เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1404
หลินเฟยอวี่มีรอยยิ้มขึ้น และพูดว่า: “ตกลง ไม่ผิดเลยที่ธิดาเทพมาจากหอเทวาลัย พูดจาตรงไปตรงมามาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันเองก็จะไม่ขัดขวางธิดาเทพจัดตั้งสังเวียนประลองยุทธแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ หลินเฟยอวี่ก็ส่งสัญญาณสายตาให้กับจักรพรรดินีประเทศหลิง
จักรพรรดินีประเทศหลิงจึงพูดขึ้นว่า: “เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็จะช่วยธิดาเทพจัดตั้งสังเวียนให้ก็แล้วกัน ธิดาเทพ สามารถพักอยู่ในพระราชวังไปกี่วันก่อนได้ เมื่อพวกเราประกาศไปทั่วประเทศแล้ว ธิดาเทพ ก็สามารถทำการประลองยุทธได้แล้ว”
ธิดาเทพโค้งคำนับและกล่าวขอบคุณ
จักรพรรดินีประเทศหลิงโบกมือ บอกให้นางรับใช้สองคนพาธิดาเทพกับลู่ฝานและคนอื่น ๆ กลับออกไป
เมื่อออกมาจากตำหนักดอกไม้ห้าสีแล้ว นางรับใช้สองคนนั้นก็ได้พาลู่ฝานและคนอื่น ๆ มาถึงห้องพักดอกไม้ขนาดใหญ่
กลีบดอกไม้ที่อ่อนนุ่ม ก่อตัวกันเป็นกำแพง เกสรดอกไม้แปรเปลี่ยนเป็นโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งและเตียงนอน รวมไปถึงผลไม้ที่แปลกประหลาดก็จัดวางอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง แบบนี้ก็ไม่ต้องแออัด และยังมีองครักษ์ลอยวนเวียนอยู่ในอากาศ ทางธิดาเทพยืนอยู่หน้าประตูห้องดอกไม้ ยิ้มและพูดกับลู่ฝานว่า: “คุณชายลู่ฝาน ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนแล้ว ค่อยพบกันพรุ่งนี้! ”
ลู่ฝานพยักหน้า ยิ้มและมองไปที่ธิดาเทพแล้วก็ปิดประตู
เวลานี้หลิงเหยาเดินมาที่ข้างกายของลู่ฝาน ยิ้มและพูดว่า: “ฉันพักอยู่กับนายได้ไหม”
ลู่ฝานพยักหน้ายิ้มและพูดว่า: “ได้เลย สิบสาม นายก็พักอยู่ห้องด้านข้างของฉัน อย่าได้ห่างไปไกลนัก”
สิบสามพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ทั้งสองคนเดินกลับมาที่ห้องพัก แล้วลู่ฝานก็โบกมือเพื่อปิดประตูห้องกลีบดอกไม้ลง
หลิงเหยานั่งอยู่บนเกสรดอกไม้ สัมผัสได้ถึงเกสรดอกไม้จำนวนมากเคลื่อนไหวอยู่ใต้ล้าง ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “นั่งแบบนี้ก็สบายตัวดีเหมือนกันนะ! ”
ลู่ฝานหยิบผลไม้ลูกหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นผลไม้ก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ราวกับสิ่งมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
กลืนน้ำลายลงคอ สิ่งของแบบนี้ ลู่ฝานรู้สึกว่าตนเองจะกินไม่ลง จึงได้โยนไปให้กับเจ้าดำ
เจ้าดำมองดูอยู่นาน เหมือนจะมองไม่ออกว่าสิ่งของนี้คืออะไร จึงเริ่มตบตีเล่น แต่ต่อมาผลไม้ลูกนั้นก็ส่งเสียงร้องขึ้นในทันที
ลู่ฝานรีบหยิบผลไม้นั้นขึ้นมา ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า: “ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่พวกเราอยู่กันที่ประเทศหลิงนั้นคงจะต้องทนลำบากกันหน่อยแล้ว”
หลิงเหยายิ้มและพูดว่า: “เป็นเพราะว่าผลไม้กินไม่ได้อย่างนั้นเหรอ หรือเป็นเพราะว่าสิบสามพบเจออะไรเข้าแล้ว? ”
ลู่ฝานพูดว่า: “ก็ใช่ทั้งนั้น เมื่อพวกเรามาถึงก็ถูกพวกเขาจับจ้องแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่สามารถทำให้สิบสามรู้สึกว่าไม่สบายตัว ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวกันหน่อย”
หลิงเหยากระพริบตาและพูดว่า: “ถึงอย่างไรก็มีนายคอยปกป้องฉันอยู่ ฉันจะต้องกลัวอะไรล่ะ”
ลู่ฝานพูดว่า: “เธอนี่สบายใจจริงเลยนะ มากินยาขวดนี้เข้าไปเถอะ”
ขณะที่พูด ลู่ฝานก็หยิบยาเซียนขวดหนึ่งออกมา ส่งให้กับเหยาหลิง
……
อีกฝ่ายหนึ่ง ราชาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หลินเฟยอวี่ ก็เดินออกมาจากตำหนักแล้วเช่นกัน
สีหน้าท่าทางยิ้มแย้ม โดยมีพวกขุนนางจำนวนหนึ่งเดินตามหลังของเขา เหมือนว่าเขาต่างหากที่เป็นอ๋องแห่งประเทศหลิง
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า: “ราชาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับธิดาเทพที่มาจากประเทศเป่ยเสินนั้น ท่านคิดที่จะทำอย่างไรดี? ”
หลินเฟยอวี่ลูบคลำไปที่หนวดเคราของตนเอง หัวเราะและพูดขึ้นว่า: “หล่อนมาจากประเทศเป่ยเสิน ฉันจะไปทำอะไรได้ แต่ หล่อนมีหน้าตาที่สวยงามมากจริง ๆ รวมถึงหญิงสาวที่มาด้วยกันกับเธอนั้น ก็มีหน้าตาที่ไม่เลวเหมือนกัน”
ชายวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ลามกว่า: “ฉันเข้าใจแล้ว ฝ่าบาทต้องการที่จะ……”
หลินเฟยอวี่โบกมือขึ้นและพูดว่า: “นายคิดจะไปทำอะไร นายก็ไปทำแล้วแต่นายเลย ฉันไม่ได้พูดอะไรออกไปนะ แต่เมื่อทำสำเร็จแล้ว ฉันก็จะมีรางวัลให้อย่างงาม! ”
“รับทราบ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว! ”
ชายวัยกลางคนกับหลินเฟยอวี่มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่วนพวกขุนนางที่อยู่ด้านหลังนั้น ต่างก็ก้มหน้าไม่พูดอะไร เหมือนว่าจะไม่ได้ยินอะไรเลย