ตอนที่ 991: พ่อแม่คืนชีพ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 991: พ่อแม่คืนชีพ

ขั้นตอนสุดท้ายของการหลอมรวมวิญญาณต้องการใช้เวลา มันไม่ได้รวดเร็วเหมือนสองขั้นตอนก่อนหน้านี้

ร่างทั้งหมดของไป๋หยุนเทียนถูกครอบคลุมไปด้วยแสงสีขาวจ้า แสงค่อย ๆ แทรกเข้าไปในโลงน้ำแข็งก่อนที่จะครอบคลุมมันทั้งหมด วิญญาณของนางกลับเข้าไปในร่างของนางด้วยพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงในหัวของนาง

เจี้ยนเฉิน เทียนเจี้ยน และคนอื่นมองตาไม่กระพริบไปที่ไป๋หยุนเทียน พวกเขาทั้งหมดตั้งหน้าตั้งตารอ

ทหารรับจ้างที่กำลังเข้าออกเมืองสังเกตเห็นแสงสีขาวที่ทรงพลังจากพลังงานดั้งเดิม มันทำให้พวกเขาทั้งหมดเข้ามาใกล้ แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาใกล้ในอาณาเขต พวกเขาก็ถูกกันไว้โดยพลังที่มองไม่เห็น

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้คลายความอยากรู้อยากเห็นของทหารรับจ้างเลยแม้แต่น้อย พวกเขามองอยู่ไกลไกล ซึ่งทำให้คนมารวมกันมากขึ้นในตอนท้าย ในไม่ช้ามันได้ดึงดูดทหารรับจ้างที่มีความรู้และอายุมากเข้ามา พวกเขาร้องออกมา

“นั่นมันพลังเซียนธาตุแสงที่สามารถควบคุมได้โดยเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเท่านั้น ดูที่โลงตรงหน้าคนร่ายซิ มันใช่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 กำลังชุบชีวิตคนตายในโลงและทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งหรือเปล่า ? “

ทหารรับจ้างทั้งหมดที่ดูอยู่ด้วยความสนใจนิ่งอึ้ง พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินด้วยความเคารพและความชื่นชมที่พวกเขายากที่จะเก็บกดเอาไว้ได้

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงปกติสามารถเห็นได้ทั่วไปในเมืองทหารรับจ้าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนสนใจ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นหนังอีกม้วนถ้าพวกนั้นเป็นระดับ 7

นี่เป็นเพราะมีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เพียงไม่กี่คนเท่านั้นบนทวีปเทียนหยวน มีพวกเขาเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้นแม้แต่จะนับรวมทั้งทวีปแล้ว เช่นนั้นแล้ว มันจึงหาได้ยากกว่าเซียนราชาเสียอีก ในขณะเดียวกัน การที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 มาปรากฏตัวที่ด้านนอกเมืองทหารรับจ้างและกำลังร่ายวิชาเพื่อชุบชีวิตคนตายอีก นี่เป็นอะไรที่หาได้ยากที่อาจจะเห็นได้ในรอบหลายพันปีเลยทีเดียว

ข่าวที่ว่ามีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 กำลังชุบชีวิตคนตายอยู่ที่นอกเมืองทหารรับจ้างได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่ทันที ผู้คนมากมายกว่าเดิมรีบออกมาจากเมือง พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะเห็นความสามารถที่ขัดกับธรรมชาตินี้ของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7

บางคนจากตระกูลใหญ่ยังคิดที่จะดึงเอาเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ไปเข้าร่วมกับตระกูลของตัวเองอีกด้วย

ฝูงชนหนาแน่นมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมืองอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดดูอยู่ห่าง 5 กิโลเมตรออกไป ในขณะที่เซียนสวรรค์บางคนก็ดูอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาดูอยู่สูงขึ้นไปเพราะไม่ต้องการที่จะเข้าใกล้กลุ่มของเจี้ยนเฉิน และพวกเขายังไม่มีใครที่มีพลังพอที่จะข้ามเข้าใกล้ในเขต 5 กิโลเมตรได้

แม้ว่ากลุ่มของเจี้ยนเฉินจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจ ทั้งหมดมุ่งความสนใจไปที่ไป๋หยุนเทียนที่อยู่ในโลงน้ำแข็ง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หนึ่งวันหนึ่งคืนได้ผ่านไป และในช่วงเวลานี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแสงที่อยู่รอบ ๆ ไป๋หยุนเทียน เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ยืนอยู่เหมือนรูปปั้นตลอดทั้งวัน

กลุ่มคนจำนวนมากจากเมืองทหารรับจ้างได้มารวมตัวกัน แม้ว่าหนึ่งวันเต็มเต็มจะผ่านไป แต่จำนวนคนที่มารวมก็ไม่ลดเลยและยังมีแต่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย พวกเขารวมกันเป็นวงหนาแน่นรอบ ๆ กลุ่มของเจี้ยนเฉิน

ในตอนนี้เอง แสงสีขาวนวลที่อยู่รอบ ๆ ไป๋หยุนเทียนก็จางและหายไปอย่างสังเกตได้ คนที่มีสายตาที่แหลมคมบอกได้เลยว่าแสงนั้นไม่ได้จางหายไปไหน แต่เข้าไปในร่างของไป๋หยุนเทียนอย่างช้า ๆ แทน นางกำลังดูดกลืนมันเข้าไป

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับไป๋หยุนเทียนทำให้ตาของเจี้ยนเฉินแข็งทื่อ จากนั้นเขาก็หลับตาและใช้วิชาควบคุมสามวิญญาณเพื่อที่จะตรวจดูสภาพวิญญาณของไป๋หยุนเทียน ในตอนทีเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความยินดีก็ปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของเขา

“มันสำเร็จ มันสำเร็จ วิญญาณของท่านแม่ข้าหลอมรวมเข้ากับร่างของนางแล้ว” เจี้ยนเฉินพูดด้วยเสียงสั่น เขายินดีมากจนดูไม่เป็นธรรมชาติ เขารอวันนี้มานานเหลือเกิน

หมิงตง เถี่ยต้า และคนอื่น ๆ ก็ยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน พวกเขายินดีกับเจี้ยนเฉินที่สามารถชุบชีวิตพ่อและแม่ของเขาขึ้นมาได้

แสงสีขาวนวลหายไปจนหมดและใบหน้าที่ซีดของไป๋หยุนเทียนก็ค่อย ๆ หายไป มันถูกแทนที่ด้วยสีแดงกุหลาบ แต่นางก็ยังไม่ตื่น

“ตามบันทึกของวิชาควบคุมสามวิญญาณ คนที่ไม่ตื่นทันทีเป็นเพราะว่าวิญญาณของคนนั้นอยู่ในรูปแบบที่อ่อนแอมาก ทำให้ไม่สามารถเข้ากับร่างกายได้ วิญญาณต้องถูกบำรุงก่อนเป็นช่วงเวลาสูงสุด 3 วัน” เจี้ยนเฉินพึมพำอย่างตื่นเต้น เขาไม่ลังเลและใช้วิชาควบคุมสามวิญญาณอีกครั้งเพื่อที่จะชุบชีวิต เจียงหยางป้า

หลังจากหนึ่งวันผ่านไป เจี้ยนเฉินก็รวบรวมวิญญาณของเจียงหยางป้าได้สำเร็จและหลอมรวมมันเข้ากับร่างของเขา อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาเช่นกัน วิญญาณของทั้งคู่อ่อนแอมากและจำเป็นต้องได้รับการบำรุงในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะตื่นขึ้นมาได้

ความตื่นเต้นของเจี้ยนเฉินพุ่งถึงขีดสุดที่เขาชุบชีวิตพ่อและแม่ของเขาได้ เขายากที่จะสงบไว้ได้แม้จะผ่านเวลามานานแล้ว

“เจี้ยนเฉิน พวกเรามาพาพ่อแม่ของเจ้ากลับไปที่เมืองกันก่อน พวกเขาจะได้ตื่นขึ้นอย่างช้า ๆ ที่นั่น” เทียนเจี้ยนพูดในขณะที่เขาเห็นคนมารวมกันมากขึ้นรอบ ๆ

เจี้ยนเฉินเห็นด้วยกับข้อแนะนำอย่างไม่ลังเล เขาต้องการที่จะหาที่ที่สงบสำหรับพ่อแม่ของเขาในตอนตื่น

หลังจากนั้น กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็พุ่งขึ้นไปบนอากาศในขณะที่เจี้ยนเฉินแบกโลงน้ำแข็งเอาไว้อยู่ พวกเขาบินไปที่เมืองและเข้าไปทางอากาศ

เมืองทหารรับจ้างมีกฎเหล็กที่ห้ามไม่ให้ใครก็ตามบินผ่านเข้าไปในเมืองทางอากาศไม่เช่นนั้นจะได้รับการลงโทษ ดังนั้น ทหารรับจ้างทุกคนจึงตาโตเมื่อพวกเขาเห็นกลุ่มของเจี้ยนเฉินบินเข้าไปทางอากาศโดยตรง พวกเจี้ยนเฉินไม่ได้รับการลงโทษใดใด ซึ่งทำให้สายตาของพวกทหารรับจ้างมองเจี้ยนเฉินด้วยความชื่นชม

“พวกเขาต้องเป็นสมาชิกระดับสูงของเมืองทหารรับจ้างแน่ มีเฉพาะพวกนั้นเท่านั้นที่สามารถบินตรงเข้าไปในเมืองผ่านทางอากาศได้” บางคนพูดคุยกัน

..

เจี้ยนเฉินไม่ได้กลับเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ แทนที่กัน เขาเข้าไปในมิติที่แยกตัวออกมาตามเทียนเจี้ยนไป เขาปักหลักอยู่ที่ปราสาทหรูหรา และรอให้พ่อและแม่ของเขาตื่นอย่างเงียบ ๆ

รุยจินและเฮยยู่ยังอยู่ที่ด้านนอก เสี่ยวหลิงปราณีอย่างมากที่ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ในเมืองได้ ไม่มีคนต่างเผ่าพันธุ์ที่จะสามารถเข้ามาในเมืองทหารรับจ้างได้

เจี้ยนเฉิน หมิงตง และเถี่ยต้ารออยู่ให้ไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้าตื่นอยู่ข้าง ๆ สองวันเต็มเต็มผ่านไป นิ้วของไป๋หยุนเทียนก็ขยับเล็กน้อย จากนั้น เปลือกตาของนางก็ค่อย ๆ เปิดขึ้นมาและเต็มไปด้วยความสับสน

“ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็ตื่นขึ้นมา” เจี้ยนเฉินพูดออกไปด้วยเสียงสั่นเทา น้ำตาไหลออกมาจากตาของเขาอย่างควบคุมไม่ได้

ตาของไป๋หยุนเทียนแข็งทื่อเมื่อนางยินเสียงที่คุ้นเคย ความสับสนหายไปจากดวงตาของนางและนางก็มองไปที่ทิศทางที่นางได้ยินเสียง นางเห็นหน้าของเจี้ยนเฉินทันที ใบหน้าที่นางคุ้นเคยมากที่สุด

“เซียงเอ๋อ…” ไป๋หยุนเทียนร้องออกมา ความทรงจำของนางทะลักออกมาเหมือนน้ำท่วม ก่อนที่มันจะหยุดอยู่ตอนที่ ชายชราซิตูและพวกของเขาอีก 4 คนมาสร้างปัญหาที่ตระกูลเจียงหยาง

ใบหน้าของไป๋หยุนเทียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อความทรงจำของนางมาหยุดอยู่ที่จุดนี้ นางร้องออกมา “เซียงเอ๋อ มีเซียนผู้คุมกฎจะมาจัดการเจ้า” ไป๋หยุนเทียนไม่รู้ว่านางไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเจียงหยางเพราะว่านางเพิ่งตื่นขึ้นมา นางต้องการที่ลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่นางขยับ นางก็พบว่าตัวเองไม่มีแรง นางไม่สามารถยืนขึ้นได้

“ท่านแม่ นอนอยู่ก่อนอย่าเพิ่งขยับ เรื่องนั้นได้ผ่านไปแล้ว เซียนผู้คุมกฎพวกนั้นไม่สามารถกดขี่ข้าได้อีกแล้ว” เจี้ยนเฉินพูดอย่างนุ่มนวลในขณะที่เขารีบประคองไป๋หยุนเทียนให้นอนลงไป

การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ได้ใช้พลังงานทั้งหมดที่เหลืออยู่ในตัวของไป๋หยุนเทียนไปแล้ว นางทรุดลงอย่างไร้พลังไปที่เตียง จากนั้นนางจึงถาม “เซียงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับข้า ? ทำไมข้าไม่มีแรงเลย ? ” ตาของไป๋หยุนเทียนหรี่เล็กลงทันทีในตอนที่นางพูด นางตกใจและพึมพำออกมา “ข้าจำได้ชัดว่า ข้าได้ตายไปเพราะเซียนผู้คุมกฎพวกนั้น แล้วข้ายังมีชีวิตอยู่ยังไง ? เซียงเอ๋อ ทั้งหมดนี่มันอะไรกัน ? แล้วที่นี่มันที่ไหน ? มันดูไม่เหมือนตระกูลเจียงหยางเลย”

“ท่านแม่ นี่คือเมืองทหารรับจ้าง…” เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะอธิบายทุกอย่างออกไปตั้งแต่ต้นจนจบ

“เจ้าว่ายังไงนะ ! ? เซียงเอ๋อ มันผ่านมา 10 ปีแล้วหรือตั้งแต่ตอนนั้น ? ข้าถูกชุบชีวิตขึ้นมาด้วยความสามารถของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ของเจ้า ? ” ไป๋หยุนเทียนพูดไม่ออกหลังจากที่นางได้รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายปีนี้ นางเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เจี้ยนเฉินพยักหน้าแล้วตอบกลับไป “ท่านแม่ ยังมีท่านพ่ออีก ข้าได้ช่วยท่านพ่อเอาไว้เช่นกัน แต่เขายังไม่ได้สติ เขาน่าจะตื่นขึ้นในไม่ช้านี้”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉิน หมิงตง และเถี่ยต้าก็มานั่งลงข้างไป๋หยุนเทียนและพูดคุยกับนาง พวกเขาบอกนางทีละเล็กละน้อยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอดสิบปีเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของตระกูลเจียงหยาง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ปิดบังบางส่วนเอาไว้อยู่

ครึ่งวันต่อมา เจียงหยางป้าตื่นขึ้นมา เขาเรียนรู้สถานการณ์จากเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วและก็พูดไม่ออกเช่นกัน เขายากที่จะสงบใจได้แม้จะผ่านไปนาน

แน่นอนว่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือการที่พ่อและแม่ของเจี้ยนเฉินได้ตื่นขึ้นมา เจี้ยนเฉินไม่เคยยินดีขนาดนี้เลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เจี้ยนเฉินพูดคุยกับพ่อแม่ต่อสักพักก่อนที่จะออกไปพร้อมกับหมิงตงและเถี่ยต้า เขาปล่อยพ่อแม่ของเขาไว้ในที่ซึ่งปลอดภัยเพื่อให้พวกเขาพักผ่อน นี่เป็นการให้เวลาพวกเขาในการปรับตัวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นด้วย

สองสามวันต่อมา เจี้ยนเฉินก็ทำซุปจากสมบัติสวรรค์แสนปีซึ่งมีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการบำรุงวิญญาณในร่างกายของพ่อแม่ของเขาออกมา หลังจากนั้น จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เพิ่มสมบัติสวรรค์หมื่นปีหลายชิ้น และจากนั้นก็เพิ่มสมบัติสวรรค์พันปีหลายชิ้นเข้าไปอย่างช้า ๆ

พ่อแม่ของเขาเพิ่งฟื้นคืนชีพมา วิญญาณและร่างกายของพวกเขาแยกจากกันไปนาน แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะยังสมบูรณ์และได้รับการบำรุงจากพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง แต่มันก็ยังมีความแตกต่างอย่างมากกับสภาพร่างกายของคนปกติ พวกเขาจำเป็นต้องพักฟื้นอย่างช้า ๆ

ไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้าฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากยาที่ทำมาจากสมบัติสวรรค์ พวกเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในครึ่งเดือน

พวกเขาทั้งสองรับได้แล้วกับสิ่งเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในตอนที่พวกเขาตายไปหลังจากที่ผ่านการฟื้นตัวมาครึ่งเดือน พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง