เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1433
พริบตาเดียวผ่านไปสองวันแล้ว ไม่ว่าภายนอกจะวุ่นวายจนอยู่ในสภาพไหน ในวังยังเงียบสงบเหมือนเดิม
เหมือนทุกคนลืมที่นี่ไปแล้ว สองวันมานี้ ไม่มีนกสักตัวบินผ่านที่นี่เลย
ในตำหนัก
ลู่ฝานนั่งอยู่หน้าบ่อสีเขียว มองระลอกน้ำเงียบๆ เหมือนเจอความลึกลับอะไรบางอย่างในนั้น
หลิงเหยาอุ้มเจ้าดำนั่งอยู่อีกด้าน ฝึกฝนอย่างสงบ
ยาเซียนที่ลู่ฝานให้เธอกินครั้งที่แล้ว เธอกำลังดูดซับฤทธิ์ยาทีละนิด
ไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนลู่ฝาน ร่างกายแข็งแกร่ง สามารถดูดซับได้ตลอดเวลา นักบู๊ที่พรสวรรค์พอใช้ได้อย่างหลิงเหยา ต้องทำไปทีละขั้น ดูดซับช้าๆ อย่างระมัดระวัง
ยาเทวดาที่ลู่ฝานกินครั้งก่อน ยังใช้เวลาดูดซับสิบวันเต็มๆ
ตอนนี้หลิงเหยาจะดูดซับยาเซียนที่ลู่ฝานให้เธอกินจนหมด คาดว่าถ้าไม่ใช้เวลาสักสองสามเดือนคงไม่สามารถทำได้
แต่วิทยายุทธของหลิงเหยาในตอนนี้ จะทะลุระดับถึงแดนปราณดินแล้ว จากการพัฒนาของเธอ เดาว่าอีกไม่กี่วันคงสามารถทะลุระดับได้
หลิงเหยาก็ดีใจเช่นกัน มีคนรักที่เก่งกาจช่างดีจริงๆ
วิทยายุทธและระดับแดนยกระดับขึ้นเรื่อยๆ คิดไม่ถึงว่าเธอใกล้เป็นนักบู๊แดนปราณดินแล้ว
ตอนฝึกฝนสองวันมานี้ หลิงเหยามีรอยยิ้มหวานบนใบหน้าเสมอ
สิบสามจับตามองฝ่าบาทหญิงตลอดเวลา เขาเหมือนก้อนหิน ไม่พูด ไม่ขยับมาสองวันแล้ว
ฝ่าบาทหญิงโดนจับตามองจนรำคาญ เธอพูดไม่หยุดว่า “นี่ ไอ้ก้อนหิน พูดอะไรหน่อยสิ ฉันชื่อหลินรั่วเสวี่ย นายชื่ออะไร”
สิบสามมองเธออย่างเฉยเมย ไม่พูดอะไรราวกับไม่ได้ยิน
หลินรั่วเสวี่ยพูดต่อ “นายหูหนวกหรือไง ยังไงฉันก็ขยับไม่ได้ นายคุยเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ได้ไหม”
สิบสามยังไม่พูดเหมือนเดิม เหมือนกลายเป็นหินไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น
หลินรั่วเสวี่ยก็ไม่ได้โกรธ สิบสามไม่พูด งั้นเธอพูดเองก็ได้
“นายไม่พูด งั้นฉันพูดให้นายฟังแล้วกัน ฉันเล่านิทานให้นายฟังดีไหม……”
หลินรั่วเสวี่ยเริ่มพูดเป็นต่อยหอย
สิบสามหลับตาลง นี่เรียกว่าเรื่องอะไรที่เรารู้ว่าเห็นแล้วจะมารบกวนสายตาและจิตใจเรา ก็อย่าไปมอง
อีกด้านหนึ่ง ธิดาเทพนั่งอยู่ข้างผู้อาวุโสสวี กดเสียงต่ำถามว่า “นายฟื้นฟูเป็นยังไงบ้าง”
ผู้อาวุโสสวีแอบพยักหน้าเบาๆ
ธิดาเทพยกยิ้มร้ายกาจมุมปาก ดูเหมือนทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว
ทันใดนั้น ธิดาเทพส่งพลังตัวเองเข้าไปในตัวผู้อาวุโสสวี
ทันใดนั้นบนหน้าผู้อาวุโสสวีมีเกล็ดน้ำแข็งปรากฏขึ้น จากนั้นตัวเขากระตุกไปทั้งตัว
“ผู้อาวุโสสวีเป็นอะไรไป”
ธิดาเทพประคองตัวผู้อาวุโสสวีเอาไว้ แล้วตะโกนออกมาทันที
ลู่ฝาน หลิงเหยาและสิบสามได้ยินเสียงตะโกนของธิดาเทพ พากันหันมามองพวกเขาอย่างตกใจ
ลู่ฝานลุกขึ้นมาข้างธิดาเทพทันที เขาขมวดคิ้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
ธิดาเทพตะโกนว่า “แว้งกัด พลังแว้งกัด อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ต้องรักษาทันที!”
ลู่ฝานจับมือผู้อาวุโสสวี ใส่ปราณชี่เข้าไปตรวจดูอย่างละเอียด
ทันใดนั้น ลู่ฝานสัมผัสถึงเส้นลมปราณและกระดูกของผู้อาวุโสสวี ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยไอเย็น ดูเหมือนเจอการแว้งกัดของวิชาจริงๆ
แต่ลู่ฝานรอบคอบระมัดระวัง แปรเปลี่ยนปราณชี่เป็นวิญญาณ ใช้พลังวิญญาณตรวจสอบดูอีกครั้ง
ครั้งนี้ลู่ฝานสัมผัสถึงจิตญาณอันมั่นคงของผู้อาวุโสสวี รวมถึงพลังอันสงบของผู้อาวุโสสวี ที่อยู่ภายใต้ไอเย็น
นี่ไม่เหมือนสภาพร่างกายเจอการแว้งกัด ลู่ฝานระแวงขึ้นมาทันที แต่ภายนอกใบหน้าเขายังเคร่งขรึม เอ่ยถามออกมาว่า “ทำยังไงดี”