บทที่ 2113 ทรงเสน่ห์ล่มแคว้นมิปรุงแต่ง ยอดชายเป็นหนึ่งเลิศล้ำ
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกมึนงงแล้ว เธอไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองกับเป่ยโต่วและชีซิงจะรู้จักกันแบบนี้
อีกอย่าง ความโง่ของเป่ยโต่วไม่ใช่การเสแสร้งจริงๆ เขาโง่แบบนั้นมาตั้งแต่เด็กแล้ว โง่ขนานแท้
….
ฉากสลับสับเปลี่ยนไปอีกครั้ง
สถานการณ์น้อยใหญ่มากมาย ความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ หลั่งไหลเข้าสู่ส่วนลึกในสมองของเยี่ยหวันหวั่น
ความทรงจำบางส่วน ชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่ความทรงจำบางส่วน กลับเลือนรางมาก ราวกับตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
เธอเข้ากับพ่อแม่ไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง เคยทะเลาะต่อยตีกับเนี่ยอู๋หมิงผู้เป็นพี่ชาย ถูกสวะหมาซัดจนลงไปกองกับพื้น กระวนกระวายและร้อนรนตอนคลอดถังถัง ขัดแย้งและมีความลับเล็กๆ น้อยๆ กับซือเยี่ยหาน
ทันใดนั้น จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็มาโผล่ที่ห้องหนังสือห้องหนึ่ง
เด็กสาวสวยสะพรั่งขึ้นมาก นั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือด้านข้าง มือเท้าคาง มองดูชายหนุ่มที่เป็นหนึ่งไม่มีสองบนโลกหล้าคนนั้นด้วยความหลงใหล
“ทรงเสน่ห์ล่มแคว้นมิปรุงแต่ง ยอดชายเป็นหนึ่งเลิศล้ำ…”
ภายในดวงตาของเด็กสาวอัดแน่นไปด้วยความรัก ราวกับได้รับการเติมเต็มทุกอย่างจากชายหนุ่มคนนี้แล้ว
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไร้ที่ติ คมคายชัดเจน มุมปากฉาบรอยยิ้มราบเรียบเอาไว้ตลอด ภายในดวงตาที่ราวกับจะมอมเมาคนได้คู่นั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยงามสง่าโดยไม่เจตนา
“อู๋โยว”
ชายหนุ่มวางกระดาษกับปากกาในมือลง ดวงตาเจือรอยยิ้ม มองเด็กสาวด้วยความอ่อนโยน
จู่ๆ เหตุการณ์ก็หมุนสลับ ฟ้าดินพลิกผัน เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจี้ซิวหร่านถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ราวกับแผ่นกระดาษ
ในส่วนลึกของสมอง ชายหนุ่มเงียบงันไม่พูดจา เพียงดีดนิ้วเบาๆ ครั้งหนึ่ง มาถึงตรงนี้ ความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจี้ซิวหร่าน ก็เลือนหายไปหมดแล้ว
“อ๋า!”
เยี่ยหวันหวั่นสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เหงื่อชุ่มไปทั่วศีรษะแล้ว
ผู้อำนวยการโรงแรียนชื่อเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วแน่น จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น ด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ มองไปที่ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนทันที
“เงียบก่อน” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น “เธอเห็นอะไรบ้าง”
“ดูเหมือนฉันจะลืมเลือนความทรงจำบางส่วนไป…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างใช้ความคิด
“อันที่จริง เธอเสียความทรงจำทั้งหมดไป มีเหตุการณ์น้อยใหญ่มากมาย จะคลุมเครือหรือลืมไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่า…เรื่องราวส่วนใหญ่ นอกจากจะเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกของเธอเลือกจะที่ไม่ยอมจดจำเองแล้ว ก็ไม่มีทางลืมลงหรอก” ผู้อำนวยการกล่าว
“ไม่ยอมจดจำเองงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว อย่างเช่นเรื่องของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ คุณตา แถมยังมีเรื่องของผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คนปัจจุบันคนนั้นอีก เป็นเพราะเธอไม่อยากนึกถึงงั้นเหรอ
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับจี้ซิวหร่าน เศษเสี้ยวทุกอย่างนั้น ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน
“ความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจี้ซิวหร่านฉันนึกไม่ออกเลย…ถึงขั้นที่ว่ามีฉากหนึ่งโผล่ขึ้นมา เขาอยู่ในส่วนลึกของสมองฉัน ดีดนิ้วครั้งหนึ่ง จากนั้นความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเขาก็สลายหายไป…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยออกไปตามจิตใต้สำนึก
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนก็ถึงบางอ้อแล้ว “มิน่าล่ะ…เคยมีคนสะกดจิตเธอก่อนที่จะมาถึงฉันจริงๆ น่าจะผนึกความทรงจำบางส่วนของเธอเอาไว้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่เธอบอก น่าจะเป็นจี้ซิวหร่านที่ผนึกความทรงจำทั้งหมดระหว่างเธอกับเขาไว้ แม้แต่ฉัน…ก็น่ากลัวว่าจะไม่มีความสามารถพอจะทำให้เธอนึกออกได้”
จี้ซิวหร่าน นักเรียนที่เขาสุดแสนจะภาคภูมิใจ ความเข้าใจในวิชาสะกดจิต เหนือล้ำกว่าอำนวยการอย่างเขาไปไกลโขตั้งนานแล้ว
“จี้ซิวหร่านเคยสะกดจิตฉัน…ทำไมกันล่ะ เขาทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร…” เยี่ยหวันหวั่นจิตใจว้าวุ่นอยู่บ้าง
“เป็นไปได้ว่า จะไม่อยากให้เธอนึกถึงเรื่องราวบางอย่างที่ไม่ควรจดจำน่ะสิ บางทีคงกลัวว่าเธอจะเสียใจ ฮ่าๆ ฉันก็พูดไปเรื่อยนั่นแหละ อย่าถือเป็นจริงเป็นจังเลย” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนเอ่ยอย่างมีนัยยะ จากนั้นก็หัวเราะนิดๆ
—————————————————————-
บทที่ 2114 นายแห่งอาชูร่ามาแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นมองผู้อำนวยการอย่างแปลกใจอยู่บ้าง ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของผู้อำนวยการ
“ฮ่าๆ ถ้าพูดกันในแง่อื่นแล้ว จี้ซิวหร่านคือลูกศิษย์ที่ฉันภาคภูมิใจที่สุด วิชาสะกดจิตของเขาเรียนจากฉัน แต่กลับแตกฉานเหนือกว่าฉันไปนานแล้ว ยังไงก็ตาม แนวทางการสะกดจิตของจี้ซิวหร่านนั้นเผด็จการและหัวรั้น แต่ส่วนของฉันจะนุ่มนวลโอนอ่อน ฉันช่วยฟื้นฟูความทรงจำให้เธอได้ แต่จี้ซิวหร่านทำได้แค่ช่วยลบความทรงจำบางอย่างให้เธอ” ผู้อำนวยการจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น หัวเราะเบาๆ แล้วบอกเล่าออกมา
พอได้ฟังคำพูดนี้ของผู้อำนวยการ เยี่ยหวันหวั่นก็มุ่นคิ้วนิดๆ ในจุดนี้ เธอกลับไม่รู้แน่ชัดเลยจริงๆ
จี้ซิวหร่านเคยสะกดจิตให้ตัวเองตั้งแต่ตอนไหนกันแน่…
เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดดู ดูเหมือนว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จี้ซิวหร่านเอาข้าวกล่องมาให้ตัวเอง จะใช่ครั้งนั้นไหมนะ
“ใช่แล้ว อู๋โยวเอ้ย เธอบอกว่าเธอความจำเสื่อม ใช่ฝีมือของจี้ซิวหร่านด้วยไหม” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนจ้องเยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย
พอได้ยินคำพูดของผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยน เยี่ยหวันหวั่นจึงส่ายหน้า ในความทรงจำอันเลือนราง สถานการณ์ของเธอไม่เกี่ยวข้องกับจี้ซิวหร่าน
“ถ้าหากว่าไม่ใช่ ฉันก็ไม่รู้ด้วยแล้ว ถึงยังไงโลกของคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอ เฒ่าที่ลงโลงไปแล้วครึ่งตัวอย่างฉันไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนยกยิ้มแวบหนึ่ง
จี้ซิวหร่านเคยสะกดจิตเธอ ทำให้ตัวเองลืมเลือนความทรงจำทั้งหมดในวัยเยาว์ที่เกี่ยวข้องกับจี้ซิวหร่านไป
เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจเลย จี้ซิวหร่านทำแบบนี้ทำไม จึงทำได้เพียงต้องตามหาจี้ซิวหร่านให้เจอก่อน แล้วค่อยถามให้ชัดเจน
“ผู้อำนวยการคะ ฉันรู้สึกว่า…ความทรงจำของฉัน ยังไม่กลับคืนมาทั้งหมด” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยกับผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยน
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว” ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนพยักหน้า “จะฟื้นฟูทั้งหมดกลับมา ก็ต้องใช้เวลา ต่อให้ร่างกายเธอบาดเจ็บ ก็ยังต้องค่อยๆ ฟื้นฟูเลย นับประสาอะไรกับความทรงจำ”
อันที่จริง ความทรงจำส่วนใหญ่ในวัยเยาว์ เยี่ยหวันหวั่นนึกออกตั้งเยอะแล้ว มีแค่ความทรงจำสำคัญบางส่วน อย่างเช่นข้อมูลของคุณตา ความทรงจำเกี่ยวกับผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คนปัจจุบัน ที่ไม่อาจนึกให้ออกได้
“แค่ต้องใช้เวลาสินะ…”
เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ
ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนยืนยันด้วยสีหน้าหนักแน่น “เธอพูดถูกแล้ว แต่มีอยู่ข้อหนึ่ง ถ้าหากเป็นตัวเธอเองที่ไม่อยากจะนึกถึงความทรงจำบางอย่าง แบบนั้นถึงจะอาศัยความช่วยเหลือจากภายนอกยังไงก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
จากคำพูดของผู้อำนวยการเฒ่า ดูเหมือนว่าความทรงจำส่วนที่เหลือ เธอต้องพึ่งพาตัวเองเพื่อที่จะได้นึกออกอย่างเดียวแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รีบร้อนเช่นกัน ความทรงจำส่วนใหญ่ก็นึกขึ้นได้พอสมควรแล้ว แต่ส่วนนั้นที่ยังนึกไม่ออก ก็ต้องเป็นไปตามที่ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนบอก ทำได้แค่ใช้เวลาให้ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถคนแล้ว
“อู๋โยวเอ้ย เธอติดหนี้คะแนนเกียรติยศโรงเรียนชื่อเยี่ยนสามล้านกว่าแต้มนะ จำได้รึยัง” ทันใดนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนก็พลันยิ้มละไมมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วกล่าวขึ้นมา
พอสิ้นเสียงของผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยน เยี่ยหวันหวั่นก็ตบหน้าผากอย่างแรง “เรื่องนี้ดูเหมือนจะนึกไม่ออกเลยจริงๆ…ท่านผู้อำนวยการคะ กลับไปแล้วฉันจะค่อยๆ นึกนะคะ ลาก่อน!”
ไม่รอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อเยี่ยนได้อ้าปากพูด เยี่ยหวันหวั่นก็เผ่นหนีไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
การสะกดจิตในครั้งที่สี่นี้ใช้พลังงานมากเหลือเกิน หลังจากออกมาจากโรงเรียนทหารรับจ้างชื่อเยี่ยนแล้ว ร่างกายของเยี่ยหวันหวั่นก็อ่อนล้ามาก ราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบจนกลวงโบ๋
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ ก็มีแขกมาเยือนพันธมิตรอู๋เว่ย
เมื่อเห็นนายแห่งอาชูร่าและบอดี้การ์ดหน้าดำที่ตามมาด้านหลังอยู่หน้าประตู เป่ยโต่วก็ตกใจจนขนลุกชันแล้ว
“ซวยแล้ว! นาย…นายแห่งอาชูร่า! นายแห่งอาชูร่ามาถึงบ้านแล้ว! พี่น้องทั้งหลาย หยิบอาวุธเร็ว!”
“ใช่ๆๆ หยิบอาวุธเร็ว! จัดการพวกเขาซะ!”
…………………………………………………