บทที่ 789 โฟล์คเภาตันรุ่นสั่งทำเฉพาะ

The king of War

เมื่อได้รับบทเรียนเมื่อครู่ไปแล้ว เขาก็ไม่กล้าเย่อหยิ่งอีก วางท่าทีสงบเสงี่ยมลง

หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “สำหรับขยะอย่างคุณ จะคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียง ผมจะถือว่ามันเป็นของสะสมเอาไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น”

“คุณไม่ต้องกังวล ตราบใดที่คุณไม่มารบกวนแฟนของผม ของพวกนี้จะเป็นของสะสมของผมตลอดไป”

แม้ว่าอู๋เทียนโย่วจะยังไม่วางใจ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหยางเฉิน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประนีประนอมไปก่อน

“ได้ หวังว่าคุณหยางจะรักษาสัญญา!”

เขากัดฟันพูด

“รีบไสหัวไป! อย่ารบกวนการพักผ่อนของแฟนผม” หยางเฉินโบกมือกล่าวขึ้น

อู๋เทียนโย่วรีบพาบอดี้การ์ดของตัวเองออกไป

เซี่ยเหอกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “หยางเฉิน ฉันขอโทษที่ทำให้คุณเดือดร้อนอีกแล้ว แล้วก็ขอบคุณคุณด้วยที่ช่วยฉันอีกครั้ง!”

หยางเฉินรีบโบกมือ “อย่าพูดแบบนั้น ผมต้องขอบคุณคุณมากกว่า คุณนี่เป็นเทพธิดาแห่งโชคลาภของผมจริงๆ”

“วันนี้เพิ่งได้เจอคุณแค่สองชั่วโมงเท่านั้น ก็ช่วยให้ผมได้เงินมาแล้วหนึ่งหมื่นแปดล้าน”

“เพื่อเป็นการให้เกียรติคุณ คุณเอาบัญชีของคุณมาให้ผม ผมจะให้คุณห้าพันสี่ล้าน”

เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด เซี่ยเหอก็สะดุ้งตกใจ

อย่าว่าแต่ห้าพันล้านเลย ต่อให้เป็นหนึ่งร้อยล้าน สำหรับเธอมันเป็นจำนวนมหาศาล

“หยางเฉิน เงินพวกนี้คุณเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มา สตางค์เดียวฉันก็ไม่เอา”

เซี่ยเหอรีบส่ายหน้ากล่าวขึ้น

“คุณเป็นคนช่วยผมหามา ถ้าไม่เอาคุณจะไม่เสียเปรียบเหรอ?” หยางเฉินกล่าว

ไม่ว่าหยางเฉินจะพูดยังไง เซี่ยเหอก็ไม่ต้องการ

แม้ว่าหยางเฉินจะต้องการช่วยเหลือเซี่ยเหอ แต่เธอดื้อรั้นขนาดนี้ ก็ทำได้เพียงยอมแพ้

“เอาล่ะ เงินจำนวนนี้ให้ถือว่าคุณฝากผมไว้ที่นี่ เมื่อใดที่คุณต้องการก็สามารถมาเอาที่ผมได้ตลอดเวลา”

หยางเฉินพูดได้เพียงเท่านี้ เขายกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือและกล่าวว่า “ดึกมากแล้ว ผมต้องรีบกลับบ้านแล้ว คุณก็รีบไปพักผ่อนเถอะ!”

เซี่ยเหอพยักหน้าและกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในโรงแรมตามลำพังอย่างอาลัยอาวรณ์

หยางเฉินส่งเซี่ยเหอเข้าไปในโรงแรมด้วยสายตาแล้วจึงขึ้นรถ ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนจะขับรถกลับบ้าน

ในอีกด้านหนึ่ง อู๋เทียนโย่วได้ออกไปแล้ว

ภายในรถอเนกประสงค์โตโยต้า อัลฟ่า สีหน้าของอู๋เทียนโย่วนั้นมืดมนจนถึงขีดสุด เขากัดฟันพลางพูดว่า “กล้าต่อสู้กับฉัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”

“เจ้านาย เจ้าหมอนั่นไม่ธรรมดา มีวรยุทธ์แข็งแกร่งมาก พวกเราไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขาลงมือยังไง ก็ถูกตีกระเด็นออกมาแล้ว”

บอดี้การ์ดกล่าวอย่างระมัดระวัง

บอดี้การ์ดอีกคนก็รีบพูดว่า “อีกอย่างเขาไม่ได้ขับรถ Passat แต่เป็นโฟล์คเภาตันรุ่นสั่งทำเฉพาะ แม้แต่กระจกก็กันกระสุน ว่ากันว่ามีค่าผลิตอย่างน้อยสิบล้านขึ้นไป”

อู๋เทียนโย่วมีสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่รู้เรื่องรถยนต์มากนัก นึกว่ารถของหยางเฉินเป็นรถ Passat ที่มีราคาสองแสนกว่า นึกไม่ถึงว่าจะมีราคานับสิบล้าน

“นายแน่ใจเหรอ?”

อู๋เทียนโย่วขมวดคิ้วและถามขึ้น

บอดี้การ์ดเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เขารีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดเว็บไซต์แนะนำโฟล์คเภาตันรุ่นสั่งทำเฉพาะแล้วกล่าวว่า “เจ้านาย คุณดูสิ รถของไอ้หนุ่มเมื่อกี้คือรถคันนี้”

“มีราคาเริ่มต้นที่สิบสองล้านเก้าแสนเก้าหมื่น และนี่คือรุ่นต่ำสุดแล้ว”

“โฟล์คเภาตันรุ่นสั่งทำเฉพาะนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินก็สามารถครอบครองได้ มีเพียงผู้ที่มีกำลังทรัพย์เพียบพร้อมและทางโฟล์คสวาเกนเรียนเชิญมาเองเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ครอบครองได้”

ไฟโทสะลุกโชติช่วงอยู่ในดวงตาของอู๋เทียนโย่วเขากัดฟันพูดว่า “ต่อให้เขามีภูมิหลังเพียบพร้อมจริงๆ แล้วจะทำไม? พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของฉันก็เป็นสมาชิกของตระกูลซุนจากแปดตระกูลแห่งเมืองเยี่ยนตู”

“ในเมืองเยี่ยนตู ใครกล้ามาต่อกรกับตระกูลซุน เขาก็กำลังรนหาที่ตาย!”

เช้าวันรุ่งขึ้น หยางเฉินก็มาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป

ลั่วปิงยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ถือรายการเดินบัญชีอยู่ในมือและกำลังรายงานให้หยางเฉินฟัง

“รายงานพวกนี้ คุณเอามาให้ผมฉบับหนึ่งก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรายงานทุกคำหรอก”

หยางเฉินฟังแค่ไม่กี่คำก็ชี้ไปที่โซฟาด้านหน้าโต๊ะทำงาน “นั่งลง แล้วพูดเรื่องที่ไม่มีในรายงานซิ”

ลั่วปิงน่ะอะไรก็ดี ยกเว้นทุกครั้งที่เจอหยางเฉินก็จะตื่นเต้นมาก ทุกครั้งหยางเฉินต้องบอกให้เขานั่ง เขาถึงจะนั่ง

หลังจากนั่งลงแล้ว ลั่วปิงก็พูดต่อ “กิจการในต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ตอนนี้มีแนวโน้มการพัฒนาไปในทางที่ดีมาก หลี่ไห่หรงกับลูกชายซ่งหวายี่และลูกสาวซ่งหวาหย่าจัดการเรื่องต่างๆ ในต่างประเทศได้ดีมาก”

“ด้วยแนวโน้มเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานผลการดำเนินงานในต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะสามารถเทียบเท่ากับหนึ่งในสี่ของกิจการในประเทศแล้ว”

หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

ตอนแรกที่ให้หลี่ไห่หรงพาลูกชายกับลูกสาวไปต่างประเทศ เพื่อรับผิดชอบตลาดต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แม้ว่าสาเหตุจะมาจากการแนะนำของลั่วปิง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ หยางเฉินต้องการช่วยเหลือพวกเขาที่ถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลซ่ง

แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีความสามารถมากมายขนาดนี้ ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน กิจการในต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้พัฒนามาถึงระดับปัจจุบันแล้ว

เป็นที่รู้กันว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปในปัจจุบัน มีการไต่ระดับ 500 กิจการที่ดีที่สุดของโลกขึ้นมาสูงมาก

หากผลการดำเนินงานตลาดต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป สามารถทำได้ถึงหนึ่งในสี่ของตลาดในประเทศ สำหรับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว มันคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพอย่างก้าวกระโดด

“ดูเหมือนว่า มันเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่ส่งพวกเขาไปต่างประเทศเพื่อบุกเบิกตลาดต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปตั้งแต่แรก”

หยางเฉินมองไปที่ลั่วปิงด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ตอนแรกคุณเป็นคนแนะนำหลี่ไห่หรง จึงพูดได้ว่าที่ตอนนี้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปทำผลงานในตลาดต่างประเทศได้แบบนี้ มีคุณงามความดีของคุณด้วย”

ลั่วปิงรีบส่ายหน้าและกล่าวอย่างจริงจัง “นี่คือความสามารถที่โดดเด่นของพวกเขา ผมไม่สามารถแย่งชิงคุณงามความดีของพวกเขามาได้หรอก”

หยางเฉินหัวเราะ ไม่พูดเรื่องนี้อีกและถามว่า “โครงการเมืองจิ่วโจวตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

“ตอนนี้บริษัทเต็มไปด้วยเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากกับความคืบหน้าของโครงการเมืองจิ่วโจว”

ลั่วปิงรีบกล่าวว่า “จากความคืบหน้าในปัจจุบัน มันควรจะแล้วเสร็จในเบื้องต้นก่อนสิ้นปีถัดไป พยายามให้ดำเนินกิจการของเมืองจิ่วโจวภายในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมในอีกสองปีข้างหน้าให้ได้”

หยางเฉินรู้ว่ามันเร็วที่สุดแล้วและไม่ได้เร่งรัดอะไร เพียงแค่กล่าวอย่างจริงจัง “แผนการทำงานสามารถเร่งให้เร็วได้ แต่งานด้านความปลอดภัยก็จำเป็นต้องทำให้ดี!”

ความปลอดภัยในการผลิต นี่คือสิ่งที่หยางเฉินกำชับลั่วปิงทุกครั้งที่เขาถามเกี่ยวกับโครงการเมืองจิ่วโจว

ลั่วปิงรีบบอกว่า “คุณไม่ต้องกังวล งานด้านความปลอดภัยของโครงการเมืองจิ่วโจว ผมดูแลเองกับมือมาโดยตลอด ผู้ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการผลิต ผมก็เป็นคนจัดการมอบหมายเอง”

ขณะนี้โทรศัพท์ของลั่วปิงได้ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ลั่วปิงรีบตัดสาย

“อ้อ ขั้นตอนการส่งมอบซิงเฉินมีเดีย เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”

หยางเฉินนึกขึ้นได้อย่างกะทันหันว่าตระกูลซุนมีเงินจ่ายค่าชดเชยไม่พอ และเอาซิงเฉินมีเดียมาชดใช้หนี้แทน

ลั่วปิงพยักหน้า “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้คุณเป็นประธานของซิงเฉินมีเดีย คุณมีอำนาจตัดสินใจทุกอย่าง!”

หยางเฉินยิ้มมุมปากบางๆ เขานึกถึงนักแสดงชายอู๋เทียนโย่วของซิงเฉินมีเดียที่อ้างว่ามีตระกูลซุนเป็นผู้หนุนหลังเมื่อคืนก่อน

“ช่วงนี้ซิงเฉินมีเดียกำลังถ่ายทำหนังเรื่องใหม่อยู่เหรอ?” หยางเฉินถาม

“ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียด แต่ได้ยินมาว่ามีละครออนไลน์ต้นทุนต่ำเหมือนว่ากำลังถ่ายทำอยู่”

“เพราะเค้าโครงเรื่องต้องใช้ฉากหลังของเมืองเยี่ยนตู หลายวันมานี้ทีมงานละครจึงมาที่เมืองเยี่ยนตู