ตอนที่ 1473

Alchemy Emperor of the Divine Dao

บางทีหลังจากวันนี้ ศิษย์เก่าผมขาวอาจจะมีฉายาใหม่คือจิตวิญญาณบรรพบุรุษ

ตัวเขาเองยังไม่ตระหนักรู้ว่าคนอื่นหัวเราะอะไรกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างมากและจะทุ่มพลังทั้งหมดในการกำราบสตรีที่หยิ่งยโสผู้นี้ “เห็นว่าเจ้าเป็นสตรีข้าเลยไปประมาทไป”

จักรพรรดินีลอยตัวขึ้นสามฟุตก่อนจะชี้นิ้วดูถูกไปยังศิษย์เก่าผมขาว

ข้าไม่แยแสเจ้า!

ทุกคนชะงักไปชั่วขณะ ยิ่งจักรพรรดินีแสดงท่าทางหยิ่งยโสเท่าไหร่พวกเขาก็รู้สึกเหมือนจะลุ่มหลงในตัวนางยิ่งขึ้น พวกเขาจะอยากคลานไปยังฝ่าเท้าของนางเผื่อรับการเหยียบย่ำ

“ฮึ่ม!” ศิษย์เก่าผมขาวลงมือ เส้นแสงถูกปล่อยออกมาจากนิ้วมือของเขาราวกับเส้นไหม้ มันคือรูปแบบอาคม เมื่อผสานรวมกับพลังของเขาแล้ว พลังต่อสู้ของศิษย์เก่าผมขาวจึงน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

รูปแบบอาคมเส้นไหมนี้ ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นก็ยังต้องถูกสังหารอย่างง่ายดาย

จักรพรรดินีไม่หวั่นเกรงและใช้ก้อนหินในมือตอบโต้

‘ปัง ปัง ปัง’ สองคนเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดจนร่างของทั้งคู่ชโลมไปด้วยโลหิต

หลิงฮันไม่ลงมือ

จักรพรรดินีเองก็เป็นหนึ่งสุดยอดอัจฉริยะแห่งยุค ในอนาคตพลังของนางจะค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้พึ่งพาพลังบ่มเพาะเพียงอย่างเดียวแต่เป็นประสบการณ์การต่อสู้

ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งคนใดบ้างไม่เคยบาดการสู้รบที่นองเลือด?

เพราะงั้นแล้ว หากจักรพรรดินียังไม่มีอันตรายถึงชีวิต เขาก็จะไม่ลงมือ

ตูม!

จักรพรรดินีและศิษย์เก่าผมขาวแลกเปลี่ยนกระบวนท่าที่รุนแรง ทั้งสองฝ่ายล่าถอยออกจากกันร้อยฟุต แขนเสื้อของศิษย์เก่าผมขาวขาดกระเซิงเผยให้เห็นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ผ้าปิดหน้าของจักรพรรดินีแห่งก็ฉีกขาดเช่นกันทำให้ใบหน้าของนางถูกเผยออกมา

พริบตานั้นเองบรรยากาศโดยรอบก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด

เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีสตรีที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้?

บางคนตกอยู่ในภวังค์ บางคนอึ้งจนน้ำลายไหล บางคนฮึกเหิมจนบ้าคลั่ง ความงดงามของจักรพรรดินีนั้นยึดครองหัวใจของพวกเขาไปอย่างสมบูรณ์

ความเกรี้ยวกราดของศิษย์เก่าผมขาวก่อนหน้าๆค่อยลดลงอย่างต่อเนื่อง ต่อหน้าจักรพรรดินีแล้วใครจะอดใจไหว?

หลังจากผ่านไปอีกไม่กี่กระบวนท่าเขาก็พ่ายแพ้

เขาไม่ได้พ่ายแพ้เพราะอ่อนกว่าแต่อย่างใด แต่พ่ายแพ้เพราะหมดใจจะสู้ต่อเนื่องจากความลุ่มหลงที่มีต่อเสน่ห์ของจักรพรรดินี

ใบหน้าของเขาถูกก้อนหินจู่โจมใส่อีกครั้ง คราวนี้อักษรปรากฏขึ้นเป็นรอยบนแก้มขวา

จักรพรรดินีร่อนลงสู้พื้น ท่าทีของนางยังคงเต็มไปด้วยความยิ่งยโสโอหัง

พริบตาเดียว สายตาทุกคู่ก็จดจ้องมายังหลิงฮันด้วยความรู้สึกริษยา

ไม่เพียงแค่ศิษย์เก่าเท่านั้น แต่เหล่าศิษย์ใหม่เองก็กัดฟันแค้นราวกับอยากจะฆ่าหลิงฮันให้ตาย

เสน่ห์ของจักรพรรดิช่างน่าอัศจรรย์นัก

“โฮ่ง ฮันน้อยเจ้าต้องถูกสวรรค์ลงโทษ สตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาเช่นนั้นเหมาะจะเป็นสัตว์ขี่ของนายท่านหมาผู้นี้มากกว่า!” สุนัขตัวดำกล่าวก่อนที่จะอ้าปากหวังกัดเข้าที่ก้นหลิงฮัน

หลิงฮันรู้นิสัยเจ้าเล่ห์ของสุนัขตัวดำอยู่แล้ว มีรึที่เขาจะไม่ได้ระมัดระวังตังเอาไว้ก่อน? เขาปล่อยหมัดเข้าใส่ร่างของสุนัขตัวดำทันที

ปัง!

หมัดปะทะเข้าที่ใบหน้าของสุนัขตัวดำ หมัดนี้ผสานเอาไว้ด้วยสายฟ้าของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ต่อให้สุนัขตัวดำจะมีกายหยาบที่ทนทานขนาดไหน มันก็ยังได้เจ็บปวดจนขนทั่วร่างตั้งชี้ฟ้า

“ฮึ่ม เจ้าช่างเป็นคนใจดำอะไรเช่นนี้ เหตุใดเจ้าถึงระวังตัวกับนายท่านหมากัน? เจ้ารู้รึไม่ว่าความเชื่อใจที่สัตย์จริงที่สุดคือความเชื่อใจของมนุษย์กับสุนัข!” สุนัขตัวดำโอดครวญ มันไม่คาดคิดว่าหลิงฮันระวังตัวกับมันเอาไว้

“ไม่มีความเชื่อใจระดับมนุษย์กับสุนัขทั้งนั้น” หลิงฮันยิ้มและกวาดสายตามองเหล่าคนที่จ้องมาที่เขาราวกับจะกลืนกิน แน่นอนว่าเมื่อโฉมหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดินีถูกเผยออกมาแล้วเขาย่อมตกเป็นเป้าหมายของทุกคน

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “มีใครอื่นอีกที่ต้องการให้ข้าคลานผ่านช่องลอดสุนัข?”

“ฮึ่ม วัฒธรรมของสำนักไม่อาจถูกยกเว้น วันนี้เจ้าจะต้องก้มหัวยอมทำตาม!” ศิษย์เก่าที่มีปีกคู่หนึ่งอยู่ด้านหลังกล่าว ปีกของเขานั้นเต็มไปด้วยเกล็ดที่เหมือนกับเกล็ดปลา มุมของของเกล็ดนั้นแหลมคมและส่องประกายแวววาวราวกับเป็นแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์

“ร่วมมือกันจัดการเขา!”

ศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ทั้งหกคนลงมือพร้อมกับจู่โจมใส่หลิงฮัน

“คิดจะทำร้ายสามีของข้า?” จักรพรรดินีเค้นเสียงอย่างหยิ่งยโสและสะบัดมือก้อนหินในมือ

“เอาล่ะ มาร่วมมือกันอีกครั้งภรรยาข้า!” หลิงฮันกล่าวอย่างองอาจ ต่อให้ตายเขาก็ไม่ยอมคลานลอดผ่านช่องสุนัขเด็ดขาด วิถียุทธของเขาคือเส้นทางแห่งการสู้รบที่จะยืนหยัดจนถึงโลหิตหยดสุดท้าย

เขาและจักรพรรดินีร่วมมือกันต่อต้านศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ที่ทรงพลังทั้งหก

ก่อนหน้านี้เขากับจักรพรรดินีร่วมมือกันจนสามารถเอาชนะอี้เกาหนิงได้ แต่ศิษย์เก่าทั้งหกคนนี้มีพลังไม่ด้อยไปกว่าอี้เกาหนิง ทุกๆการโจมตีของพวกเขาทั้งหกรุนแรงราวกับดวงดาวกำลังถูกบดขยี้ หากไม่ใช่เพราะว่าที่นี่คือสำนักละอองดาราที่มีรูปแบบอาคมป้องกันของเซียนป้องกันเอาไว้ พื้นที่บริวเณนี้คงกลายเป็นดินแดนรกร้างไปแล้ว

หลิงฮันปลดปล่อยอำนาจสวรรค์ลดพลังต่อสู้ของทั้งหกคนลงไปสองดาวซึ่งได้ทำให้ทั้งหกคนจิตใจสั่นสะท้าน ทักษะที่น่าสะพรึงกลัวนี่มันอะไรกัน… ใครก็ตามที่ปะทะกับหลิงฮันจะถูกลดพลังต่อสู้ไปสองดาว? ซึ่งหมายความว่าหากเป็นการต่อสู้ในระดับพลังเดียวกัน ทักษะที่ฝ่าฝืนสวรรค์นี้ย่อมทำให้หลิงฮันได้เปรียบทุกคน

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะหลิงฮันกับจักรพรรดิ หรือศิษย์เก่าทั้งหกคนต่างมีพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว พลังของทั้งสองฝ่ายแข็งแกร่งแทบจะใกล้เคียงกัน

ศิษย์เก่าเริ่มมาถึงมากขึ้นเรื่องๆ ทันทีที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ศิษย์เก่าทุกคนต่างเผยสีหน้าตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด

ทั้งสองคนนี้… เป็นศิษย์ใหม่จริงๆรึ?

เพียงแต่ว่าจำนวนของศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งได้มาสมทบเพิ่มขึ้น ตราบใดที่ศิษย์เก่าที่มาถึงเข้าร่วมการต่อสู้ หลิงฮันกับจักรพรรดินีจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

จำนวนคนของฝ่ายหลิงฮันมีกำจัด

ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์คนอื่นๆก็เข้าร่วมการต่อสู้อย่างที่คาดการณ์ ถึงแม้ศิษย์ที่เข้าร่วมสู้จะมีพลังระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นทั้งหมด แต่ด้วยจำนวนนวนที่มากกว่าย่อมเพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบ หากเพิ่มหนึ่งคนยังไม่ไหวก็เพิ่มเป็นสอง สาม หรือสี่!

หลิงฮันกับจักรพรรดินีตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที