ตอนที่ 2073 ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจ!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ณ จัตุรัสกลับฟ้าตอนนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนทุกหนแห่ง

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวลงมือหลอมโอสถนั้นมันย่อมจะกลายเป็นงานของชุมเก้าสาย

เรื่องที่เย่หยวนท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นมันโด่งดังไปทั่วทั้งชุมเก้าสายอย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเองก็เกินไปหรือไม่ ให้ท่านอาจารย์ออกมาประลองกับเด็กน้อยเช่นนี้มันจะเสื่อมเสียเกียรติจนเกินไปแล้ว!” ศิษย์น้องของซ่งเฉานามหลัวหยูกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย

ศิษย์น้องอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นตาม “การให้ท่านอาจารย์ประลองกับมันนี้มันจะต่างอะไรกับการให้ท่านอาจารย์ประลองกับเราเล่า? การประลองเช่นนี้มันย่อมไม่อาจจะมีทางออกผลอื่นใดไปได้”

ซ่งเฉายิ้มออกมา “พวกเจ้าจะไปรู้อะไร? เจ้าเด็กคนนั้นมันมีสูตรสุราอันเหนือล้ำอยู่ในมือ หากเราเอามันมาได้แล้วมันคงได้เปลี่ยนกลายเป็นรายได้มหาศาล! ถึงเวลานั้นทั้งเทพสวรรค์หลงหยูแห่งชุมรุ่งอุดรหรือเทพสวรรค์จุนห่าวแห่งชุมแยกวาโยก็คงได้แต่ต้องก้มหัวลงให้กับท่านอาจารย์!”

เมื่อหลัวหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ศิษย์พี่ สุรานี้มันดีขนาดนั้น?”

ซ่งเฉานั้นเริ่มหลับตาลงย้อนกลับไปนึกถึงรสชาติของมัน “มากเสียยิ่งกว่าดี! มันมีรสชาติแฝงมากมายอย่างไม่อาจบรรยาย! ศิษย์พี่ของเจ้าผู้นี้ได้ลองชิมแค่จอกเดียวยังรู้สึกได้ว่าครึ่งเดือนมานี้ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างมาก! ไม่ต้องใช้ปราณเทวะหรือไฟใดๆ ในการขับไล่ความหนาวเย็น! ทั้งอร่อยทั้งขับความหนาว เจ้าว่าคนทุ่งราบสุดอุดรเราจะทนความยั่วเย้าของมันได้หรือ?”

เหล่าศิษย์น้องของเขาทั้งหลายต่างได้แต่มองดูอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะตั้งแต่ที่ศิษย์พี่ของเขากลับมาจากโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งวันนั้นเขาก็เอาแต่พูดถึงความดีงามของสุราสาดตะวันโอบนี้อย่างไม่ขาดปาก ราวกับว่าตัวเขานั้นต้องมนต์ใดมา

ยิ่งได้ฟังเขาพูดถึงมันทุกสี่วันเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายก็เริ่มรู้สึกอดไม่ได้ที่จะอยากลอง

ในหมู่คนสุดอุดรทั้งหมดนี้มันไม่มีใครที่จะได้มีโอกาสดื่มมัน

แค่ได้ยินว่ามันอร่อย มีหรือที่คนทั้งหลายจะเชื่อง่ายๆ?

เว้นเสียแต่กับสองคนที่เคยดื่มมันมาก่อนอย่างซ่งเฉาและหวู่ซ่งสองคนนี้

ไม่ว่ามันจะอร่อยจริงหรือไม่ คนทั้งหลายย่อมไม่อาจรู้ได้

แต่พวกเขานั้นได้เข้าใจหลังจากที่ได้ยินคำของซ่งเฉา อย่างน้อยตราบเท่าที่ได้สูตรสุรานี้มามันก็จะสามารถพลิกหน้าธุรกิจสุราของทุ่งราบสุดอุดรได้ทีเดียว

“เขามาแล้ว เขามาจริงๆ! เจ้าเด็กคนนี้หรือ? ยังเด็กขนาดนี้เชียว!”

ในเวลานี้มันเกิดเสียงร้องขึ้นในหมู่ผู้คนก่อนจะเห็นว่ามีเงาร่างของเด็กหนุ่มเดินขึ้นมาบนลานประลอง

“นี่มัน… จะเด็กเกินไปหรือไม่? แค่เจ้าเด็กคนนี้มันก็มีสิทธิจะท้าทายเทพสวรรค์กู้หงท่าน?”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? กลับกล้ามาลบหลู่เทพที่ข้าบูชาเช่นนี้!”

“ไสหัวไป!”

เมื่อคนทั้งหลายเห็นหน้าตาหนุ่มน้อยของเย่หยวนพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

อายุเท่านี้รู้หรือยังว่าโอสถคืออะไร กลับกล้ามาท้าทายยอดโอสถอันดับหนึ่งแห่งชุมเก้าสาย นี่มันล้อกันเล่นหรือ?

เมื่อมีคนเริ่มมันก็ย่อมจะมีคนตาม ตอนนี้คนทั้งหลายต่างเริ่มโห่ไล่เย่หยวนไปตามๆ กัน

แต่เย่หยวนนั้นกลับยืนนิ่งไม่คิดสนใจใดๆ

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหลายก็ย่อมจะหุบปากลงไปเอง

เมื่อหลัวหยูเห็นเย่หยวนว่ายังหนุ่มอายุน้อยปานนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก “หึ ช่างเป็นเจ้าโง่ที่ไม่ประมาณตนเสียจริงๆ อายุเท่านี้ก็กลับกล้ามาท้าทายอาจารย์เรา โอหังนัก!”

แต่ซ่งเฉากลับพูดแทรกขึ้น “ข้าไม่รู้หรอกนะว่ามันจะมีวิชาหลอมโอสถระดับใด แต่หากให้พูดถึงวิชาควบคุมไฟของมันแล้วข้าขอยอมรับว่ามันเก่งกาจ! หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมีหรือที่ข้าจะปล่อยให้เรื่องถึงมือท่านอาจารย์? ข้าคงจัดการมันลงเองไปแล้ว!”

หลัวหยูที่ได้ยินก็ต้องหันหน้ากลับมาหาศิษย์พี่ทันที “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านแพ้มันจริง?”

ซ่งเฉานั้นได้แต่พยักหน้าตอบมาด้วยสีหน้ามืดดำ

หลัวหยูนั้นย่อมไม่คิดจะอยากเชื่อ เขานั้นย่อมรู้ดีว่าวิชาควบคุมไฟของซ่งเฉานั้นเก่งกาจปานใด ต่อให้เป็นตัวเขามันก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงเรื่องการควบคุมไฟกับซ่งเฉาได้แม้แต่น้อย

แต่ศิษย์พี่อันเก่งกาจของเขากลับแพ้ให้เจ้าเด็กคนนี้? หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเป็นยอดอัจฉริยะโอสถจริง?

ในตอนนั้นเองที่เกิดมีคลื่นพลังหนักหน่วงปรากฏขึ้น

“เทพสวรรค์กู้หงท่านมาแล้ว!”

“ต้องขอบคุณเจ้าเด็กคนนี้เลย ข้าจึงจะได้เห็นหน้าตาของท่านกู้หง!”

“ท่านกู้หง สั่งสอนมันเลยท่าน!”

ตอนนี้มันเกิดเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีรอบด้าน

เทพสวรรค์กู้หงนั้นเป็นตัวตนที่เป็นดั่งเทพเจ้าของคนทั้งหลาย

ในทุ่งรายสุดอุดรนี้ จอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นเป็นดั่งดวงตะวันกลางฟ้าส่องแสงลงมายังโลก

เด็กน้อยอย่างเย่หยวนที่คิดท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นย่อมจะเหมือนได้ทำการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนทั้งหลาย

ชายชราในชุดสุดฟ้าครามค่อยๆ เดินออกมาจากช่องว่างมิติก่อนจะหันหน้าไปมองรอบๆ ด้วยท่าทางสง่า

“ศิษย์กราบคารวะท่านอาจารย์!” ซ่งเฉาและเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายได้เดินเข้ามาก้มคารวะเทพสวรรค์กู้หง

เทพสวรรค์กู้หงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองดูที่เย่หยวนอย่างตื่นตะลึงไม่น้อย

เพราะความเยาว์วัยของเย่หยวนนี้มันเกิดที่เขาคาดไปมาก

“เจ้าคือจี้ฉิงหยุนที่ท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้?” เทพสวรรค์กู้หงถามขึ้น

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมาเขาก็ได้ส่งพลังกดดันเข้าไปหาเย่หยวนอย่างไม่น้อย

เว้นเสียแต่ว่าเย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่สนใจแรงกดดันใดๆ ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองนั้นสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันได้

เมื่อเทพสวรรค์กู้หงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ตื่นตะลึงขึ้นไม่น้อย

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนที่เย่หยวนพบเจอเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเขาได้รับแรงกดดันหนักหน่วงปานใด? คลื่นพลังของเทพสวรรค์กู้หงนี้มันอ่อนแอกว่ากันไปมาก

คลื่นพลังที่เขาปลดปล่อยออกมาในเวลานี้มันเหมือนเด็กน้อยที่ยกไม้ยกมือวางท่าต่อหน้าปรมาจารย์

“เป็นจี้ผู้นี้เอง!” เย่หยวนตอบ

เทพสวรรค์กู้หงที่ได้ยินก็แสดงท่าทางชื่นชมออกมา “สมแล้ว วีรบุรุษย่อมมาจากรุ่นคนหนุ่มสาวเสมอ! ถึงกับกล้ามาท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้ด้วยอายุเท่านี้ เจ้ามีความกล้าหาญมาก! วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะไม่รังแกคนอ่อนแอแน่นอน เมื่อข้าลงมือแล้วข้าย่อมจะเฝ้าระวังไม่ให้ทำอะไรเกินเลยน อ่า… เจ้าเลือกโอสถเถอะ”

การประลองดวลใดๆ นี้มันย่อมเป็นสิ่งที่สุดแสนง่ายดายต่อตัวเขา

เพียงแค่ว่าท่าทางของเขานี้ต่อคนทั้งหลายแล้วมันเหมือนเป็นยอดคนผู้มีจิตใจกว้างขวาง

“สมชื่อท่านเทพสวรรค์กู้หง! กับความพยายามของเจ้าหนุ่มนี้ท่านกลับไม่โกรธเคืองและยังชื่นชมคิดแนะนำให้ด้วย”

“หึ ดูเจ้าเด็กนั่นสิ! ยังจะทำหน้าหยิ่งยโสอยู่อีก!”

แต่แท้จริงแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะเชิดหน้าหยิ่งใส่ใคร? เขานั้นแค่ทำหน้าตาเฉยชาตามปกติประสาของเขา

แต่ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วความเฉยชานั้นเองที่เป็นเรื่องผิด ต่อหน้าเทพสวรรค์กู้หงแล้วตัวเย่หยวนควรจะก้มหัวลงต่ำ สั่นกลัวหรือไม่ก็แสดงสีหน้าหวาดหวั่นออกมา

เพราะการทำเช่นนั้นมันจะเหมาะกับอายุที่เย่หยวนมีมากกว่า

เย่หยวนหันไปมองเทพสวรรค์กู้หงด้วยสีหน้าแปลกๆ “ท่านจะให้ข้าเลือกจริง?”

เทพสวรรค์กู้หงจึงได้หัวเราะขึ้นมา “เทพสวรรค์ผู้นี้เป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาว ประลองกับเจ้าแค่นี้มีหรือที่ข้าจะเป็นฝ่ายเลือกได้?”

เย่หยวนพยักหน้ารับออกมาและกล่าวด้วยเสียงเฉยชา “เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาด”

นั่นทำให้ดวงตาของเทพสวรรค์กู้หงเบิกกว้าง แทบจะสำลักออกมา

โอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดนั้นมันคือยอดโอสถที่ยากที่สุดในหมู่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหก

ต่อให้จะหลอมขึ้นมาด้วยฝีมือที่เขามีทั้งหมด มันก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ

ที่สำคัญ ต่อให้จะสำเร็จ มันก็คงไม่อาจจะหลอมได้คุณภาพสูงๆ

เขาคิดจะเปิดปากพูดแต่ก็ไม่อาจจะกล่าวใดๆ ออกมาได้

บอกว่าหลอมได้?

หากเขาพลาดขึ้นมาเล่า?

บอกว่าหลอมไม่ได้?

แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“เด็กน้อย เจ้ามาหาเรื่องเทพสวรรค์ผู้นี้แน่แล้วใช่หรือไม่? โอสถนั้นตัวเจ้าเองก็คงไม่อาจหลอมได้มิใช่หรือ?” เทพสวรรค์กู้หงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าดำมืด

เย่หยวนจึงส่ายหัวออกมา “ดูท่าท่านจะไม่มั่นใจว่าจะหลอมโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดได้สินะ เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถเขี้ยวหนุมานอึดใจดีหรือไม่?”

เทพสวรรค์กู้หงแทบจะกระอักเลือดคำโตออกมา เจ้าคิดเล่นงานผู้คนให้ถึงตายเลยหรือ?

ที่สำคัญ… โอสถนี้เองมันก็ยังเป็นโอสถความยากเก้าเช่นกันด้วย!

เขานั้นมั่นใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้คงมาเพื่อก่อกวนเขาเป็นแน่

หรือว่า… จะถูกคนเหล่านั้นส่งมา?

……………………