ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 795 การเตรียมตัวตั้งสำนัก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนตี๋ด้านข้างยืนไว้ด้วยดุรณีสวมอาภรณ์ขาวผู้หนึ่ง เป็นเสี่ยวอ้ายนั่นเอง

เสี่ยวอ้ายครั้นเห็นวังฝูงมังกรปรากฏขึ้นตรงขอบฟ้า เด็กสาวพลันร้องอุทานอย่างดีใจ “นายท่านๆ พวกคุณชายกลับมาแล้ว!”

สายตาของเยี่ยนตี๋ดีกว่านาง จึงเห็นตั้งแต่แรกแล้ว ยามนี้ยิ้มพร้อมพยักหน้า “ถูกต้อง”

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นเยี่ยนตี๋ ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มงกุฎจันทราเป็นของพวกเราแล้ว”

“โอ้?” เยี่ยนตี๋ตาเป็นประกาย มองเฟิงอวิ๋นเซิง นางพยักหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

เยี่ยนจ้าวเกอได้เล่ารายละเอียดนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวังศิลาก้นทะเลเมื่อก่อนหน้านี้ให้เยี่ยนตี๋ฟัง

หลังจากเยี่ยนตี๋ได้ยิน เขาก็จุ๊ปากชมเชย รู้สึกน่าดูชม

สำนักแสงสว่างถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทำลาย ยอดฝีมือที่หนีไปด้านนอกล้วนติดอยู่ที่ก้นทะเลของดินแดนสุทธทัศน์ โดยมีเจ้าสำนักหลัวจื้อเทาเป็นผู้นำ

ยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้งสี่ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง คังผิง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสามคน บวกกับเสวียนมู่อ๋องที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ ครั้งนี้เท่ากับพ่ายแพ้ย่อยยับ

พวกคังผิงถูกขังอยู่ในหลุมดำก้นทะเล ถึงแม้จะไม่ตาย แต่อย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะออกมาได้

ต้องเป็นปรมาจารย์ค่ายกลฉีเหว่ยผู้ที่มีเงื่อนไขพิเศษ ถึงจะสามารถแสดงความสามารถพิเศษได้ ทว่าก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าทิ้งที่ก้นทะเลด้วยมือตัวเองเช่นกัน

หมอกควันที่ครอบคลุมอยู่เหนือเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงเมื่อก่อนหน้านี้ แทบจะปลาสนาการไปจนสิ้น

พวกคังผิงมีโอกาสโผล่มาในทะเลหวงเจียอีกครั้ง แต่อย่างน้อยเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงก็มีเวลามากพอสำหรับการวางแผนแล้ว

มงกุฎจันทรา กระบี่ปีศาจเทาเที่ย สองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเมื่อมาอยู่ในมือ ยิ่งเป็นผลพลอยได้ที่ยอดเยี่ยม

“ปัญหาทางประมุขทักษิณ เตรียมระวังตัวไว้จะดีกว่า หลังจากเกิดเรื่องกระดูกหงส์เพลิงขึ้น ทางประมุขอาคเนย์ที่เขาโถงทองคงเพิ่มความสำคัญให้กับเรื่องนี้มากกว่าเดิมไม่ต้องสงสัย คงจะมียอดฝีมือมาที่ทะเลหวงเจียมากกว่านี้แน่”

เยี่ยนตี๋ว่า “เรื่องเร่งด่วนของพวกเราคือการย่อยสลายของเหล่านี้ ฉวยโอกาสตอนนี้เพิ่มระดับพลังของตัวเอง เพื่อรับมือกับอนาคต”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ขอรับ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเป็นแมงร้อยขาตายแต่ไม่แน่นิ่ง ในสถานการณ์ที่รักษาการป้องกัน ก็ใช่ว่าจะไม่มีพลังโต้ตอบ”

“ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องรีบขยายดินแดนบนทะเลหวงเจีย ชัยชนะที่แท้จริงต้องรอพวกคังผิงหลุดออกมาจากก้นทะเลของดินแดนสุทธทัศน์ได้ก่อน จึงจะเป็นเวลาในการตัดสินครั้งสุดท้าย”

“ก่อนหน้านั้น พวกเราแค่ต้องป้องกันตัวเอง ตั้งหลักบนโลกซ้อนโลกให้ได้เป็นพอ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแม้จะยังมียอดฝีมืออย่างสี่กั๋วกงอยู่ แต่ก็ไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง เมื่อไม่มีพวกคังผิงพวกเขาก็ไม่กล้าอาละวาด”

กู้หงแห่งหอกระบี่ทะลเหนือเป็นจอมยุทธ์ขั้นสะพานเซียนเพียงคนเดียวบนทะเลหวงเจียในตอนนี้

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสูญเสียหอกราชาลี้ลับ พวกคังผิงถูกขังอยู่ก้นทะเล อำนาจในทะเลหวงเจียของกู้หงพลันเพิ่มขึ้นเป็นแนวดิ่ง

บนใบหน้าของเยี่ยนตี๋ปรากฏรอยยิ้มจางๆ “ครั้งนี้เจ้าอยู่ที่ดินแดนสุทธทัศน์ ไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์กับเขาโถงทองดีกว่าเดิม และเกี่ยวพันกันลึกซึ้งกว่าเดิมเท่านั้น ยังทำให้หอกระบี่ทะเลเหนือและเกาะมนุษย์สำริดติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ เป็นผลพลอยได้ที่จับต้องไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สำคัญน้อยกว่าของที่จับต้องได้อย่างมงกุฎจันทราเลย”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพูดว่า “เมื่อไม่มีราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกับสำนักแสงสว่าง อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือหอกระบี่ทะเลเหนือกับเกาะมนุษย์สำริด สำนักเราคิดจะสร้างรากฐานไว้บนโลกซ้อนโลก โดยพื้นฐานถือว่ามั่นคงแล้ว”

“คนของเขตเพลิงทักษิณ มีลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์แห่งเขาโถงทองคอยรับมือ สิ่งที่พวกเราต้องกังวลเพียงอย่างเดียวความจริงแล้วคือยอดฝีมือระดับสุดยอดที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในเขตตะวันอาคเนย์อย่างฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อ ถ้าหากพวกเขาคิดละโมบ พวกเราก็จำเป็นต้องระวังตัว”

ชายหนุ่มทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งยักไหล่

พวกตนร่ำรวยเกินไป ทว่าพลังฝึกปรือของคนในเขากว่างเฉิงปัจจุบันมองไปยังอ่อนแออยู่บ้าง

ความจริงไม่ได้อ่อนด้อย แต่เมื่อเทียบกับของวิเศษมากมายอย่างตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา กระบี่ปีศาจเทาเที่ย และหอกราชาลี้ลับแล้ว กลับดูเหมือนไม่สอดคล้องกัน

ลูกศิษย์ขององค์ประมุขอาคเนย์ไม่คิดจะฆ่าคนชิงสิ่งของ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่านิสัยของพวกเขายังพอใช้ได้

ความเป็นมาของตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา บางทีอาจทำให้คนไม่น้อยรู้สึกกริ่งเกรง แต่มักจะมีคนที่กล้าเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ

คนที่ฝึกฝนวรยุทธ์ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ขวัญกล้าเทียมฟ้าอยู่แล้ว

เทียบกับการมีข้อกริ่งเกรงมากมายและการมีความลังเลจนไม่กล้ากระทำ คนส่วนใหญ่ความจริงใช้วิธีทำก่อนแล้วค่อยว่ากล่าว

คนที่ไม่กลัวความตายมีอยู่ทุกที่

ยิ่งไปกว่านั้น แค่ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้รู้สึกว่าสองบุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชันพระอาทิตย์หรือราชันพระจันทร์ จะคอยยืนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังตน

หลังจากคนอื่นๆ มองทะลุข้อนี้ บางทีอาจจะพากันกระโจนเข้ามาดุจสัตว์ร้ายอย่างไม่ขาดสายก็ได้

เรื่องที่ตนต้องทำคือพยายามเพิ่มพลังก่อนจะถึงเวลานั้น

เมื่อมีคนมาเยี่ยมถึงที่ ก็ค่อยมอบความประหลาดใจให้แก่พวกเขา

“จริงสิ จะว่าไปแล้ว หลังจากทำลายภารกิจของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ไม่ทราบว่าบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขาจะส่งคนมายังทะเลหวงเจียหรือไม่ ถึงอย่างไรพวกคังผิงก็ต้องติดอยู่ในก้นทะเลอีกหลายปี”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “นี่เป็นจุดที่ควรค่าแก่การพิจารณา”

เยี่ยนตี๋ส่ายหน้า “ต่อให้มาก็ต้องสงวนท่าที จัดการเรื่องค่ายกลบูชาฟ้าอย่างสงบเสงี่ยม ถูกมัดมือมัดเท้า ไม่อาจก่อเรื่องอื่นได้ ไม่มีเวลามาตอแยพวกเรา”

“อืม ถูกต้อง มิเช่นนั้นอประมุขอาคเนย์คงสะกดเพลิงโทสะไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอพูด

เขามองเยี่ยนตี๋ “ท่านไปเขาโถงทองพร้อมกับข้าเถอะ”

เขากว่างเฉิงคิดจะก่อตั้งสำนักในเขตตะวันอาคเนย์ จำเป็นต้องแจ้งเขาโถงทองให้ทราบไว้

หลินฮั่นหัวกับมู่จวินไม่อาจจัดการเองได้ จำเป็นต้องให้ประมุขอาคเนย์อนุญาตด้วยตัวเอง

เยี่ยนจ้าวเกอถึงแม้ว่าจะอาละวาดในทะเลหวงเจีย แต่หากพูดในด้านการสืบทอดที่ถูกต้องแล้ว เยี่ยนตี๋จึงจะเป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง เขาไม่ลอยขึ้นมาโลกซ้อนโลกยังพอทำเนา ในเมื่อมาถึงโลกซ้อนโลกแล้ว ย่อมต้องให้เขาไปพบกับประมุขอาคเนย์จึงจะเหมาะสม

“อืม ข้าจะไปเขาโถงทองกับเจ้า” เยี่ยนตี๋พยักหน้าอย่างช้าๆ “แต่ต้องรบกวนให้ท่านอาจารย์คอยคุ้มครองอยู่บนโลกแปดพิภพต่อ”

ทะเลหวงเจียในตอนนี้สถานการณ์มั่นคงขึ้นแล้ว ไม่มีศัตรูที่ส่งผลคุมคามต่อโลกแปดพิภพผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อยู่อีก

ต่อให้มี หยวนเจิ้งเฟิงก็คอยคุ้มครองอยู่ด้านล่าง สามารถรับมือได้

ดังนั้นเยี่ยนตี๋จึงไม่ต้องอยู่เฝ้าประตูของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อีกต่อไป

เยี่ยนจ้าวเกอมองเสี่ยวอ้ายแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไปเขาโถงทองเสร็จ พวกเราจะได้ไปแวะหาที่อยู่ของท่านแม่ด้วย”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเยี่ยนตี๋เด่นชัดมากขึ้น เขาส่ายหน้า “ปล่อยให้เป็นตามวาสนาเถอะ เวลาของพวกเราค่อนข้างกระชั้นชิดแล้ว”

“ถึงแม้จะยังไม่เจอประมุขอาคเนย์ แต่อาศัยเรื่องกระดูกหงส์เพลิง ข้าคิดว่าทางประมุขอาคเนย์คงจะอนุญาตเรื่องที่สำนักเราจะหยั่งเท้าที่นี่” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “การก่อตั้งสำนักไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จำเป็นต้องเตรียมการหลายเรื่อง

“พวกเราไปเขาโถงทองด้วยกัน จำเป็นต้องมีคนเตรียมงานร่วมหน้า สร้างเป็นเค้าโครงขึ้นมาก่อน”

เยี่ยนตี๋ถาม “คนในสำนักเรา นอกจากคนที่ยืนอยู่ที่นี่ในตอนนี้แล้ว ที่เหลือล้วนอยู่ในโลกแปดพิภพกับโลกผืนสมุทรหมดสิ้น พัดกระดาษไม้เจี้ยนในมือเจ้า ทุกครั้งที่ใช้ ต้องปล่อยให้ฟื้นพลังค่อนข้างนาน มีแต่ขาไปขาเดียว”

เยี่ยนจ้าวเกอหยิบถุงย่อส่วนของฉีเหว่ยออกมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผลพลอยได้ในครั้งนี้ของข้ามีหลายอย่างที่ค่อนข้างครอบคลุม แม้ว่าเจ้าของคนเดิมของพวกมันจะไม่รู้ว่าของของเขาทำอะไรได้บ้างก็ตามที”

……………………….