อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1102 หลินซือหย่วนตาย

เขาปวดหัวอย่างมาก ปวดจนร่างกายกระตุกไปทั้งตัว

ร่างกายเสียเลือดมาก ต่อให้มีกำลังภายในของกู้ชูหน่วน ทุกคำพูดที่เขาพูดออกมา ราวกับใช้พลังทั้งหมดของเขาที่มี ยิ่งไปกว่านั้นหัวสมองของเขาเหมือนกับจะระเบิด

“เจ้าอดทนไว้ ทานยาเม็ดนี้ลงไปก่อน เดี๋ยวข้าถ่ายเลือดให้เจ้า”

น้ำตาหลินซือหย่วนร่วงไหล

“ข้าไม่ไหวแล้ว….อย่า….อย่าสิ้นเปลืองกำลัง….”

“เจ้าปวดหัวมากหรือ?”

กู้ชูหน่วนตรวจสอบดู แต่ก็ไม่พบว่าหัวสมองของเขามีปัญหาอะไร

“ปวด….ปวดมาก…..พวกเขา….พวกเขาไม่ได้ตายเพราะถูกสูบเลือดจนตาย แต่….แต่กุมหัวอย่างเจ็บปวดจนตาย….ข้าปวดหัว….ปวดมาก”

กู้ชูหน่วนตรวจดูอีกครั้ง แต่ก็ยังคงตรวจไม่เจออะไรเลย

“คลั่ก….”

จู่ๆหัวสมองหลินซือหย่วนก็แบ่งออกเป็นสองส่วน

ดวงตาของเขาเบิกโต นั่นคือสีหน้าที่แสดงออกมาด้วยความทรมานแสนสาหัสก่อนสิ้นใจตาย

ต่อให้กู้ชูหน่วนใจกล้าแค่ไหน ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจจนร่างกายสั่นเทา

เมื่อกี้คนเป็นๆคนหนึ่งตายต่อหน้านางภายในพริบตาเดียว

หัวสมองของเขาก็แบ่งแยกออกเป็นสองส่วนอย่างแปลกประหลาด

ที่น่าแปลกก็คือ ในหัวสมองของเขาไม่มีเลือด และก็ไม่มีมันสมอง

มันสมองหายลับไปอย่างไร้ร่องรอยแต่แรกแล้ว

มองดูดวงตาทั้งคู่ที่เบิกโตอย่างทุกข์ทรมานของนาง หัวใจกู้ชูหน่วนเต้นแรง ทรมานอย่างบอกไม่ถูก

นางฟื้นลืมตาขึ้นมา คนแรกที่นางเห็นก็คือหลินซือหย่วน

ถึงแม้ความสัมพันธ์ที่มีต่อหลินซือหย่วนจะไม่ลึกซึ้งเท่าเซียวหยู่เซวียนขนาดนั้น แต่ก็เป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนที่นางมีไม่มาก

ที่ผ่านมานางเคยคิดที่จะช่วยให้เขามีกำลังมากขึ้น เขาจะได้ไม่ถูกคนอื่นรังแก

แต่ตอนนี้….

เขาตายแล้ว

ยังตายในสภาพที่อนาถ

เขาไม่ทันได้พูดสั่งเสียด้วยซ้ำ

กู้ชูหน่วนเอื้อมมือไปปิดตาเขา ค่อยๆวางลงบนพื้น แล้วก็ลุกขึ้นไปตรวจดูชายหนุ่มคนอื่นอีกหลายคนที่ตายอย่างอนาถ

ชายหนุ่มพวกนี้ก็ไม่ต่างกัน หัวสมองแต่ละคนล้วนแบ่งออกเป็นสองส่วนเหมือนหลินซือหย่วน และในสมองก็ไม่มีมันสมอง

คำพูดของหลินซือหย่วนวนเวียนอยู่ในหัวสมองของกู้ชูหน่วน

งานชุมนุมควบคุมสัตว์เป็นแผนชั่วร้าย

ดังนั้นชายหนุ่มทั้งหมดที่มาร่วมงานชุมนุมควบคุมสัตว์ ล้วนเป็นเป้าหมายเหยื่อของราชินี

งั้นเซียวหยู่เซวียนล่ะ?

ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว นางก็ยังตามหาเซียวหยู่เซวียนไม่เจอ เซียวหยู่เซวียนจะเป็นเหมือนอย่างพวกเขาไหม ถูกหญิงทรราชทรมานจนตายไปแล้ว?

คิดว่าเซียวหยู่เซวียนอาจจะเป็นเหมือนอย่างหลินซือหย่วน ในใจกู้ชูหน่วนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

ช่วงเวลาเพียงสั้นๆ นางสูญเสียญาติเพื่อนพี่น้องไปเยอะมาก

ไม่ว่ายังไง นางจะสูญเสียเซียวหยู่เซวียนอีกไม่ได้

ไม่ไกลออกไป พวกขันทีนำพาทหารองครักษ์มาอย่างเร่งรีบ คนยังมาไม่ถึง เสียงดังมาให้ได้ยินก่อนแล้วว่า

“อยู่ตรงนั้น ตรงนั้นมีผี…..ร้องไห้อย่างโหยหวน”

“เอาล่ะ ในพระราชวังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะมีผีได้อย่างไร หากยังกล้าพูดไปเรื่อย ระวังข้าไปเรียนให้ผู้ดูแลลงโทษพวกเจ้า”

“มีจริงๆ ไม่เชื่อเจ้าก็ลองตั้งใจฟังดู”

“ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย”

“เมื่อกี้มีเสียงจริงๆ ข้ายังได้ยินเลย พวกขันทีน้อยก็ได้ยิน ไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขาดู”

“……”

กู้ชูหน่วนมองดูหลินซือหย่วนอย่างทำใจไม่ได้ พร้อมขยับร่างกายหายตัวจากไป

ตอนที่มาถึงโรงหมอ ขันทีนำทางเมื่อกี้ร้อนใจกระวนกระวายเหมือนมดบนกระทะร้อน เห็นนางกลับมา ก็รีบวิ่งมาอย่างดีใจ

“หมอจิน ท่านไปไหนมา ข้าน้อยตกใจแทบแย่”

“พระราชวังกว้างใหญ่เกินไปจึงหลงทาง ขอโทษด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ข้าน้อยละเลยในหน้าที่ หากไม่ใช่เพราะข้าน้อย….หมอจินก็จะไม่หลงทาง หมอจิน ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ท่านอย่าฟ้องผู้ดูแลได้ไหม ต่อไปข้าน้อยสัญญาว่าจะไม่ทานอะไรผิดอีก”

“คนเรามีความจำเป็นสามอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ข้าไม่ถือสา และก็จะไม่บอกผู้ดูแล เจ้าวางใจ”

“ขอบคุณหมอจิน ท่านเป็นคนดีจริงๆ”

กู้ชูหน่วนมาถึงที่พักในโรงหมอ

ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีใครรบกวน

แต่ในใจของนางกลับไม่สามารถสงบได้ เพียงแค่หลับตาก็จะเห็นภาพหลินซือหย่วนที่ตายอย่างอนาถ

นางมีความจำเป็นที่จะต้องไปเจอราชินีอีกครั้ง

ดูว่าเซียวหยู่เซวียนตกอยู่ในมือของนางหรือเปล่า

และก็ดูว่านางกำลังฝึกพลังชั่วร้ายอะไร?