บทที่ 2101 ปะทะกันตรงๆ
หลังจากผู้อาวุโสสามได้ยิน ก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเย็น “จัดการเธอ”
พอพูดจบ ผู้อาวุโสสามก็ก้าวออกมาจากมุมมืด
“เฮอะ ฉันก็นึกว่าใคร ตาเฒ่าของพันธมิตรอู๋เว่ยนี่เอง”
เนี่ยหลิงหลงจ้องมองผู้อาวุโสสาม มุมปากยกเชิดขึ้นนิดๆ ก่อตัวเป็นรอยยิ้มประหลาดแบบหนึ่ง
“นังหนู เธอต้องโดนพวกเราพันธมิตรอู๋เว่ยลากกลับตระกูลเนี่ย ตระกูลเนี่ยชุบเลี้ยงเธอจนโต แต่เธอกลับกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา หลงลืมบุญคุณ คิดจะฆ่าเนี่ยอู๋หมิง แถมยังจะทำลายล้างตระกูลเนี่ยอีก เธอมันใจดำอำมหิต” ผู้อาวุโสสามมองเนี่ยหลิงหลงพลางเอ่ยเสียงเย็น
“ใจดำอำมหิตงั้นเหรอ” เนี่ยหลิงหลงเหลือบมองผู้อาวุโสสามแวบหนึ่ง หัวเราะแล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “ฉันว่าไม่ใช่นะ ได้ยินว่า แม้แต่ลูกชายแท้ๆ ของตัวเองแกก็ฆ่าได้นี่ พอพูดแบบนี้แล้ว แกต่างหากที่ใจดำอำมหิตกว่าฉัน ใช่ไหมล่ะ”
ผู้อาวุโสสามร้องเฮอะทีหนึ่ง “ตอนนั้นผู้นำไม่อยู่ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดแล้ว เสียสละลูกชายที่ไม่มีจิตสำนึกไปสักคนจะเป็นอะไรไป แต่กับผู้ที่มีพระคุณต่อตาเฒ่าอย่างฉัน ตาเฒ่าอย่างฉันไม่มีทางทำแบบเธอ”
“มองออกแล้วว่าคนของพันธมิตรอู๋เว่ย ชอบเถียงข้างๆ คูๆ ไร้เหตุผลเป็นที่สุด” เนี่ยหลิงหลงเอ่ย
“พล่ามให้มันน้อยๆ หน่อย เธอจะตามฉันกลับไปหาผู้นำด้วยตัวเอง หรือจะให้ฉันตัดมือตัดเท้าเธอ แล้วมัดเธอกลับไปหาผู้นำ”
ผู้อาวุโสสามตะคอกเสียงเยียบเย็น
เนี่ยหลิงหลงจ้องมองผู้อาวุโสสาม พลางยิ้มหยัน “ถ้าเป็นเวินจื่อหรานแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกแก อาจจะมีคุณสมบัติพอมาเล่นกับฉันอยู่บ้าง แต่สำหรับพวกตาแก่ขี้โรคแบบแก…”
“หาที่ตาย!”
เมื่อได้ยินเนี่ยหลิงหลงเรียกตัวเองว่าตาแก่ขี้โรค ดวงตาของผู้อาวุโสสามก็พลันส่องประกายยะเยือกแวบหนึ่ง ตัวคนกลายเป็นเงาดำเส้นหนึ่ง พุ่งเข้าโจมตีเนี่ยหลิงหลงด้วยความเร็ว
“อย่าว่าแต่แกเลย ต่อให้เป็นเนี่ยอู๋โยวในช่วงรุ่งโรจน์มาด้วยตัวเอง ถึงร่วมมือกับพวกแกแล้วจะทำอะไรได้”
ขณะที่เนี่ยหลิงหลงพูดอยู่ ก็ได้ยินเพียงเสียงดัง ‘ตูม’ ครั้งหนึ่ง ปะทะกับผู้อาวุโสสามอย่างรุนแรง
ในวินาทีนั้น มีเสียงดังสนั่นปานฟ้าผ่าในวันที่ร้อนที่สุดแว่วดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
หน่วยข่าวกรองไม่กี่คนของพันธมิตรอู๋เว่ยที่อยู่ในมุมมืด มองการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างผู้อาวุโสสามกับเนี่ยหลิงหลงที่อยู่ด้านล่าง และอดไม่ได้ที่จะมีหยาดเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก
การต่อสู้เหนือชั้นประเภทนี้ พวกเขาสอดมือเข้าไปไม่ได้เลย ถ้าเข้าไปช่วยตอนนี้ จะเป็นการสร้างภาระให้ผู้อาวุโสสาม…
“รีบไปเรียกกองหนุนมาเร็ว!”
หน่วยข่าวกรองคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
“ที่นี่อยู่นอกเขตที่รัฐอิสระ จะไปเรียกคนมาจากไหนล่ะ?!”
เวลานี้อยู่นอกขอบเขตพื้นที่ของรัฐอิสระ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกรณีที่ติดต่อคนของพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้เลย ต่อให้ติดต่อได้แล้ว กว่าจะตามมาถึงที่นี่ คาดว่าก็คงเป็นตอนกลางวันแล้ว
“สมควรตาย น่ากลัวว่าผู้อาวุโสจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนั้น…”
หน่วยข่าวกรองไม่กี่คนของพันธมิตรอู๋เว่ยมองการต่อสู้ด้านล่าง และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
ในเวลานี้ ลมหายใจของผู้อาวุโสสามหอบถี่นิดๆ แล้ว
ฝีมือของเนี่ยหลิงหลงคนนั้น ปราดเปรียวเกินไปแล้ว ยากที่จะมองเห็นได้ คล้ายว่าเขาจะเคยเห็นกระบวนท่าแบบนี้ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว
“เธอเป็นคนของสายหลักสินะ”
ผู้อาวุโสสามมองเนี่ยหลิงหลง พลางเอ่ยเสียงเย็น
กระบวนท่าของสายหลัก ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้
“คนที่กำลังจะตาย รู้ว่าฉันเป็นใครแล้วจะมีประโยชน์อะไร” เนี่ยหลิงหลงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในมือถือกริชเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งไว้
“ตระกูลเนี่ย…เธอคือลูกสาวผู้อาวุโสห้าของสายหลัก!”
จู่ๆ ผู้อาวุโสสามก็นึกอะไรขึ้นมาได้!
ปีนั้น ในศึกใหญ่ระหว่างสายหลักกับสายรอง ผู้อาวุโสห้าตายในการต่อสู้ ลูกสาวของเขาระหกระเหินอยู่ในรัฐอิสระ
มิน่าล่ะ ผู้นำถึงได้สงสารเนี่ยหลิงหลงคนนี้ จึงพากลับไปเลี้ยงดูที่ตระกูลเนี่ยสินะ?!
ทันใดนั้น เนี่ยหลิงหลงก็ยิ้มเย็นแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรต่ออีก กริชในมือทอประกายเยือกเย็นอำมหิต ใช้ความเร็วสุดขีด โดยเฉพาะเมื่ออยู่ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี ใช้เพียงตาเปล่า ก็ยากที่จะมองเห็นได้ชัดเจน
—————————————————————————————
บทที่ 2102 ทีมย่อยของเนี่ยอู๋หมิง
ผู้อาวุโสสามราวกับได้พบศัตรูตัวฉกาจ พอเนี่ยหลิงหลงเข้ามาใกล้ ก็ยกแขนขึ้นเล็กน้อย
เกิดเสียงดังฉึก กริชแทงเข้าไปในแขนของผู้อาวุโสสาม เลือดสดๆ พลันสาดกระเซ็น
‘ปัง!’
ผู้อาวุโสสามตอบสนองอย่างว่องไว คำรามด้วยความโกรธ อดกลั้นต่อความเจ็บปวดบริเวณแขนที่ราวกับจะฉีกขาด จากนั้นก็เล็งไปที่หน้าท้องของเนี่ยหลิงหลง แล้วซัดฝ่ามือใส่อย่างแรง
วินาทีต่อมา เนี่ยหลิงหลงก็ถอยกรูดออกไปหลายก้าว
“แกช่างเป็นสุนัขที่จงรักภักดีซะจริงนะ” เนี่ยหลิงหลงมองผู้อาวุโสสามที่ถูกเลือดย้อมจนแทบจะแดงฉานไปทั้งร่างแล้วด้วยความสนใจ
“พล่ามไร้สาระ รับความตายไปซะ!” ผู้อาวุโสสามตะคอก
“ครั้งนี้ แกไม่โชคดีแบบนั้นอีกแล้ว”
เนี่ยหลิงหลงยกกริชขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับเปล่งประกายเย็นยะเยือกออกมา ดั่งผีร้ายกระหายเลือด
‘ฟุ่บ!’
ประกายแสงเยียบเย็นวาบผ่านเข้ามาด้วยความเร็วสูง
ในเวลานี้ ความเร็วของเนี่ยหลิงหลง ทำให้ผู้อาวุโสสามตอบสนองไม่ทันแล้ว
เมื่อผู้อาวุโสสามได้สติกลับมา ก็สัมผัสได้แค่ความหนาวยะเยือกที่กำลังจะทะลวงเข้าสู่อกของเขา
เกิดสะเก็ดไฟวูบวาบ จู่ๆ หินก้อนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากมุมมืด และพุ่งฉิวเป็นเส้นตรง เข้าปะทะกับกริชในมือของเนี่ยหลิงหลงพอดี
“ใคร”
เนี่ยหลิงหลงเอ่ยเสียงเย็น
ผู้อาวุโสสามรอดชีวิตจากเคราะห์ภัย จึงพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ เช่นกัน
“อะฮ่า รบกวนพวกคุณเข้าแล้วเหรอ”
ชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างผอมบาง ค่อยๆ ก้าวออกมาจากมุมมืด
ยังมีชายหญิงอีกคู่หนึ่งที่ก้าวตามชายหนุ่มออกมาด้วย
บนชุดของสามคนนี้ ปักคำว่า ‘รับจ้าง’ ตัวใหญ่ๆ ไว้
“คนของเนี่ยอู๋หมิง…”
เมื่อเห็นสองชายหนึ่งหญิง เนี่ยหลิงหลงก็หรี่ตาลงนิดๆ และเริ่มใช้ความคิดแล้ว
ดูเหมือนเธอจะโดนจับได้อย่างจังแล้ว
“สหายพันธมิตรอู๋เว่ย บอกผู้นำของพวกคุณด้วยว่า รีบโอนค่าจ้างไปที่บัญชีของหัวหน้าของพวกเราได้เลย ระยะนี้แทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว”
ชายหนุ่มร่างผอมบางมองไปที่ผู้อาวุโสสาม พลางหาวทีหนึ่ง
ผู้อาวุโสสามมีสีหน้างุนงง ไม่รู้เลยว่าคำพูดของชายคนนี้หมายความว่ายังไง โอนเงินไปที่บัญชีของหัวหน้างั้นเหรอ หมายความว่ายังไง
“เนี่ยหลิงหลง เธอยังจะทำร้ายผู้เฒ่าคนนี้ของพันธมิตรอู๋เว่ยอีกไหม”
สายตาของชายร่างผอมบางเคลื่อนไปที่ร่างของเนี่ยหลิงหลง
“หัวหน้าหมู่ค่ะ เธอเห็นพวกเราแล้ว ต้องไม่กล้าลงมือแน่นอนค่ะ!”
เด็กสาวหน้าตาสวยใสหัวเราะคิกคัก
“เอาเถอะ อายะ ไปเล่นกับเธอหน่อยแล้วกัน”
ชายร่างผอมบางเอ่ยยิ้มๆ
“อื้อ ได้เลย!”
จากนั้นเด็กสาวที่ถูกเรียกว่าอายะ ก็ชักกริชเล่มหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ แล้ววิ่งกระโจนเข้าหาเนี่ยหลิงหลง
วินาทีที่กริชทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน ก็เกิดสะเก็ดไฟกระเด็นไปทั่ว
“อุหวา…”
แต่พอผ่านไปสองสามกระบวนท่า อายะก็ถูกเนี่ยหลิงเตะปลิวออกไปแล้ว
“หัวหน้าหมู่ ฉันสู้เธอไม่ได้ เราสามคนเข้ารุมเธอพร้อมกันเถอะ!”
ใบหน้าของอายะเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ชายร่างผอมบางจับปลายคาง “พวกเราผู้ชายตัวเธอสองคนบวกเธออีกคนเข้ารุมผู้หญิงคนเดียวพร้อมกัน…อืม ความคิดนี้ยอดเยี่ยมมาก ฉันเอาด้วย”
ระหว่างที่พูดคุยกัน สองชายหนึ่งหญิงก็พุ่งเข้าใส่เนี่ยหลิงหลงแล้ว
“ฉันไปด้วยคน พวกเราสี่คนรุมเธอกัน!”
ผู้อาวุโสสามตะโกนออกมา พร้อมกับเข้าร่วมการตะลุมบอนด้วย
เวลานี้ เนี่ยหลิงหลงต่อสู้แบบสี่ต่อหนึ่งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“หวา พลังของผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย อาหู่ ทุบเธอให้ฉันซะ!”
ชายร่างผอมบางถอยหลังไปหลายก้าว แล้วเอ่ยกับชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่อยู่ข้างๆ
“ได้ครับหัวหน้าหมู่!”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็ชกสองหมัดเข้าใส่เนี่ยหลิงหลงอย่างดุดัน
มองเห็นเนี่ยหลิงหลงถอยไปอย่างรวดเร็ว
เกิดเสียง ‘ตูม’ดังสนั่น สองหมัดแหวกอากาศ ชกลงบนพื้นจนปรากฏหลุมลึกสองหลุมขึ้นมา
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้อาวุโสสามก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน นี่มันพลังบ้าบออะไรกัน…ถ้าโดนเขาชกสักหมัดล่ะก็…