ตอนที่ 1012: หงเหลียนได้รับบาดเจ็บ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1012: หงเหลียนได้รับบาดเจ็บ

ดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ร่ายรำอยู่กับมือของเขาในขณะที่เขาถือมัน มันแทงออกไปที่มารราคะทันทีด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัว ดาบก็เปล่งรัศมีสีทองจ้าออกมา

บู้ม !

ดาบปะทะกับพลังงานที่พวยพุ่งออกมาจากมารราคะกลางอากาศและทำให้เกิดเสียงแสบแก้วหูขึ้นมาทันที พลังงานที่เหลืออยู่ที่น่ากลัวกวาดออกไปทั่วซึ่งทำให้ภูเขาด้านล่างพังทลายลูกแล้วลูกเล่า ทั่วทั้งเทือกเขาครอสเละเทะ สัตว์อสูรที่อ่อนแอจำนวนมากได้ตายไปเนื่องจากการปะทะกันของการโจมตี

การปะทะกันของพวกเขาทำให้มิติที่พันธนาการรอบเจี้ยนเฉินแตกกระจายออกไป ทันทีที่เจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวได้ เขาก็เผชิญหน้าเข้ากับพลังงานที่เหลืออยู่ พลังงานกระแทกเขาออกไปเหมือนว่าวที่หลุดจากสายป่าน

“พวกเราไปสู้ที่อวกาศด้านนอกเถอะ ไม่อย่างนั้นต้องมีหลายชีวิตบนทวีปที่จะต้องตาย” มารราคะพูด หลังจากนั้น เขาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งหน้าไปบนอวกาศ

รุยจินหันไปหาหงเหลียนและคำรามออกมา “การโจมตีอารมณ์ทั้งเจ็ดและปรารถนาทั้งหกของเซียนจักรพรรดิมนุษย์มีผลต่อวิญญาณ มันมีผลกระทบต่อจิตใจได้อย่างไม่รู้ตัว เจ้ายังหลอมรวมลูกปัดได้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นข้าจะไปรับมือกับเขาเอง เจ้าอยู่ที่นี่และคอยปกป้องเจี้ยนเฉิน”

หงเหลียนพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด ไฟสีขาวเปล่งรัศมีออกมาจากร่างของนางและปกคลุมนางทั่วทั้งหมด

ทันใดนั้นเอง ความร้อนที่น่ากลัวกระจายออกไปรอบ ๆ และทำให้อุณหภูมิรอบ ๆ พุ่งสูงขึ้น มันเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับน่ากลัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่อากาศก็กำลังลุกไหม้

เมื่อมองผ่านไฟสีขาวเข้าไปก็จะเห็นหงเหลียนที่อยู่ในเกราะที่ทำมาจากขนนกทั้งตัวราง ๆ มันเป็นสมบัติในตำนานของตระกูลฟีนิกซ์เทวะของนาง เกราะขนนกเทพเพลิง ความแข็งแกร่งของพลังงานดั้งเดิมได้เพิ่มอัตราการป้องกันของสมบัติให้สูงขึ้น มันสามารถทนการโจมตีจากเซียนจักรพรรดิได้โดยไม่เสียหาย

หงเหลียนเป็นแค่เซียนราชาในขั้นสูงสุดเท่านั้น คนที่มีความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นนี้สามารถแม้แต่จะหนีจากเซียนจักรพรรดิได้ อย่างไรก็ตาม นางสามารถประมือกับเซียนจักรพรรดิได้เพราะว่านางมีสมบัติโจมตีและป้องกันของตระกูลนาง

“พลังงานดั้งเดิม มันเป็นพลังงานดั้งเดิมอีกแล้ว” ไคเซอร์พูดเสียงทุ้ม ในขณะที่เขาจ้องมองหงเหลียนที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยไฟสีขาวอย่างสนใจ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง บางทีอาจจะเป็นเพราะเขากำลังข่มความเจ็บปวดของวิญญาณของเขาด้วยทุก ๆ อย่างที่เขามีอยู่ เขาดูดุร้ายมาก

ไคเซอร์จ้องมองหงเหลียนในขณะที่ตาของเขาเป็นประกาย เขาคำรามออกมา “ฟีนิกซ์น้อย ข้าจะไม่ทำให้เจ้าตัดสินใจยากเพราะว่าเจ้าก็เป็นสัตว์อสูรเหมือนกัน มันจะดีที่สุดถ้าเจ้าไม่เข้ามายุ่งเรื่องของข้า” หลังจากนั้น ไคเซอร์ก็พยายามเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ หงเหลียนในรูปแบบของแสง ในขณะที่เขาพยายามจะไล่ตามเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตาม ไฟขาวรอบ ๆ หงเหลียนก็เริ่มที่จะปั่นป่วนอย่างรุนแรงในขณะที่ไคเซอร์ผ่านนางไป มันเปลี่ยนไปเป็นฟีนิกซ์ขาวตัวใหญ่ทันที มันกลืนกินไคเซอร์เข้าไปในไฟที่ลุกโชน

“ฟีนิกซ์น้อย อย่าว่าข้าที่ไม่ปราณีนะ เมื่อเจ้าไม่รู้ดีรู้ชั่ว หมัดมังกรทรราชย์!” ไคเซอร์ตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยวในเปลวเพลิงสีขาว

เสียงระเบิดดังขึ้นมา ไคเซอร์ทำลายฟีนิกซ์ที่ควบแน่นมาจากไฟสีขาวได้ด้วยการต่อยเพียงหมัดเดียว ฟีนิกซ์สลายไปทันทีและเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มเมฆไฟในท้องฟ้า อุณหภูมิที่น่ากลัวทำให้มิติบิดเบี้ยว

หงเหลียนลอยอยู่อย่างเคร่งเครียดในท้องฟ้า ผมสีแดงเข้มของนางสยายไปกับสายลม ทันใดนั้นเอง นางก็กางแขนออกและตะโกนออกมา “เพลิงขาวชำระล้าง ย้อนกลับ!”

พลังที่ลึกลับนำไฟขาวที่ถูกไคเซอร์ชกให้สลายไปกลับมา ไฟเข้ามารวมที่หงเหลียนจากรอบรอบทุกทิศทาง

“การเผาไหม้ที่ว่าง เพลิงหลอมรวม ! ” หงเหลียนตะโกนออกไป นางอัดแน่นไฟขาวที่อยู่รอบ ๆ นางทั้งหมดให้เป็นลูกบอลขนาดเท่ากำปั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ระเบิดออกเสียงดังและขยายออกไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นบอลเพลิงใหญ่ 10 กิโลเมตรในตอนท้าย

ไฟขาวเต็มอยู่ในบอลทั้งหมด มันเหมือนทะเลเพลิง และมันร้อนจนดูเหมือนจะสามารถเผาไหม้ทุกอย่างได้

ไคเซอร์ยืนอยู่อย่างภาคภูมิในทะเลเพลิง ชั้นพลังงานที่ทรงพลังได้มาควบแน่นอยู่รอบ ๆ เขาเพื่อป้องกันเขาเอาไว้จากเปลวเพลิง แม้ว่าไฟสีขาวจะน่ากลัว แต่มันก็ทำอะไรไคเซอร์ที่เป็นเซียนจักรพรรดิไม่ได้

หงเหลียนปรากฏขึ้นในทะเลเพลิง เกราะขนนกสีแดงเข้มเตะตามากในกลุ่มไฟสีขาว

“ฟีนิกซ์น้อย เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก ถ้าเจ้ายังไม่บ้า ถอยออกไปเร็ว” ไคเซอร์พูดออกมาอย่างเย็นชาในขณะที่เขามองไปที่หงเหลียน พลังงานดั้งเดิมที่อยู่ในเกราะขนนกคอยปกป้องนางเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรนางได้เลย ดังนั้นไคเซอร์จึงไม่วุ่นวายกับหงเหลียนอีก

“ไฟบริสุทธิ์อาจจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่มันก็จะเผาผลาญพลังของเจ้าไม่หยุด” หงเหลียนพูดออกมาอย่างสงบ นางยกมือขึ้นช้า ๆ ในขณะที่ปิ่นสีแดงเพลิงก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาทีละนิด ทันใดนั้นเอง พลังงานที่ลึกลับและทรงพลังก็เปล่งรัศมีออกมาจากมัน

“พลังงานดั้งเดิมอีกแล้ว บ้าเอ้ย ทำไมพวกเจ้าถึงได้มีของที่มีพลังงานดั้งเดิมมากมายนัก” ท่าทางของไคเซอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ควับ ! ปิ่นในมือของหงเหลียนพุ่งไปที่ไคเซอร์

ไคเซอร์คำรามออกมา และมือขวาของเขาก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกรที่ทรงพลังในทันที เขาเหวี่ยงมันไปที่ปิ่น

ชิ้ง ! เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น กรงเล็บของไคเซอร์กระแทกปิ่นกลับไป ในขณะที่เขาไม่ได้รับรอยขีดข่วนใดใด

ตาของไคเซอร์เบิกออก เขาคิด “ของที่มีพลังงานดั้งเดิมอันนี้ยังอ่อนกว่าดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลมังกรมาก”

ความตื่นเต้นแผ่ออกมากไคเซฮร์ ความกลัวหงเหลียนของเขาลดลงอย่างมาก เขาพุ่งไปที่หงเหลียน ในขณะที่เขาใช้มือขวาของเขาที่เป็นกรงเล็บมังกรตวัดไปที่หงเหลียน

หงเลี่ยนไม่สามารถหลบการโจมตีได้เลยด้วยความแข็งแกร่งของนางที่เป็นเพียงเซียนราชาในขั้นสูงสุด ดังนั้นกรงเล็บจึงโดนไปที่เกราะขนนกของนางอย่างจัง

เกราะขนนกไม่ได้รับความเสียหาย แต่พลังที่ทรงพลังก็ผ่านการป้องกันของมันไปและเข้าไปในร่างของหงเหลียน

พรวด ! หงเหลียนหน้าซีดและกระอักเลือดออกมา แรงโจมตีกระแทกทั้งร่างของนางให้ถอยไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าสมบัติในตำนานของเจ้าจะอ่อนกว่าของอีกทั้งสองคนเยอะมาก ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะสู้กับข้ายังไงตอนนี้” ไคเซอร์พูด ในขณะที่เขาหัวเราะออกมาดัง

หงเหลียนเคร่งเครียดหนักกว่าเดิม นางเพิ่งได้รับเกราะขนนกมาและเวลาก็กระชั้นชิดมาก นางยังหลอมรวมสมบัติป้องกันของนางได้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะว่านางรีบมา นี่ทำให้นางใช้พลังเต็มที่จากสมบัติทั้งสองไม่ได้