คืนนี้ หลังจากเส้นหมี่กลับมาถึงเดอะวิวซี ส่งลูกเข้านอนแล้ว เธอกลับมาที่ห้องนอนของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ออกมารายงานเรื่องตอนกลางวันกับชายหนุ่มที่ยังอยู่ในค่ายทหาร
สมรมณ์วัลย์ เธอไม่มีทางให้พวกเขาอยู่อย่างเป็นสุขอีกต่อไป
ตลอดมา เป็นคนที่รู้จักบุญคุณและรู้จักเกลียดชัง เธอทนมองอยู่ไม่ได้แม้ครอบครัวพวกเขาจะถูกทำลายขนาดนี้แล้ว แต่ว่าคนเหล่านี้ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
อีกทั้งยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ถ้าพวกเขาเป็นหนอนบ่อนไส้ของตระกูลเทวเทพจริงๆ ทรัพย์สมบัติของตระกูลเทวเทพก็ไม่ใช่ว่าจะมาก ถ้าเปรียบเทียบกับหิรัญชากรุ๊ป อาจจะดูเหมือนมากแต่จริงๆแล้วก็เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ว่า การสูบเลือดของคนเหล่านี้ ถ้าเปรียบเทียบกับคนเหล่านั้นที่อยู่คฤหาสน์หิรัญชาในตอนนั้นน่ากลัวกว่ามาก
แน่นอน เธอไม่รู้เลยว่า ในสายเลือดสายนี้ ยังมีคนที่สำคัญคนหนึ่งที่ยังไม่ถูกกำจัด นั่นก็คือเรื่องของทรงกลดเรื่องนี้ นีรวรรณถือว่าเป็นผู้ไม่มีส่วนร่วม เธอไม่ได้ถูกสั่งประหาร
เธอถูกกักขังเอาไว้ครึ่งปี หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว
——
เส้นหมี่ส่งข้อความเสียงอันยาวออกไป
เดิมคิดว่าจะได้รับข้อความตอบกลับโดยเร็ว เพราะว่า ช่วงนี้ เขาไม่ค่อยจะให้เธอรอนาน
แต่วันนี้ จนเธอนอนหลับไปแล้ว เธอรอไม่ถึงเขาส่งข้อความตอบกลับมา จนถึงตอนที่เธอใกล้จะหลับสนิท เหมือนกับว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากชั้นล่าง
“อะไรนะ?”
“……ค่ายทหาร?”
“เร็ว!”
“……”
อย่างรีบร้อน อย่างลุกลี้ลุกลนกระวนกระวาย……
แต่ว่า เสียงนั้น ตั้งแต่แรกจนจบถูกกดเอาไว้เบามาก ที่ดังมาหาเธอที่ชั้นบนไม่ชัดเจนสักนิด จากนั้นในที่สุดเธอก็หลับลึกลงไปแล้ว
คิดว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เจอคนที่เธอห่วงหามาโดยตลอดแล้ว เธอหลับฝันหวานมุมปากเผยรอยยิ้มออกมา……
รุ่งเช้า
เธอถูกแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ตื่นแล้ว
แสงแดดนั้น ในยามเช้าของแรกฤดูใบไม้ร่วง ความจริงแล้วไม่ได้ร้อนมาก อุณหภูมิกำลังพอดี แสงแดดก็ไม่แรงเหมือนกับม่านสีทองที่ปกคลุมลงมา สาดส่องเข้ามาบนใบหน้าของเธอ ขนตายาวงอลงามขยับไปมา
ไม่นาน ดวงตาทั้งสองข้างเปิดเปลือกตาออกมาแล้ว
แย่แล้ว เธอตื่นสายได้อย่างไร? วันนี้เธอยังต้องไปรับเขานี่
เธอมองเห็นแสงแดดที่ส่องสว่าง ทันใดในสมองก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมา ทันใด เธอเลิกผ้าห่มออกแล้วกระโดดลงมาแล้ว
“คุณผู้หญิง คุณตื่นแล้วเหรอ?”
“ใช่ รองผู้นำเดชาพวกเขาไปรับคุณชายหรือยัง?”
เส้นหมี่ไม่ง่ายกว่าจะจัดการชั้นบนให้เสร็จแล้วลงมา หลังจากมองเห็นน้าแจ๋วสาวใช้ที่อยู่ชั้นล่าง เธอรีบร้อนเปลี่ยนรองเท้า พร้อมทั้งถามออกมา
ทันใดสีหน้าน้าแจ๋วเปลี่ยนไปทันที
“ไปแล้ว เอ่อคือว่า……คุณผู้หญิง คุณท่านให้ฉันบอกกับคุณว่า เช้านี้คุณไม่ต้องไปหรอก พวกเขาจะรับคุณชายกลับมาเอง”
“หืม?”
เส้นหมี่ได้ฟังแล้ว ทันใดใบหน้าเล็กก็ซึมลงมาแล้ว
เธอไม่อยากให้พวกเขาไปรับเขา เธออยากจะไปเอง นั่นคือผู้ชายของเธอนะ
เส้นหมี่หดหู่ใจมาก
แต่สุดท้ายแล้ว เธอไม่ยอมไม่ได้ เพราะว่า ไชยันต์คนนี้ไปรับด้วยตัวเอง เธอไม่ยินยอมก็ทำอะไรไม่ได้
“ก็ได้ งั้นถ้าเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราไปทำกับข้าวเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักพวกเขากลับมาก็มีให้ทานแล้ว”
“……ได้”น้าแจ๋วตอบรับอย่างลังเลมาคำหนึ่ง
หลังจากนั้น ทั้งสองก็เดินเข้าห้องครัวไป
วันนี้ตอนเช้าเส้นหมี่เตรียมสิ่งที่แสนรักชอบทานเอาไว้มากมาย รวมทั้งขนมปังไส้เนย ไข่ดาว สเต๊ก ยังมีซุปเห็ดทรัฟเฟิล ตับห่าน……เป็นต้น
แม้แต่เกี๊ยว เธอก็ยังเตรียมเอาไว้บางส่วน
นานแล้วที่เธอไม่ได้ห่อเลย
น้าแจ๋วที่อยู่ด้านข้างได้เห็นแล้ว ขอบตาชื้นนิดหน่อย
“คุณผู้หญิง ที่แท้คุณยังห่ออันนี้เป็นด้วย”
“เป็นสิ เขาไม่ชอบอาหารจีน ตอนเด็กเขาที่อยู่ต่างประเทศ อยู่ที่นั่นตั้งหลายปี จึงคุ้นชินกับอาหารฝรั่ง เกี๊ยวอันนี้ เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทานได้”
เธอพูดออกมาอย่างภูมิใจ
ความจริงแล้วในตอนแรกเกี๊ยวเขาก็ไม่ยอมทาน ต่อมาเธอกลับมาแล้ว จากการหลอกล่อของเด็กๆทั้งสองคน เขาจึงยอมทาน
เส้นหมี่เตรียมเอาไว้หลากหลายเต็มโต๊ะไปหมด
เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะกลับมาโดยเร็ว แต่ว่า เส้นหมี่อยู่ที่ห้องอาหารจากตอนเช้าแปดโมงกว่า รอจนใกล้จะถึงสิบเอ็ดโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขายังไม่กลับมาอีก?”
เส้นหมี่ได้หมดความอดทนลงแล้ว เธอมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่กำแพง เตรียมจะออกไปดูด้วยตนเอง
น้าแจ๋วได้เห็น สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว
ในขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือออกไปจับเธอไว้ เวลานี้ ทันใดเส้นหมี่ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังมาจากด้านนอก ทันใดแววตาเปล่งประกาย เธอวิ่งออกไปแล้ว
“คุณ……คุณท่าน? เป็นคุณนี่เอง”
ยังมีคำที่เหลือติดอยู่ในลำคอแบบนี้แล้ว เส้นหมี่วิ่งออกมาอย่างดีใจ มองเห็นไชยันต์ที่เข้ามาจากหน้าประตู ตะลึงงันไป
สีหน้าของไชยันต์ซีดขาวนิดหน่อย ลักษณะท่าทางทั้งร่างดูไม่ค่อยจะดี
แต่ว่า หลังจากเขาได้เห็นเด็กคนนี้ ยังพยักหน้า:“อืม มีเรื่อง?”
เส้นหมี่เบลอไปทันที
ไม่ใช่ เขาไปรับคนมาไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ยังถามเธอว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
เส้นหมี่ร้อนรนแล้ว:“ไม่ใช่ว่าคุณไปรับเขาเหรอ? ทำไมยังไม่เห็นเขากลับมา? น้าแจ๋วฟังผิดหรือเปล่า? คุณไม่ได้ไป?”
เธอร้อนรนเป็นอย่างมาก ท่าทางตอนนี้เพียงแค่ไชยันต์พูดอะไรเขาไม่ดี งั้นเธอก็จะพุ่งไปที่ประตูใหญ่พร้อมที่จะสู้
ไชยันต์กำหมัดแน่น
วินาทีนี้ เขายังตอบกลับมาเบาๆหนึ่งประโยค:“ผมส่งเขาเข้าไปที่ฐานทัพอีก ให้เขาได้ฝึกฝนอีกสักหน่อย”
“……”