บทที่ 905 ภรรยามาแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

พ่อบ้านสิน:“คุณท่าน คุณจะให้เด็กคนนั้นมาจัดการดูแลเรื่องในตระกูลเทวเทพจริงเหรอ? เธออายุยังน้อยขนาดนั้น มีความสามารถนี้หรือเปล่า?”

ไชยันต์:“มีความสามารถหรือเปล่า? ดูสิ่งนี้ก็รู้แล้วล่ะ?”

เขาพูดจบ ยกมือขึ้นหยิบเอกสารปึกหนึ่งโยนมา

ตาสินเห็นแล้ว หยิบขึ้นมาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น

ปรากฏว่า เมื่อได้ดูแล้ว ทำให้เขาสูดหายใจเข้าลึกๆได้จริงๆ!

“เด็กคนนี้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ? ที่ประเทศMในเส้นทางการลงทุนของอีริคกรุ๊ปเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินการลงทุน ที่ประเทศYยังเคยเป็นผู้บัญชาการเบื้องหลังของตระกูลคริสที่โด่งดัง เจ้าเด็กคนนี้ เธอยังเป็นหมอใช่ไหม? ทำไมเธอถึงได้?”

คำพูดด้านหลังนี้ พ่อบ้านคนนี้พูดไม่ออกอีกแล้ว

เพราะว่า เขาถูกเอกสารสถิติผลงานการลงทุนของเส้นหมี่ทำให้ตาโตตะลึงไปนานแล้ว

ความสามารถทางด้านการเงินการลงทุนเก่งกาจขนาดนี้ เขายังกล้าสงสัยว่าเธอจะดูแลรับผิดชอบตระกูลเทวเทพไม่ดี?

ไชยันต์ยกถ้วยน้ำชามาจิบหนึ่งจิบ

ดูเหมือนว่า สำหรับปฏิกิริยาของเขาแบบนี้พอใจอย่างมาก

เจ้าเด็กชั่วร้ายทั้งสอง ทำให้เขาคาดไม่ถึงอย่างมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อน ฝ่ายชายอยู่บนจุดสูงสุดของโลกธุรกิจ แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย นี่เรียกได้ว่าทั้งสองเกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆ

ก็คือพวกเขานำพาความประเสริฐมาให้ตระกูลเทวเทพ

ไชยันต์รู้สึกว่าชาในเช้านี้ คืนรสหวานกลับมามากกว่าปกติ……

——

ในที่สุดเส้นหมี่ก็มาถึงค่ายทหาร

กำแพงสูงอย่างกับเทือกภูเขายังไงอย่างงั้น รอบด้านเต็มไปด้วยต้นป็อปล่าขาว บนถนนทาเส้นสีขาวด้วยสีน้ำมันทั้งเส้น เธอไม่เห็นเงาของใครสักคน มีเพียงทหารรักษาการณ์ด้านหน้ายืนตรงแบกปืนเอาไว้อยู่ที่นั่น

เส้นหมี่กลืนน้ำลายหนึ่งอึก

ภาพนี้ มีความกดดันอย่างมาก เธอไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มาก่อน แบกรับเอาไว้ไม่ไหว

“สะ……สวัสดีค่ะ ฉันมาหาผ.บ.ธีระ นี่คือบัตรผ่าน”

เธอลงจากรถ ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ทหารรักษาการณ์คนนี้ ในมือถือเสื้อผ้ากับบัตรผ่านที่ไชยันต์เป็นคนให้มาเอง หลังจากนั้นยืนอยู่ไกลๆพูดออกมาหนึ่งประโยค

ในที่สุดทหารรักษาการณ์จึงมองมาที่เธอแวบหนึ่ง

น่าจะประมาณครึ่งนาที เขามองชื่อผู้ลงนามในบัตรผ่านที่อยู่ในมือของเส้นหมี่ชัดเจนแล้ว

ทันใด เส้นหมี่เห็นเพียงสีหน้าของเขายิ่งเคร่งขรึมกว่าเดิม เขากดปุ่มวิทยุสื่อสารของทางการทหารที่ติดอยู่กับไหล่ทางด้านขวาแล้วพูดออกมา

“รายงานผู้บัญชาการ ด้านนอกมีญาติท่านหนึ่งของท่านผู้นำ บอกว่ามาหาผ.บ.ธีระ!”

“……”

โอ้ว!

ที่แท้ตาแก่คนนี้ ก่อนที่จะเกษียณมาทำงานเบื้องหลัง ที่แท้ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขนาดนี้

เส้นหมี่สูดลมหายใจเข้าลึกจริงๆ

เพราะว่ามีบัตรผ่านที่เส้นใหญ่ขนาดนี้ โดยเร็ว ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอย่างแน่นหนาก็ค่อยๆเปิดออกแล้ว หลังจากนั้น มีคนสวมชุดทหารสีเขียวขี้ม้าคนหนึ่ง ทหารหนุ่มถืออาวุธวิ่งเหยาะๆออกมาแล้ว

“เอ๋? ไม่ใช่ตาสิน”

ทหารคนนี้วิ่งมาด้านข้างเส้นหมี่แล้ว มองดูรอบด้านไม่มีคนอื่น มีเพียงเธอที่สวมชุดกระโปรงรออยู่ที่นั่น เขาตะลึงงันแล้ว

เส้นหมี่เป็นคนฉลาด ได้เห็นสถานการณ์แล้ว จึงรีบพูดคุยทันที:“ใช่ วันนี้เขาไม่มา ฉันเป็นภรรยาของแสนรัก วันนี้ฉันเอาเสื้อผ้ามาให้เขา”

“อ๋อ ที่แท้คือน้องสะใภ้นี่เอง”

ทหารคนนี้ได้รู้สถานะของเธอ ดวงตาสดใสจ้องมองเธอสองสามครั้ง ทันใด เขาก็ยิ้มออกมา

จนเห็นฟันสีขาวที่เรียงเป็นระเบียบ

ความจริงแล้วทหารค่อนข้างตรงไปตรงมา อีกทั้งผู้หญิงเบื้องหน้าคนนี้ มองดูแล้วอายุน่าจะพอๆกับแสนรัก อยู่ด้วยกันมาสามเดือน เขาจึงเรียกเส้นหมี่อย่างเป็นกันเอง

ความจริงแล้ว ไม่แปลกสักนิด

เส้นหมี่จึงถูกพาเข้ามาแล้ว เธอไม่เคยเข้ามาในสถานที่แบบนี้มาก่อน มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก

หลังจากผ.บ.ธีระที่อยู่ด้านข้างได้เห็นแล้ว นึกถึงชายหนุ่มที่อยู่ที่นี่ปกติแล้วสีหน้าเย็นชาอย่างมาก อดที่จะรอดูไม่ไม่ไหว:“น้องสะใภ้ แสนรักรู้หรือเปล่าว่าคุณมา?”

“หืม?”เส้นหมี่เบนสายตากลับมา “เขา……เขาน่าจะไม่รู้”

เธอพูดติดๆขัดๆ แม้แต่ใบหูยังแดงระเรื่อขึ้นมา

เธอไม่ได้บอกเขาจริงๆ วันนี้เธอเข้ามา เป็นไปได้ว่าอยากจะเซอร์ไพรส์เขา?

หรือเป็นไปได้ว่า เธอกลัวว่าบอกกับเขาแล้ว เขาจะปฏิเสธทันที หลังจากนั้นเธอเพื่อที่จะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็เลยไม่บอกกับเขายังเสียดีกว่า

อย่างนั้น เธอพึ่งจะพูดจบลง ผ.บ.ที่พาเธอเข้ามาด้วยกันคนนี้ กระตุกยิ้มที่มุมปากมากกว่าเดิมแล้ว ความคาดหวังในแววตา เหมือนกับว่ากำลังรอดูละครฉากสำคัญยังไงอย่างงั้น

“โฮะ——”

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนออกมา

ทันใดนั้น เส้นหมี่ที่พึ่งจะเดินมาถึงสนามฝึกซ้อม ด้านบนมองเห็นเงาของรูปร่างที่สูงใหญ่กระโดดลุกขึ้นมา

“ตึง!”

เธอยืนอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงอีกคน ยังไม่ทันจะได้รู้ตัว ก็ถูกเธอฟาดหมอบลงกับพื้นอีกครั้งแล้ว ส่งเสียงดังออกมาอย่างน่าหดหู่ใจ!

เส้นหมี่:“……”

“น้องสะใภ้ คุณมาได้เวลาพอดี ดูสิ บนสนามแสนรักกำลังต่อสู้อยู่กับหัวหน้าหน่วยพิเศษของพวกเรา คุณสามารถนั่งชมดีๆได้เลย”

ผ.บ.ธีระพูดไป ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาวางเอาไว้ด้านหน้าหญิงสาวที่สวยสดงดงามคนนี้

เปรียบเทียบกับนักรบหญิงในค่ายทหาร

ความจริงแล้ว เส้นหมี่ที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ ผิวขาวผุดผ่องหน้าตางดงาม บวกกับตั้งแต่เด็กเธอเติบโตมาในเมืองของทางภาคใต้ กิริยาท่าทางก็มีความอ่อนโยนอ่อนหวานแฝงอยู่

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว คนละมาตรฐานกันจริงๆ