ตอนที่ 817 สยองขวัญกลางอากาศ (1)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

เหลยหู่ไม่รู้จักกลุ่มทหารรับจ้างแม่ม่ายดำ แต่เขารู้เรื่องที่เหมียวจื่อหลงใช้เงินมากมายจ้างทหารจากคองโก แม้จะเรียกว่าเป็นกลุ่ม แต่คนหกเจ็ดร้อยกว่าคนนี้ก็เป็นทหารที่เคยรบจริงมาก่อน

ทหารที่ฆ่าคนเป็นว่าเล่นกลุ่มนี้นี่แหละ ที่ถูกเยี่ยเทียนฆ่าเกือบสี่ร้อยคน และที่สำคัญข้อมูลที่รัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศออกมา อาจจะปิดบังบางอย่างเอาไว้ คนที่ตายด้วยฝีมือของเยี่ยเทียนอาจจะมีมากกว่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาโทรหาถังเหวินหย่วน เหลยหู่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่เขาพบเจอเมื่อวาน คนที่มีใบหน้าซีดขาวอย่างเยี่ยเทียน จะเป็นคนที่ก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ ความนิ่งของเยี่ยเทียนมันยิ่งทำให้เขาเหมือนเป็นปีศาจ

เหลยหู่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเป็นศัตรูกับเยี่ยเทียนอีกแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าระหว่างเขากับเยี่ยเทียนแตกต่างกันมากแค่ไหน ถ้าฝ่ายตรงข้ามอยากจะฆ่าเขาละก็ คงไม่ยากไปกว่าการฆ่ามดตัวหนึ่ง

“นั่งลงเถอะ ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ต้องรู้เลยดีกว่า!”

เยี่ยเทียนโบกมือ เมื่อเห็นหน้าเหลยหู่ที่เกือบจะร้องไห้ จึงพูดผ่านไมโครโฟนโทรศัพท์ว่า

 “เหล่าถัง ผมไม่เห็นแคโรลเลย ตรวจสอบได้มั้ยว่าเขาอยู่ไหน? ”

“เยี่ยเทียน ทำไมเหลยหู่อยู่บนเครื่องบินด้วย? ”

ถังเหวินหย่วนไม่ตอบคำถามของเยี่ยเทียน แต่พูดว่า

“ฉันกับเหลยหู่รู้จักกันมานาน จะพูดว่าเลี้ยงดูเหลยหู่จนโตก็ว่าได้ แม้ว่าไอ้หมอนั่นจะทำสิ่งที่ไม่ดีกับเธอเอาไว้ แต่ช่วยเห็นแก่หน้าฉัน ไว้ชีวิตมันด้วยได้มั้ย? ”

การประชุมใหญ่สมาคมหงเหมินเมื่อหลายปีก่อน ถังเหวินหย่วนอยู่ในงานด้วย ทำให้เขาพอรู้เรื่องบาดหมางระหว่างเหลยหู่กับเยี่ยเทียนอยู่บ้าง แต่เขากับเหลยเจิ้นเทียนรู้จักกันมาหกสิบกว่าปี เขาทนดูลูกหลานคนนี้ตายในมือของเยี่ยเทียนไม่ได้หรอก

“ได้…”

เยี่ยเทียนเงยขึ้นมองเหลยหู่ที่อยู่ไม่สุข เขาพูดออกไปด้วยความลังเล

“เหล่าถัง ช่วงนี้ผมทำนายฟ้าดินไม่ได้ รู้สึกไม่ค่อยดี คุณรีบหาตำแหน่งที่อยู่ของแคโรลให้หน่อย ด่วนเลยนะ”

“ตกลง ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย ! ”

ถังเหวินหย่วนฟังออกว่าเยี่ยเทียนจริงจังมาก เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ พอรับปากเสร็จก็วางสายทันที

เหลยหู่เห็นเยี่ยเทียนวางสายไป เขายืนขึ้นเหมือนเด็กน้อยและพูดว่า

“ท่านเยี่ยครับ ท่าน…ท่าน…”

“ความผิดฐานความตายละไว้ได้ จะให้เว้นชีวิตคงยาก แต่แกมันโชคดี ! ”

เยี่ยเทียนทำเสียงไม่พอใจใส่ แม้ว่าเหลยเจิ้นเทียนจะออกจากสมาคมหงเหมินไปแล้ว แต่เขาก็มีลูกศิษย์มากมาย ถ้าเขาฆ่าเหลยหู่ มันอาจจะคลายความโกรธลงได้ แต่นั่นจะเป็นการทิ้งภัยแฝงไว้ให้คนในครอบครัว ซึ่งเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย

เยี่ยเทียนก็มองออกว่าเหลยหู่กับคนที่อยากจะฆ่าตนให้ตายอย่างซ่งเสี่ยวหลงไม่เหมือนกัน ครั้งนี้เหลยหู่ดูเหมือนจะยอมจำนนแล้วจริงๆ หากส่งให้เหลยเจิ้นเทียนเป็นคนจัดการต่อ ในภายภาคหน้าก็คงจะไม่ทำร้ายตนเองอีก

“เอ๊ะ แปลกมาก ทำไมเส้นโชคถึงปรากฏบนหน้าของเหลยหู่ ? ”

หลังจากที่เยี่ยเทียนพูดเสร็จ เขาพบว่า สีดำตรงหว่างคิ้วของเหลยหู่จางลงแล้ว ลมแห่งความตายอันนั้นก็หายไปแล้วเหมือนกัน แต่ตรงแก้มขวา มีเส้นสีเขียวแกมน้ำเงินปรากฏขึ้น

“นี่มันลักษณะของคนพิการนี่” เ

มื่อเห็นเส้นสีเขียวแกมน้ำเงินบนหน้าเหลยหู่เส้นนั้น เยี่ยเทียนก็เริ่มทำนาย นิ้วโป้ง นิ้วกลางและนิ้วชี ทั้งสามนิ้วแตะกัน แล้วเยี่ยเทียนก็ส่ายหัว เพราะภาพที่เกิดขึ้นมันหายไปเร็วมาก จนเขาไม่สามารถทำนายเรื่องราวอะไรได้เลย

เหลยหู่ขนลุกซู่เพราะถูกเยี่ยเทียนจ้องหน้าไม่หยุด เขากัดฟันพูดว่า

 “ท่านเยี่ย ท่านพูดมาตรงๆ เลยก็ได้ครับ จะลงโทษโทษสามมีดหกรู ผมก็ยอมรับครับ ! ”

ถึงแม้เหลยหู่จะถอนตัวตามพ่อแล้ว แต่พวกเขาก็ยังเป็นคนของสมาคมหงเหมิน คนสมาคมเดียวกัน ฆ่ากันเอง จะต้องรับโทษจากสภาตุลาการ บทลงโทษสามมีดหกรูถือว่าเบามากแล้ว ถ้าเยี่ยเทียนเคร่งครัดขึ้นมาจริง ๆ ตัดแขนและขาอย่างละข้างยังถือว่าเป็นบทลงโทษที่เบามากเช่นกัน

“โทษสามมีดหกรูเหรอ แกคิดว่าแกเป็นผู้อาวุโสของสมาคมหรือไง? ”

เยี่ยเทียนหัวเราะกับสิ่งที่ได้ยินและพูดว่า

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฟ้าก็แล้วกัน ฉันจะไม่ทำอะไรแก แกไม่ต้องเป็นห่วง”

เยี่ยเทียนเขียนเบอร์โทรในกระดาษอีกครั้ง เขาเรียกแอร์โฮสเตสและพูดว่า

“ช่วยโทรเบอร์นี้อีกหน่อยครับ”

หลังจากมีคนรับสาย เยี่ยเทียนพูดเปิดประเด็นทันทีว่า

“เหล่าหม่า ช่วยผมเช็คหน่อย ว่าแคโรล ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”

“ครับ อีกห้านาทีเดี๋ยวจะแจ้งกลับครับ! ”

มาลาไกย์รู้ว่าแคโรลที่เยี่ยเทียนพูดถึงคือใคร หลังจากรับคำสั่งเสร็จ เขาพูดว่า

“บอสส์ เก่งมาก จัดการกลุ่มทหารรับจ้างแม่ม่ายดำจนหมด! ”

ในสายตาของทหารรับจ้างระหว่างประเทศอย่างมาลาไกย์ มีคนตายในเหมืองทองคำนับร้อยคนถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่การล่มสลายของกลุ่มทหารรับจ้างแม่ม่ายดำถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และตอนนี้ทหารรับจ้างทั่วโลกก็กำลังวิจารณ์เรื่องนี้อยู่

“อย่าพูดมาก เช็คเสร็จแล้วรีบโทรมาหาผม! ”

เยี่ยเทียนพูดเสร็จก็วางสายทันที เขาก็รอคำตอบจากถังเหวินหย่วนเหมือนกัน

เยี่ยเทียนเพิ่งวางสาย เสียงสายเรียกเข้าจากถังเหวินหย่วนก็ดังขึ้น แต่เยี่ยเทียนต้องผิดหวังเพราะ             ถังเหวินหย่วนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแคโรลเลย เขาจึงทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับมาลาไกย์แทน

เวลาผ่านไปห้านาที เสียงมือถือของเยี่ยเทียนก็ดังขึ้นมา เสียงของมาลาไกย์ดังขึ้นในสายพูดว่า

“บอสส์ครับ เมื่อสามวันก่อน มีคนเห็นแคโรลที่เคปทาวน์ แต่หลังจากนั้นเขาไปไหนผมเช็คแล้วแต่ไม่พบครับ ! ”

แม้ว่ากองกำลังของมาลาไกย์จะสู้กลุ่มแม่ม่ายดำไม่ได้ แต่ก็อยู่ในอันดับที่ห้าของทหารรับจ้างนานาชาติ มาลาไกย์มีระบบข่าวกรองเฉพาะในแบบของเขา ซึ่งก็คือการติดสินบนเจ้าหน้าที่ในสนามบินสำคัญของประเทศต่างๆ ให้พวกเขาช่วยตรวจสอบเรื่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยสนใจกัน

ที่สนามบินเคปทาวน์มีคนของมาลาไกย์อยู่ ที่บังเอิญไปกว่านั้นคือเจ้าหน้าที่คนนี้เคยเห็นแคโรล พอทราบเรื่องเขาก็แจ้งเรื่องของแคโรลให้กับมาลาไกย์ทันที แม้แต่มาลาไกย์ก็คิดไม่ถึงว่าจะหาข้อมูลที่เยี่ยเทียนต้องการได้เร็วขนาดนี้

“เคปทาวน์? ”

เยี่ยเทียนรู้สึกชาไปหมด เขาตอบว่า

“โอเค เหล่าหม่า ขอบคุณมาก! ”

พอวางสายเสร็จ เยี่ยเทียนเงยหน้าขึ้นมองไปที่แอร์โฮสเตส เขาพูดว่า

“เครื่องบินลำนี้ลงจอดที่สนามบินเคปทาวน์ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ? ”

“วันนี้เป็นวันที่สี่แล้วค่ะคุณเยี่ย มีอะไรหรือเปล่าคะ? ”

สำหรับเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินลำนี้ การบินในครั้งนี้เหมือนการพักร้อน หลังจากบินถึงเคปทาวน์พวกเขาก็บินไปที่ชายหาดของแอฟริกาใต้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเทียนตัดสินใจบินวันนี้ สาวๆแอร์โฮสเตสอยากจะไปเที่ยวโจฮันเนสเบิร์กต่อ

“วันที่สี่? ”

เยี่ยเทียนตาลุกวาว เขาถามต่อว่า

“สี่วันนั้น ใครรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของเครื่องบิน? ”

“คนในสนามบินเคปทาวน์สิคะ การป้องกันและการบำรุงรักษา เจ้าหน้าที่สนามบินเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดค่ะ”

แอร์โฮสเตสรู้สึกงงกับคำถามของเยี่ยเทียน เวลาที่พวกเธอบินไปถึงที่ไหน พวกเธอจะต้องจ่ายเงินจำนวนไม่น้อยให้กับสนามบิน เป็นค่าจอดท่า เติมน้ำมันและบำรุงซ่อมแซม

“ที่แท้มีช่องโหว่ตรงนี้นี่เอง! ”

เยี่ยเทียนตบที่วางมือของเก้าอี้อย่างแรง ที่วางมือทำด้วยโลหะผสมถูกตบจนยุบเข้าไป แม้แต่เครื่องบินก็เกือบเอียงไปข้างหนึ่ง ส่วนแอร์โฮสเตสก็ตกใจจนหน้าเสียไปทีเดียว

เมื่อเห็นที่วางมือถูกตบจนเปลี่ยนรูป สายตาแห่งความเย้ายวนของแอร์โฮสเตสก็หายไปทันที หล่อนพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า

“คุณเยี่ย ถ้า…มีอะไรที่ไม่พึงพอใจ บอกพวกเราได้เลยนะคะ ขอ…ความกรุณาอย่าทำลายสิ่งของบนเครื่องบินด้วยค่ะ”

“รบกวนติดต่อกัปตันให้ผมด่วน ให้เขาลงจอดที่สนามบินที่ใกล้ที่สุด! ”

เมื่อได้รับข้อมูลว่าแคโรลเคยหยุดอยู่ที่เคปทาวน์มาก่อน ใจของเยี่ยเทียนยิ่งรู้สึกว้าวุ่นขึ้นไปอีก เขาฟันธงได้ทันทีว่าแคโรลจะต้องทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินลำนี้เป็นแน่

ผนวกกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นก่อนตายของเจอร์รี ใจของเยี่ยเทียนยิ่งรู้สึกเย็นวูบ

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเจอร์รีจะเช็คจนรู้ว่าเครื่องบินลำนี้ถูกยืมโดยเขา และยังเช็คจนรู้ถึงเวลาที่เครื่องบินลงจอด ความแยบยลของเจอร์รีหาใช่คนปกติจะเทียบได้

เมื่อเห็นสีหน้าของเยี่ยเทียนที่จริงจังมาก แอร์โฮสเตสไม่รอช้า โทรแจ้งให้กัปตันรับทราบทันที จากนั้นเสียงประกาศของกัปตันก็ดังขึ้น

“คุณเยี่ยครับ เกิดอะไรขึ้นครับ? ตอนนี้เรากำลังบินผ่านเขตพายุ ขอให้ทุกท่านนั่งอยู่กับที่และอย่าลุกไปไหน! ”

เยี่ยเทียนใจเต้นตุบตับ เขาแย่งเครื่องมือติดต่อจากมือของแอร์โฮสเตสและตะโกนเข้าไปในสายว่า

“บัดซบ ผมขอสั่งให้คุณลงจอดที่สนามบินที่ใกล้ที่สุดเดี๋ยวนี้ ไม่เข้าใจที่ผมพูดหรือไง? ”

ในเวลานี้ เยี่ยเทียนรู้สึกไม่ต่างจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 911 ตอนที่กระโดดจากตึกสูงแล้วโดนแผ่นหินตกใส่ ความรู้สึกของการมีชีวิตใกล้ความตายแบบนั้น มันทำให้รูขุมขุนร้อยแปดพันเก้าเปิดออกทั้งหมด ลมเย็นเฉียบซึมเข้ารูขุมขนและส่งขึ้นไปยังสมอง

“ขออภัยครับคุณเยี่ย พวกเราบินเข้าเขตพายุแล้ว หลังจากผ่านเขตนี้ไป เราทำการบินอีกสองชั่วโมงก็จะลงจอดที่ลานจอดเครื่องบินของเกาะเล็กๆแถวมหาสมุทรอินเดียครับ! ”

แม้ว่าเยี่ยเทียนจะสบถคำหยาบออกไป แต่กัปตันผู้มีฐานะไม่ธรรมดาคนนี้ ก็ยังอธิบายให้เยี่ยเทียนฟังอย่างอดทน พวกเขาบินออกจากแอฟริกาใต้มาแล้วกว่าสี่ชั่วโมง ตอนนี้กำลังบินอยู่บนน่านน้ำมหาสมุทรอินเดีย และด้านล่างนี้ก็คือมหาสมุทร ซึ่งเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้

“เฮ้อ พระเจ้าล้อผมเล่นใช่มั้ย? ”

เยี่ยเทียนกำลังอยากพูดต่อ แต่ด้วยการสั่นของเครื่องบินที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาพูดต่อไม่ได้ ขณะเดียวกันเครื่องบินก็เริ่มสั่นรุนแรงขึ้น หากมองจากหน้าต่าง สามารถมองเห็นฟ้าแลบที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน

……-

“ได้เวลาแล้วมั้ง? ”

ในโรงแรมธรรมดาเล็กๆแห่งหนึ่งที่เคปทาวน์ ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่ากำลังมองเครื่องจับเวลาในมือ และแสดงสีหน้าที่เศร้าหมองออกมา

“เจอร์รี คุณเคยบอกว่าจะลากศัตรูคนสุดท้ายลงนรกด้วย สบายใจเถอะนะ ผมคิดว่าเขาคนนั้นกำลังจะได้เจอคุณในเร็วๆ นี้แหละ!”

แคโรลรู้เรื่องกลุ่มทหารรับจ้างแม่ม่ายดำตั้งนานแล้ว สาเหตุที่เขายังอยู่เคปทาวน์ต่อ ก็เพื่อรอฟังข่าวเครื่องบินตกนั่นเอง

 …………………….