บทที่ 2073 ส่งคนมาก็จบ ไม่ส่งมาก็นองเลือด
ชายหนุ่มยืนอยู่ไกลๆ ดูราวกับธารน้ำแข็งหมื่นปีไม่มีวันหลอมละลาย รัศมีอำนาจที่ไม่อาจอธิบายได้ ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง
ชื่อเสียงของอาชูร่านั้นเลื่องลือ เป็นหนึ่งสามขั้วอำนาจหลักของคุกคนบาป ในรัฐอิสระไม่มีใครไม่รู้จักอาชูร่า อย่างไรก็ตาม การที่จอมมารร้ายแห่งอาชูร่าจะปีนออกมาจากขุมนรกเช่นในวันนี้ กลับพบเห็นได้ยากนัก
ปกติแล้วถึงแม้อาชูร่าจะมีชื่อเสียงเลื่องลือมาก เป็นกลุ่มอำนาจประเภทเดียวกับพันธมิตรอู๋เว่ย แต่อาชูร่ากลับแตกต่างไปจากพันธมิตรอู๋เว่ย น้อยมากที่จะสร้างเรื่องสร้างราว
“ฉันจะพูดอีกรอบเดียว”
ในเวลานี้ น้ำเสียงเยียบเย็นเข้าไปถึงกระดูก ไร้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ แว่วออกมาจากปากของชายหนุ่มแล้ว
หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองซือเยี่ยหานอย่างเยือกเย็น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “นายแห่งอาชูร่า ต้องบอกเลยว่า ในรัฐอิสระอำนาจของนายแข็งแกร่งมากจริงๆ…แต่ เรื่องบางอย่างฉันเกรงว่านายจะทำพลาดไปซะแล้ว”
“อ้อ” พอซือเยี่ยหานได้ฟัง ก็มองไปที่ร่างของหัวหน้าตระกูลเนี่ยด้วยสายตาเย็นชา “ยกตัวอย่างมาสิ”
“ยกตัวอย่างเช่น ที่นี่คือบ้านตระกูลเนี่ย ไม่ใช่อาชูร่าที่นายจะทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา” หัวหน้าตระกูลเนี่ยหัวเราะเยาะ
ยังไม่เคยมีกลุ่มอำนาจไหน กล้าวิ่งมาเรียกเอาตัวคนที่บ้านตระกูลเนี่ย ด้วยท่าทางแบบนี้ วางอำนาจแบบนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นคือ ต้องการเอาตัวลูกสาวสุดที่รักของเขาไป!อย่าว่าแต่อาชูร่าเลย ต่อให้วันนี้สามขั้วอำนาจหลักของคุกคนบาปดาหน้ามาพร้อมกัน พวกเขาก็อย่าหวังว่าจะพาคนของบ้านตระกูลเนี่ยไปได้แม้แต่คนเดียว
“ไม่ให้ใช่ไหม?”
ในดวงตาเยียบเย็นของซือเยี่ยหานไร้ซึ่งระลอกอารมณ์ ราวกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้ายจากบรรพกาลตัวหนึ่งที่ยึดเอาสัญชาตญาณและความพอใจของตัวเองเป็นหลัก แค่มองก็ชวนให้หวาดผวาแล้ว
“เหอะๆ นายแห่งอาชูร่า วันนี้อย่าว่าแต่เธอจะพาลูกสาวฉันไปเลย แม้แต่หมาแมวสักตัวในบ้านตระกูลเนี่ยของฉัน ก็เกรงว่าเธอจะเอาไปไม่ได้เหมือนกัน” นายหญิงเนี่ยมองไปที่ซือเยี่ยหาน ด้วยสีหน้าที่เย็นชาลง
เดิมทีนายหญิงเนี่ยคิดว่ามีเรื่องเข้าใจผิดระหว่างนายแห่งอาชูร่าคนนี้กับตระกูลเนี่ยหรือไม่ แต่ดูจากตอนนี้แล้วคงจะไม่ใช่
หากเป็นคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ไปยั่วโทสะอาชูร่าเข้าจริงๆ คงหารือกันเป็นการส่วนตัว ไว้หน้าทั้งสองฝ่ายได้ ให้ตัวคนไปก็จบ แต่อาชูร่ากลับมาปิดล้อมบ้านตระกูลเนี่ยซะใหญ่โต ต่อหน้าคนทั้งรัฐอิสระ ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าว่าแต่เป็นคนที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลย ต่อให้เป็นหมาแมวสักตัวของตระกูลเนี่ย อาชูร่าก็อย่าหวังว่าจะเอาไปได้
“นี่ จะทะเลาะกันใหญ่โตไปทำไม เรียกอู๋โยวกลับมา ดูว่ามีอะไรเข้าใจผิดกันไปหรือเปล่าก็ได้นี่นา”
เวลานี้ เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยข้อเสนอออกมาด้วยรอยยิ้ม
พอได้ยินคำพูดนี้ หัวหน้าเนี่ยและนายหญิงเนี่ยก็ถลึงตาใส่เนี่ยอู๋หมิงอย่างดุดันแวบหนึ่ง
“มองผมทำไม อาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้นี่…” เนี่ยอู๋หมิงพึมพำ
“งั้นถ้าไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดจะทำยังไง”
นักพรตใจบริสุทธิ์ที่อยู่ด้านข้างก็มองไปที่เนี่ยอู๋หมิง พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เรื่องนั้น…ถ้าไม่ได้เข้าใจผิดกันไป ก็นับได้แค่ว่าอาชูร่าซวยแล้ว” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“พูดจาไร้สาระ!”
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างกายซือเยี่ยหานตะคอกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ส่งคนมาก็จบ ไม่ส่งมาก็นองเลือด!”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ถังถังกลับเดินออกมาจากในบ้านแล้ว
“พ่อคุณทูนหัว แกวิ่งออกมาอีกทำไม”
พอเห็นถังถัง เนี่ยอู๋หมิงก็รีบเดินไปหาถังถัง “กลับเข้าไปเถอะ อย่าสร้างปัญหาให้ลุงเลย ไม่เห็นเหรอว่าลุงเตรียมออกศึกอยู่”
“คุณลุง หลบไป”
ถังถังมองเนี่ยอู๋หมิงแวบหนึ่ง
เนี่ยอู๋หมิงหลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณแทบจะในทันที แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ตัวเองเป็นลุงของบรรพบุรุษน้อยนะ ทำไมต้องฟังเขาด้วยล่ะ ไม่ใช่ว่าต้องกลับกันหรอกเหรอ?
————————————————————————
บทที่ 2074 ฉันไม่ใช่พ่อของเธอ
“คุณจะจับแม่ผมไปเหรอ”
ในเวลานี้ ร่างเล็กๆ ของถังถังยืนอยู่ตรงหน้าบ้านตระกูลเนี่ย สายตาเยียบเย็นเข้าไปถึงกระดูกที่ราวกับโขกออกมาจากซือเยี่ยหานพลางมองไปที่ซือเยี่ยหาน
ในชั่วระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ ดวงตาของถังถังก็สบเข้ากับซือเยี่ยหาน ดวงตาสองคู่สอดประสานกัน
“ต่อให้คุณจะเป็นพ่อของผม แต่ถ้ากล้ามารังแกแม่ผม ก็ไม่จำเป็นต้องเจรจาอะไรกันแล้ว” ถังถังจ้องซือเยี่ยหาน เอ่ยออกมา
“ถังถัง อย่าเรียกส่งเดช ใครเป็นพ่อของหลานกัน!”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองดูถังถัง หัวคิ้วขมวดนิดๆ
ซือเยี่ยหานมองถังถังที่ยืนอยู่ไม่ไกล ในดวงตาฉายแววซับซ้อนและยุ่งเหยิงแวบหนึ่ง แต่สุดท้าย สองอารมณ์นี้ก็กลายเป็นความดุร้าย “ฉัน ไม่ใช่พ่อของเธอ”
จริงสินะ นี่คือลูกชายแท้ๆ ของเนี่ยอู๋โยว...เป็นลูกของของจี้ซิวหร่าน ไม่ใช่ของเขา!
“เนี่ยอู๋โยว อยู่ไหน…”
ซือเยี่ยหานในตอนนี้คล้ายว่าจะเข้าสู่ภวังค์อารมณ์อย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่สามารถควบคุมสัตว์ร้ายตัวนั้นที่สะกดอยู่ในใจได้อีกต่อไป พอเนี่ยถังถังปรากฏตัวขึ้น สัตว์ร้ายก็ร้องคำรามขู่ขวัญคน พร้อมจะทำลายทุกอย่างให้เป็นผุยผง
“เวรเอีย! นายแห่งอาชูร่า นายจะแน่ไปแล้วนะ ตระกูลเนี่ยเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่แห่งรัฐอิสระ นายมาปิดล้อมบ้านตระกูลเนี่ยน่ะไม่เท่าไร แต่ยังจะให้ตระกูลเนี่ยส่งตัวเนี่ยอู๋โยวให้อีก เนี่ยอู๋โยวคนนั้นเป็นคู่หมั้นของจี้ซิวหร่าน อาชูร่าของนายคิดจะล่วงเกิดขั้วอำนาจมากมายแค่ไหนกัน”
ทันใดนั้น คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นที่สังเกตการณ์อยู่ไกลๆ ก็ตะโกนขึ้นมา
เพียงแต่ เสียงตะโกนนี้ของคุณชายใหญ่เสิ่น กลับทำให้ซือเยี่ยหานสูญเสียความมีเหตุผลไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“คู่หมั้น…”
เงาทะมึนปรากฏขึ้นบนหน้าผากชายหนุ่ม สองตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ไอพิฆาตสูงท่วมฟ้า
“ฆ่า!”
ซือเยี่ยหานเปล่งเสียงออกมาในวินาทีนี้
ทันทีที่สิ้นเสียงของซือเยี่ยหาน กองกำลังของอาชูร่าก็ติดตามสี่อสูรเข้าจู่โจมบ้านตระกูลเนี่ยอย่างพร้อมเพรียง
“ฮึ่ม ไม่รู้จักสำเหนียก!”
มองจากสถานการณ์ เห็นหัวหน้าตระกูลเนี่ยเอ่ยเย้ยหยันครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ออกคำสั่งเปิดศึกแล้ว
เพียงพริบตาเดียว คลื่นมนุษย์มากมายได้กลายสนามรบอันป่าเถื่อน กองกำลังของตระกูลเนี่ยและอาชูร่าเข้าปะทะกัน
ไกลออกไป ตระกูลจี้เห็นว่าในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สู้กันแล้ว จึงนำกำลังคนบุกเข้าไปทันที เพียงแต่ กลับโดนคนของกลุ่มนักเชือดกับกลุ่มสวรรค์ชังขวางไว้
….
เยี่ยหวันหวั่นลอบเครื่องสำอางออกอย่างรวดเร็ว เพิ่งขับรถมาถึงบ้านตระกูลเนี่ย ก็เจอกับฉากนี้เข้าทันที
เยี่ยหวันหวั่นขับฝ่าฝูงชนเข้าไปตรงๆ อย่างแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิด
เมื่อเห็นว่ามีรถยนต์ฝ่าเข้ามา คนของทั้งฝ่ายก็หลบออกไปตามสัญชาตญาณ ถ้าจู่ๆ ก็ถูกรถขับชนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็คงไม่น่าสนุกเท่าไรแล้ว
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนในที่เกิดเหตุ ถูกรถยนต์ที่จู่ๆ ก็ขับฝ่าเข้ามาดึงความสนใจไปแล้ว แทบทั้งหมดล้วนมองตามรถยนต์ไป
“นี่มันใครกัน…รนหาที่ตายสินะ”
“เวรเอ้ย อาชูร่ากับตระกูลเนี่ยต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด ยังจะขับฝ่าเข้ามาอีกเหรอ เมื่อกี้เหมือนจะชนคนไปสองคนด้วย…”
ในไม่ช้า ประตูฝั่งคนขับก็เปิดออก เยี่ยหวันหวั่นหย่อนเท้าก้าวออกมาจากด้านในรถ
หลังจากมองเห็นใบหน้าของเด็กสาวอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนในที่เกิดเหตุก็ตะลึงงันไป
“พี่เฟิง?!”
เป่ยโต่วมองไปที่เยี่ยหวันหวั่น พลางอุทานเบาๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไป๋เฟิง...ไม่ถูกสิ เป็นเยี่ยหวันหวั่น…ก็ไม่ถูกอีกเหมือนกัน…สรุปต้องเรียกยังไงกันแน่”
แม้ว่าไป๋เฟิงจะเป็นผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ย แต่ก็เป็นเนี่ยอู๋โยวของตระกูลเนี่ยด้วย ฐานะช่างมากมายเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าต้องเรียกยังไงดี
พอลงจากรถแล้ว เนี่ยอู๋โยวก็มองสำรวจรอบข้าง ไม่ไกลนักมีสมาชิกตระกูลเนี่ยคนหนึ่งกับสมาชิกของอาชูร่าคนหนึ่งนอนกลิ้งอยู่บนพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นมอมแมม ดูเหมือนว่าเมื่อกี้ตัวเองจะเผลอถอยชนพวกเขาจนกระเด็นออกไปเพียงแต่ ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน…
………………………………………………….