บทที่ 893 พลังที่แท้จริงของมหาจักรพรรดิเทพยุทธ

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

เต๋าเทียนเซียะ ไม่เคยนึกเลยว่าผู้ที่มาบุกรุกเขาในครั้งนี้จะเตรียมตัวกันมาดีขนาดนี้โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นว่าแต่ละคนที่มาบุกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดกันทั้งนั้น

เขาเอาแต่นึกทบทวนอยู่ในใจว่าเป็นใครกันที่มีความแค้นกับเขาถึงขนาดนี้แถมยังมีอำนาจพอที่จะชักชวนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดเกือบร้อยคนมาถล่มเขาได้แถมยังมีผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ไฟซึ่งดูเหมือนว่าพลังจะเหนือกว่าขอบเขตมหาจักรรรดิขั้นสูงสุดซะอีก!

เมื่อคิดไปได้สักพัก เต๋าเทียนเซียะ ก็นึกได้ว่าในตอนนี้มีผู้สำเร็จเต๋าปรากฏขึ้นสองคนแล้วซึ่งคนแรกนั้นคือมหาปราชญ์ของสำนักเที่ยงธรรมที่ไม่น่าจะมาบุกเขาแน่นอน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ไฟก็น่าจะเป็นผู้สำเร็จเต๋าคนที่สอง!

“ท่านเจ้าสำนัก พวกเราควรทำอย่างไรต่อดี?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดปรากฏกายขึ้นที่ตรงหน้า เต๋าเทียนเซียะ “บรรดาผู้บุกรุกเตรียมตัวมาดีมากเกินไปคนกลุ่มแรกหยุดพวกเขาไม่ได้เลย”

เต๋าเทียนเซียะ พ่นลมหายใจและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องไปกลัวพวกมัน สิ่งที่สำนักของเราไม่เคยขาดก็คือเงินซึ่งตอนนี้มันได้เวลาที่จะทำให้ทุกคนบนโลกได้เห็นแล้วว่าสำนักของพวกเรามีเงินมากขนาดไหน! เจ้าจงส่งคนของเราออกไปหาสำนักต่างๆที่เคยติดค้างพวกเราให้พวกเขามาช่วยพวกเราทันทีและบอกกับพวกเขาว่าถ้าพวกเขาส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรรรดิขั้นสูงสุดมาช่วยเรา พวกเราจะตอบแทนพวกเขาด้วยอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์หนึ่งชิ้นต่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรรรดิขั้นสูงสุดหนึ่งคน

และอีกอย่างเจ้าจงประกาศออกไปให้ได้ยินทั้งอาณาเขตว่าถ้าหากใครสามารถสังหารฝั่งตรงข้ามได้1คนข้าจะให้รางวัลเป็นเหรียญผลึกจักรพรรดิ1ล้านเหรียญทันที!”

“รับทราบข้าจะออกไปจัดการทันที!” เมื่อพูดจบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรรรดิขั้นสูงสุดเดินจากไปในทันที

ถึงแม้ว่าเมื่อครู่เขาจะไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าตอบแทนของตัวเองแต่เขาแน่ใจว่าหลังจากจบศึกนี้ เต๋าเทียนเซียะ จะต้องตบรางวัลให้เขาอย่างงามแน่นอน

เมื่อข่าวเรื่องค่าหัวของฝั่งตรงข้ามที่มีมูลค่าถึง1ล้านเหรียญผลึกจักรพรรดิถูกประกาศออกไป บรรดาผู้คนของอาณาเขตเงินตราต่างก็บ้าคลั่งกันมากยิ่งขึ้นส่งผลให้จากในตอนแรกที่มีคนเข้าร่วมออกไปรบกับพวกหลิงตู้ฉิงหลักสิบล้านคนกลายเป็นหลักพันล้านในชั่วพริบตา!

ทางด้านกลุ่มคนของหลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามยกพวกกันมาแบบมืดฟ้ามัวดินซึ่งมีแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราก็ยังมา พวกเขาต่างตกตะลึงกันจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยมีประสบการณ์ฆ่าคนมามากมายแต่จำนวนระดับพันล้านแบบนี้มันไม่ใกล้เคียงกับประสบการณ์ที่พวกเขาเคยผ่านมาเลยสักนิด พวกเขานึกไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงถึงจะฆ่าคนเหล่านี้หมด!

ในทางกลับกัน หลิงตู้ฉิง ซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวที่เคยมีประสบการณ์ฆ่าสิ่งมีชีวิตหลักพันล้านมาแล้วเมื่อเขาเห็นความโลภของเหล่าคนของอาณาเขตเงินตราที่มากมายขนาดนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างพึงพอใจเพราะความโลภนั้นคือหนึ่งในความปรารถนาทั้ง6 หากเขาฆ่าคนเหล่านี้ได้มันก็เท่ากับว่าเขาสามารถพัฒนาเต๋าของเขาไปได้อีก

ในเวลาเดียวกัน มู่หยุนชาน ก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกันเพราะบรรดาคนนับพันล้านที่กำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาต่างเต็มไปด้วยจิตสังหารที่หนาแน่นซึ่งเขาสามารถใช้จิตสังหารเหล่านี้มาเกื้อหนุนอำนาจเพลงกระบี่ของเขาได้!

“นายท่าน พวกเราจะต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมดจริงๆเหรอ?” กวนหลิงอู่ เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ

ตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกชื่นชม เทพกระบี่ และ ผีเสื้อ มากยิ่งขึ้นเพราะในอดีตทั้งคู่ได้เคยติดตาม หลิงตู้ฉิง เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้อยู่บ่อยครั้งซึ่งคนที่จะรับกับอะไรแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นเหนือกว่าคนทั่วไปนับหมื่นนับแสนเท่า!

หลิงตู้ฉิง ยิ้มและตอบกลับ “ถูกต้องพวกเราต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมดอย่าให้เหลือ! คนพวกนี้ต่างตกเป็นทาสของเงินและทรัพย์สมบัตินอกกายจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกแล้ว การฆ่าพวกเขาจึงถือว่าเป็นการช่วยโลกแบบหนึ่งดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเจ้าจะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์หากฆ่าพวกเขาจนหมด”

ความหมายที่หลิงตู้ฉิงต้องการจะสื่อสั้นๆก็คือคนเหล่านี้สมควรตายทั้งหมด!

นอกเหนือจากเรื่องความแค้นส่วนตัวมันยังรวมไปถึงการช่วยโลกให้พ้นจากแนวความคิดที่มองแต่ทรัพย์สมบัติสำคัญกว่าทุกสิ่งเป็นหลักซึ่งถ้าหากแนวความคิดเช่นนี้ไม่ถูกยับยั้งและแพร่ออกไปจนทุกคนบนโลกกลายเป็นทาสของเงินเหมือนกัน โลกจะพบกับจุดจบที่น่าอนาถแน่นอน

อันที่จริงมันไม่ผิดที่จะบ่มเพาะในเส้นทางของเงินตรา แต่ถ้าหากบ่มเพาะมันแบบไม่ลืมหูลืมตาจนกลายเป็นทาสของเงินแทนและมองว่าเงินและทรัพย์สมบัตินั้นมีค่ามากกว่าชีวิตของตัวเอง สิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่สวรรค์และโลกยอมรับไม่ได้

เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดยืนยันเช่นนี้และตัวเขาเองก็ตัดสินใจได้แล้ว กวนหลิงอู่ จึงตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “ในเมื่อพวกเจ้าต่างหลงผิดกันจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์งั้นข้าจะขอเป็นผู้ส่งพวกเจ้าลงไปในนรกเพื่อให้พวกเจ้าเจอเส้นทางที่ถูกต้องข้างล่างนั่นเอง! กระบวนท่าแรกจากเจ็ดสุดยอดยุทธของข้า สองฝ่ามือเกิดดับ!”

เมื่อพูดจบ กวนหลิงอู่ ประสานฝ่ามือของเขาไว้ที่หน้าอกซึ่งฝ่ามือทั้งสองเปล่งแสงสีขาวดำตัดกันและจากนั้นเขาซัดทั้งสองฝ่ามือออกไปพร้อมๆกัน

พลังสีขาวดำของฝ่ามือทั้งสองเมื่อซัดออกไปมันก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นฝ่ามือขาวดำขนาดยักษ์ซึ่งความกว้างของแต่ละฝ่ามือกินพื้นที่กว้างกว่า4ตารางกิโลเมตร

ฝ่ามือทั้งคู่พุ่งสวนเข้าไปยังกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราอย่างรวดเร็วส่งผลให้ร่างของผู้คนที่โดนพลังของฝ่ามือพุ่งผ่านแหลกเละจนกลายเป็นหมอกเลือดไปตลอดทางที่ฝ่ามือพุ่งผ่านซึ่งเป็นระยะทางยาวราว1พันกิโลเมตร

แค่เพียงกระบวนท่านี้ท่าเดียวกวนหลิงอู่สังหารฝั่งตรงข้ามไปมากกว่าสิบล้านคนในชั่วพริบตาและถ้ามองจากมุมมองคนนอก กำแพงมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากจำนวนอันมากมายของผู้เชี่ยวชาญอาณาเขตเงินตราจู่ๆก็กลายเป็นเป็นรูโหว่ความกว้าง8กิโลเมตรตรงกลางในทันที

“กระบวนท่าที่สอง หมัดคู่ตะวันจันทรา!” กวนหลิงอู่ ตะโกนขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ กวนหลิงอู่ ชี้หมัดทั้งสองข้างของเขาไปหากลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราซึ่งหมัดซ้ายของเขานั้นได้สร้างดวงอาทิตย์จำลองที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง1กิโลเมตรขึ้นมาและหมัดขวาของเขาก็สร้างดวงจันทร์จำลองที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง1กิโลเมตรเช่นกันจากนั้นเขาใช้หมัดทั้งสองบังคับทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์พุ่งไปหากลุ่มคนฝั่งตรงข้ามให้ไล่กวาดล้างไปเรื่อยๆ

ไม่ว่าเขาจะลากหมัดของเขาไปทางไหนทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จำลองที่เขาสร้างขึ้นจะขยับตามไปในทิศทางเดียวกับหมัดของเขาซึ่งมันส่งผลให้ทุกๆวินาทีคนของอาณาเขตเงินตราจะต้องมีคนตายไม่ต่ำกว่าหลักพันคน

หลิงตู้ฉิง มองไปที่วิชาของ กวนหลิงอู่ ด้วยสีหน้าชื่นชมพลางคิดในใจว่าในอดีตเขาคิดถูกแล้วที่ให้ กวนหลิงอู่ เป็นผู้สืบทอดวิถีมหายุทธ์

ในเวลาเดียวกัน ซวนหยวน และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่หลิงตู้ฉิงชวนมาต่างก็อดไม่ได้ที่จะหยุดมองดูผลงานของ กวนหลิงอู่

ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะมีระดับการบ่มเพาะเดียวกันแต่เมื่อพวกเขาเห็นการโจมตีอย่างเต็มกำลังของ กวนหลิงอู่ เช่นนี้พวกเขาก็เห็นได้ทันทีว่าพวกเขากับ กวนหลิงอู่ นั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน

ผลลัพธ์ที่ออกมาแบบนี้มันไม่ใช่เพียงแค่ความต่างกันในเรื่องความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวแต่มันยังรวมไปถึงความเข้าใจในเต๋า ความเข้าใจในเจตจำนงของตัวเองและรวมไปถึงความเชื่อมั่นที่มีในเต๋าที่ตัวเองยึดมั่น

“เขาเหนือกว่าข้า!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดหลายคนต่างถอนหายใจ