บทที่ 2095 การบ้านที่โรงเรียนเยอะเกินไป
เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความนับถือ เพียงแต่ความนับถือนี้เด่นชัดเกินไป เห็นได้ชัดว่าเป็นการประจบประแจง
“พี่เฟิง...นอกจากพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราแล้ว ผมพบว่าคนของอาชูร่าก็ดูเหมือนจะตรวจสอบเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เป่ยโต่วก็มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยออกมา
“รู้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า
คนของอาชูร่าแม้แต่ตำแหน่งเกาะกลางทะเลก็หาเจอแล้ว เขาเพิ่งจะรู้แค่ว่าคนของอาชูร่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้เหมือนกัน
“พี่เฟิง อันที่จริงผมมีไอเดียดีๆ อย่างหนึ่ง”
เป่ยโต่วทำหน้ามีลับลมคมนัย “พี่เฟิง อันที่จริง พวกเราให้คนคอยตามตูดคนของอาชูร่าไว้ก็เรียบร้อยแล้ว แบบนี้ พวกเราจะได้ประหยัดความคิดประหยัดเวลาแถมยังประหยัดแรงด้วยไง?”
พอได้ยินคำพูดของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นก็ใช้ความคิดแล้ว
ข้อเสนอของเป่ยโต่ว ถือว่าไม่เลวเลยจริงๆ แต่ซือเยี่ยหานกลัวว่าตัวเองจะมีอันตราย ดังนั้นจึงไม่มีทางยอมบอกตำแหน่งของเกาะที่มีคนเฝ้าอยู่กับเธอแน่ ถ้าทางพันธมิตรอู๋เว่ยแอบติดตามการตรวจสอบของอาชูร่า ตำแหน่งที่ตั้งของเกาะก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป…
แน่นอนว่า คิดจะตามรอยคนของอาชูร่า ไม่ได้ง่ายดายถึงขนาดนั้น ถ้าให้เป่ยโต่วไปคอยตาม เยี่ยหวันหวั่นกล้าสาบานกับโคมไฟได้เลยว่า ภายในระยะเวลาสองวัน ไอ้หมอนี่ต้องถูกหน่วยสืบค้นของอาชูร่าจับได้แน่นอน
“พี่เฟิง พี่ทำใจให้สบายเถอะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม ไม่มีปัญหาแน่นอน ผมจะให้คนเดินเรือออกไป ค้นหาเกาะในละแวกใกล้ๆ ส่วนตัวผมยอดแม่ทัพที่อายุน้อยที่สุดของพันธมิตรอู๋เว่ย จะทุ่มเทกำลัง คอยติดตามทีมสืบค้นของอาชูร่าด้วยตัวเอง พอถึงเวลาไม่ว่าจะมีข่าวมาจากทางไหน สำหรับพวกเราแล้ว ก็มีแต่ได้ไม่มีเสีย! สมบูรณ์แบบเหลือเกิน!” ใบหน้าของเป่ยโต่วเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “พี่เฟิง ผมก็นับเป็นอัจฉริยะด้วยใช่ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกเลย…
เยี่ยหวันหวั่นชักจะปวดหัวนิดๆ แล้ว จึงใช้สองมือนวดขมับพลางจ้องมองเป่ยโต่ว “ไม่ต้องแล้ว นายไปสืบหาเกาะกลางทะเลที่อยู่ในแถบนี้ด้วยตัวเองเถอะ”
“หา ทำไมล่ะ?!” เป่ยโต่วเผยสีหน้างุนงง เรื่องสะกดรอยตาม…งานถนัดของเขาเลยนะ!
“ทำไมน่ะเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นปรายตามองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง “ฉันกลัวว่าพอถึงเวลาจะต้องไปไถ่ตัวนายออกมาจากอาชูร่าไง”
เป่ยโต่วเหวอไปแล้ว…
เป่ยโต่วขอร้องอ้อนวอนอย่างหนัก แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ปฏิเสธโดยไม่ลังเลนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้าย เป่ยโต่วจึงทำได้เพียงพาลูกน้องออกทะเลไปด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยว
ส่วนเรื่องการสะกดรอยตามทีมสืบค้นของอาชูร่า เยี่ยหวันหวั่นมอบหมายให้ผู้อาวุโสใหญ่กับชีซิง
ในพันธมิตรอู๋เว่ย ผู้อาวุโสใหญ่มีสติปัญญามากความสามารถ ส่วนชีซิงก็มีนิสัยสุขุมลุ่มลึก เมื่อสองคนนี้มารวมตัวกัน เยี่ยหวันหวั่นจึงค่อนข้างวางใจ น่าจะไม่เกิดปัญหาใหญ่จนเกินไป
ในช่วงหลายวันมานี้ เยี่ยหวันหวั่นถือโอกาสกลับไปที่บ้านตระกูลเนี่ยรอบหนึ่ง
นายหญิงเนี่ยและหัวหน้าตระกูลสอบถามถึงข่าวคราวของถังถังเป็นระยะๆ ส่วนเยี่ยหวันหวั่นก็ทำได้แค่ตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง บอกสองผู้อาวุโสว่า ถังถังเข้าเรียนอยู่ ช่วงนี้การบ้านที่โรงเรียนค่อนข้างเยอะ
แต่โชคยังดี ที่หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิงไม่ได้ซักถามต่อดูเหมือนว่าจะยังไม่นึกสงสัยอะไร
ผ่านไปสองวัน เนี่ยหลิงหลงก็กลับมาที่บ้านตระกูลเนี่ย แถมยังเอ่ยขอโทษเยี่ยหวันหวั่นต่อหน้านายหญิงเนี่ยและหัวหน้าตระกูลอย่างจริงใจมาก
“พี่คะ ขอโทษนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันถูกตัวปลอมคนนั้นหลอก…พี่ก็คงไม่ต้องทนรับความอยุติธรรมมากมายขนาดนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะฉันไม่ดีเอง ทำให้พี่ได้ต้องลำบาก”
ณ ห้องรับแขกตระกูลเนี่ย เนี่ยหลิงหลงมองเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
พอได้ยินคำพูดแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นจึงยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า “ใช่ที่ไหนล่ะ เธอก็ถูกคนอื่นเขาหลอก ถึงยังไง เธอก็ไม่ได้ฉลาดขนาดที่มองแวบเดียวก็จับจุดของตัวปลอมได้นี่ ใช่ไหม”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาของเนี่ยหลิงหลงก็เต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ปากกลับเอ่ยไปว่า “พี่พูดถูกแล้วค่ะ”
————————————————————————–
บทที่ 2096 สะกดรอยตามคนคนหนึ่ง
มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นยกเชิดขึ้นนิดๆ สองตาเต็มไปด้วยแววขบขัน
เนี่ยหลิงหลงคนนี้ สรุปแล้วมีเป้าหมายอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ในเมื่อเธออยากเล่น ตัวเองก็จะเล่นเป็นเพื่อนเธอ
ตอนนี้ บ้านตระกูลเนี่ยก็ไม่ใช่ที่ที่เนี่ยหลิงหลงกับตัวปลอมคนนั้นจะสามารถใช้มือปิดฟ้า[1]ได้อีกต่อไป เยี่ยหวันหวั่นเข้าครอบครองสิทธิ์แล้ว เพียงแต่ ในระหว่างนี้ จะรีบไล่ต้อนเนี่ยหลิงหลงไม่ได้
เยี่ยหวันหวั่นแค่อยากเห็นว่า เนี่ยหลิงหลงแทรกซึมเข้ามาในตระกูลเนี่ย ด้วยเป้าหมายอะไรกันแน่ คิดจะทำอะไรกัน
“หลิงหลง ลูกควรจะขอโทษพี่อู๋โยวของลูกจริงๆ นั่นแหละ”
นายหญิงเนี่ยมองเนี่ยหลงหลง เปิดปากเอ่ยออกมา
“ค่ะ แม่ หนูรู้แก่ใจดี ถ้าไม่ใช่เพราะหนู พี่ก็คงไม่ต้องรับความอยุติธรรมมากมายขนาดนั้น”
เนี่ยหลิงหลงถอนหายใจแล้วกล่าวอย่างจนใจอยู่บ้าง “ทำได้แค่โทษตัวปลอมคนนั้นที่เล่นละครดีเกินไป อีกทั้งสวมรอยเป็นพี่ มีฝีมือใช้ได้เลย หนูก็มองออกยากเหมือนกันค่ะ”
พอได้ยินคำพูดของเนี่ยหลิงหลง หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิงก็เหลือบมองเนี่ยหลิงหลงอยู่หลายแวบ
อันที่จริง จะโทษเนี่ยหลิงหลงทั้งหมดก็ไม่ได้ พวกเขาเป็นพ่อแม่ แต่ก็ไม่ค้นพบฐานะของตัวปลอมคนนั้นเหมือนกัน
“หลิงหลง ลูกยอมรับความผิดแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองเนี่ยหลิงหลงอย่างมีนัยยะ
หัวหน้าตระกูลเนี่ยเพิ่งพูดจบ เนี่ยหลิงหลงก็พยักหน้ารับอย่างจริงจังมาก แล้วเอ่ยตอบว่า “พ่อคะ…ตัวปลอมคนนั้น ปกปิดได้ดีเกินไปจริงๆ…แม้กระทั่งพ่อแม่ก็มองไม่ออกเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยกับนายหญิงสบตากันแวบหนึ่ง เรื่องนี้ทำให้พวกเขาพูดไม่ออกเลยจริงๆ
“พ่อคะ แม่คะ”
ตอนนี้เอง เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิง ยิ้มน้อยๆ แล้วพูดว่า “น้องหลิงหลงก็โดนคนอื่นหลอกมา ไม่ว่าจะยังไง เธอก็แค่อยากหาหนูให้เจอเร็วๆ เหมือนกัน”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิงมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง ทว่ายังไม่ได้พูดอะไรมาก เนี่ยหลิงหลงก็ยอมรับผิดในเรื่องนี้กับเนี่ยอู๋โยวแล้ว แถมยังต้องการตรวจสอบอย่างละเอียดสักรอบด้วย
“พี่คะ ขอโทษมากๆ เลยนะคะ” เนี่ยหลิงหลงมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดออกมา
“ฮ่า ที่ไหนกันล่ะ ระหว่างพวกเราพี่น้อง มีอะไรต้องขอโทษกัน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ
….
หลังออกจากบ้านตระกูลเนี่ย เยี่ยหวันหวั่นก็กลับไปที่พันธมิตรอู๋เว่ย
“ผู้นำครับ ผู้นำเรียกหาผมใช่ไหม”
ผู้อาวุโสสามเดินเข้ามาในห้องทำงาน มองไปที่เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองผู้อาวุโสสาม พูดขึ้นว่า “ฉันอยากให้นายสะกดรอยตามคนๆ หนึ่ง”
“ผู้นำโปรดบอกมาได้เลยครับ” ผู้อาวุโสสามพยักหน้ารัวๆ
“เนี่ยหลิงหลง” มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นเชิดขึ้นนิดๆ
“เนี่ยหลิงหลง…”
ผู้อาวุโสสามมีท่าทางแปลกใจอยู่บ้าง “ผู้นำครับ…เนี่ยหลิงหลงคนนั้น เป็นน้องสาวคุณนี่ครับ ให้สะกดรอยตามเธอทำไมเหรอครับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างเนี่ยอู๋โยวกับเนี่ยหลิงหลง คนอื่นในรัฐอิสระไม่รู้ แต่ตอนนี้ พวกเขารู้แล้ว ฐานะที่แท้จริงของผู้นำของตัวเองคือเนี่ยอู๋โยวแห่งตระกูลเนี่ย เกี่ยวของเป็นพี่น้องกับเนี่ยหลิงหลง
“เรื่องนี้ นายไม่จำเป็นต้องถามมาก แต่จำเอาไว้ ให้เริ่มตั้งแต่วันนี้ ทุกๆ วันไม่ว่าเนี่ยหลิงหลงจะไปไหน เจอใครมาบ้าง นายจะต้องรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ห้ามพลาดอะไรไปทั้งนั้น” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผู้นำโปรดวางใจ มอบหมายเรื่องนี้ให้ผมแล้ว ไม่มีทางพลาดแน่นอนครับ” ผู้อาวุโสสามพยักหน้าตอบรับ
ผู้อาวุโสสามหันหลังก้าวออกไป ทว่าเยี่ยหวันหวั่นกลับเรียกเขาไว้อีกครั้ง
“น่ากลัวว่าเนี่ยหลิงหลงจะไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เห็นในฉากหน้า นายก็ต้องระวังตัวให้มากด้วย…ห้ามถูกเธอพบเห็นเข้าเด็ดขาด มีอีกข้อที่นายจำเป็นต้องจำไว้…ถ้าหาก นายถูกเนี่ยหลิงหลงจับได้ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ในสามสิบหกกลยุทธ์หนีเท่านั้นคือยอดแผนการ!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกำชับเป็นพิเศษ
……………………………….
[1] ใช้มือปิดฟ้า หมายถึง อาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบังอำพรางมวลชน