึกซับซ้อน

แต่ถึงกระนั้นการโจมตีของไป่หนิงปิงก็เหมือนคลื่นน้ำที่พัดผ่านแนวปะการังไม่ว่าหอ

พิพากษาปีศาจจะถูกโจมตีอย่างไร มันก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหยิน

เทพธิดาเมี่ยวหยินขมวดคิ้ว “กระต่ายขาวใช้ท่าไม้ตายนั่น!”

เทพธิดากระต่ายขาวพยักหน้าและรีบใช้ท่าไม้ตายของนางปกป้องตนเองรวมถึงเทพธิดาเมี่ยว

เทพธิดาเมี่ยวหยินที่ได้รับการปกป้องจากเทพธิดากระต่ายขาวปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะของนางออกมา

แขนอีกห้าข้างเติบโตขึ้นและทําให้นางมีแขนทั้งหมดเจ็ดข้าง

มือทั้งเจ็ดขยับในรูปแบบที่แตกต่างกันและปลดปล่อยเสียงที่แหลมคมออกไปอย่างต่อเนื่อง

คลื่นเสียงราวกับพายุที่พุ่งเข้าโจมตีหอพิพากษาปีศาจ

“เทพธิดาเมี่ยวหยิน นางอยู่ในลําดับที่สามสิบเจ็ดในรายชื่อปีศาจของหอพิพากษาปีศาจนาง

เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดและมีมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งเสียงไพ่ตายของนางสามารถพัฒนาไปได้ถึงระดับแปด”ฟางเจิ้งพึมพํากับตนเอง

หอพิพากษาปีศาจเก็บข้อมูลมากมายเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาเมี่ยวหยินเทพธิดากระต่ายขาวหรือไป่หนิงปิงชื่อของพวกนางล้วนอยู่ที่นั่น
เผชิญหน้ากับเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวฟางเจิ้งยังสงบนิ่ง

ท้ายที่สุดเขาก็อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอพิพากษาปีศาจระดับแปด

โดยทั่วไปคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดสําหรับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดมันสามารถต่อต้านผู้อมตะกึ่งระดับเก้า

ในสงครามชะตากรรมฟางหยวนใช้เรือรบหมื่นปีและวังมังกรต่อสู้กับราชันมังกรในการต่อสู้ครั้งล่าสุดฟางหยวนใช้ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณคฤหาสน์

วิญญาณอมตะเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับแปด

หอพิพากษาปีศาจก็เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดเช่นกันแต่มันมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบ

แต่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นไป่หนิงปิง หอพิพากษาปีศาจยังเหนือกว่าพวกนางมาก

หอพิพากษาปีศาจระเบิดแสงสีแดงเลือดออกมาอีกครั้ง

แสงสีแดงเลือดเหมือนสายฝนที่โปรยปรายลงบนร่างของไป่หนิงปิงอย่างไม่หยุดยั้ง

แม่ไป่หนิงปิงจะกลายเป็นยักษ์น้ำแข็งที่มีร่างกายใหญ่โตแต่การเคลื่อนไหวของนางกลับคล่องแคล่วและยืดหยุ่นมาก

นางสามารถหลบได้อย่างต่อเนื่องไม่มีแสงสีแดงเลือดสายใดที่สามารถสัมผัสร่างของนางได้แม้แต่ครั้งเดียว

‘ตราบเท่าที่ข้าโดนโจมตีข้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส!’ไป่หนิงปิงตระหนักถึงเรื่องนี้แต่ยิ่งสถานการณ์อันตรายเท่าใดนางก็ยิ่งตื่นเต้นเท่านั้นนาง

หอพิพากษาปีศาจปลดปล่อยท่าไม้ตายใหม่ออกมา

ร่างของไป่หนิงปิงหยุดนิ่งอย่างกะทันหัน

นางไม่สามารถเคลื่อนไหวขณะที่เพลิงสีแดงเลือดพุ่งเข้าโจมตีและระเบิดทําลายร่างกายของ

เทพธิดากระต่ายขาวกรีดร้องขณะที่หัวใจของเทพธิดาเมี่ยวหยินจมดิ่งลงความแข็งแกร่งของ

ทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเกินไป พวกนางไม่มีโอกาสชนะ

เศษน้ำแข็งร่วงหล่นลงบนพื้นแต่ในเวลาต่อมามันก็ควบรวมเป็นยักษ์น้ำแข็งอีกครั้ง

ไป่หนิงปิงฟื้นคืนชีพ!

นี่คือความสามารถที่ทรงพลังของท่าไม้ตายอมตะไปเซียง ตราบเท่าที่ยังมีเศษน้ำแข็งเหลือ

อยู่ มันจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ฟางเจิ้งไม่แปลกใจเขารู้ข้อมูลนี้มานานแล้ว

ไป่หนิงปิงลุกขึ้นและต่อสู้กับฟางเจิ้งอีกครั้ง เทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวช่วย

สนับสนุนอยู่ด้านข้าง

อย่างไรก็ตามเมื่อเลือดของเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวไม่ได้รับผลกระทบอีก
พวกเขาก็เริ่มเตรียมตัวหลบหนี

ฟางเจิ้งเผยรอยยิ้มบาง “อย่าหวัง!”

แสงสีแดงเลือดพุ่งออกไปและทําให้เลือดในร่างกายของพวกนางถูกดูดอีกครั้ง

“มอบตัวเดี๋ยวนี้!” ริมฝีปากของฟางเจิ้งม้วนตัวขึ้น เขากระตุ้นใช้งานหอพิพากษาปีศาจและ

ทําให้การแสดงออกของเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนแปลงไป

ในช่วงเวลาสําคัญเงาสีดําก็พุ่งออกมาปกคลุมร่างกายของเทพธิดากระต่ายขาวเอาไว้

ทันใดนั้นนางเสือดําก็ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบ

ดวงตาของนางเป็นสีดําทั้งหมด กลิ่นอายของนางเปลี่ยนแปลงไป รูปลักษณ์ที่ดูบริสุทธิ์ไร้

เคียงสาของนางกลายเป็นดุร้ายและโหดเหี้ยม

นางเสือดําโจมตีศัตรูด้วยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความมืด มันกระทั่งทรงพลังกว่าการ

โจมตีของไป่หนิงปิง

นี่ทําให้นางเสือด่าและเทพธิดาเมี่ยวหยินรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด

ฟางเจิ้งไม่หวั่นไหวเขาส่งปราณโลหิตพุ่งออกไปปกคลุมสนามรบ จุดแสงสีแดงส่องประกาย

ขึ้นราวกับดวงดาว

“นี่คือท่าไม้ตายอมตะแสงดาวโลหิต!”

“มันถูกปลดปล่อยออกมาตั้งแต่เมื่อใดข้าไม่ตระหนักถึงมันเลย”

หลังจากฟางเจิ้งกลายเป็นเจ้าของหอพิพากษาปีศาจคนใหม่ เขาพัฒนาขึ้นมากเขาสามารถ

ใช้วิธีการต่างๆของหอพิพากษาปีศาจและยังปรับให้มันเข้ากับรูปแบบการต่อสู้ของตนเอง

ครั้งนี้กระทั่งร่างไปเซียงก็ยังถูกโจมตี

แสงดาวสีแดงแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของผู้อมตะทั้งสาม มันทําให้การเคลื่อนไหวและความคิดของพวกนางช้าลง

หลังจากทั้งหมดความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป

ในการต่อสู้ระหว่างผู้อมตะ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการหลบหนี มันเป็นเรื่องยากที่จะหยุด

พวกเขาเว้นเพียงพวกเขาจะถูกกักขังไว้ในเขตแดนอมตะ

แต่หอพิพากษาปีศาจถูกสร้างขึ้นเพื่อไล่ล่าปีศาจโดยเฉพาะ แม้มันจะไม่มีท่าไม้ตายเขตแดน

อมตะ แต่มันมีวิธีหยุดปีศาจอมตะจากการหลบหนี

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆถูกจับโดยฟางเจิ้ง แต่ในจังหวะนี้พื้นดินกลับเกิดการสั่นสะเทือนปราณ

พิภพพวยพุ่งขึ้นมาจากชั้นล่างโดยไม่คาดคิด

“นี่คือ?” ไป่หนิงปิงและอีกสองคนไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น พวกนางตกใจมาก

แม้ฟางเจิ้งจะรู้แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกําลังเห็นมังกรปีศาจตี้จางเฉิง

ปราณพิภพกลืนกินสนามรบแห่งนี้เข้าไปทั้งหมด ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีกัดกร่อนทุกสิ่ง

หลังจากนั้นแท่นบูชาแห่งโชคกับปีศาจอมตะฉีเจียก็โผล่ขึ้นมา

แดนซี่ที่อยู่เหนือศีรษะของปีศาจอมตะฉีเจียเสียหายอย่างหนักแต่มันยังมีประโยชน์ก่อนหน้า

นี้มันถูกใช้เพื่อดึงปราณพิภพออกมาจากเส้นโลหิตปฐพี

ในเวลาเดียวนี้แท่นบูชาแห่งโชคก็ทําให้ปราณพิภพปะทุจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบน

“ถ้าสวรรค์นิรันดรร่วมมือกับปีศาจอมตะฉีเจียงั้นหรือ?” ฟางเจิ้งรู้สึกตกใจ

ภายใต้การนําของฉินติงหลิง คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์ตามมาและโจมตีแท่นบูชา

แห่งโชครวมถึงปีศาจอมตะฉีเจียอย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดวังสวรรค์ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามขณะที่แท่นบูชา

แห่งโชคและปีศาจอมตะฉีเจียก็ไม่สามารถหลบหนีเช่นกันง

เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี ปิงชายฉวยลอบติดต่อปีศาจอมตะฉีเจีย

ทั้งสองต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงพวกเขาสงสัยเกี่ยวกับทัศนคติของฉินติงหลิง

และรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

ดังนั่นทั้งสองจึงตัดสินใจร่วมมือกัน