เส้นหมี่โมโหแล้ว!
ยังส่ง?
ตาแก่คนนี้เป็นประสาทหรือเปล่า? ส่งไปไม่หยุดอยู่นั่นแหละ เขานึกว่าเขาเป็นเด็กเหรอ? หรือว่าเขาเป็นสิ่งของ? ทำไมถึงได้ตัดสินใจเอาไปวางตรงไหนก็ได้
เส้นหมี่ทนไม่ไหวแล้ว:“คุณทำผิดหรือเปล่า? ทำไมถึงชอบทำแบบนี้กับเขา คุณเคยนึกถึงความรู้สึกของเขาหรือเปล่า? เขาไม่ใช่ทหารสักหน่อย ทำไมถึงชอบส่งเขาไปสถานที่แบบนั้น? หรือว่าคุณยังหวังจะให้เขาไปทำสงคราม?!!”
“คุณกำลังพูดอะไร? คุณพูดอีกทีซิ?”
“จะให้พูดอีกล้านครั้งก็เป็นแบบนี้!ฉันจะบอกคุณนะไชยันต์คุณไม่มีคุณสมบัติใดที่จะทำแบบนี้กับเขา คุณไม่ได้เลี้ยงดูเขา และคุณก็ไม่ได้สั่งสอนเขา แม้แต่ชีวิตของเขา ต่างก็เป็นคนอื่นช่วยออกมาจากกรงเล็บเสือของคุณ ตอนนี้คุณมีอำนาจอะไรไปบังคับให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้?”
เส้นหมี่ไม่ได้เกรงกลัวสักนิด เธอโมโหด่าออกมาต่อหน้าชายชราคนนี้
เธอโมโหมากจริงๆ
เพราะว่า สำหรับตาแก่คนนี้ พวกเขาสองสามีภรรยาไม่ได้มีบุญคุณติดค้าง ตั้งแต่ปีนั้นที่เขาปล่อยลูกชายของตัวเองขุนนายไป จากนั้นแสนรักหนีตายเอาชีวิตจนอยู่บนโลกใบนี้
พูดได้ว่า เขาไม่สามารถผลักความรับผิดชอบนี้ออกไปได้
จากนั้นต่อมา วุฒิพลปรากฏตัว ทำให้ตระกูลหิรัญชาของพวกเขาแตกสลายตายอนาถ เขายิ่งไม่สามารถให้อภัยได้แล้ว
ดังนั้น เธอคิดไม่ออกจริงๆ ตอนนี้ตาแก่คนนี้มีสิทธิ์อะไรกัน? คิดว่าตัวเองยังมีคุณสมบัติที่จะมาควบคุมแสนรักอีกเหรอ?
ไชยันต์โมโหจนตัวสั่นไปทั้งร่าง
แต่ว่า สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ตอบกลับอะไร ทว่ายังยืนอยู่ที่นั่นบังคับให้ตัวเองใจเย็นลง หลังจากนั้นมองไปยังรองผู้นำเดชาที่เดินเข้ามาด้วยกันส่งสัญญาณออกไป
“พาเธอไปไว้ชั้นบน!”
“คุณพูดอะไรนะ?”ทันใดเส้นหมี่เหมือนกับว่าถูกอะไรบางอย่างช็อตเข้า!
“คุณหมายความว่าอย่างไร? คุณยังคิดที่จะกักบริเวณฉันเอาไว้งั้นเหรอ?!!”
“คุณวางใจเถอะ รอส่งเขาถึงฐานทัพแล้ว ผมจะปล่อยคุณออกมาเอง ตอนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทำลายเรื่องนี้ คุณอยู่ในห้องอย่างว่าง่ายไปจะดีกว่า”
ตาแก่คนนี้พูดจบลงอย่างเย็นชา โบกมือแวบเดียว ทันใด รองผู้นำเดชาที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เข้ามาแล้ว
เส้นหมี่ได้เห็นสถานการณ์แล้ว ทั้งตกใจทั้งโมโห วิ่งหนีในทันใด
แต่ว่า เธอผู้หญิงคนหนึ่ง จะสู้มือของทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดีได้อย่างไร พึ่งจะวิ่งได้ไม่กี่ก้าว ไหล่ของเธอก็ถูกรองผู้นำเดชาจับเอาไว้แล้ว
“คุณผู้หญิง ต้องขอโทษด้วย!”
หลังจากนั้น เขาก็จับเธอ ลากเธอขึ้นลิฟต์มาแบบนี้แล้ว
“ไชยันต์ ฉันจะบอกคุณนะ สักวันหนึ่ง คุณจะเสียใจทีหลัง!!”อยู่ตั้งไกล ก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างสุดเสียงของเธอ
“……”
พ่อบ้านสินที่มองอยู่ด้านข้าง ในที่สุดก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้:“คุณท่าน คุณทำแบบนี้ คุณไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้เหรอ? แต่ว่า กระดาษจะไปปกปิดไฟได้อย่างไร คุณชายเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่สามารถจัดการได้โดยเร็ว ยังไงเสียเธอก็ต้องรู้อยู่ดี”
“งั้นก็รอเธอรู้เรื่องแล้วค่อยว่ากัน!”
ไชยันต์ไม่เหลือพื้นที่ให้เจรจา
หลังจากนั้น ใบหน้าชราอันขุ่นมัว ก็ไปที่ห้องหนังสือแล้ว เป็นเวลานาน ไม่ได้ออกมาอีกเลย ทว่าเดอะวิวซี ก็เหมือนกับว่าได้กลายเป็นเวลากลางคืนไปแล้วยังไงอย่างงั้น
ทุกคนต่างรู้สึกอึดอัดเหมือนกับว่าถูกความมืดครึ้มอึมครึมกดดันเอาไว้เหนือศีรษะ
เส้นหมี่ถูกขังเอาไว้ในห้อง
เธอโมโหเป็นอย่างมาก ออกแรงทุบห้องให้คนปล่อยเธอออกไป แต่ว่า กลับไม่มีคนสนใจ หลังจากรองผู้นำเดชานำเธอส่งมาข้างบน ออกคำสั่งห้ามมาโดยตรง แม้แต่สาวใช้ก็ห้ามขึ้นไป
“พวกแกไอ้พวกไม่รู้จักบุญคุณคน ไม่มีทางได้ตายดีหรอก!”
สุดท้ายเธอดิ้นรนอยู่อย่างนั้นจนหมดแรงแล้ว แฝงไปด้วยความเกลียด ความผิดหวัง นั่งลงอยู่หน้าประตู
หลังจากนั้นหลายชั่วโมง ในที่สุด จนถึงตอนเที่ยง น้าแจ๋วสาวใช้ที่อยู่ชั้นล่าง ก็ได้รับอนุญาตให้มาส่งข้าว:“คุณผู้หญิง ฉันมาเอาข้าวมาให้คุณ คุณทานสักหน่อยเถอะ”
เธอไม่กล้าเปิดประตูบานนั้น เกรงว่าเธอจะใช้โอกาสนี้วิ่งหนีออกมา นำข้าวและอาหารส่งไปทางหน้าต่าง หลังจากนั้นก็ตะโกนออกไปอย่างระมัดระวัง
เส้นหมี่ไม่มีปฏิกิริยาใด
ทานข้าว?
ตอนนี้พวกเขาทำเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ต่อพวกเขาสองสามีภรรยา เธอยังจะทานข้าวอะไรอีกล่ะ?
เส้นหมี่อยู่ที่หลังประตูนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ตัวเองไปสมรมณ์วัลย์ ยังมีความคิดที่จะบริหารจัดการตระกูลเทวเทพอย่างจริงใจ ริมฝีปากขาวซีดอดที่จะยิ้มเยาะออกมาไม่ได้
“คุณผู้หญิง งั้น…..ฉันวางเอาไว้ตรงนี้นะ สักพักคุณค่อยทานเอง”
น้าแจ๋วรออยู่นาน เธอเห็นว่าด้านในไม่มีปฏิกิริยาอะไร ทำได้เพียงตะโกนบอกคำหนึ่ง เตรียมที่จะออกไป
แต่เวลานี้ ในห้องนี้ ทันใดเสียงแหบพร่าเสียงหนึ่งก็ดังออกมาแล้ว:“ไปหยิบโทรศัพท์ฉันมา”
น้าแจ๋ว:“……”
“ทำไม? แม้แต่สิ่งนี้ก็ไม่ยินยอมงั้นเหรอ? ดี งั้นคุณลงไปบอกไชยันต์นะ ถ้าแม้แต่ความต้องการนี้ยังทำให้พอใจไม่ได้ ตอนนี้ฉันจะตายในห้องนี้ให้เขาดู!”
เส้นหมี่เพื่อที่จะเอาเครื่องมือสื่อสารของตัวเองกลับคืนมา สุดท้ายจึงพูดคำพูดที่โหดเหี้ยมออกมาหนึ่งประโยค
ทันใดน้าแจ๋วตกใจเข้าแล้ว
เธอไม่กล้าชักช้าอยู่แล้ว รีบลงไปรายงานเรื่องนี้
หลังจากนั้นสิบกว่านาที ในที่สุด เส้นหมี่ที่ถูกขังอยู่ในห้อง ได้โทรศัพท์ของตัวเองแล้ว
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เธอโมโหอย่างมากคือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตของเธอถูกตัดขาด โทรศัพท์อันนี้มาอยู่มือ นอกจากสามารถเล่นเกมแก้เบื่อให้เธอได้ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ไอ้แก่คนนี้!
เส้นหมี่เจ็บใจขึ้นมาอีก เกือบจะหายใจแทบไม่ทันแล้ว
แต่สุดท้าย เธอถูกขังอยู่ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยเปิดโทรศัพท์ออกมา