ตอนที่ 2237

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,237 : กลับเมืองเหรินโม่เชิ่ง!

 

วิธีการที่ต้วนหลิงเทียนคิดใช้เพื่อตรวจสอบก็ง่ายดายนัก

 

หลังจากกลับไปแล้ว เขาจะลองพาเค่อเอ๋อไปช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณดู!

 

เพราะตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของเค่อเอ๋อได้เป็นสีม่วงเข้มแล้ว สำหรับดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า มันคือพรสวรรค์รากวิญญาณสูงสุด!

 

หากเขาพบว่าในกระบวนการเพิ่มพูนพลังของพรสวรรค์รากวิญญาณของเค่อเอ๋อ ยังมีช่องว่างให้ยกระดับพัฒนาได้อีกล่ะก็…

 

เช่นนั้นหมายความว่า…

 

พรสวรรค์รากวิญญาณสีม่วงเข้ม ยังไม่ใช่พรสวรรค์รากวิญญาณสูงสุด!

 

มันสามารถพัฒนาได้อีก!

 

‘รีบกลับไปหาเค่อเอ๋อก่อนดีกว่า…ดูว่ารากวิญญาณสีม่วงเข้มใช่ถึงขีดจำกัดแล้วหรือไม่!’

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนอยากกลับให้ถึงที่พักเร็วๆนัก

 

อย่างไรก็ตามแม้ในใจแทบจะกลายเป็นดอกศรพุ่งไปให้ถึงเร็วไว แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้กลับเมืองเหรินโม่เชิ่งทันที

 

ในขณะที่เขาเดินทางใกล้ถึงเมืองเหรินโม่งเชิ่ง เขาก็เลี้ยวออกไปทางอื่น

 

‘ไปหาที่ลองใช้ปฐมเวทย์กลืนกินดูก่อน…ดูว่าหากใช้เต็มประสิทธิภาพมันจะเพิ่มพูนพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของข้าได้ถึงขนาดไหน’

 

ต้วนหลิงเทียนพกพาใจที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เร่งรุดมาถึงสถานที่เปลี่ยวร้างทางตะวันออกของเมือง

 

หลังลอยร่างเหนือฟ้าในสถานที่เปลี่ยวร้างแล้ว ต้วนหลิงเทียนที่มองสอดส่องทั้งแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบรอบๆ จนยืนยันได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ในรัศมีตรวจจับก็หยุดร่างลง

 

‘เอาตรงนี้ล่ะ’

 

คิดจบต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสำแดงเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินออกมาทันที! ยังเป็นปฐมเวทย์กลืนกินที่เขาบรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิเรียบร้อยแล้ว!

 

ทันใดนั้นวังวนพลังดูดรั้งขุมหนึ่งก็อุบัติขึ้นจากความว่างรอบกาย

 

ขณะเดียวกันวังวนดังกล่าวก็เริ่มหมุนวนเร็วรี่ พลังดูดรั้งอันน่าสะพรึงกลัวขุมหนึ่งกำจายออกไปสะท้านในบรรยากาศ!

 

พลังวิญญาณฟ้าดินจำนวนมหาศาลเริ่มถูกต้วนหลิงเทียนสูบกลืนเข้าร่างด้วยความเร็วน่าพรั่นพรึง พวกมันยังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดเร็วรี่! พลังในร่างของเขาเพิ่มพูนขึ้นยกระดับสู่ขอบเขตใหม่!

 

“ยังได้อีก!”

 

ในขณะที่วังวนพลังดูดรั้งหมุนคว้างดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินรอบกายเข้ามาด้วยความเร็วสูง จนพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียนเลยขีดจำกัดในกาลก่อนมามากแล้ว เขาก็พบว่ายังเหลือช่องว่างให้เพิ่มพูนอีกมากมายนัก!

 

ตอนนี้เรียกว่าพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างเขา มันเทียบได้กับสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนเรียบร้อย!

 

กระบวนการกลืนกินพลังยังดำเนินต่อไปไม่หยุด!

 

หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็เริ่มดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินที่อยู่ห่างจากตัวออกไป จนในที่สุดมันก็ส่งเสริมระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างของเขาให้เจียนบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนเต็มที!

 

“ให้ตายเถอะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้เพิ่มไปถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน…”

 

หลังผ่านไปหลายลมหายใจ ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าแม้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของเขายังคงเพิ่มพูนขึ้นอยู่เรื่อยๆ หากแต่พลังวิญญาณฟ้าดินในรัศมีปฐมเวทย์กลืนกินได้หายไปแทบหมดสิ้น…!

 

แม้พลังวิญญาณฟ้าดินในบรรยากาศห่างออกไปกำลังหลั่งไหลมาเพื่อเติมเต็มส่วนที่พร่องหาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรวดเร็วอะไรนัก พวกมันค่อยๆโชยเอื่อยมาราวเมฆเคลื่อน…

 

“ไม่รอก็ได้ ข้าไปหาดูดซับเอาเอง!”

 

หลังสบถออกมาด้วยความขัดใจ ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังจุดที่รัศมีดูดรั้งไปไม่ถึงในตอนแรก หมายกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินจุดใหม่

 

ปฐมเวทย์กลืนกิน!

 

ต้วนหลิงเทียนเรียกใช้ปฐมเวทย์กลืนกินอีกรอบ และพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างก็ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นด้วยความเร็วอีกครั้ง

 

ตอนแรกก็ยังดีๆอยู่

 

ต่อมาหลังผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา “โอย ทำไมมันช้านักเล่า…บ่อไร้ก้นรึไง!”

 

ถึงแม้ว่าพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนจะยังเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง

 

หากแต่ตอนนี้เขารู้สึกเสมือนมันเพิ่มพูนช้ามาก ไม่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเสียที

 

อย่างไรก็ตามแม้จะขัดใจแต่เขาก็ทำได้แค่อดทน!

 

และจังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที ว่าความต่างระหว่างพลังเซียนต้นกำเนิดของเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกับพลังเซียนต้นกำเนิดของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนมันมากมายมหาศาลถึงเพียงไหน ยังราวกับช่องว่างที่ไม่อาจก้าวข้ามได้ด้วยซ้ำ!

 

ผ่านไปแค่สิบกว่าลมหายใจ แต่ต้วนหลิงเทียนก็ต้องเปลี่ยนที่ไปหลายรอบ!

 

“ในที่สุดก็ทะลวง!”

 

และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ว่า

 

พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างของเขาตอนนี้ได้ยกระดับขึ้นมาถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว! ปฐมเวทย์กลืนกินสามารถยกระดับพลังของเขาให้ถึงขีดสุดได้จริงๆ!

 

ตอนนี้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างของเขาก็เต็มขีดจำกัด ไม่อาจเพิ่มพูนไปได้มากกว่านี้แล้ว!

 

เขาพลันตระหนักได้ถึงพลังอำนาจของปฐมเวทย์กลืนกินขั้นตอนไร้ตำหนิทันที…

 

“สามารถยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของข้าได้ถึง 3 ขอบเขต…นี่น่ะเหรอปฐมเวทย์กลืนกินขั้นตอนไร้ตำหนิ…”

 

จังหวะนี้อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนแปรเปลี่ยนไปดั่งธารเชี่ยว ยากสงบลงได้อยู่นาน

 

กระทั่งหน้าอกยังยุบๆพองๆเห็นชัดว่ากำลังสูดหายใจเข้าหนักหน่วงแค่ไหน นับว่าเขาตื่นเต้นครั้งใหญ่แล้วจริงๆ!

 

แม้ต้วนหลิงเทียนจะมั่นใจว่าพลังอำนาจของปฐมเวทย์กลืนกินขั้นตอนไร้ตำหนิมันต้องร้ายกาจมาก กระทั่งสามารถยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของเขาให้ถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้แน่…

 

แต่พอได้พบเจอความจริงกับตัว เขาก็อดตื่นเต้นไปไม่ได้

 

“แต่ตอนนี้ถึงข้าจะใช้ปฐมเวทย์กลืนกินยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนได้ก็จริง…”

 

“ทว่าด้วยสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลนพลังวิญญาณฟ้าดินของภูมิภาคเบื้องล่าง ยังต้องใช้เวลาไล่ดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินไม่น้อย…”

 

นึกถึงเรื่องนี้ความตื่นเต้นของต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆลดทอนลง

 

“ช่างเถอะ ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้…สภาพแวดล้อมมันเป็นของมันแบบนี้ ถ้าดีเทียบได้กับภูมิภาคเบื้องบนก็ว่าไปอย่าง…”

 

“หากข้าไปใช้ปฐมเวทย์กลืนกินในภูมิภาคเบื้องบน เต็มที่ก็ไม่กี่ลมหายใจ พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของข้าต้องบรรลุถึงจุดสูงสุดแน่…เซียนสวรรค์ 9เปลี่ยน!”

 

ต้วนหลิงเทียนเข้าใจเรื่องราวกระจ่าง

 

แม้ปฐมเวทย์กลืนกินจะบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิและสามารถกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินจนยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้เขาจนบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้ก็จริง…

 

ทว่าด้วยข้อจำกัดของสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้กระบวนการของมันยืดเยื้อไปไม่น้อย!

 

“แต่ก็แน่ว่าถ้าเปลี่ยนที่…เรื่องก็เปลี่ยนไป ลองข้าไปใช้ในเมืองเหรินโม่เชิ่ง เวลาที่ใช้ยกระดับพลังเซียนสุริยันให้บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนสมควรสั้นลงกว่านี้มาก”

 

ในเมืองเหรินโม่เชิ่งนั้นด้วยความที่มันตั้งอยู่บนชีพจรเซียนทั้งใกล้กับเหมืองหินเซียน ทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินบริบูรณ์พร้อมพรั่งกว่าพื้นที่เปลี่ยวร้างแถวนี้มาก เรียกว่าบริเวณนั้นพลังวิญญาณฟ้าดินมหาศาลไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาคเบื้องล่าง!!

 

หากต้วนหลิงเทียนไปใช้ปฐมเวทย์กลืนกินที่นั่น เขาเชื่อว่าสามารถยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้ถึงขีดสุดได้ในเวลาอันสั้น!

 

“ถ้าไปใช้ปฐมเวทย์กลืนกินในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟล่ะก็…เวลาที่ใช้คงแค่พริบตาเดียว ห่างกับในภูมิภาคเบื้องล่างแบบนี้คนละโลก…”

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสภาพแวดล้อมอันพร้อมพรั่งไปด้วยพลังวิญญาณฟ้าดินของลัทธิบูชาไฟขึ้นมา

 

“จะอย่างไรก็แล้วแต่นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีถึงที่สุดที่ปฐมเวทย์กลืนกินสามารถบรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิได้…ถึงแม้จะเป็นสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลนอย่างในภูมิภาคเบื้องล่าง แต่มันก็ยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดข้าให้ถึระดับเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนได้ในพริบตา!”

 

“และหากมีเวลาอีก 20 ลมหายใจ ข้าก็สามารถเพิ่มพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดได้ถึงขีดสุด”

 

ด้วยมีปฐมเวทย์กลืนกิน พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียน สามารถบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนได้!

 

“แน่นอนว่าถ้าประมือกับพวกเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนจริงๆ…เว้นแต่อีกฝ่ายจะให้เวลาข้าดูดกลืนเพิ่มพลังเซียนสุริยันถึงขีดสุด ไม่งั้นก็ยากจะรับมือมันได้…ยังไม่ใช่คู่มือของพวกมัน!”

 

ต้วนหลิงเทียนรู้ดี

 

หากตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนคิดจัดการเขาจริงๆ ไหนเลยพวกมันจะใจดีให้เขามีเวลาเพิ่มพลัง?

 

ไม่ต้องกล่าวถึง 20 ลมหายใจ แค่ 2-3 ลมหายใจยังยาก!

 

เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนยังรู้ตัวเองดี

 

ตอนนี้ต่อหน้าเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเขายังต้องเจียมตัวอยู่!

 

“ได้เวลากลับแล้ว…”

 

หลังลองใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเรียบร้อย ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดรั้งอยู่ที่นี่สืบไป เร่งเหินร่างไปยังเมืองเหรินโม่งเชิ่งทันที

 

ไม่นานเมืองเหรินโม่เชิ่งก็ปรากฏเป็นจุดดำให้ต้วนหลิงเทียนแลเห็นไกลตา

 

ในขณะที่ร่างต้วนหลิงเทียนเคลื่อนเข้าใกล้ด้วยความเร็วสูง จุดดำเล็กๆนั่นก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นทุกขณะ ในที่สุดก็แปรเปลี่ยนไปมหึมาปานสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ฟุบหมอบ อ้าปากกระหายเลือดออกกว้างสูบกลืนผู้คน…

 

หลังเข้าเมืองเหรินโม่เชิ่งแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มุ่งหน้าไปยังโรงเตี๊ยมที่พัก ที่เค่อเอ๋อกับลูกสาวเขารวมถึงก่านหรูเยี่ยนพักอยู่ ระหว่างทางยังแวะซื้อขนมแปลกตาไปฝากต้วนซือหลิงตามสัญญา…

 

โรงเตี๊ยมที่พักแห่งนี้เป็นกิจการของวังอัคคีสีชาด 1ใน 3 วัง 6 ตำหนักของเผ่าปีศาจมนุษย์ ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนานัก กระทั่งต้วนหลิงเทียนเอง กว่าจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังส่วนที่พักของเขา ก็ต้องหลังจากที่ทำการยืนยันตัวตนอย่างเข้มงวดแล้วเท่านั้น

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกลับไปยังที่พัก

 

ข่าวอันน่าตื่นตระหนักก็พัดผ่านไปทั่วเมืองเหรินโม่เชิ่งดั่งพายุใต้ฝุ่น! พาลให้ผู้อาศัยในเมืองเหรินโม่เชิ่งบังเกิดความตื่นตัวและหวั่นใจอย่างหนัก!!

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน!? ลูกชายคนเดียวของใต้เท้าชิงหยวนป้าแห่งวังวิญญาณอสุรา ยอดฝีมืออันดับ 1ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนผู้นั้น…ตกตายในมรดกสถานที่คาดว่าน่าจะเป็นของปรมาจารย์จารึกเซวียนระดับสวรรค์?”

 

“ไม่ใช่แค่ลูกชายของใต้เท้าชิงหยวนป้า…เห็นว่ากระทั่งศิษย์ส่วนตัวทั้ง 2 คนของรองจ้าวตำหนักกงซุนจินก็ตกตายในนั้นด้วย!”

 

“ส่วนข้าได้ยินมาจากสหายวงในว่า…คนของวังอัคคีสีชาดก็ตกตายไปไม่น้อยเหมือนกัน!”

 

 

3 วัง 6 ตำหนักนั้นเป็นขุมพลังขั้นสูงของเผ่าปีศาจมนุษย์

 

ทว่าตอนนี้รุ่นเยาว์อัจฉริยะมากมายของพวกมันกลับตกตายกันเป็นเบือ! ข่าวนี้พอแพร่ออกมา เรียกได้ว่าเขย่าขวัญเหล่าปีศาจทั้งเมือง!