บทที่ 2115 เดี๋ยวผู้นำก็กลับมาแล้ว
ชีซิงที่อยู่ด้านข้างมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับมองคนโง่ จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก มองนายแห่งอาชูร่าที่อยู่ตรงหน้าแล้วเอ่ยว่า “นายแห่งอาชูร่าผู้ยิ่งใหญ่มาเยี่ยมเยือน โปรดอภัยที่ต้อนรับไม่ได้เรื่องครับ”
เป่ยโต่วที่เพิ่งได้สติกลับมารีบเอ่ย “เวรแล้ว! ขออภัยๆ เกือบลืมไปเลยว่าพวกเรากับอาชูร่าเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว! พลาดแล้วๆ!”
นี่จะโทษเขาไม่ได้จริงๆ แม้ว่าจะผ่านมานานหลายวันแล้ว เขาก็ยังดึงสติกลับมาจากความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงไม่ได้
“ผู้นำของพวกนายล่ะ” ซือเยี่ยหานถาม
ชีซิงรีบตอบว่า “ผู้นำไปที่โรงเรียนชื่อเยี่ยนครับ ยังไม่กลับมาเลย เพียงแต่ดูจากเวลา คงใกล้จะกลับมาแล้วครับ ท่านเข้าไปรอก่อนเถอะ”
“อืม” ซือเยี่ยหานพยักหน้านิดๆ จากนั้นก็เดินตามชีซิงเข้าไปในพันธมิตรอู๋เว่ย
ระดับสูงในสำนักงานส่วนใหญ่ต่างก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่อาชูร่าเข้าปิดล้อมบ้านตระกูลเนี่ยกันทั้งหมด เห็นฉากประวัติศาสตร์ที่นายแห่งอาชูร่ากลายเป็นพ่อของลูกชายท่านผู้นำของพวกเขามาเองกับตา
เพียงแต่ การที่จู่ๆ ก็เห็นจอมมารที่ผู้คนในรัฐอิสระต่างหวาดผวาปรากฏตัวขึ้นในฐานทัพของตัวเอง ก็ยังคงตกอกตกใจเช่นเดียวกับเป่ยโต่ว จึงคิดจะหยิบอาวุธขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
“เวรแล้ว…” ทันทีที่หัวหน้าสาขาคนหนึ่งเห็นคนที่เดินตามหลังชีซิงมา ก็ตกใจจนเข่าอ่อน แทบจะทรุดลงกับพื้นไปทันที
ผู้อาวุโสสามกำลังถกเถียงอะไรกับผู้อาวุโสใหญ่อยู่ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นและเห็นซือเยี่ยหาน ก็ขวัญกระเจิงทันที
“แย่แล้ว นาย…นายแห่งอาชูร่า กลางวันแสกๆ อยู่เลย ฉันเห็นผีได้ยังไง”
ผู้อาวุโสใหญ่มองผู้อาวุโสสามด้วยสายตาเหยียดหยาม “งามหน้านัก! ตอนนี้นายแห่งอาชูร่าเป็นแฟนของท่านผู้นำของพวกเราแล้ว จะมาอยู่ที่พันธมิตรอู๋เว่ยตอนนี้มีอะไรน่าแปลกใจกัน!”
ผู้อาวุโสสามคว้ามือของผู้อาวุโสใหญ่ขึ้นมา
ในมือของผู้อาวุโสใหญ่ได้ซุกซ่อนอาวุธลับที่ส่องประกายยะเยือกชิ้นหนึ่งไว้
ผู้อาวุโสสามจึงเอ่ยเย้ยหยัน “ตาเฒ่าไม่รู้จักตาย ตกใจจนซุกอาวุธลับไว้ในมือแล้ว ยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ”
ผู้อาวุโสใหญ่เถียงไม่ออกเลย…
แค่ก เป็นการตอบสนองไปตามสัญชาตญาณ ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณน่ะ…
นั่นคือผู้นำของอาชูร่าที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดเหี้ยมเลวทรามเชียวนะ!
ลือกันว่าคนๆ นี้ไม่แน่ไม่นอน เดาอารมณ์ไม่ได้ สั่งการคนเป็นว่าเล่น นิสัยซาดิสต์ น่ากลัวถึงขั้นที่ชื่นชอบการดื่มเลือดและกินเนื้อมนุษย์
ปกติแล้วชาวรัฐอิสระจะขู่เด็กๆ ด้วยประโยคที่ว่า ‘ถ้าเด็กๆ ไม่เชื่อฟัง จะให้นายแห่งอาชูร่าจับเด็กๆ ไปกิน’ เห็นได้ชัดว่ากิตติศัพท์ความชั่วร้ายของนายแห่งอาชูร่านั้นฝังลึกเข้าไปในใจคนแล้ว
ปีนั้นในการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างคุกคนบาปกับสหพันธ์วิทยายุทธ์ การต่อสู้ที่นองเลือดยังคงตราตรึงอยู่ในใจของกองกำลังทั้งทั่วรัฐอิสระ
เพียงแต่พอเอ่ยมาถึงตรงนี้ เมื่อถึงเวลาจู่ๆ พวกเขาก็เข้าใจเรื่องราวบางอย่างแล้ว
ผู้อาวุโสสามกระจ่างแจ้งในทันใด “จะว่าไป ในศึกคุกคนบาปปีนั้น กลุ่มอำนาจอื่นๆ ต่างก็บาดเจ็บล้มตายกันไปหมด มีแค่พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราที่เจ็บตัวน้อยที่สุด ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่าสายข่าวของเราว่องไว จึงหลบหลีกได้อย่างรวดเร็วไร้ขีดจำกัดล่าง แต่ตอนนี้พอมาคิดๆ ดู ที่แท้ก็เป็นเพราะผู้นำของพวกเรากิ๊กกับนายแห่งอาชูร่าอยู่นี่เอง!”
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ออกความเห็นด้วย “ถ้านับตามอายุคุณชายน้อยของพวกเราแล้ว หรือว่าผู้นำกับนายแห่งอาชูร่าจะคบหากันมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว!”
ผู้อาวุโสสามตกตะลึง “เวรเอ้ย! ตอนนั้นผู้นำของพวกเรามีรสนิยมแบบนี้…”
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตกใจเหมือนกัน “หนักเกินไปแล้ว…”
ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่นายแห่งอาชูร่าก็กล้าขึ้นเตียงด้วย!
แถมยังซุกซ่อนทายาทของคนอื่นมานานขนาดนี้อีก!
พอพูดขึ้นมา ดูเหมือนคนที่น่ากลัวที่สุดในรัฐอิสระแห่งนี้น่าจะเป็นท่านผู้นำของตัวเองสิถึงจะถูก
ชีซิงพาซือเยี่ยหานไปที่ห้องรับรองวีไอพี จากนั้นก็ให้คนยกชามาเสิร์ฟ
“ท่านรอสักหน่อยนะครับ อีกสิบนาทีผู้นำน่าจะกลับมาแล้ว” ชีซิงเอ่ย
—————————————————————–
บทที่ 2116 สัตว์ประหลาดที่ไร้มนุษยธรรม
ถึงแม้ชีซิงจะพยายามระงับอารมณ์ ควบคุมความหวาดกลัวของตัวเองไว้อย่างสุดกำลัง แต่ว่า การยืนอยู่ข้างกายผู้ชายคนนี้ด้วยระยะห่างแค่นี้ ถึงจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่นาที ก็ทำให้แผ่นหลังของเขาชุ่มเหงื่อได้แล้ว
ส่วนเป่ยโต่ว ก็ทรยศด้วยการหลบไปอยู่ไกลๆ ตั้งนานแล้ว “เหล่าชี ภารกิจอันหนักหนามีเกียรตินี้ยกให้นายแล้วกัน!”
ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลาถึงขนาดนี้ชัดๆ แต่รัศมีพิฆาตในตัว กลับรุนแรงเกินไปแล้วจริงๆ
เข้ารับตำแหน่งผู้นำของอาชูร่าตั้งแต่อายุยังน้อย กลายเป็นนายแห่งอาชูร่า แถมยังทำให้คนของอาชูร่าที่เหี้ยมหาญร้ายกาจพวกนั้นยอมรับนับถือได้ จะเป็นพระโพธิสัตว์ไปได้ยังไงกัน
กลยุทธ์แผนการของเขาในปีนั้น ทำให้กลุ่มอำนาจใต้ดินทั่วทั้งรัฐอิสระต่างอกสั่นขวัญผวา
จนถึงตอนนี้ชีซิงก็คิดไม่ออกเลยว่า พี่เฟิงไปชอบคนแบบนี้ได้ยังไง…
“นาย…นายแห่งอาชูร่าครับ…เชิญรับน้ำชา…” ลูกน้องที่ยกน้ำชาเข้ามาเหงื่อเปียกชุ่มศีรษะ มือสั่นเหมือนกำลังร่ายรำ
ขณะที่วางถ้วยน้ำชาลง ลูกน้องไม่ได้ถือไว้ให้มั่น จึงไม่ทันระวังทำน้ำชากระฉอกรดเสื้อผ้าของซือเยี่ยหานเข้า
“นายทำอะไร!” เจียงเหยียนที่อยู่ข้างๆ ตวาดด้วยความโกรธ
“เอ่อ…” ลูกน้องคนนั้นตกใจจนเซ่อไปแล้ว ใบหน้าซีดเผือดจนน่ากลัว เข่าอ่อนจนคุกเข่าลงกองกับพื้นเสียงดังตุบ
“นายแห่งอาชูร่าไว้ชีวิตด้วย! นายแห่งอาชูร่าไว้ชีวิตด้วยครับ! ผม…ผมไม่ได้ตั้งใจ…”
ชีซิงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็รีบเอ่ยว่า “ขอโทษด้วยครับนายแห่งอาชูร่า เขาไม่ได้ตั้งใจ!”
นิ้วเรียวยาวของซือเยี่ยหานลูบใบชาที่อยู่บนเสื้อ หลุบตามองลูกน้องที่ตกใจจนขวัญกระเจิงคนนั้นและชีซิงที่มีสีหน้าตึงเครียดราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจอยู่
เพราะรับรู้ได้ถึงสายตาของชายหนุ่ม ลูกน้องคนนั้นจึงตกใจจนแทบหายใจไม่ออกแล้ว ศีรษะแทบจะมุดลงบนพื้น “อย่าฆ่าผมเลย…อย่าฆ่าผมเลยครับ…”
ซือเยี่ยหานเปิดปากเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ปกติตอนที่จี้หวงมา พวกนายก็ประหม่ากันแบบนี้เหรอ”
ลูกน้องที่หมอบอยู่บนพื้นพลันนึกอยู่ในใจ เป็นไปได้ยังไง! จี้หวงนิสัยอ่อนโยน ใจดีมีเมตตา ไม่ได้มีนิสัยชอบฆ่าคนไปเรื่อย ผู้คนในรัฐอิสระต่างรู้ดี จะหวาดผวากันขนาดนี้ได้ยังไง
ชีซิงประสาทสัมผัสเฉียบไว คำถามของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างอันตราย
ชีซิงกำมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ และพยายามเอ่ยตอบอย่างสุขุมว่า “จี้หวงไม่เคยมาที่นี่ครับ”
ไม่มี! ไม่เคยเกิดขึ้น! จี้หวงไม่เคยมาเลย!
ซือเยี่ยหานได้ยินแล้วก็ไม่พูดอะไร ทำเพียงมองลูกน้องที่ตกใจจนขวัญกระเจิงคนนั้นด้วยสายตาไร้อารมณ์ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
สมาชิกระดับสูงไม่กี่คนของพันธมิตรอู๋เว่ยที่มองสถานการณ์ทางด้านนี้อยู่ไกลๆ ต่างก็มีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา ไม่กล้าหายใจแรง เพราะกลัวว่าจอมมารที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเหมือนที่ลือกันจริงๆ ไม่พอใจใครก็ฆ่าทิ้งเลย
ลือกันว่านายแห่งอาชูร่าเพียงเพราะถูกคนมองอยู่หลายครั้ง ก็เลยสั่งฆ่าคนทั้งเมือง และลือกันอีกว่าแม้แต่ลูกน้องที่จงรักภักดีนายแห่งอาชูร่าก็ยังฆ่าได้ลงคอ แม้แต่ลูกน้อยวัยแบเบาะของเขาก็ยังไม่เว้น เพียงเพราะคนสนิทคนนั้นทำถ้วยน้ำชาของเขาหกคว่ำ…
ร่ำลือกันว่าผู้ชายคนนี้คือสัตว์ประหลาดที่ไร้มนุษยธรรม…
เกรงว่าข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับชายคนนี้จะมีมากมายเกินไปจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นเจอเขาแล้วจะหวาดกลัว
จบแล้วจบสิ้นแล้ว…วันนี้เกรงว่าเขาคงต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว!
“เวรแล้ว จะทำยังไงกันดี ในบรรดาพวกเราใครจะเข้าไปกู้สถานการณ์ดี!”
“ล้อเล่นเหรอไง! ใครจะไปกัน! นายไปไหมล่ะ”
ในขณะที่ลูกน้องที่คุกเข่าอยู่บนพื้นคนนั้นใกล้จะตาเหลือกแล้ว ก็พลันมีเสียงฝีเท้าอันว่องไวแว่วมาจากด้านหลัง
พอเยี่ยหวันหวั่นได้รับสายจากชีซิงก็รีบบึ่งรถมาทันที เพิ่งมาถึงห้องรับรองเอาในเวลานี้ และทันทีที่มองเห็นที่รักของเธอ ดวงตาก็เปล่งประกายทันที กระโดดโลดเต้นโผเข้าไปหา
…………………………………..