บทที่ 614
พูดจบ เขาก็พูดกับหงห้าว่า “หงห้า ในเมื่อหลิวกว่างมันกลายเป็นคนตกอับไปแล้ว แล้วพ่อของมันควรจะเรียกว่าอะไรดี? ”
หงห้าก็ครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นพ่อของไอ้ ตกอับ……เช่นนั้นก็เรียกว่า พ่อไอ้ตกอับ แล้วกัน? ”
เย่เฉินพยักหน้า “ใช่แล้ว!คุณพูดถูก ก็เรียกว่า พ่อไอ้ตกอับ แล้วกัน”
พูดจบ เย่เฉินก็มองหลิวกว่าง แล้วถามยิ้มๆ ว่า “หลิวกว่าง มึงคิดว่าไง? ”
หลิวกว่างก็พยักหน้ายิกๆ แล้วทำหน้าทำตาพูดว่า “ท่านหงห้าพูดถูก ผมคือ พ่อไอ้ตกอับ ครับ!”
“อืม” เย่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วพูดกับหงห้าว่า “คุณดูสิ ในเมื่อตัวมันเองก็บอกเอง เช่นนั้นก็รีบเตรียมสุดยอดลายมือ มาให้มันหน่อย”
“สุดยอดลายมืองั้นหรือ? ” หงห้าก็อึ้งไป แล้วพูดว่า “อาจารย์เย่ครับ สุดยอดลายมืออะไรหรือครับ? ผมไม่เคยเขียนพู่กันจีนเลยน่ะสิ….”
เย่เฉินก็ชี้ไปทางคำว่า ตกอับ ที่หน้าปากของหลิวหมิง แล้วถามหงห้าว่า “ก็เขียนอักษรบนหนังมนุษย์ไง คุณลืมแล้วหรือ? ”
หงห้าก็ตีหัวตัวเองที่เพิ่งนึกได้ แล้วก็พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ไอ้หยา ขอโทษจริงๆ ครับอาจารย์เย่ ผมโง่ไปหน่อย ไม่คิดว่าคุณจะหมายความอย่างนี้!”
พอหลิวกว่างได้ยินดังนั้น ก็ตกใจจนวิญญาณแทบจะออกจาร่าง!
บนหน้าผากของลูกชายมีคำว่า ตกอับ ก็เป็นความเจ็บของตนเองอย่างที่สุดแล้ว ถ้าหากว่าหน้าผากตนเองมีคำว่า พ่อไอ้ตกอับ ล่ะก็ ไม่สู้ให้ตนเองตายไปเลยดีกว่า!
เขาก็เลยร้องพูดว่า “อาจารย์เย่ครับ คุณก็เห็นว่าผมอายุปูนนี้แล้ว คุณก็ไว้หน้าผมหน่อยแล้วกันนะครับ…..”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วตั้งใจพูดว่า “กูก็เอาหน้าไว้ให้มึงแล้วไง ดังนั้นก็เลยให้หงห้าไปสลักหน้าผากมึง ไม่เช่นนั้น สองข้างหน้ามึง กูก็จะสลักคำว่า ตกอับ ด้วย ให้ลูกมึงด้วย ให้มึงสองพ่อลูกได้แฟชั่นเซ็ตใหม่!”
หลิวกว่างก็ร้องไห้หมดสภาพ แหกปากร้องพูดว่า “อาจารย์เย่ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมแก่แล้ว หนังก็เหี่ยวแล้ว ท่านหงห้าเขาสลักไม่ถนัดหรอกครับ!”
หงห้าก็ยิ้มพูดว่า “หลิวกว่าง ไม่ตองกังวล ผมมือนิ่ง ต่อให้หน้าผากมึงมีแต่รอยย่น กูก็สามารถสลักใส่ผิวหนังมึงได้!”
ในตอนนี้เซียวฉางควนก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ลูกเขยคนดีของพ่อ ไอ้หลิวกว่างมันเชี้ย เมื่อครู่มันยังจะสลักบนหน้าปากของพ่อว่า พ่อตาไอ้ตกอับ ยังบอกออกแรงเยอะๆ สลักไปให้ถึงกะโหลกพ่อเลย!”
หลิวกว่างก็ตกใจตัวสั่น แล้วร้องไห้พูดว่า “คุณเซียวครับ ผมล้อคุณเล่นน่ะครับ….”
“มึงอย่ามาทำเป็นพูดดี!” เซียวฉางควนก็ด่าออกมาใหญ่ “เมื่อครู่มีดของลูกชายมึงจี้มาที่หัวกูแล้ว ถ้าไม่ได้ลูกเขยกูมาได้ทันเวลา ลูกชายมึงก็สลักลงหัวกูไปแล้ว!”
หลิวกว่างก็รีบร้องไห้พูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ครับ ผมล้อเล่นกับพ่อตาคุณจริงๆ นะครับ ไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ ……”
เย่เฉินก็พูดนิ่งๆ “กูไม่รู้ว่ามึงคิดจริงหรือเปล่า ตอนนี้กูให้มึงเลือกสองทาง หนึ่ง ให้หงห้าสลักหน้ามึงให้เสร็จ สอง ให้หงห้าตัดหรรมลูกชายมึงเสีย ต้องตัดต่อหน้ามึงด้วย!มึงเลือกเองแล้วกัน!”
หลิวหมิงได้ยินดังนั้น ก็ร้องไห้ออกมายกใหญ่ คุกเข่าต่อหน้าหลิวกว่าง แล้วโขกหัว ร่ำไห้พูดว่า “พ่อครับ…อย่าให้พวกมันตอนผมเลย
นะครับ ผมยังไม่มีลูกเลย….ตระกูลหลิวของพวกเราไม่อาจจะไร้ผู้สืบสกุลได้นะครับ…..”
หลิวกว่างก็เจ็บปวดจวนจะสลบตายไป
ทำอย่างไรดี? ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ให้ตายตนเองก็ไม่กล้าจะมาหาเรื่องหงห้า เย่เฉิน และพ่อตาของเขาหรอก!
ตอนนี้ เย่เฉินได้ให้ตัวเลือกไว้กับตรงหน้าตนเอง ตนเองควรจะเลือกอะไร?
เลือกสลักหน้าผากรึ? ชื่อเสียงทั้งชีวิตของตนเองก็คงจะต้องจบสิ้นแน่
แต่ว่า ถ้าไม่เลือกสลักหน้าผาก เจ้าโลกของลูกชายก็จะถูกหงห้าตัดออกไป นี่มันไม่ใช่ของของลูกชายคนเดียว แต่เป็นของทั้งตระกูลอู๋เลยนะ……
พอคิดถึงจุดนี้ เขาก็สั่นทั้งตัว แล้วมองหงห้า พูดสะอึกสะอื้นอย่างหมดหวังว่า “หงห้าครับ ตอนที่คุณสลักลงไป เบามือหน่อยนะครับ……”
หงห้าก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “มึงวางใจเถอะ ผมจะสลักลงไปให้ถึงกระโหลกแน่นอน!”