ราชาซยงซือเมื่อเห็นว่าไหมสีฟ้ากำลังโจมตีเข้ามา ดวงตาดุร้ายหรี่เล็กลง เหวี่ยงกระบองในมือของเขาไปยังด้านหน้าอย่างตั้งใจ สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วก็อ้าปากส่งเสียงคำรามดังสะเทือนทั่วทั้งภูเขาออกมาในทันที

ทันทีที่เสียงคำรามดังออกมา ความว่างเปล่าด้านหน้ากายของราชาซยงซือก็เกิดการพร่ามัวบิดเบี้ยวขึ้นมา กลายเป็นชั้นอากาศโปร่งแสงหนาทึบออกมา

ไหมสีฟ้าที่โจมตีอยู่ด้านหน้าราวกับพายุฝน ก็ค่อยๆ พากันหายเข้าไปในนั้นโดยที่ไม่มีเสียง ไม่มีการตอบสนองกลับใดๆ ราวกับว่าเป็นวัวโคลนที่จมลงสู่ท้องทะเล

หานลี่เมื่อเห็นฉากนี้ข้า ใบหน้าก็เผยความประหลาดใจวาบเข้ามา ดาบยาวสีฟ้าในมือข้างหนึ่งสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็กลายเป็นดาบเล่มยักษ์ยาวหลายจั้ง ฟันออกไปยังกลางอากาศในที่ไกลๆ

เสียงดังทะลุอากาศออกมา เงาของดาบยาวหลายสิบจั้งปรากฏออกมาตรงเหนือศีรษะของราชาซยงซือ แล้วฟันลงไปด้วยพลังอันดุร้าย

ราชาซยงซือส่งเสียงฮึมฮัมเย็นเยียบออกมา กระบองในมือฟาดออกไปยังกลางอากาศสูงโดยที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เสียงภูตผีร้องระงมดังออกมา ไอพลังดำนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายออกมาจากกระบอง แล้วกลายเป็นมังกรดำทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

เสียงดังกึกก้องออกมา!

เงาดาบสีฟ้ายังไม่ทันได้ฟาดลงมาจริงๆ ก็ถูกมังกรดำฉีกออกเป็นชิ้นๆ ด้วยฟันและกรงเล็บของมัน และในตอนที่ราชาซยงซือเขย่ากระบองของเขาออกมาอีกครั้งนั้น ก็เกิดเสียงคำรามต่ำดังออกมาพุ่งตรงไปยังทางหานลี่

หานลี่มองไปยังมังกรดำ สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ร่างกายจู่ๆ ก็ส่งเสียงกรีดร้องดังออกมา ดาบบินสีฟ้าพุ่งออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย หลังจากที่หมุนวนอยู่ตรงที่เดียวกันนั้น ก็กลายเป็นดาบบงกชฟ้าขนาดใหญ่

หานลี่เพียงแค่ผลักดาบออกมา กลีบของบงกชก็ค่อยๆ บานออก หันไปยังทางด้านของมังกรดำที่กำลังพุ่งเข้ามา ประกายคมดาบนับไม่ถ้วนฟาดออกไปมา จากนั้นก็ฟันจนฝ่ายตรงข้ามแข็งค้างขาดออกเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนจนกลายเป็นไอพลังดำอีกครั้งแล้วทยอยกันระเบิดออกมา

“ฮาฮา ดีมาก ถึงว่าเมื่อครู่นี้จะเป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น แต่พลังของเจ้ากลับไม่ได้อ่อนแอจริงๆ เพียงพอทำให้ข้าสนุกกับการต่อสู้นี้ขึ้นมาแล้ว” ราชาซยงซือเมื่อเห็นว่ามังกรดำถูกทำลายลง ไม่เพียงแต่ไม่โกรธกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา

และในตอนที่เขาเอ่ยจบลงนั้น จู่ๆ เขาก็เหวี่ยงกระบองออกไปยังด้านหน้าของเขาอีกครั้ง ปากก็เอ่ยพึมพำเสียงต่ำออกมา

ทันใดนั้น กระบองในมือของเขาก็เปล่งลำแสงโลหิตออกมาแล้วกลายเป็นธงสีโลหิต

กระดูกขาวเป็นเสา หมอกโลหิตกลายเป็นธง ทำให้เมื่อผู้คนได้เห็นแล้ว ก็อดไม่ได้รู้สึกใจเต้นด้วยความหวาดกลัว

ในตอนที่ธงโลหิตในมือของราชาซยงซือเป็นรูปร่างนั้น ก็ถูกโยนขึ้นไปยังกลางอากาศสูง

เสียง “ปัง” ดังออกมา

พื้นผิวของธงโลหิตนั้นเกิดประจุสายฟ้านับไม่ถ้วนพัวพันออกมาจากกลางอากาศ ขณะเดียวกันหมอกโลหิตบนผิวธงหลังจากที่หลอมรวมกันแล้ว ก็มีกะโหลกสีทองทั้งห้าลอยออกมาจากด้านในนั้น ในตอนที่ลอยออกมานั้นขนาดเล็กใหญ่ไม่เกินชามเท่านั้น แต่หลังจากที่ลมพัดผ่านมาแล้ว กลับกลายเป็นขนาดใหญ่เท่ากับวงล้อในทันที เปลวไฟในดวงตาสีโลหิตสว่างวาบขึ้น ปากก็พ่นผลึกเขียวจางออกมา

“นี้คือ…” หานลี่เมื่อเห็นฉากนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงออกมาเล็กน้อย

“เฮ่อเฮ่อ เจ้าหนุ่มสิ่งนี้คือปีศาจพลังหยินแท้จริงที่เปิ่นหวังใช้ปราณก่อกำเนิดของศัตรูผู้แข็งแกร่งที่เคยฆ่าก่อนหน้านี้สร้างขึ้นมา หากว่าเจ้าเองก็ตกมาอยู่กำมือของข้าแล้ว ก็ไม่แน่ว่าอาจจะกลายมาเป็นปีศาจพลังหยินตัวที่หกของเปิ่นหวังก็เป็นได้

ราชาซยงซือหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง มือข้างหนึ่งยื่นออกไปยังกะโหลกกลางอากาศสูง

ทันใดนั้นดวงตาของกะโหลกเหล่านั้นก็มีเปลวเพลิงโลหิตแผ่ขยายออกไป แล้วกลายเป็นปีศาจภูตหกตัวท่ามกลางลำแสงสีทอง

แต่ละตนล้วนมีผ้าคลุมไหล่สีม่วง ใบหน้าและเขี้ยวสีฟ้า นิ้วมือทั้งสิบแหลมคม อีกทั้งเปลวเพลิงโลหิตลุกโชนขึ้นทั่วกาย เปล่งรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวไม่ต่างจากมหายานทั่วไปออกมา

“ไป”

ราชาซยงซือเอ่ยเสียงสั่งออกมา ชี้ไปยังกลางอากาศทางด้านของหานลี่

ทันใดนั้นปีศาจภูตทั้งห้าก็ส่งเสียงร้องครวญครางออกมา หลังจากที่เคลื่อนไหวแล้ว ก็กลายเป็นลำแสงสีทองห้ากลุ่มพุ่งยังทางด้านของหานลี่

“น่าสนใจยิ่งนัก ถึงกับสามารถนำปราณก่อกำเนิดของแก่นวิญญาณมาเป็นปีศาจดุร้ายเช่นนี้ นี้นับเป็นวิธีการที่พบเห็นได้ยากยิ่งนักจริงๆ แต่ถ้าหากคิดว่ามีเพียงแค่เจ้าที่มีตัวช่วยแล้วละก็ คงจะคิดผิดไปแล้ว” หานลี่เมื่อเห็นกับสิ่งนี้เข้า กลับหัวเราะออกมาเบาๆ ตามมาด้วยแขนเสื้อสั่นไหว ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากด้านในนั้นเช่นกัน หลังจากที่ลมพัดผ่านไป จากนั้นก็กลายเป็นคนตัวเล็กสีทองที่มีลวดลายวิญญาณสีม่วงทองปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย

ซึ่งก็คือราชาแมลงกลืนทองนั่นเอง

“ปล่อยให้พวกมันได้เป็นอิสระเถอะ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเจ้าคงจะไม่มีปัญหาอะไร”

หานลี่เอ่ยถามออกมาอย่างเรียบเฉยกับราชาแมลงกลืนทองประโยคหนึ่ง

คนตัวเล็กสีทองมองไปยังปีศาจภูตทั้งห้าอย่างเย็นชา ไม่เอ่ยอันใดออกมาเท้าก็กระทืบลงไป ทันใดนั้นบริเวณใกล้เคียงก็เกิดเสียงซี่ๆ ดังขึ้นมา พลังดาบที่มองไม่เห็นพุ่งออกมาจากกายอย่างหนาแน่น ตามมาด้วยกายของเขาทยานขึ้น พุ่งหายเข้าไปในพลังดาบเหล่านี้ กลายเป็นลำแสงสีทองหนาวเย็นพุ่งเข้าหาปีศาจภูตด้านหน้า

ปีศาจภูตทั้งห้าตรงหน้านั่นส่งเสียงแปลกๆ ออกมา และหนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนว่าจะดุร้ายที่สุด แกว่งแขนออกมา แล้วจับเอาปีศาจภูตโยนเข้าไปในลำแสงดาบเหล่านี้

เกิดเสียง “คลิ๊ก” ดังออกมา นิ้วมือทั้งสิบและแม้แต่แขนเล็กๆ นั่นก็ถูกดาบลำแสงสีทองฟันจนขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที

ดาบลำแสงสีทองที่คมเฉียบจนไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจตัดได้นั้น ทำให้ปีศาจภูตเหล่านั้นที่ปกติที่สามารถใช้กายเนื้อปะทะกับสมบัติล้ำค่าระดับสูงได้โดยตรง กลับเปลี่ยนเป็นเปราะบางต่อหน้ามันในทันที

ปีศาจภูตเหล่านี้แน่นอนว่าตกตะลึงยิ่งนัก แต่เมื่อร่างกายบิดเบี้ยวไปมาแล้ว ก็หายวับออกจากกลางอากาศในบริเวณใกล้เคียงไปไม่เห็นแม้แต่เงา

หลังจากนั้นเพียงครู่ปีศาจภูตที่เหลืออีกสี่ตนนั้นกลับอ้าปากกว้างออกมา ลูกบอลสายฟ้าสีดำพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ระเบิดเป็นกลุ่มพลังเดียวกัน แล้วกลายเป็นมหาสมุทรดำมืดและแสงสีทองปะทะกัน

ตรงที่ทั้งสองฝ่ายกำลังปะทะกันอยู่นั้น พลังสีดำและลำแสงสีทองกำลังพัวพันกันอยู่ ราวกับว่าสัตว์อสูรทั้งสองกำลังใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างสุดชีวิต

ท่ามกลางลำแสงสีทองนั้นก็เกิดเสียงดังปะทุอากาศออกมา ลำแสงดาบหนาหลายสิบสายก็รวมตัวเป็นเส้นเดียวโจมตีออกมาพร้อมกัน แล้วก็ฟาดจนไอพลังสีดำกลายเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ แล้วฟันลึกลงไปอีก

แต่ในเวลานี้นั้น ช่องว่างกลับเกิดความผันผวนขึ้น ปีศาจภูตตนนั้นที่หายไปก็ปรากฏออกมาจากกลางอากาศ ฝ่ามือทั้งสองและแขนครึ่งหนึ่งที่แต่เดิมบาดเจ็บสาหัสนั้นฟื้นคืนกลับมาเป็นดั่งเดิมในตอนต้น อีกทั้งเมื่อเผยสีหน้าดุดันออกมาแล้ว ก็อ้าปากกว้างขึ้น ลูกปัดกระดูกสีโลหิตก็พุ่งออกมา

เสียง “ปัง” ดังออกมา

ลูกปัดกระดูกนี้ไม่รู้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าใด ลำแสงสีทองเหล่านั้นเมื่อฟาดลงมาโดนด้านบนแล้วไม่เพียงแต่กระดอนกลับมา อีกทั้งยังถูกปนเปื้อนด้วยลำแสงสีโลหิตจนสลายออกไป

ลูกปัดนี้ยังมีสมบัติล้ำค่าที่มีผลวิเศษเหลือเชื่อเช่นนี้อยู่ หลังจากที่หมุนวนแล้ว ไอพลังสีดำนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากด้านบนนั้นอย่างบ้าคลั่ง แล้วนำเอาปีศาจภูตที่เพิ่งจะปรากฏมาใหม่พร้อมกับตนเองจมหายเข้าไปด้านใน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ดาบลำแสงไม่อาจที่จะตัดไอพลังดำจนขาดได้ และไอพลังสีดำที่ได้รับการสนับสนุนจากลูกปัดกระดูกเองก็ไม่อาจที่จะระเบิดดาบลำแสงสีทองได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันอย่างรุนแรงไม่หยุด แต่เพียงแค่ในชั่วขณะหนึ่งผู้ใดก็ไม่อาจที่ทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้ ทำให้เกิดเป็นทางตันขึ้นมา

ทุกอย่างนี้ดูเหมือนจะซับซ้อน แต่สำหรับหานลี่ทั้งสองคนแล้วกลับเป็นเพียงแค่เรื่องชั่วครู่เท่านั้น

ราชาซยงซือในตอนที่เห็นคนตัวเล็กสีทองปรากฏกายออกมานั้น ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อเห็นปีศาจภูตทั้งห้ารวมพลังกันแล้ว ยังไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของพลังดาบของคนตัวเล็กได้ อดไม่ได้ที่รูม่านตาจะหดเล็กลง แล้วเอ่ยถามออกมาประโยคหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว

“นี้เป็นสัตว์อสูรใดกัน ถึงกับมีอิทธิฤทธิ์มากถึงเพียงนี้ กลิ่นไอลมหายใจเองก็ดูคุ้นเคยอยู่หลายส่วน”

“เจ้าคิดว่าข้าจะบอกออกมาอย่างนั้นหรือ?” หานลี่เอ่ยตอบออกมาเบาๆ ประโยคหนึ่ง

“หืม ไม่บอกหรือ เช่นนั้นข้าก็จะสู้จนทำให้เจ้าพูดออกมา” ราชาซยงซือเมื่อได้ยินก็กรุ่นโกรธขึ้นมา มือข้างหนึ่งบริกรรมขึ้น กายก็ขยายใหญ่ขึ้นมาในทันที ขณะเดียวกันด้านหลังก็มีไอพลังสีดำลอยออกมาแล้ว ก็กลายเป็นใบหน้าของภูตขนาดใหญ่ออกมาจากกลางอากาศด้านหลังกายเขา อ้าปากกว้างออกมา แส้ม้าสีดำยาวพุ่งออกมา หลังจากที่พร่ามัวแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไปปรากฏยังกลางอากาศสูงนับร้อยจั้งได้อย่างไร ปรากฏขึ้นพื้นที่ใกล้กันกับหานลี่ และก้มหัวลงไป

หานลี่ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหว แต่ว่าด้านหน้ากายของเขาก็เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมา ชั้นม่านลำแสงสีเทาปรากฏออกมาจากกลางอากาศ ลำแสงเทพดูดปราณธาตุทั้งห้านั่นเอง

แต่มีฉากที่ทำให้หานลี่ตกตะลึงปรากฏขึ้นมา

แส้ม้าสีดำก็ฟาดลงไปด้านบนนั้นในพริบตา ม่านลำแสงสีเทาราวกับว่าเครื่องเคลือบลายครามแตกออกเสี่ยงๆ ในพริบตาเดียว ตามมาด้วยหลังจากที่พัวพันกันไปมาแล้ว จึงนำเอาหานลี่หมุนวนไปมาอยู่เจ็ดแปดรอบ ห่อหุ้มจนกลายเป็นรังไหมสีดำราวกับว่าเป็นลูกบ๊ะจ่าง

เสียง “พัฟ” ดังออกมา ผิวภายนอกของรังไหมดำเกิดชั้นเปลวไฟแผดเผาขึ้น ทำให้กลายเป็นลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ยักษ์

แต่ว่าราชาซยงซือที่อยู่ไกลๆ ยังไม่ยอมหยุดลงเพียงเท่านี้ กลับหัวเราะออกมาอย่างโหดเหี้ยม มือข้างหนึ่งหมุนวนอยู่กลางอากาศ ชั่วขณะนั้น กลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งออกมา แล้วกลายเป็นขวานสีดำสนิทยาวหลายจั้งออกมา พุ่งออกไปไกลราวสายฟ้าฟาดยังลูกบอลเพลิงนั้น

เสียง “ลา” กรีดร้องออกมา

ลูกบอลเพลิงเกิดลำแสงเย็นเยียบอยู่ด้านบน ขวานเล่มคมก็ฟาดลงมาอยู่กลางของรังไหมที่กลายเป็นลูกบอลเพลิงพอดิบพอดี

“ตัง” เสียงดังเปราะบางของโลหะกระทบกันดังลอยออกมา ขวานเล่มนั้นโดนกระแทกกระเด็นออกมาในทันที ตามมาด้วยแตกออกเป็นเสี่ยงแล้วดับสลายไป

ลูกบอลเพลิงเองเกิดเสียงดังคำรามลอยขึ้น ฝ่ามือใหญ่ทั้งหกขนดกยาวพุ่งตรงออกมาจากกลางนั้น ขณะเดียวกันเปลวไฟสีเงินเพียงพริบตาเดียวก็ออกมาจากมือคู่ใหญ่แล้วพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที และหลังจากที่กระพือลงมาอีกครั้ง ก็นำเอาเปลวเพลิงสีโลหิตนั้นม้วนตัวออกไป เผยให้เห็นหานลี่ที่อยู่ด้านในนั้นอีกครั้ง

หานลี่ในเวลานี้ ได้กลายเป็นวานรยักษ์ขนสีทองสามหัวหกแขน ตรงชั้นของเปลวเพลิงสีเงินเปล่งประกายออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน ดวงตาทั้งหกมองไปยังราชาซยงซือที่อยู่ไกลๆ ด้วยความเย็นชา

ใบหน้าของราชาซยงซือเองก็ดูขุ่นมัว และไม่คิดว่าการโจมตีเมื่อครู่นี้ ถึงกับไม่อาจทำร้ายหานลี่ได้แม้แต่น้อย

แต่ในวินาทีถัดมา วานรยักษ์จู่ๆ ก็ขยับแขนทั้งหกพร้อมกัน กำปั้นสีทองทั้งหกขณะนั้นก็กลายเป็นเงาของกำปั้นนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่พร่ามัวแล้ว ทั้งหมดก็กลายเป็นลูกบอลลำแสงพุ่งออกไป

ราชาซยงซือพ่นเสียงเย็นออกมา อ้าปากออกมา เสียงคำรามดังระเบิดดังออกมา เกิดเป็นปราการชั้นบรรยากาศปิดกั้นเอาไว้ด้านหน้าของเขา

ลูกบอลลำแสงสีทองเกิดระเบิดมาเป็นเม็ดฝนแล้วโจมตีลงไปบนนั้นทันที

แตกต่างกับขนาดของก่อนหน้านั้นลิบลับ!

ลูกบอลเพลิงที่แปลงมาจากเงากำปั้นนั้นขณะที่กำลังโจมตีไปยังปราการชั้นบรรยากาศนั้น ต่างก็ทยอยกันระเบิดออกมาปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาจากด้านในนั้น

เสียงคำรามที่กลายเป็นปราการชั้นบรรยากาศนั้นลึกลับเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อถูกลูกบอลลำแสงเช่นนี้ระเบิดโจมตีออกไปพร้อมกันแล้ว ด้วยความเร็วที่ตามองเห็นก็ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ

และเมื่อไม่มีสิ่งใดป้องกันแล้ว ลูกบอลเพลิงทั้งหมดยังคงส่งเสียงดังกึกก้องพุ่งตรงไปยังราชาซยงซือที่เผยกายออกมา

ส่วนราชาซยงซือเมื่อเผชิญหน้ากับฉากนี้เข้า ก็ไม่ได้หลบหลีก เพียงแต่ใช้ขวานยักษ์ในมือเหวี่ยงออกไปด้านหน้ากายของเขา ตามมาด้วยลำแสงสีดำสว่างวาบขึ้น ก็กลายเป็นโล่กระดูกขนาดใหญ่ยักษ์ทันที

ใบหน้าภูตผีขนาดใหญ่ที่อยู่กลางอากาศด้านหลังของราชาซยงซือหลังจากที่พร่ามัวแล้ว ทันใดนั้นก็ไปปรากฏยังโล่กระดูกสีดำนั้น แล้วเปิดปากกว้างออกมาในทันที พลังดึงดูดอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งม้วนตัวออกมาจากด้านในนั้น

ลูกบอลลำแสงสีทองหนาแน่นนั้นถูกแรงดูดนี้ดูดกลืนเข้าไป พากันเปลี่ยนแปลงทิศทางไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเข้าไปยังปากของใบหน้าภูตเหล่านี้ ได้ยินเพียงเสียงของลำแสงสีทองด้านในแวบวาบอย่างบ้าคลั่ง เสียงดังกึกก้องดังมาไม่หยุดหย่อน จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย