เล่มที่ 34 เล่มที่ 34 ตอนที่ 1012 รู้ได้อย่างไรว่าตอบโต้ไม่ได้...

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ทว่า… นี่มันสะเพร่าเกินไปกระมัง?

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น สาเหตุที่ยืนพูดคุยอยู่ที่นี่ ล้วนอาศัยพลังเฮือกสุดท้าย หากไม่มีพลังเฮือกสุดท้ายนี้ ไม่แน่ว่าคงล้มพับไปตั้งนานแล้ว

แค่ยาขวดเดียวจะทำอันใดได้?

ซูจิ่นซีเข้าใจความหมายของเฉาเซิง นางมองกลับไปและยกยิ้มเล็กน้อย “อาจารย์อาไม่ต้องกังวล ท่านเดินพลังลมปราณและพยายามนั่งสมาธิอย่างระมัดระวังเป็นเวลาครึ่งชั่วยามเถิด”

จากนั้นเฉาเซิงจึงนั่งบนพื้นและเดินพลังทำสมาธิ

ชื่อหง ผู้นำผาอวิ๋นเสียยังไม่ได้สติ ซูจิ่นซีมาอยู่ข้างกายนางเพื่อตรวจชีพจรให้นาง ท่าทางแต่เดิมที่จริงจังนั้นยิ่งจริงจังมากยิ่งขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้าง? ” เยี่ยโยวเหยาเดินมาถึงข้างกายซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเหลือบมองเยี่ยโยวเหยา

“เลือดพิษที่พบในเส้นทางลับก่อนหน้านี้ไหลออกมาจากร่างของอาจารย์อาชื่อหง นางถูกพิษ”

พิษทั่วไป สำหรับซูจิ่นซีถอนพิษได้ไม่ยาก ทว่าพิษที่ทำให้นางแสดงสีหน้าเช่นนี้ได้ จะต้องไม่ใช่พิษธรรมดาอย่างแน่นอน

“มีวิธีถอนพิษนี้หรือไม่? ” เยี่ยโยวเหยาถาม

“ในใต้หล้าไม่มีพิษใดที่ข้าถอนไม่ได้ ทว่า… ต้องใช้เวลา”

แม้ชื่อหงจะถูกพิษที่ซับซ้อนมาก ทว่าขณะที่พบเลือดในทางลับก่อนหน้านี้ ซูจิ่นซีใช้ระบบถอนพิษเพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบของยาพิษแล้ว ตอนนี้ยิ่งแน่ใจมากยิ่งขึ้นว่าระบบถอนพิษวิเคราะห์ได้ไม่ผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม การปรุงยาถอนพิษยังจำเป็นต้องใช้สมุนไพรสำคัญ ไม่เช่นนั้น ต่อให้เทพเซียนต้าหลัวลงมาก็ไม่อาจรักษาชื่อหงได้

“ครั้งนี้ ปรมาจารย์พิษของแคว้นไหวเจียงใช้เลือดของตนเองพัฒนาเป็นยาพิษ ดังนั้นอาจารย์อาชื่อหงถูกพิษจำเป็นต้องใช้เลือดของปรมาจารย์พิษปรุงเป็นยาถอนพิษ ข้าจะยับยั้งพิษในร่างของนางไว้ชั่วคราวก่อน หากต้องการถอนพิษ ยังต้องตามหาปรมาจารย์พิษผู้นั้นออกมาให้ได้”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วแน่น “หากปรมาจารย์พิษไม่อยู่ที่นี่จะทำอย่างไร? ”

ซูจิ่นซีพูดอย่างมั่นใจ “เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อยู่ หลังปรุงพิษชนิดนี้แล้วจะต้องใช้ทันที หากเกินเวลาไปจะสูญเสียประสิทธิภาพ”

เยี่ยโยวเหยาพยักหน้า

ซูจิ่นซียังอธิบายต่อไปว่า “เพียงคนผู้นั้นอยู่ภายในสำนักกระบี่คุนหลุน หากข้าเข้าใกล้เขาภายในขอบเขตของการตรวจจับจากระบบถอนพิษ โดยอาศัยพิษในร่างของอาจารย์อาชื่อหงก็จะสามารถหาตัวเขาพบได้”

ในประเด็นนี้ เยี่ยโยวเหยาย่อมเชื่อซูจิ่นซี “เมื่อถึงเวลา ข้าจะไปกับเจ้า”

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง การปรับลมปราณช่วงเวลาสุดท้ายของผู้นำผาเฉาหยางก็สิ้นสุดลง ใบหน้าสีแดงมีเลือดฝาด ดวงตาเผยประกายสดใส อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เฉาเซิงมองไปที่ซูจิ่นซีด้วยดวงตาเปล่งประกาย “แม่นางน้อย เจ้ามีความสามารถสูงส่งจริงๆ ! ”

ซูจิ่นซียกยิ้มเล็กน้อย หลิงอวิ๋นผู้นำหอคัมภีร์ฉางซูตรวจชีพจรให้เฉาเซิง ชีพจรของเขาดีขึ้นมากจริงๆ หลายคนจึงแสดงความชื่นชมซูจิ่นซี

ทว่าขณะนั้น ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีได้ส่งเสียงเตือนดัง ‘ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด’ อย่างต่อเนื่อง

เมื่อเห็นซูจิ่นซีมีท่าทางแปลกไปเล็กน้อย เยี่ยโยวเหยาจึงถามว่า “เกิดอันใดขึ้น? ”

“ด้านนอกมียาพิษจำนวนมากกำลังเข้ามาใกล้พวกเรา”

“หรือว่าคนแคว้นไหวเจียงกำลังไล่ตามมาแล้ว? ”

แม้ซูจิ่นซีจะไม่พูดสิ่งใด ทว่าใบหน้าดูเคร่งขรึม ท่าทางการแสดงออกบ่งบอกทุกอย่าง นอกจากหลานอวี่และคนอื่นๆ กำลังเข้ามาใกล้ ในร่างของพวกเขายังมียาพิษจำนวนมาก มิฉะนั้นเสียงเตือนของระบบถอนพิษคงไม่รุนแรงเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ที่นี่เป็นสถานที่ลึกลับของสำนักกระบี่คุนหลุน หากไม่ใช่ผู้นำทั้งสี่เข้ามาในสถานที่นี้โดยไม่ทันได้พบพิรุธ เป็นไปได้ที่จะมีคนรู้ว่ามีสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งสาเหตุที่ต้องปิดซ่อนสถานที่นี้ไว้ก็เพื่อเก็บซ่อนกระบี่ยวี่หลง หากคนที่มาจากแคว้นไหวเจียงเข้ามาใกล้ กระบี่ยวี่หลงจะไม่ตกอยู่ในอันตรายหรือ?

“ข้าไปดู! ”

“ข้าก็ไปด้วย! ” เสวียนเจิ้นจื่อกล่าว

“ข้าก็จะไปเหมือนกัน! ”

“ข้าก็ไปด้วย! ”

“ข้าก็ไปด้วย! ”

เสวียนชิง หลิงอวิ๋น และเฉาเซิง ผู้นำทั้งสามรีบพูดทันที

เสวียนชิงขมวดคิ้วและพูดกับเฉาเซิงว่า “เจ้าอย่าไปเลย ร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ! ”

เฉาเซิงไม่พอใจเล็กน้อย “เจ้าเกรงว่าร่างกายข้าบาดเจ็บ จะทำให้พวกเจ้าลำบากหรือ? ”

เสวียนชิงมองอย่างจำยอม “เจ้าดูท่าทีของเจ้าสิ คิดอันใด? ข้าเกรงว่าพวกเราทุกคนจากไปแล้ว ผู้ใดจะดูแลชื่อหง แม้จิ่นซีจะระงับพิษไว้ชั่วคราวแล้ว ทว่าผู้ใดจะรับประกันว่านางจะไม่เป็นอันใดขึ้นอีก? ”

ทันใดนั้น เฉาเซิงก็รู้สึกว่าเสวียนชิงพูดมีเหตุผล แต่ยังมีข้อสงสัยบางอย่าง เสวียนชิงตบไหล่เขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นภารกิจสำคัญ! ”

ขณะที่พูด ซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา เสวียนเจิ้นจื่อ และหลิงอวิ๋น ได้ออกจากถ้ำไปแล้ว เสวียนชิงจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

เขาคุนหลุนมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ที่นี่ก็ไม่เว้น ทว่าในขณะนี้ ผืนหิมะสีขาวโพลนเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด สีสันของ ‘สีแดงเลือด’ เช่นนี้ไม่ค่อยพบเห็นบนสถานที่สงบเงียบอย่างเขาคุนหลุนแห่งนี้

เฉาเซิง เสวียนชิง และเสวียนเจิ้นจื่อ ทั้งสามคนตกตะลึงครู่หนึ่ง

สีสันงดงามอย่างมาก…

เหมือนเมฆหลากสีบนท้องฟ้าที่ตกอยู่ท่ามกลางฝุ่นธุลี

ไม่สิ นั่นเป็นสีที่งดงามยิ่งกว่าเมฆหลากสีเสียอีก

เมื่อมองดูอย่างละเอียด ทั้งสามก็พบว่ามันคือแมลงปอ แมลงปอสีแดงโลหิต

ปีกของแมลงปอนั้นบางพอๆ กับปีกของจั๊กจั่นและสวยงามมาก ผู้ที่มองต่างรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ซูจิ่นซีรีบเตือนว่า “ระวัง แมลงปอเหล่านี้มีพิษ หากถูกพวกมันกัด พิษจะแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้ถอนพิษได้ยาก”

ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของซูจิ่นซี เสวียนเจิ้นจื่อก็ร้องออกมา “โอ๊ย” เขาถูกแมลงปอพิษกัดที่ลำคอ

ทันใดนั้น บาดแผลก็กลายเป็นสีดำและลามไปที่โคนหูอย่างรวดเร็ว

ซูจิ่นซีเดินมาข้างกายของเสวียนเจิ้นจื่ออย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเข็มเหมันต์เทวะอยู่ที่ระหว่างนิ้วของนางตั้งแต่เมื่อใด จากนั้นนางก็แทงเข็มไปที่จุดฝังเข็มสำคัญบนร่างของเสวียนเจิ้นจื่ออย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้พิษแพร่กระจาย

หลายคนมองเหตุการณ์เบื้องหน้า จากนั้นก็อดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้

หากพิษแพร่กระจายผ่านจุดไป่ฮุ่ยแล้ว เสวียนเจิ้นจื่อคงต้องจบชีวิตแน่ ไม่ว่าซูจิ่นซีจะมีความสามารถในการถอนพิษสูงส่งเพียงใดก็ไม่สามารถช่วยเขาได้

เสวียนชิงเหลือบมองแมลงปอโลหิตสีแดงงดงามบนท้องฟ้าและถอนหายใจยาว “เห็นแมลงปอเหล่านี้งดงาม กลับไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่มีพิษร้ายแรงมาก ช่างน่าเสียดาย”

ซูจิ่นซียับยั้งพิษให้เสวียนเจิ้นจื่อเสร็จแล้ว จากนั้นก็ถอนพิษให้อย่างรวดเร็ว

แม้แมลงปอพิษของหลานอวี่จะร้ายกาจ ทว่าไม่ได้ยากสำหรับซูจิ่นซี ซูจิ่นซีรู้วิธีจัดการกับแมลงปอพิษมานานแล้ว แม้หลานอวี่จะปรับปรุงแมลงปอพิษเหล่านี้ในเวลาต่อมา ทว่าวิชาพิษของซูจิ่นซีก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน!

หลังถอนพิษให้เสวียนเจิ้นจื่อแล้ว ซูจิ่นซีก็นำถุงยาออกมาจากระบบถอนพิษและจุดไฟ

ขณะที่ควันค่อยๆ ลอยไปบนอากาศ แมลงปอพิษเหล่านั้นก็ค่อยๆ หายไป จากนั้นพวกเขาก็ไปที่แท่นบูชาซึ่งมีกระบี่ยวี่หลงแขวนอยู่

เป็นจริงดั่งคาด หลานอวี่และคนอื่นๆ ต่างอยู่ที่นี่แล้ว

“โยวอ๋อง พระชายาโยวอ๋อง พวกเราพบกันอีกแล้ว”

“หลานอวี่ เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก พ่ายแพ้ต่อข้าและโยวเหยาหลายครั้ง รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ เจ้ายังกล้ามาอีก”

กลับไม่คาดคิดว่า หลานอวี่ไม่เกรงกลัวซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา และคนอื่นๆ แม้แต่น้อย นางหันไปเป่ามือตนเองอย่างสบายใจและพูดว่า “หากไม่มา จะรู้ว่าได้อย่างไรว่าคนที่พ่ายแพ้เจ้า จะมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นฝ่ายตอบโต้และเอาชนะเจ้าได้? พระชายาโยวอ๋อง เจ้าคิดเช่นนี้หรือไม่? ”