เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของ กวนหลิงอู่ แม้แต่ เย่เจียงไห่ ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาลึกๆอยู่ในใจ
การที่เขาสามารถสำเร็จเต๋าได้เร็วขนาดนี้มันเป็นเพราะเขาพึ่งพาความรู้จากชีวิตที่แล้วซึ่งเมื่อไหร่ที่เขากลับไปอยู่ในระดับการบ่มเพาะเดิม ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาคงลดลงอย่างน่าใจหายและสุดท้ายเขาคงก้าวต่อไปได้อีกไม่ไกล
ในทางกลับกันสำหรับคนที่มีความสามารถเช่น กวนหลิงอู่ หากเขาสามารถทะลวงระดับขึ้นไปอยู่บนโลกเบื้องบนได้เมื่อไหร่อนาคตของเขาจะไร้ขีดจำกัดทันที
ในเวลาเดียวกัน เต๋าเทียนเซียะ ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ กวนหลิงอู่ ซึ่งมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ทำไมมันถึงมาบุกข้าแบบนี้กัน? คนของตำหนักเทพยุทธ์ของมันจำนวนมากต่างติดค้างข้าแทบทั้งนั้นการที่มันกล้ามาบุกข้าแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ”
ในระหว่างที่ เต๋าเทียนเซียะ กำลังครุ่นคิดหาคำตอบว่ามันมีอะไรที่เขาพลาดไปรึเปล่าเพราะการที่เขาถูกบุกครั้งนี้มันแปลกเกินไป จู่ๆผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดคนเดิมกับที่ออกไปประกาศเรื่องค่าหัวคนของฝั่งหลิงตู้ฉิงให้กับเขาก็ปรากฎกายขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “ท่านเจ้าสำนักประตูเคลื่อนย้ายของพวกเราทั้งหมดใช้งานไม่ได้เลย!”
เต๋าเทียนเซียะ ตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ถ้ามันพังก็รีบซ่อมซะ หรือถ้าซ่อมไม่ได้เจ้าก็สร้างใหม่เอา! ด้วยเงินมากมายที่พวกเรามีสร้างเพิ่มขึ้นใหม่สักสิบ ยี่สิบบานก็ย่อมได้! ทำไมเรื่องแค่นี้เจ้าถึงตัดสินใจเองไม่ได้?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด ยิ้มอย่างขมขื่นและตอบกลับ “ท่านเจ้าสำนักข้าลองหมดแล้วแต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ประตูเคลื่อนย้าย ปัญหามันอยู่ที่พลังกฎแห่งมิติมันเหมือนถูกลบออกไปจากอาณาเขตเราต่างหากท่านเจ้าสำนัก!”
เต๋าเทียนเซียะ แสดงสีหน้าเดือดดาลจากนั้นเขาตวาดขึ้น “ไร้สาระ! พลังกฎแห่งมิติจะถูกลบล้างออกไปได้ยังไง?”
“ท่านเจ้าสำนักอันที่จริงไม่เพียงแต่ประตูเคลื่อนย้ายจะใช้ไม่ได้ แต่สิ่งของต่างๆที่ต้องพึ่งพาพลังกฎแห่งมิติก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมดเช่นกันหรือถ้าท่านไม่เชื่อท่านลองตรวจสอบแหวนมิติของท่านดูก็ได้!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดแย้งกลับ
เต๋าเทียนเซียะ รีบทดสอบแหวนมิติของเขาทันทีและผลลัพธ์มันก็เป็นตามที่คนของเขาบอกซึ่งก็คือแหวนมิติของเขาไม่สามารถถูกเปิดออกได้
สีหน้าของ เต๋าเทียนเซียะ ย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแปลกขึ้นเรื่อยๆ “ดูเหมือนว่าฝั่งตรงข้ามจะเตรียมตัวมาดีมากจริงๆแถมพวกมันยังมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะทำลายพวกเราให้ได้! เจ้าจงไปตามผู้อาวุโสซากศพให้มาช่วยรับมือกับคนเหล่านี้พร้อมกับข้าทีและอย่าลืมบอกให้เขานำสมบัติของเขามาด้วย วันนี้ข้าจะสังหารผู้สำเร็จเต๋าและใช้หัวของมันเตือนทุกคนในโลกว่าต่อให้จะเป็นผู้สำเร็จเต๋าสำนักของข้าก็ไม่ใช่ที่ๆจะมาทำตัวกำแหงได้!”
“รับทราบท่านเจ้าสำนัก!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดรีบบินจากไปทันที
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาก็ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่
เมื่อบินไปถึงหุบเหวลึกที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังของ เต๋าเทียนเซียะ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆไม่มีใครสักคนในอาณาเขตเงินตราอยากจะมา
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดรวบรวมความกล้าก่อนที่จะตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสซากศพตอนนี้อาณาเขตเงินตรากำลังถูกศัตรูโจมตีอย่างหนักโดยที่หนึ่งในฝั่งตรงข้ามคือผู้สำเร็จเต๋า ท่านเจ้าสำนักส่งข้าให้มาขอร้องท่านให้ออกมาช่วยพวกเราที!”
ชายชราที่ดูสภาพไม่ต่างจากซากศพปรากฎกายขึ้นที่ตรงหน้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดทันทีและถามขึ้นด้วยสีหน้าชั่วร้ายว่า “ผู้สำเร็จเต๋ารุกล้ำเข้ามาถึงข้างในอาณาเขตแล้วงั้นเหรอ?”
“เรียนท่านผู้อาวุโสไม่เพียงแต่ผู้สำเร็จเต๋าจะบุกเข้ามา มหาจักรพรรดิเทพยุทธ์ก็บุกเข้ามาโจมตีพวกเราด้วยเช่นกันและยังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีกเกือบร้อยคนที่ตามมาด้วย!”
“ถ้าเช่นนั้นก็เยี่ยมเลย! ด้วยอาหารที่มีคุณภาพมากขนาดนี้ลูกรักของข้าจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีกระดับแน่นอน!” ผู้อาวุโสซากศพพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เหล่าลูกรักของข้า เร็วเข้าพวกเจ้ารีบออกไปต้อนรับแขกกับข้าเร็ว!”
“ครืนนนน…………”
พลังอันแข็งแกร่งที่เหนือกว่าระดับพลังของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดจู่ๆก็ปะทุขึ้น4สายจากก้นหุบเหวลึกและจากนั้นศพขนาดยักษ์4ร่างก็ค่อยๆบินขึ้นมาจากเหวลึกและเมื่อพวกมันทั้ง4ร่อนลงเหยียบพื้น พื้นดินของทั้งอาณาเขตเงินตราก็สั่นไหวอย่างรุนแรงในทันที
ผู้อาวุโสซากศพมองไปที่ศพทั้ง4ร่างด้วยสายตาหลงใหลจากนั้นเขาบินขึ้นไปยืนอยู่บนไหล่ของหนึ่งในศพยักษ์พร้อมกับสั่งขึ้น “มุ่งหน้าไปที่สำนักเงินตรา!”
ในเวลาเพียงชั่วพริบตาศพยักษ์ทั้ง4ร่างก็พาผู้อาวุโสซากศพมาถึงหน้าประตูสำนักเงินตรา ซึ่งเต๋าเทียนเซียะกำลังรอเขาอยู่แล้ว
เต๋าเทียนเซียะ เอ่ยขึ้นทักทายก่อนทันที “ดูจากรูปลักษณ์ของศพที่ท่านเลี้ยงดูตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจะขัดเกลาร่างของพวกมันสำเร็จไปอีกขั้นแล้วใช่รึเปล่า?”
ผู้อาวุโสซากศพยิ้มและตอบกลับ “ถึงแม้ว่าร่างของลูกๆข้าในตอนนี้ยังสำเร็จไม่ถึงขั้นปลายแต่ข้ามั่นใจว่าถ้าหากข้าได้เจอไอ้เทพกระบี่นั่นอีกรอบล่ะก็ข้าสามารถฆ่ามันได้ภายในพริบตาแน่นอน!”
เต๋าเทียนเซียะ พยักหน้า “ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แบบนี้ค่อยรู้สึกคุ้มค่ากับความพยายามที่ขุดพวกมันขึ้นมาจากหุบเหวนั่นด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ในอนาคตจะมีใครกันที่เหนือไปกว่าพวกเราสำนักเงินตรา?”
ผู้อาวุโสซากศพ ยิ้มและถามกลับว่า “ว่าแต่เจ้าพวกคนที่มาบุกสำนักของเราตอนนี้ท่านจะให้ข้ากำจัดพวกเขาตอนนี้เลยไหม?”
เต๋าเทียนเซี่ย ส่ายหัวและพูดว่า “ท่านอย่าเพิ่งกำจัดพวกเขา ขอให้ข้าได้ลองคุยกับพวกเขาก่อน พวกเขาแต่ละคนต่างเป็นผู้ที่มีความสามารถกันทั้งหมดมันจะเป็นการดีที่สุดหากพวกเราสามารถโน้มน้าวให้พวกเขาเข้าร่วมกับพวกเราได้แต่ถ้าหากพวกเขาดื้อดึงไม่เข้าร่วมเมื่อถึงเวลาท่านก็ช่วยข้ากำจัดพวกเขาทีก็แล้วกัน”
ผู้อาวุโสซากศพ ถอนหายใจและพูดว่า “ข้าหวังว่าพวกเขาจะปฏิเสธเพราะด้วยจำนวนของพวกเขามันจะต้องทำให้ลูกๆของข้าพัฒนาได้อีกระดับแน่นอน”
“อืมถ้างั้นพวกเราออกไปพบกับพวกเขาก่อนเถอะ!” เต๋าเทียนเซี่ย เอ่ยขึ้นจากนั้นเขากระโดดขึ้นไปยืนบนไหล่ของหนึ่งในศพยักษ์
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมแล้วผู้อาวุโสซากศพจึงบังคับให้ศพยักษ์ทั้ง4บินมุ่งหน้าไปหากลุ่มของหลิงตู้ฉิง
ในเวลาเดียวกันตอนนี้ที่สนามรบเกลื่อนไปด้วยซากศพจำนวนนับไม่ถ้วน
ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดเกือบร้อยคนมีหรือที่คนของอาณาเขตเงินตราจะสามารถต้านทานได้? โดยเฉพาะเมื่อฆ่าไปเรื่อยๆ หลิงตู้ฉิง ก็แจกจ่ายอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากศพของผู้คนของอาณาเขตเงินตราให้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เขาชวนมาจนครบซึ่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิได้รับอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ไปใช้ความแข็งแกร่งของเขาก็ถูกเพิ่มขึ้นไปอีกนับสิบเท่าและอัตราการสังหารก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมไปตามลำดับ
แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังสังหารเหล่าคนของอาณาเขตเงินตรากันอยู่เพลินๆจู่ๆ หลิงตู้ฉิง ตะโกนขึ้นเสียงดังทันที “ทุกคนกลับมารวมที่ข้าเดี๋ยวนี้!”
คนอื่นๆเมื่อได้ยิน หลิงตู้ฉิงตะโกน พวกเขาต่างก็รู้สึกงุนงงไม่เข้าใจว่า หลิงตู้ฉิง เรียกพวกเขากลับทำไมแต่จากนั้นแค่เพียงชั่วอึดใจต่อมาพวกเขาก็เห็นเงาลางๆเหมือนภูเขาขนาดใหญ่4ลูกกำลังค่อยๆเคลื่อนเข้ามาหา
ด้วยความตกใจพวกเขาจึงตอบโต้ออกไปอย่างไม่รู้ตัวโดยการใช้อำนาจของอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ในมือโจมตีไปยังภูเขาทั้งสี่ลูกที่ยังอยู่ไกลลิบๆ
อย่างไรก็ตามเมื่ออำนาจของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดพุ่งไปถึงภูเขาทั้งสี่ลูก ภูเขาทั้งสี่กลับไม่มีร่องรอยของความเสียหายเลยแม้แต่น้อยแถมเหล่าผู้คนที่โจมตีไปยังถูกแรงสะท้อนจนตัวเองกระเด็นถอยหลังกลับมาอีกต่างหาก
เมื่อเห็นว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้พวกเขาจึงรีบบินกลับมาหลบหลัง หลิงตู้ฉิง และหลังจากที่พวกเขากลับมายืนรวมกลุ่มข้างหลัง หลิงตู้ฉิง พวกเขาก็ได้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นภูเขาแท้จริงแล้วมันคือร่างที่คล้ายมนุษย์ขนาดยักษ์สี่ร่างที่กำลังค่อยๆเดินใกล้พวกเขาเข้ามา!