ตอนที่ 1011: รุยจินมาถึง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1011: รุยจินมาถึง

สายตาของมารราคะที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งเป็นประกาย เขาจ้องอย่างสนใจไปที่หยดพลังของเซียนจักรพรรดิที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉินและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพูดในใจ “มันเป็นพลังของเซียนจักรพรรดิ ข้าไม่คิดเลยว่าเจี้ยนเฉินจะครอบครองพลังของเซียนจักรพรรดิอยู่ มันมีพลังงานธาตุน้ำ ดังนั้นมันน่าจะมาจากเซียนจักรพรรดิของอาณาจักรทะเล”

“พลังนี้เพียงพอที่จะทำร้ายเซียนจักรพรรดิได้ พลังหยินชั่วร้ายได้ทำให้วิญญาณของไคเซอร์บาดเจ็บไปแล้ว ดูจากท่าทางของเขา เขาอยู่ในความเจ็บปวดอย่างมากจนเขาน่าจะตายไปเสียดีกว่า เขาไม่สนใจว่าอะไรเกิดขึ้นรอบ ๆ เลย ข้าอยากรู้ว่าพลังของเซียนจักรพรริจะทำให้เขาบาดเจ็บหนักได้หรือไม่” สายตาของมารราคะเป็นประกายทันทีเมื่อเขาคิดมาถึงตรงนี้

ฮุสตันก็สังเกตเห็นพลังของเซียนจักรพรรดิในมือของเจี้ยนเฉินด้วย ในตอนที่เห็นเจี้ยนเฉินกำลังจะโจมตีมันใส่หัวของไคเซอร์ ตาของเขาก็เบิกกว้างทันที เขาตั้งตารอ

เฮยยู่ที่ติดอยู่กับการต่อสู้กับแลงคีรอสเห็นพลังของเซียนจักรพรรดิในมือของเจี้ยนเฉินตั้งแต่แรก เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินกำลังจะทำ

ปัง ! ด้วยพลังของเซียนจักรพรรดิที่อยู่ในมือของเขา เจี้ยนเฉินก็ตบอย่างแรงเข้าไปที่หลังหัวของไคเซอร์ มันเกิดเสียงดังและคลื่นพลังงานที่เหลืออยู่ที่น่ากลัวก็ระเบิดออกและส่งเจี้ยนเฉินถอยไปไกล

เจี้ยนเฉินถอยกระเด็นไปและตั้งหลักได้หลังจากที่เขาลอยไปหลายพันกิโลเมตร มือขวาของเขาที่ใช้พลังของเซียนระดับจักรพรรดิออกไปเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ในขณะที่ท่าทีของเขาก็เริ่มน่ากลัว ความเหลือเชื่อปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของเขาเช่นกัน

ในตอนที่เขาโจมตีไปที่หัวของไคเซอร์ เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนเขาโจมตีไปที่แผ่นเหล็กแข็ง ไม่เพียงแต่เขาจะทำให้หัวของไคเซอร์แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ไม่ได้อย่าที่หวังเท่านั้น มันยังไม่แม้แต่ทำให้เขาบาดเจ็บหนักอีกด้วย

“พลังของเซียนจักรพรรดิเจาะทะลุหัวของไคเซอร์ไปไม่ได้ ทั้งหมดที่มันทำได้คือเลาะเอาผิวหนังของเขาออกไป หัวของเขาไม่แข็งไปหน่อยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินคิด เขารู้สึกได้ว่าพลังของเซียนจักรพรรดินั้นทำความเสียหายเล็กน้อยให้กับไคเซอร์ได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเก็บพลังบางส่วนเอาไว้ ความแข็งแรงของร่างกายของไคเซอร์นั้นเหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้ และถ้าเขาใช้พลังไปจนหมด เขาก็ไม่เชื่อว่ามันจะสร้างความเสียหายได้มากมายกับไคเซอร์นัก

“ข้าไม่คิดว่าร่างของไคเซอร์จะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสมกับที่เป็นสายพันธุ์ที่เทียบเคียงกับมังกรจริง ๆ ถ้าไม่ใช่ว่าข้าได้เปรียบจากการโจมตีวิญญาณที่ข้าใช้ไปตอนที่สู้กับเขาก่อนหน้านี้ ข้าก็คงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้” มารราคะคิด เขาตกตะลึงด้วยเช่นกันในขณะที่เขามองดูอยู่ไกลไกล

“อ๊าก ! เจ้าหนูจอมโอหัง ! เจ้าลอบโจมตีข้า ! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะฉีกเข้าเป็นชิ้น ๆ ในวันนี้ ! ” ไคเซอร์คำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว แม้ว่าพลังของเซียนจักรพรรดิจะทำอะไรเขาไม่ได้มาก แต่มันก็ทำให้เขาอยู่ในสภาพย่ำแย่กว่าเดิม ด้วยเกียรติของไคเซอร์ เขาจะทนให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้จากผู้เยาว์มนุษย์ที่อ่อนแอกว่าเขาทั้งในด้านความแข็งแกร่งและฐานะได้อย่างไร

มันเป็นอะไรที่น่าอับอายมากสำหรับเขา

ทันนั้นเอง แววตาของไคเซอร์ก็น่ากลัวมาก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างดุร้ายและเหมือนปีศาจที่คืบคลานออกมาจากนรก แค่สายตาของเขาก็ทำให้ผู้คนหนาวสั่นแล้ว ไคเซอร์ใช้ทุกอย่างเพื่อข่มความเจ็บปวดทางวิญญาณของเขาในขณะที่เขามองอย่างเย็นชาไปที่เจี้ยนเฉิน เขาดูเหมือนจะกลืนกินเจี้ยนเฉินทั้งเป็น

ทันใดนั้นเอง ไคเซอร์ก็หายไป ในตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็มาอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉินแล้ว มือของเขาข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกร ในขณะที่เขาเหวี่ยงมันอย่างไม่ปราณีไปที่หัวของเจี้ยนเฉิน ในเวลาเดียวกัน เขาก็พันธนาการมิติรอบ ๆ เจี้ยนเฉินอีกครั้ง มันจำกัดการเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฉินและป้องกันไม่ให้เขาใช้วัตถุเซียนเพื่อป้องกันการโจมตีได้

ตาของเจี้ยนเฉินหรี่เล็กลงอย่างเร็ว กรงเล็บของไคเซอร์ใหญ่ขึ้นและใกล้เข้ามามากขึ้นในสายตาของเขา แต่เขาติดอยู่และขยับไม่ได้ เขาได้แต่มองอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่มันใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง มิติที่อยู่ข้าง ๆ ของพวกเขาก็เปิดออกมาในวินาทีความเป็นความตาย ดาบที่เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองแสบตาและปราณดาบที่น่ากลัวก็เกิดขึ้นมาทันที จากนั้นมันก็พุ่งไปที่กรงเล็บของไคเซฮร์อย่างเร็ว

แกร็ง !

ในขณะที่ดาบปะทะกับกรงเล็บมังกร เสียงโลหะกระทบกันที่สั่นสะเทือนแผ่นดินก็ดังขึ้นมา ดาบกระเด็นออกไป แต่ทำให้กรงเล็บของไคเซอร์พลาดเป้าไป รอยแผลเล็กเกิดขึ้นที่กรงเล็บและเลือดสีแดงสดก็เริ่มไหลออกมา

นี่เป็นเลือดของเซียนจักรพรรดิ แม้ว่ามันจะเป็นปริมาณเล็กน้อย แต่มันก็เตะตาอย่างเหลือเชื่อ นอกเหนือไปจากนั้น ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานปริมาณมหาศาลที่ซ่อนอยู่ด้านในด้วย

ไคเซอร์ตกใจทันทีเมื่อรุยจินทำให้กรงเล็บของเขาได้รับบาดเจ็บ เพราะว่ามันเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกายของเขา เซียนจักรพรรดิยังทำให้กรงเล็บของเขาบาดเจ็บไม่ได้เลย

“มันเป็นอาวุธที่มีพลังงานดั้งเดิม ดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ ! ” ไคเซอร์พึมพำออกมาด้วยเสียงแหบในขณะที่เขาจ้องไปยังดาบที่เปล่งประกาย

ประตูมิติเกิดขึ้น รุยจินที่อยู่ในชุดเกราะสีทองก็ก้าวออกมาพร้อมกับหงเหลียนที่อยู่ในชุดสีเพลิง

รุยจินขยับมือแล้วดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็บินมาแต่ไกลเหมือนแสง มันหยุดอยู่ที่มือของรุยจินอย่างเชื่อฟัง

รุยจินถือดาบอยู่ในขณะที่เขามองอย่างไร้อารมณ์ไปที่ไคเซอร์ เขาคำรามออกมา “ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะได้เจอกับเจ้าหนอนกลายพันธุ์เร็วขนาดนี้ เจ้าจะทำอะไรข้าอย่างนั้นหรือ ? “

ไคเซอร์จ้องอย่างดุร้ายไปที่รุยจินและเขาก็กัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าอีกแล้ว เจ้าชอบยุ่งกับเรื่องที่ข้ากำลังจะทำ เจ้าอาจจะเป็นราชาของตระกูลมังกร แต่ตระกูลมังกรก็ไม่มีอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ มันจะดีที่สุดถ้าเจ้าไม่มาขวางทางข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้าด้วยเหมือนกัน”

“เจ้าหนอนกลายพันธุ์ เจ้าคิดจริงจริงหรือว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้ ? ” รุยจินพูดเสียงทุ้ม ใบหน้าของเขามืดครึ้มมาก เรื่องที่หนอนกลายพันธุ์กระจอกกล้าที่จะขู่เขาที่เป็นถึงราชามังกรทำให้โกรธเกรี้ยวมาก

ไคเซอร์ไม่พูดกับรุยจินต่อ กลับกัน เขาหันไปทางมารราคะและตะโกนออกมา “เซียนจักรพรรดิมนุษย์ ถึงเวลาแล้ว”

สายตาของมารราคะเป็นประกาย เขาไม่ได้พูดอะไรและก้าวออกมา เขาผ่านระยะทางมากกว่าสิบกิโลเมตรและมาหยุดอยู่ตรงหน้ารุยจิน

ใบหน้าของรุยจินหมองลงเมื่อเขาเห็นมารราคะ เขาคำรามออกมา “เซียนจักรพรรดิมนุษย์ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะร่วมมือกับหนอนกลายพันธุ์เพื่อที่จะทำร้ายอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์เจ้าเลยจริง ๆ”

“เจ้าพูดมากไปแล้ว” มารราคะพูดอย่างเฉยเมย เขาคว้าไปที่มิติที่ว่างเปล่า พลังงานธรรมชาติเริ่มมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาใช้มันเพื่อโจมตีรุยจิน ในเวลาเดียวกัน เขาพูดเบา ๆ “เมื่อเจ้ามีสมบัติที่ปกป้องเจ้าในการโจมตีเจ็ดอารมณ์และหกปรารถนาของข้าได้ ข้าจะไม่ใช้มันและจะใช้ความสามารถของเซียนจักรพรรดิในการสู้กับเจ้า”