“เป็นไปได้อย่างไร? อาจารย์ซ่งเฉากลับแพ้ในการประลองไฟ?”
“เจ้าไฟก้อนน้อยนั้นอันแสนบอบบางนั้นมันกลับแข็งแกร่งจนแม้แต่อาจารย์ซ่งเฉาก็ยังไม่อาจจะทำอะไรได้หรือ?”
“หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะปกปิดวิชาของตนไว้อย่างเก่งกาจปานนี้?”
… …
เสียงร้องอย่างไม่อยากเชื่อดังขึ้นทั่วทุกทิศ ดูท่าแล้วเรื่องราวในครั้งนี้มันคงไม่มีใครคาดคิดได้ถึง
ยอดนักหลอมโอสถระดับอาจารย์ของชุมเก้าสายนี้กลับพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง
“มีฝีมือเท่านี้หรือ? เจ้าจะน่าผิดหวังเกินไปแล้ว” เย่หยวนบอก
ซ่งเฉานั้นได้แต่ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าเจ็บแค้น เขารีบกล่าวขึ้นมาแก้ตัว “ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ากลัว ข้าประมาทเจ้าไป! ดูนี่เสียเถอะ!”
พูดจบซ่งเฉาก็ได้วาดตราขึ้นมาพร้อมปล่อยค้อนเพลิงยักษ์ลงมาทุบใส่ก้อนไฟน้อยนั้น
ตุบ!
เจ้าค้อนเพลิงดับหายไปทันที
ซ่งเฉาหน้าซีดเผือดลง เพราะครั้งนี้เขาตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด
หากก่อนหน้านี้เป็นแค่การลงมือเล่นๆ ของเขา เจ้าค้อนนี้มันก็คงนับได้ว่าเป็นพลังเจ็ดในสิบที่ตัวเขามีแล้ว
แต่เจ้าก้อนไฟตรงหน้านี้กลับสามารถดับมันลงได้ด้วยการปะทะเพียงครั้งเดียว?
หวู่หลิงได้แต่อ้าปากค้างดูภาพตรงหน้าอย่างไม่คิดอยากเชื่อ
“ท่านพี่ นี่อาจารย์ซ่งเฉาท่านประมาทศัตรูเกินไปหรือ? นี่มัน… มันจะเกินจริงไปหน่อยไหม?”
หวู่ซ่งที่ได้ยินกลับส่ายหัวออกมา “ข้าเกรงว่ามันจะไม่ใช่แค่การประมาทศัตรูใดๆ! แม้ว่าข้าเองก็จะรู้สึกว่าก้อนไฟน้อยนั้นมันอ่อนแอไม่น่าจะทนได้แม้แต่ลมพัด แต่พอลองมองมันดูดีๆ แล้วมันกลับเป็นกองไฟที่อัดแน่นถึงขีดสุด! ในสายตาของคนภายนอกแล้วมันย่อมจะเป็นไฟที่ไม่มีคลื่นพลังหรือความร้อนใดๆ ดูท่าแล้วผู้ใช้มันคงเป็นยอดผู้ใช้วิชาไฟจนถึงขั้นสมบูรณ์อย่างแน่นอน!”
หวู่หลิงนั้นอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเย่หยวน หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะเป็นยอดคนผู้ใช้วิชาไฟจริงๆ?
“ครั้งนี้ไม่เลว ไฟของเจ้าก่อตัวแน่นขึ้นมา แต่ทว่า… มันก็ยังไม่พอ หากเจ้ายังไม่คิดยอมแพ้จะลองดูอีกครั้งก็ได้” เย่หยวนบอก
ในสายตาของเขาแล้วค้อนไฟเมื่อสักครู่มันยังนับว่าพอใช้ได้
หากเทียบกับไฟที่ก่อเอาเท่เหมือนอย่างเสือเพลิงก่อนหน้านี้แล้วมันย่อมจะหนักแน่นกว่ามาก
นักหลอมโอสถแห่งทุ่งราบสุดอุดรนั้นย่อมจะใช้ไฟในกายสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายเป็นนิจ แน่นอนว่าวิชาควบคุมไฟของคนทั้งหลายนี้มันย่อมจะเหนือกว่าหากเอาไปเทียบกับคนจากแดนอื่น
เพียงแค่ว่ากำลังระดับนี้มันไม่อาจจะทำอะไรแก่เย่หยวนได้แม้แต่น้อย
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานั้นก็เป็นยอดคนผู้มีวิชาโอสถเหนือล้ำที่สุดในแดนใต้
แล้วสิ่งใดคือพื้นฐานของวิชาโอสถ?
แน่นอนว่าการควบคุมไฟมันย่อมเป็นหนึ่งในนั้น!
หากวัดกันแค่เรื่องการควบคุมไฟแล้ว แม้จะเป็นในโลกแสนกว้างใหญ่นี้ คนที่จะชนะเย่หยวนได้มันก็คงมีอยู่ไม่มาก
“เด็กน้อย เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! ดูซ่งผู้นี้ทำลายไฟของเจ้าลงให้ดีเถอะ!”
ซ่งเฉานั้นได้แต่กัดฟันแน่นปล่อยไฟออกมาอีกครั้ง
เพียงแค่ว่าไม่ว่าเขาจะพยายามมากมายเท่าใด ไฟก้อนน้อยนี้มันก็ไม่สั่นไหว แข็งแกร่งราวเพชร
แม้จะใช้วิชาออกมาติดกันถึงเจ็ดแปดครั้ง ซ่งเฉาก็ยังไม่อาจจะทำให้เจ้าก้อนไฟน้อยนี้สั่นไหวได้จนตอนนี้ใบหน้าของเขามันท่วมไปด้วยเหงื่อ
เย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยท่าทางรำคาญ “เจ้าอ่อนแอเกินไป ไปเรียกอาจารย์ของเจ้ามาเถอะ ถือเป็นรางวัลที่ช่วยข้า ข้าจะให้เจ้าได้ดื่มสุรานี้หนึ่งจอก”
พูดจบเย่หยวนก็เทสุราลงและผลักดันมันไปให้แก่ซ่งเฉาจนทำให้เกิดกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่ว
ซ่งเฉานั้นสั่นสะท้านไปทั้งกาย แต่ตัวเขาก็รู้ดีว่าแม้จะใช้วิชาที่มีออกมาจนหมดสิ้นแล้ว เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรเจ้าก้อนไฟน้อยๆ นี้ได้เลย
ตอนนี้เขาถึงขั้นรู้สึกว่าต่อให้จะเป็นอาจารย์ของตน เทพสวรรค์กู้หงนั้นก็อาจจะไม่สามารถดับก้อนไฟนี้ลงได้เช่นกัน!
แต่ไม่นานความคิดนั้นมันก็จางหายไป
เรื่องเช่นนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร?
อาจารย์ของเขานั้นเป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาว! ตัวเขานั้นเก่งกาจเหนือล้ำที่สุดในชุมเก้าสายนี้
มีหรือที่เจ้าเด็กน้อยปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นนี้จะเก่งกาจเหนือกว่าอาจารย์ของเขาไปได้?
ซ่งเฉานั้นอดไม่ได้ที่จะหันไปสนใจสุราหอมหวนนี้
เพราะมันหอมจนเกินทนจริงๆ!
หอมจนทำให้ผู้คนไม่อาจหักห้ามใจ!
ซ่งเฉานั้นอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่และสุดท้ายก็ยกจอกสุรานั้นขึ้นมาดื่มจนหมดสิ้นท่ามกลางสายตาของผู้คน
“สุราดี! ช่างเป็นสุราที่ยอดเยี่ยม! เฒ่าคนนี้ไม่เคยจะได้ดื่มสุราที่อร่อยล้ำเช่นนี้มาก่อนเลย!”
เมื่อสุรานั้นเข้าถึงปากซ่งเฉาก็ต้องร้องตะโกนชื่นชมมันออกมาทันที
เขานั้นรู้สึกได้ถึงคลื่นของสุราเลิศรสที่ไหลลงในท้อง จุดประกายร่างให้ร้อนรุ่มเปิดเส้นชีพจรทุกเส้นออก
มันราวกับว่าเขาได้กลืนดวงตะวันลงท้องไปทำให้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มขึ้นทันที
เทียบกันแล้วสุราเพลิงคลั่งที่เขาเคยชื่นชมนั้นมันเป็นได้แค่น้ำเปล่า
เมื่อทุกผู้คนได้เห็นท่าทางชื่นชมนั้นของซ่งเฉา พวกเขาทั้งหลายก็หมดความสงสัยใดๆ แต่สุราสาดตะวันโอบนี้อีก
เพราะเดิมทีมันยังมีคนคิดว่าหวู่ซ่งนั้นอาจจะเป็นนักแสดงที่พวกเย่หยวนจ้างมา
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าแม้แต่อาจารย์ซ่งเฉาก็ยังชื่นชมมันออกมา ความสงสัยใดๆ ในใจมันก็หายไปสิ้น
เพียงแค่ว่าเมื่อคิดได้เช่นนั้นคนทั้งหลายก็ยิ่งจะอยากได้สุราสาดตะวันโอบนี้มากขึ้นไปกว่าเก่า
การที่เห็นสุราดีอยู่ตรงหน้าแต่ไม่อาจดื่มได้นี้มันช่างสุดแสนทรมาน!
“เด็กน้อย ข้าจะช่วยเอาสารท้าดวลนี้ไปส่งให้แน่! แต่สุรานี้…” ซ่งเฉาจ้องมองดูที่ขวดสุราน้อยๆ ในมือเย่หยวน
แต่เย่หยวนกลับตอบมาอย่างหนักแน่น “ข้าบอกว่าหนึ่งจอกก็คือหนึ่งจอก อย่าได้มองข้าเช่นนั้นเลย เจ้ากลับไปบอกอาจารย์ของเจ้าเสียว่าตราบเท่าที่เขา เทพสวรรค์กู้หงรับคำท้าและเอาชนะจี้ผู้นี้ได้ สูตรของสุราสาดตะวันโอบนี้ข้าย่อมจะมอบให้เขาแน่นอน อย่าได้คิดอุตริเลย ด้วยฝีมือของเจ้าต่อให้อยากก็ไม่อาจแย่งชิงมันไปจากข้าได้หรอก”
ซ่งเฉาในตอนนี้แทบจะถลนตาออกจากเบ้า ดูท่าคงคิดที่จะแย่งชิงมันไปด้วยกำลังจริงๆ
ในสถานที่อย่างชุมเก้าสายนี้มันไม่มีทั้งความยุติธรรมหรือกฎหมายใดๆ
สิ่งใดที่คิดอยากได้ก็แค่แย่งชิงมา
ตราบเท่าที่หมัดของเจ้าใหญ่พอ จะอยากได้อะไรก็ได้ทั้งสิ้น
แต่ที่ด้านข้างเมื่อมีคนเห็นว่าเรื่องราวดูท่าจะไม่มีดีแล้วจึงได้เดินขึ้นมาพูดขึ้น “อาจารย์ซ่งเฉา เมื่อสักครู่นี้ดาบสายฟ้าหวางเหิงเองก็คิดที่จะใช้กำลังแย่งชิงสุรานั้นมาและกลับถูกเจ้าหนุ่มนี่สังหารลงด้วยหมัดเดียว!”
ซ่งเฉาที่ได้ยินต้องร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง “ดายสายฟ้าหวางเหิง? เขานั้นผสานสองแนวคิดทั้งยังมีกำลังไม่ด้อยกว่าเทพถ่องแท้ห้าดาวมิใช่หรือ? เขากลับตายลงด้วยหมัดเดียว?”
คนผู้นั้นจึงได้กล่าวย้ำขึ้นมาอีก “อาจารย์ คนตั้งมากมายได้เห็นมัน มีหรือที่ข้าจะยังกล้าคิดหลอกลวงท่าน?”
ซ่งเฉาได้แต่หรี่ตามองดูเย่หยวน ตอนนี้เขาได้มั่นใจแล้วว่าเจ้าเด็กคนนี้มันมิใช่ตัวตนที่จะประมาทได้เลย
จากนั้นเขาก็เริ่มกลับมาตั้งสติได้และตอบ “ได้! เฒ่าคนนี้จะไปส่งสารของเจ้าให้ แต่ข้าหวังว่าฝีมือการโอสถของเจ้ามันจะไม่ได้มีดีแค่การควบคุมไฟล่ะ! ลาก่อน!”
พูดจบซ่งเฉาก็หยิบจดหมายน้อยนั้นเดินหายไป
…
ข่าวลือเรื่องนี้มันได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว!
ในชุมเก้าสายนั้นมันถูกก่อตั้งขึ้นมานับหมื่นๆ ปีอย่างที่ไม่เคยจะมีใครกล้าลุกขึ้นมาท้าทายเทพสวรรค์กู้หงมาก่อน
จอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นคือตัวตนที่เหนือล้ำเป็นดั่งเทพในทุ่งราบสุดอุดร ตำแหน่งของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำจนไม่อาจวัดได้
แต่ตอนนี้มันกลับมีเด็กหนุ่มหัวร้อนเดินเข้ามาท้าทายเทพสวรรค์กู้หง!
ในเวลานี้ชุมเก้าสายจึงเกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างมาก ผู้คนทั้งหลายตื่นเต้นกับศึกการประลองที่กำลังจะมาถึงนี้
“ไม่มีทางไหมเนี่ย? เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากไหนกัน? ข้าไม่เห็นจะเคยได้ยินเลยว่าชุมเก้าสายเรานั้นมียอดนักหลอมโอสถหนุ่มปรากฏขึ้นมา!”
“ข้าว่าอาจจะมาจากชายแดนเหนือล่ะมั้ง? เจ้าเด็กน้อยไม่รู้จักฟ้าดินกลับกล้าท้าทายจอมเทพโอสถเจ็ดดาว หึๆ ข้าว่ามันต้องกลายเป็นเรื่องสนุกแน่”
“ข้าได้ยินว่าเจ้าเด็กคนนั้นสามารถเอาชนะยอดศิษย์ของเทพสวรรค์กู้หงอย่างอาจารย์ซ่งเฉาท่านได้ในการประลองไฟ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่”
“หึ เรื่องนั้นมันคงเป็นเจ้าเด็กคนนั้นโม้อวดตัวขึ้นมามากกว่าล่ะมั้ง? อาจารย์ซ่งเฉานั้นเป็นผู้มีวิชาควบคุมไฟเหนือล้ำเป็นอันดับหนึ่งของชุมเก้าสายเรา ลำพังแค่เจ้าเด็กคนนี้ก็จะเอาชนะได้?”
“แต่ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเด็กคนนี้มันมีโอสถที่สุดแสนหอมอร่อย! เทพสวรรค์กู้หงท่านเองก็ยอมรับคำท้าเพราะว่าอยากได้สูตรโอสถนี้”
…
ข่าวทั้งหลายแพร่กระจายออกไปจนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ในชุมเก้าสาย
เรื่องราวทั้งหลายนั้นมันเกิดขึ้นเพราะว่ามีเด็กหนุ่มคิดไปท้าทายเทพแห่งเต๋าโอสถของพวกเขา!
ไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะชนะได้ ไม่ว่าจะดูอย่างไรการท้าทายนี้มันก็แค่เดินเข้าไปรนหาเรื่องแพ้เท่านั้น
…………………