บทที่ 892 ความแข็งแกร่งของอาณาเขตเงินตรา

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

อาณาเขตเงินตรานั้นนับว่ามีเส้นสายที่กว้างขวางเป็นอย่างมากจากการทำการค้ากับสำนักมากมายซึ่งหากคำนึงจากผลประโยชน์ถ้าสำนักเหล่านั้นรู้ว่า สำนักเงินตรากำลังถูกโจมตีพวกเขาจะต้องรีบส่งคนมาช่วยแน่นอนและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม หลิงตู้ฉิง ถึงต้องวางแผนโจมตีอย่างฉับพลันแบบนี้และจำเป็นต้องผนึกกฎแห่งมิติของอาณาเขตเงินตราเพื่อตัดการเชื่อมต่อของประตูเคลื่อนย้ายก่อนที่จะเริ่มฆ่าคน

“ในนามของข้า ข้าขอโมฆะอำนาจกฎแห่งมิติที่อยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมด!”

หลิงตู้ฉิงปักง้าวเทวะพินาศลงไปบนพื้นทันทีและใช้พลังของหนึ่งในร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่จนหมดเพื่อลบล้างพลังกฎแห่งมิติที่มีอยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมดให้หายไปรวมไปถึงยับยั้งไม่ให้มันปรากฎขึ้นชั่วคราว

การกระทำเช่นนี้ของ หลิงตู้ฉิง ส่งผลให้ประตูเคลื่อนย้ายทั้งหมดที่มีอยู่ในอาณาเขตเงินตราใช้งานไม่ได้ทันทีรวมไปถึงพวกแหวนมิติหรือสมบัติต่างๆที่เกี่ยวกับมิติก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมดเช่นกัน

“เอาล่ะตอนนี้ข้าทำให้อาณาเขตเงินตราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอกได้อีกแล้ว ทุกคนบุกเข้าไปฆ่าไอ้พวกหน้าเงินพวกนี้ให้หมดไม่ต้องปราณี!” หลิงตู้ฉิง พูดขึ้น “ในสมองของคนเหล่านี้ทั้งหมดมีแต่คำว่าเงินเพียงอย่างเดียวจนละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปจนหมดแล้วดังนั้นพวกเจ้าสามารถฆ่าพวกเขาได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ข้ารับประกันได้ว่าสวรรค์จะไม่ถือโทษพวกเจ้าต่อให้พวกเจ้าจะฆ่าพวกเขาตายจนหมดและยิ่งไปกว่านั้นยิ่งพวกเจ้าทำผลงานได้มากเท่าไหร่ส่วนแบ่งของพวกเจ้าจะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย!”

อันที่จริงต่อให้ หลิงตู้ฉิง บอกว่าพวกเขาอาจจะถูกสวรรค์ลงโทษหากฆ่าคนมากเกินไปพวกเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะสมบัติที่คนของอาณาเขตเงินตรานำออกมาใช้งานนั้นมันล่อตาล่อใจพวกเขามากเกินไป

พวกเขาแต่ละคนนั้นมาจากสำนักมหาอำนาจกันทั้งนั้นแต่ภายในสำนักของพวกเขานั้นยังมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ถึง10ชิ้นด้วยซ้ำและตอนนี้แค่เริ่มต้นปะทะกัน อาณาเขตเงินตรากลับสามารถควักเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นมารบกับพวกเขาได้ทันที เมื่อเห็นเช่นนี้พวกเขาจะไม่รู้สึกอิจฉาได้ยังไง?

ซวนหยวน แสดงสีหน้ามืดหม่นเป็นอย่างมากเมื่อเห็นภาพความร่ำรวยของอาณาเขตเงินตราที่มีมากขนาดนี้และอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงสำนักของเขาเองซึ่งเป็นสำนักอันดับต้นๆของโลกเช่นกันว่าถ้าเทียบกันในด้านความร่ำรวยแล้วสำนักเต๋าสวรรค์นั้นคงรวยไม่ถึง1ในร้อยของสำนักเงินตราแน่นอน!

หากสำนักเต๋าสวรรค์อยากจะรวยกว่าเดิมวันนี้คือโอกาสที่ดีที่สุด

ทางด้านของ ซวนหยวนตู่ และเหล่าภูติขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีก20ตนต่างมองไปที่เหล่าผู้คนของอาณาเขตเงินตราที่ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นด้วยสีหน้าโง่งม เพราะหลังจากที่พวกเขาได้รู้แล้วว่าโลกภายนอกมันเป็นยังไงพวกเขาจึงได้รู้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั้นมีค่ามากแค่ไหนซึ่งเผ่าของพวกเขายังไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เลยสักชิ้น!

เย่เจียงไห่ หัวเราะด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมและพูดว่า “ข้ากำลังกังวลอยู่พอดีว่าในอนาคตตำหนักของข้าจะอยู่รอดได้ยังไงเมื่อข้าและเตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้องขึ้นไปอยู่บนโลกเบื้องบนเพราะตำหนักของข้าคงจะไม่มีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์คอยค้ำจุนอีกต่อไป ในเมื่อพวกเจ้าร่ำรวยกันนักงั้นข้าขอหยิบติดไม้ติดมือไปสักอันสองอันเอาไว้ให้เหล่าศิษย์ข้าได้ใช้ป้องกันตัวในอนาคตสักหน่อยก็แล้วกัน!”

เมื่อพูดจบ เย่เจียงไห่ ปลดปล่อยเปลวเพลิงออกจากร่างของเขา

ไปทางกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราในทันที

ทางด้านกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราก็พยายามใช้อาวุธของพวกเขาต่อต้านอย่างเต็มกำลังเช่นกันแต่น่าเสียที่พลังมันแตกต่างกันมากเกินไปส่งผลให้การต่อต้านของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์และท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกเปลวเพลิงของ เย่เจียงไห่ เผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน

ในเวลาเดียวกันบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดทั้งหลายที่หลิงตู้ฉิงชวนมาก็เริ่มลงมือโจมตีเช่นกัน

กลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราส่วนใหญ่ที่ปรากฎกายออกมารับศึกนั้นอยู่ในขอบเขตราชันแค่เพียงเท่านั้นดังนั้นต่อให้พวกเขาจะมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ พวกเขาก็ไม่สามารถใช้อำนาจของมันได้อย่างเต็มที่และเมื่อพวกเขาโดนการโจมตีอย่างเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดที่มีอาวุธระดับจักรพรรดิอยู่ในมือพวกเขาจึงไม่สามารถต้านทานอะไรได้และถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว ส่วนบรรดาคนที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตจักรพรรดิก็พอที่จะปกป้องตัวเองได้บ้างเมื่อพวกเขาใช้อำนาจของอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์หากแต่สุดท้ายพวกเขาก็ตายอยู่ดีเช่นกันเมื่อโดนโจมตีซ้ำๆหลายที

ในเวลาเดียวกับที่ทุกคนกำลังกวาดล้างกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตรา หลิงตู้ฉิง ก็ใช้พลังของร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่อีกร่างมาเกื้อหนุนระดับการบ่มเพาะของเขาอีกรอบจนกลายเป็นขอบเขตราชัน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลงมือผนึกพลังกฎแห่งมิติไปแล้ว หลิงตู้ฉิง ก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ

สาเหตุที่เขาไม่ร่วมการกวาดล้างด้วยก็เพราะเขาไม่อยากจะเปลืองพลังโดยใช่เหตุ การปะทะที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพียงแค่ปฐมบทเท่านั้นซึ่งสำนักเงินตรานั้นยังไม่ได้เอาจริงเลย

หลิงตู้ฉิง อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองหลังกวาดสายตามองไปรอบๆสนามรบ “ที่แท้คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดหลังจากที่ข้าทำลายตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์และสำนักโอสถนิรันดร์ก็คือพวกเจ้าสำนักเงินตราสินะ?”

เขาสังเกตุเห็นได้ว่าอาวุธแทบจะทั้งหมดที่กลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราเอามาใช้ตอนนี้นั้นเป็นอาวุธที่ถูกสร้างขึ้นจากตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์

อันที่จริงมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์2ชิ้นที่กลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราเอามาใช้ซึ่งมันสะดุดตาเขามากๆก็คือ เตาหลอมมหาวายุแปดทิศ ซึ่งเคยเป็นสมบัติสำคัญมากของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ และ เจดีย์เก้าวิวัฒน์ ของสำนักโอสถนิรันดร์

หลิงตู้ฉิง พ่นลมหายใจด้วยสีหน้าหงุดหงิดและตะโกนขึ้นไปยังเตาหลอมมหาวายุแปดทิศ “มาหาข้าตรงนี้!”

หลิงตู้ฉิง ใช้ทักษะสวรรค์มหาบงการตัดการเชื่อมต่อของผู้เชี่ยวชาญอาณาเขตเงินตรากับเตาหลอมมหาวายุแปดทิศและบังคับให้เตาหลอมบินมาหาเขาจากนั้นเขาจึงทำการเชื่อมต่อตัวเขาเองให้เป็นเจ้านายของมันแทน

“นี่มันผ่านมากี่ปีกันแล้ว? ข้าไม่นึกเลยว่าในที่สุดข้าก็ได้เจอกับสมาชิกตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง!” วิญญาณศาสตราของเตาหลอมมหาวายุแปดทิศ เอ่ยขึ้นเพราะมันเข้าใจผิดนึกว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์เพราะทักษะที่เขาเพิ่งใช้ “เด็กน้อย เจ้าช่วยบอกข้าสักหน่อยได้ไหมว่าในตอนนี้ตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์กลับมาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว?”

หลิงตู้ฉิง ไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถามของเตาหลอมมหาวายุแปดทิศ เขาหันไปตะโกนบอกกับ เย่เจียงไห่ ว่า “เจียงไห่ข้าจะให้เจ้าใช้เตาหลอมมหาวายุแปดทิศในการสู้ศึกครั้งนี้แต่ว่าหลังจากจบเรื่องเจ้าจะต้องนำมันไปคืนให้กับตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในอาณาจักรจันทรา!”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิง สั่งให้เตาหลอมมหาวายุแปดทิศเชื่อฟังคำสั่งเย่เจียงไห่จากนั้นเขาจึงโยนมันออกไปให้ เย่เจียงไห่ รับเอาไว้

เมื่อเสร็จจากเรื่องของเตาหลอมมหาวายุแปดทิศ หลิงตู้ฉิง ก็หันไปทำแบบเดียวกันกับ เจดีย์เก้าวิวัฒน์และเมื่อมันยอมรับเขาเป็นนายแล้ว เขาจึงส่งมันไปให้กับซวนหยวนเพื่อให้ใช้มันในการรบ

ทางด้านของ เย่เจียงไห่ เมื่อได้เตาหลอมมหาวายุแปดทิศไปเขารีบใช้พลังเพลิงของเขาประสานเข้าไปในเตาทันทีซึ่งผลที่ได้นั้นก็คือเตาหลอมมหาวายุแปดทิศขยายใหญ่อย่างรวดเร็วจนมีความสูงมากกว่า200เมตรแถมเมื่อมันขยายใหญ่จนเต็มที่แล้วลูกไฟขนาดเท่าลูกมะพร้าวจำนวนมหาศาลก็ปะทุออกไปจากปากเตาหลอมและพุ่งเข้าไปหาเหล่าผู้คนของอาณาเขตเงินตราราวกับว่าลูกไฟเหล่านั้นมีชีวิต!

แน่นอนว่าด้วยความรุนแรงของพลังเพลิงของเย่เจียงไห่และบวกกับอำนาจของเตาหลอมมหาวายุแปดทิศ บรรดาผู้เชี่ยวชาญของอาณาเขตเงินตราถูกไหม้เป็นจุณในทันทีเมื่อลูกไฟสัมผัสร่างของพวกเขา

ถึงแม้ว่าการโจมตีของ เย่เจียงไห่ นั้นนับได้ว่ารุนแรงและมีประสิทธิภาพที่สุดในกลุ่มแต่ยังมีอีกคนที่ไม่ได้ด้อยไปกว่า เย่เจียงไห่ สักเท่าไหร่ซึ่งคนๆนั้นคือมหาจักรพรรดิเทพยุทธ์หรือ กวนหลิงอู่ นั่นเอง!

กวนหลิงอู่ นั้นไม่ได้ใช้อาวุธอะไรเลยในการโจมตีเนื่องจากเต๋าของเขานั้นคือการใช้ร่างกายของตัวเองแทนอาวุธ!

ทุกที่ๆหมัด เข่า ศอก ลูกเตะ ของเขาไปถึง ที่นั่นจะมีสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่คือความตาย

ในเวลาเพียงพริบตากลุ่มของ หลิงตู้ฉิง สังหารผู้เชี่ยวชาญของอาณาเขตเงินตราไปแล้วเกือบสิบล้านคน

อย่าไรก็ตามถึงแม้ว่าฝั่งตัวเองจะถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว บรรดาผู้คนของอาณาเขตเงินตราก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัวใดๆเลยอันที่จริงพวกเขาแสดงสีหน้าบ้าคลั่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะทรัพย์สมบัติทั้งหลายนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตพวกเขา ดังนั้นเมื่อมีคนจะมาแย่งพวกมันไป พวกเขาจึงยอมสู้จนตัวตายดีกว่าจะเสียพวกมันไป

ในเวลาเดียวกันสีหน้าของ เต๋าเทียนเซียะ ก็ตึงเครียดมากขึ้น