บทที่ 2107 ย้อนความทรงจำ
“บวกรวมกับหนี้ครั้งก่อนด้วย…ให้ฉันคำนวณก่อน…” ผู้อำนวยการตกอยู่ในภวังค์ความคิด
พอเห็นว่ามีหวัง เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มแฉ่งทันที “ท่านผู้อำนวยการคะ ยังต้องคำนวณอะไรอีกล่ะ พอถึงเวลาขอเพียงความทรงจำของฉันกลับคืนมา รับประกันเลยว่าติดอยู่เท่าไรฉันก็จะใช้คืนให้เท่านั้น ถ้าฉันติดค้างไว้แม้แต่คะแนนเดียว ขอให้ฟ้าผ่าฉันเลย!”
“จริงเหรอ” ผู้อำนวยการเอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจอยู่บ้าง
“จริงสิคะ จริงเสียยิ่งกว่าทองด้วย!” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารัวๆ
สุดท้าย ผู้อำนวยการก็ถอนหายใจด้วยความจนปัญญามาก “เอาละ งั้นฉันจะเชื่อเธอเป็นครั้งสุดท้าย ไปนอนที่เดิมสิ”
ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงไปนอนลงบนเก้าอี้เอนหลัง
ผู้อำนวยการเตรียมตัวอยู่นานมาก กว่าจะเดินเข้ามาหาเยี่ยหวันหวั่น
จากนั้นผู้อำนวยการก็เอ่ยชักจูงจิตใจไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าเยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกว่าฟ้าดินพลิกหมุน เซื่องซึมง่วงงัน ใช่เวลาเพียงครู่เดียวก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์แล้ว
….
“คุณตาขา หนาวจัง!”
ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ดูเหมือนว่าจะอยู่บนภูเขาหิมะลูกหนึ่ง ในอากาศมีหิมะโปรยปราย บนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างก็มีหิมะปกคลุม
หนูน้อยค้อมตัว เดินตามชายชราที่มีท่าทางเข้มงวดมาก ย่างเท้าเดินอย่างระมัดระวัง ทุกๆ ก้าว หิมะจะท่วมเลยหัวเข่าของหนูน้อย
“อู๋โยว ตามตามา” ชายชราหันกลับไปเอ่ยกับหนูน้อย
“คุณตาขา หนูหนาวมาก” หนูน้อยเดินย่ำหิมะ เนื้อตัวสั่นเทาไปหมด
“ความลำบากที่หลานได้รับในตอนนี้ จะเป็นความรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่ให้หลานในอนาคต เข้าใจไหม” ชายชราพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“แต่ว่า คุณตา…หนูหนาวมากจริงๆ” หนูน้อยจ้องมองชายชราด้วยน้ำตาคลอเบ้า
เมื่อเห็นดังนั้น ชายชราก็ครุ่นคิดอยู่นาน แล้วค่อยๆ ก้าวเข้ามา อุ้มหนูน้อยไว้ในอ้อมแขน
“คุณตาอุ่นจริงๆ” หนูน้อยใช้สองมือแดงก่ำ โอบคอของชายชราไว้
“ไปถึงข้างหน้าแล้วเดินเองนะ”
ชายชราอุ้มหนูน้อยไว้ พลางสาวเท้าก้าวใหญ่ๆ มุ่งไปด้านหน้า
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หัวใจเยี่ยหวันหวั่นก็สั่นไหวนิดๆ ชายชราที่มีสง่าราศีคนนั้นก็คือคุณตาของตัวเองใช่ไหม…
แต่ว่าสรุปแล้วตอนนี้คุณตาจะไปไหน อยู่ที่ไหนกันแน่
“อุ่นแล้วใช่ไหม”
หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ชายชราก็อุ้มหนูน้อยเดินฝ่าหิมะ มาถึงเนินสูงแห่งหนึ่ง
“อื้อ อุ่นแล้วค่ะ” หนูน้อยจ้องมองชายชรา พร้อมกับพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง
“เดินเองนะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายชราก็ปล่อยหนูน้อยลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล
“คุณตาขา หนูหิวแล้ว…” หนูน้อยกุมท้อง แล้วมองชายชราอย่างน่าสงสาร
“อู๋โยว หลานยังจำได้ไหมว่าตัวเองมาทำอะไร” ชายชราหันมา และจ้องมองหนูน้อยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“คุณตา หนูรู้ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้า “คุณตาอยากสอนหนูให้อดทนต่อความยากลำบาก ต่อไปจะได้กลายเป็นยอดคน”
“ในเมื่อรู้แล้ว งั้นก็ต้องอดทน ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมจะลำบากยากแค้นแค่ไหน ก็ต้องเผชิญหน้าด้วยรอยยิ้ม เข้าใจไหม” ชายชรากล่าว
“อู๋โยวเข้าใจแล้วค่ะ!” หนูน้อยยิ้มนิดๆ แต่จากนั้น รอยยิ้มก็เลือนหาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความคับข้องหมองใจอีกครั้ง “แต่ว่า หนูหิวจริงๆ นี่นา…อู๋โยวกลัวว่าถ้าหิวตาย ก็จะไม่ได้เจอพี่ซิวหร่านอีก…”
“เธอ!”
ในที่สุดชายชราก็โมโหขึ้นมาบ้างแล้ว แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจ แล้วก่อกองไฟขึ้นใกล้ๆ “ผิงตัวอยู่ที่นี่ อย่าไปที่อื่น เข้าใจไหม”
“อื้อ!” หนูน้อยตอบรับ
พอพูดจบ ชายชราก็หันหลังเดินออกไป
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ชายชราก็หิ้วกระต่ายป่าตัวหนึ่งเดินมาจากทิศทางที่ไกลออกไป
นั่งลงข้างกองไฟ แล้วชายชราก็ใช้กริชจัดการกระต่ายให้สะอาด จากนั้นก็ย่างไว้เหนือกองไฟ
ไม่นานนัก กลิ่นหอมของกระต่ายย่างก็โชยออกมา หนูน้อยจ้องมองกระต่ายป่าที่เป็นสีเหลืองทอง มันย่องไปทั้งตัว น้ำลายไหลย้อยออกมาจากมุมปาก
—————————————————————
บทที่ 2108 เด็กชายตัวน้อย
“ไม่ได้เรื่อง!” ชายชราขยับเข้ามา ใช้มือเช็ดคราบน้ำลายที่มุมปากของหนูน้อยให้สะอาด
“เดี๋ยวค่อยกิน ยังร้อนเกินไป!” เมื่อเห็นหนูน้อยยื่นมือออกไป ชายชราจึงดุ
“โอ้…” หนูน้อยถูกชายชราดุแล้ว จึงได้แต่รอคอยต่อไปด้วยความร้อนรน
“คุณตาขา ทำไมพวกเราถึงไม่พกเสบียงมาด้วยล่ะคะ” ระหว่างที่รอ หนูน้อยก็มองไปที่คุณตาด้วยความไม่เข้าใจ
พอชายชราได้ยิน ก็ต้องมองมาหนูน้อย “พอหลานโตขึ้น อาจจะต้องอาชีวิตรอดในป่าเขา พอถึงเวลานั้น ถ้าหลานไม่มีเสบียงติดตัวจะทำยังไง หรือหลานจะรอความตายกันล่ะ ถ้าหลานเรียนรู้ทักษะพวกนี้เอาไว้ พอถึงเวลาต่อให้ไม่มีของกิน ไม่มีน้ำดื่ม หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง หลานก็จะเผชิญหน้าได้อย่างสุขุม เข้าใจไหม”
“อู๋โยวเข้าใจแล้วค่ะ คุณตา” หนูน้อยพยักหน้าอย่างคล้ายจะเข้าใจ
“กินเถอะ” ชายชรายื่นกระต่ายย่างทั้งตัวให้หนูน้อย
“คุณตา คุณตาก็ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเหมือนกัน คุณตากินสิคะ” หนูน้อยเอ่ย
“รีบกินเถอะ ตาไม่หิว” ชายชราคล้ายจะหมดความอดทนแล้ว
พอได้ยินว่าชายชราไม่หิว หนูน้อยจึงจ้องกระต่ายย่าง และน้ำลายก็ไหลออกมาอีกครั้ง จ่อกระต่ายย่างไว้ตรงจมูกแล้วดมเล็กน้อย จากนั้นก็กัดลงไปคำหนึ่ง
กระดูกทั้งหมดของกระต่ายถูกชายชราเลาะออกไปแล้ว เด็กหญิงจึงกินได้สะดวกมากขึ้น
“คุณตา หนูกินอิ่มแล้วค่ะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง หนูน้อยก็เอ่ยกับชายชรา
“อืม…”
ชายชรามองกระต่ายย่างที่เหลืออยู่ครึ่งตัว จึงหยิบขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ และกินเข้าไปทีละคำๆ จนหมดเกลี้ยง
….
ตกดึก ภายในถ้ำ
หิมะนอกถ้ำไม่นับว่าตกหนัก แต่ก็ไม่ถึงกับน้อย กองไฟภายในถ้ำส่องสว่างและอบอุ่น หนูน้อยนั่งอยู่ข้างกองไฟ ไม่รู้สึกถึงความเหน็บหนาวเลย
ขณะที่หนูน้อยง่วงงุน กลับได้ยินเสียงคล้ายจะแว่วมาจากนอกถ้ำ เป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่แผ่วระโหย ตามมาด้วยเสียงหอนของหมาป่า
หนูน้อยตกใจตื่นแทบจะในทันที
“คุณตาขา เหมือนจะมีคนเลย” หนูน้อยมองชายชราที่หลับตาอยู่พลางเอ่ยอย่างระมัดระวัง
ทว่า ชายชรากลับไม่ขยับเขยื้อนเลย ราวกับว่าหลับไปแล้ว
เสียงร้องขอความช่วยเหลือชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดหนูน้อยก็ทำใจกล้า ก้าวออกไปด้านนอกถ้ำทีละก้าวๆ
“ช่วยด้วย…”
นอกถ้ำ เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งหายใจหอบถี่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เลือดสดๆ ไหลย้อยลงมาตรงหางตา มีรอยแผลที่เห็นแล้วต้องผวาอยู่รางๆ ดูเหมือนจะถูกกรงเล็บที่แหลมคมกรีดข่วน
เด็กชายนอนหงายอยู่บนพื้น ใช้มือและเท้าคืบคลานถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ความเร็วจะเทียบชั้นกับสัตว์ป่าได้ยังไง
แทบจะในวินาทีนี้เอง หมาป่าสีขาวปลอดทั่วทั้งตัว มีเขี้ยวแหลมเรียงรายส่องประกายยะเยือก ร้องคำรามแล้วโผเข้าใส่เด็กชายแล้ว
ใบหน้าของเด็กชายซีดเผือด ใกล้จะสิ้นหวังแล้ว แต่ปากยังคงร้องขอความช่วยเหลือไปตามสัญชาตญาณ
ทันใดนั้นเอง แสงสว่างก็พลันปรากฏขึ้น อุณหภูมิที่ร้อนผ่าวราวกับจะหลอมละลายหิมะหนาได้
ในมือของหนูน้อยถึงท่อนฟืนติดไฟลุกโชนไว้ พลางวิ่งเหยาะๆ ไปหยุดข้างตัวเด็กชาย แล้วใช้คบเพลิงกวัดแกว่งไปทางหมาป่า
เวลานี้ ใบหน้าของหนูน้อยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่ในสมองกลับจดจำสิ่งที่คุณตาเคยบอกเอาไว้ได้ หมาป่ากลัวเปลวไฟที่สุด
เด็กชายจ้องมองเด็กหญิงตรงหน้าที่โตกว่าเขาไม่เท่าไรด้วยความประหลาดใจ
เด็กผู้หญิงคนนี้เหมือนหล่นลงมาจากฟ้า แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญนั้น มอบความรู้สึกปลอดภัยให้คนที่เห็นได้อย่างน่าประหลาด
หมาป่าจ้องมองหนูน้อย หางของมันชี้ลู่ลง ในดวงตาของสัตว์ร้ายเต็มไปด้วยเยียบเย็น เขี้ยวแหลมคมเพียงพอจะฉีกทึ้งทุกสิ่งอย่างได้ และทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
ในเวลานี้ หมาป่าคำรามเสียงต่ำใส่หนูน้อย
“คุณตาขา หนูกลัว…”
ใบหน้าของหนูน้อยเต็มไปด้วยตื่นตระหนก เธอมองไปทางถ้ำเป็นระยะๆ ตอนนี้หนูน้อยนึกเสียใจแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ปลุกคุณตากันนะ วิ่งออกมาคนเดียวซะได้
……………………………………………