“การรู้แจ้งของข้าไม่ได้สูงเท่าใดนัก สิ่งสำคัญนั่นก็เพราะว่าตัวข้าเองสัมผัสรู้กฎความตายค่อนข้างลึกซึ้ง ดังนั้นการสัมผัสรู้ของกฎอื่น ๆ ก็จะเป็นการง่ายขึ้นอยู่ไม่น้อย” หลัวซิวเอ่ยตอบ

“หึ การถ่อมตัวของเจ้าทำให้ข้ารู้สึกถึงว่าถึงความไม่จริงใจอย่างมาก ความตายและปริภูมิทั้งสองกฎนั้นแตกต่างกันคนละโลก ต่อให้บอกว่าเจ้ามีพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว แต่สามารถใช้เวลาเพียงหนึ่งปีสัมผัสรู้กฎปริภูมิดั้งเดิมถึงแดนเช่นนี้ได้ นั่นก็ถือว่าการรู้แจ้งของเจ้ามันมหัศจรรย์เพียงใด”

ลดตัวลงมาเป็นจิตภัณฑ์ หงเทียนราวกับรู้สึกหงุดหงิดใจต่อหลัวซิวอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าเรื่องใดก็สามารถเอามาหาเรื่องเขาได้ทั้งนั้น

ก่อนนี้ยังเป็นศัตรูคู่แค้นวางแผนยึดร่างกันอยู่ เพียงพริบตาก็กลายเป็นคู่หูเป็นก็เป็นด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกันไปเสียแล้ว สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวอดเวทนาไม่ได้ โอกาสในชีวิตของคน ช่างน่าอัศจรรย์ใจเสียจริง

จากโลกเชิ่งถิงถึงอนัตตาไม่สิ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้จิตวิญญาณของหลัวซิวได้รับการขัดเกลา โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ได้ครอบครองสภาวะจิตใจที่ยอดเยี่ยม มีความรู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณได้ยกระดับขึ้นไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้วอย่างไรอย่างนั้น

หนึ่งปีแห่งการรู้แจ้ง ท้ายที่สุดก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลสำเร็จ โซ่ที่บีบรัดมาโดยตลอด อยู่ดี ๆ ก็ราวกับว่าทำน้ำไหลหลากพัดพาให้หลุดออก

“ปัง!”

ออร่าอันแข็งแกร่งบนตัวของหลัวซิวอยู่ ๆ ก็ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน โซ่ตรวนที่บีบรัดผลการฝึกตนได้ถูกทำลาย ผลการฝึกตนก้าวเข้าสู่แดนเจ้ายุทธจักร!

“ทำลายมัน!”

เขาใช้พลังของหอกยุทธ์มังกรดำที่ปะทุออกมา เขาบังคับเปิดเส้นทางสีดำยาวในสถานที่แปลกประหลาดอย่างอนัตตาไม่สิ้น

……

สำหรับผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ ระยะเวลากว่าเจ็ดปีนั้นไม่นับว่ายาวนานแต่อย่างใด ถึงแม้จะนับรวมเวลาที่หลัวซิวอยู่ในโลกเชิ่งถิงทั้งหมด ก็เพียงราว ๆ เก้าปีเท่านั้น ไม่ถึงสิบปี

ตั้งแต่เขาได้ใช้เดินทางไปยังโลกอื่น ๆ นั้น กองกำลังต่าง ๆ ของโลกแสงดาวก็ได้ส่งคนออกค้นหารอบ ๆ โลกพิภพหลายแห่งรอบแดนดารานอก

เพียงแค่โลกอื่น ๆ ส่วนมากนั้นมักจะปฏิเสธการมาของจอมยุทธ์จากแดนอื่น เพราะเหตุนี้การค้นหาหลัวซิวของแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จึงเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนั้น

แต่ว่ากองกำลังต่าง ๆ ก็ไม่ได้ล้มเลิกแต่อย่างใด พวกเขาแน่ใจว่าหลัวซิวอย่างไรก็จะต้องกลับมา แต่หากเขาต้องการที่จะกลับมานั้น ก็ต้องผ่านทางจากโลกอื่นมาที่แดนดารานอก จากนั้นจึงอาศัยค่ายวาร์ปจากแดนดารานอกกลับมาที่โลกแสงดาว

เพราะฉะนั้น กองกำลังต่าง ๆ ได้เพิ่มกำลังคน ในขณะที่สั่งสมประสบการณ์ที่แดนดารานอก ก็สังเกตข่าวคราวของหลัวซิวอย่างใกล้ชิดว่ามีข่าวการปรากฏตัวของเขาหรือไม่

ในวันนี้ สถานที่แห่งหนึ่งของแดนดารานอก สายฟ้าฟาดผ่านไปทั่วท้องฟ้าที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ

ทันใดนั้น เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนทั้งฟ้าดิน หอกรูปมังกรดำแทงทะลุท้องฟ้า พื้นฟ้าเกิดรอยร้าวและแตกเป็นผุยผงในที่สุด

“ซวบ!”

ร่างหนึ่งเดินออกมาจากรอยแยกบนท้องฟ้านั้น สวมชุดสีดำ มือถือหอกรบ ออร่าล้ำลึกและทรงพลัง

“คิดไม่ถึงว่าเส้นทางผ่านจากอนัตตา จะมาโผล่ที่แดนดารานอกโดยตรง”

หลัวซิวมองไปรอบ ๆ มองแค่แวบเดียวก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าที่ภาพแวดล้อมแห่งนี้คือแดนดารานอกอย่างไม่ต้องสงสัย

เดิมทีเขานั่งค่ายวาร์ปจากตำหนักเทวมืด ก็เพื่อจะย้ายมายังแดนดารานอก จากนั้นถูกเจ้าสำนักมืดออกโรงหยุดยั้งการวาร์ป ดังนั้นจึงได้หลงเข้าไปในอนัตตาไม่สิ้น

ท้ายที่สุดเขาก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมาย มาถึงแดนดารานอกได้

เพียงแค่สิ่งที่ทำให้อารมณ์เสียนั้นก็คือ แต่เดิมนี่เป็นสถานที่ที่สามารถใช้เวลามาถึงได้อย่างรวดเร็ว แต่ทำให้เขาต้องใช้เวลานานถึงเจ็ดปีกว่าจะมาถึง

“นั่นหลัวซิว!”

ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังขึ้น หลัวซิวหรี่ตามองไปทางต้นตอของเสียง เห็นว่าพื้นที่ด้านล่างห่างไปไม่ไกลนักมีจอมยุทธ์หลายคนจากโลกแสงดาวอยู่

เครื่องแบบบนร่างของพวกเขา เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามาจาก แดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แห่งโลกแสงดาว มีเขาชะตาเทพและแดนศักดิ์สิทธิ์กระบี่ล้ำ ต่างเป็นกองกำลังใหญ่แห่งอาณาจักรเหนือ

พวกเขาทั้งหมดสิบคน ต่างมีผลการฝึกตนระดับเจ้ายุทธจักร