ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 796 หนีพระพ้นหนีวัดไม่พ้น

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอได้ของจากถุงย่อส่วนของฉีเหว่ยมาไม่น้อย

ของที่ฉีเหว่ยเก็บไว้ในถุงย่อส่วน แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

วิธีการแยกประเภท ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการจัดวัตถุดิบที่จำเป็นในการวางค่ายกลค่ายหนึ่งไว้ด้วยกัน

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงหยิบใช้ของวิเศษเหล่านี้ได้สะดวกตลอดเวลา จากนั้นก็วางค่ายกลที่ต้องการ เพื่อใช้รับมือกับศัตรูในระยะเวลาสั้น

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอตรวจสอบแล้ว กลับพบว่าสิ่งของที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันพอเอามาวางด้วยกันแล้ว กลับสามารถแสดงประโยชน์ได้มหาศาล

ตอนที่ติดอยู่ในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนดินแดนหลวนเซียงเป็นเวลานานในตอนนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ฝึกคัมภีร์นภาความว่างเปล่า แต่ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอก็มีความเข้าใจต่อบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ล้ำลึกกว่าเดิม

ในช่วงนี้เยี่ยนจ้าวเกอเริ่มหลอมสร้างของวิเศษสำหรับปกป้องจอมยุทธ์ ที่พลังฝึกปรือด้อยกว่าขั้นเทวะสำแดงให้สามารถผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ เพื่อมายังโลกซ้อนโลกและไปยังโลกใบอื่นด้วยตัวเอง

เมื่อทฤษฎีมีการพัฒนาย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอมีวัตถุดิบอยู่ในมืออย่างจำกัด

ครั้งนี้หลังจากนำถุงย่อส่วนของฉีเหว่ยมาได้ กลับหาวัตถุดิบที่เหมาะสมเจอจำนวนหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอเริ่มสั่งให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเริ่มหลอมทันที

เยี่ยนตี๋คอยดูอยู่ด้านข้าง จุ๊ปากชมเชย ครั้นฟังวิธีการจากเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มทดลองดู

หลังจากใช้เวลาอยู่สักพัก หยกแขวนที่ดูธรรมดา แต่แฝงความงดงามจำนวนหนึ่ง ก็มาอยู่ในมือของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

นี่คือผลงานที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้เวลาศึกษาจนได้มา ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน เขาตั้งชื่อมันอย่างยินดีว่า ‘หยกข้ามสวรรค์’

เป็นเพราะในตอนนี้ยังมีวัตถุดิบจำนวนจำกัด แต่การออกเดินทางในครั้งนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ ได้เตรียมเก็บรวบรวมวัตถุดิบหลักบางส่วนไว้แล้ว

“ทางที่ดีท่านอย่าบีบอัดพลังฝึกปรือของตัวเอง ไม่เช่นนั้นเจตจำนงดาบของท่านจะมีปัญหา” เยี่ยนจ้าวเกอพูด

เยี่ยนตี๋ไม่เถียง พยักหน้าเห็นด้วยด้วยซ้ำ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถือหยกข้ามสวรรค์ เดินไปในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ด้านหน้า

“ท่านอาจารย์ยังจำเป็นต้องคอยคุ้มครองอยู่ที่โลกแปดพิภพอีกสักระยะ” เยี่ยนตี๋ว่า “ทว่าศิษย์พี่สองขึ้นมาจะเหมาะกว่า ไม่เพียงแต่สามารถจัดการเรื่องก่อตั้งสำนักกับข้าได้เท่านั้น สภาพแวดล้อมของที่นี่ยังเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเขาด้วย”

“อาการบาดเจ็บที่ได้จากปฐพีพิภพก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเสียเวลาไปไม่น้อย ปราณแต่กำเนิดก็ได้รับความเสียหายไปด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็พยักหน้า “ท่านพูดถูก”

เขามองเยี่ยนตี๋ “อาจารย์ลุงรองตอนนี้ยังอยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมอยู่หรือไม่?”

เยี่ยนตี๋พยักหน้า “ถูกต้อง ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บ โอสถเซียนกลับสวรรค์ได้แต่ป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้น กลับส่งผลกระทบต่อการฝึกปรือในช่วงต่อมาของเขา”

ทั้งหมดอาศัยหยวนเจิ้งเฟิงนำคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตกลับมาจากโลกยมทะยาน อาการบาดเจ็บของฟางจุ่นจึงค่อยหายดีเป็นปลิดทิ้ง

ปัจจุบันมีโอกาสในการพัฒนาต่อ แต่เวลาหลายปีที่เสียไปก่อนหน้านี้ของเขากลับส่งผลจริงๆ

ทว่าเมื่ออยู่ในขั้นสูงสุดของระดับมหาปรมาจารย์ เดิมทีการจะทำให้ตนเองก้าวหน้าก็ลำบากอยู่แล้ว การเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเป็นร่องน้ำทางธรรมชาติที่คนธรรมดายากจะข้ามผ่าน

คนที่เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ถึงอย่างไรก็มีน้อย

มหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมถึงจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในโลกแปดพิภพ แทบทุกคนต่างมีประสบการณ์เคยติดอยู่ตรงประตูระดับศักดิ์สิทธิ์สิบกว่าปีหรือแม้แต่หลายสิบปีทั้งสิ้น

สำหรับพลังพรสวรรค์ของฟางจิ่นแล้ว เวลาเล็กน้อยนี้ทำเขาเสียเวลาไปมาก

เพียงแต่ว่าความแตกต่างระหว่างเขากับเยี่ยนตี๋ เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วกลับเพิ่มมากกว่าเดิม หลายอย่างไม่อาจแก้ไขได้อีกแล้ว

“อาจารย์ลุงรองมีจิตใจแน่วแน่ แม้ว่าบางครั้งจะสุดโต่งไปบ้าง กระนั้นขอแค่ข้ามด่านนี้ไปได้ ต่อจากนี้จะต้องพุ่งทะยานอย่างแน่นอน” เยี่ยนจ้าวเกอว่า

เมื่อมีคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตและบทสวดอัสนีทันใจอยู่ด้วย ระดับวรยุทธ์ของเขากว่างเฉิงจึงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น

ยิ่งเป็นคนที่โดดเด่นเช่นเยี่ยนตี๋กับฟางจุ่น ยิ่งได้รับประโยชน์มากกว่าเดิม

ครั้นมาถึงโลกซ้อนโลก ปราณวิญญาณจะมีเต็มเปี่ยมกว่าเดิม สภาพแวดล้อมยิ่งโดดเด่น เส้นทางต่อจากนี้จะต้องราบรื่นยิ่งกว่าโลกแปดพิภพอย่างไม่ต้องสงสัย

เยี่ยนตี๋เอ่ย “ความจริงเมื่อมีคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตกับบทสวดอัสนีทันใจอยู่ด้วย ด้วยสติปัญญาของศิษย์พี่สอง อีกไม่นานควรจะท้าทายการเลื่อนจากบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว”

“สิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ก็คือการเข้าฌานฝึกฝนอย่างหนัก การรีบนำตัวเขาขึ้นมาเช่นนี้ นับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เขาก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ผู้เป็นบิดาถอนใจ “ได้ศิษย์พี่สองมาช่วยข้าแบ่งเบาภาระก็ดี หลังจากพบองค์ประมุขอาคเนย์แล้วข้าจะกลับมายังทะเลหวงเจีย เช่นนี้ศิษย์พี่สองจะสามารถฝึกฝนอยู่ในสภาพแวดล้อมอันโดดเด่นของโลกซ้อนโลกได้ เพื่อจะได้เลื่อนระดับเร็วๆ”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ “การตามหาที่อยู่ของชูฉิง ช่วงนี้หลักๆ ต้องหวังพึ่งเจ้าไปก่อน”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มในใจ

เขาเชื่อว่าเยี่ยนตี๋ต้องการหาที่อยู่ของเสวี่ยชูฉิงยิ่งกว่าเขาแน่ อีกทั้งยังรอให้วันที่จะได้พบหน้ากันมาถึงโดยเร็วด้วย

เพียงแต่ว่าในฐานะเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง เขามีภาระหน้าที่ของตัวเอง หลายๆ ครั้งเรื่องส่วนตัวก็ต้องปล่อยทิ้งไว้ด้านหลังก่อน

จะว่าไป ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ลุงใหญ่สือเถี่ยที่เอาจริงเอาจัง หรือว่าเป็นอาจารย์ลุงรองฟางจุ่นที่อ่อนนอกแข็งใน หรือแม้แต่เยี่ยนตี๋ที่ดุร้าย ในด้านนี้ต่างเหมือนกันหมด

ต้นสายปลายเหตุก็น่าจะมาจากการสั่งสอนและการเลี้ยงดูจากอาจารย์ปู่หยวนเจิ้งเฟิงนั่นเอง

“ถึงเวลานั้น ถ้าหากมีข่าวคราว ข้าจะแจ้งท่านทันที” เยี่ยนจ้าวเกอพูด

เยี่ยนตี๋พยักหน้า พูดต่อว่า “นอกจากศิษย์พี่สองแล้ว ศิษย์พี่ฟู่ก็คอยดูแลสถานการณ์ในโลกผืนสมุทรมาโดยตลอด ให้อาจารย์อาเหอไม่ก็อาจารย์อาจางคนใดคนหนึ่งไปแลกหน้าที่กับนาง จากนั้นก็เชิญนางมายังโลกซ้อนโลก”

“ในกลุ่มลูกศิษย์อายุน้อย ให้เลือกคนที่โดดเด่นที่สุด แล้วพาขึ้นมาโลกซ้อนโลกด้วยกัน สภาพแวดล้อมของที่นี่ประเสริฐกว่าโลกแปดพิภพกับโลกผืนสมุทร ลูกศิษย์อายุน้อยยิ่งมาเร็วยิ่งส่งผลดี”

“สำนักเราตั้งสำนักบนโลกซ้อนโลก ย่อมต้องขยับขยาย เปิดรับลูกศิษย์ใหม่ๆ แต่ว่าให้ถือลูกศิษย์เดิมเป็นฐานหินแรกเริ่มก่อน”

ลูกศิษย์เขากว่างเฉิงที่จะมาจากโลกแปดพิภพเหล่านี้จะต้องมีความรู้สึกเป็นเกียรติและมีความสามัคคีสูงถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เยี่ยนตี๋กล่าวต่อ “หลังจากเวลาผ่านไป ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงโลกแปดพิภพ หลักๆ เอาไว้ใช้เตรียมชุบเลี้ยงอัจฉริยะรุ่นหลัง ในเมื่อตัดสินใจจะหยั่งเท้าบนโลกซ้อนโลกแล้ว พวกเราควรจะยืดหยัดอยู่ที่นี่อย่างมั่นคง”

เยี่ยนจ้าวเกอจดจำทีละข้อ เรื่องเหล่านี้จะมอบหมายให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเขาไปแจ้งต่อคนในเขากว่างเฉิง

ในการบีบอัดพลังฝึกปรือเพื่อลงไปด้านล่างครั้งนี้ของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก เยี่ยนจ้าวเกอยังได้เตรียมใช้วิธีการเคลื่อนผ่านเขตแดนมิติของกระจกยังสูงส่ง เพื่อให้มันมุ่งหน้าไปยังโลกผืนสมุทรได้สะดวกด้วย

ณ เขากว่างเฉิงบนโลกแปดพิภพ หลังจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้พบพวกหยวนเจิ้งเฟิงแล้ว ก็ได้บอกเล่าเรื่องราวและสถานการณ์ในปัจจุบันแต่ละอย่างบนโลกซ้อนโลก

หลังจากคนในเขากว่างเฉิงได้ยิน ต่างรู้สึกฮึกเหิมขึ้น

หยวนเจิ้งเฟิงสั่งการ ให้พวกฟางจุ่นเป็นคนกลุ่มแรกที่ใช้หยกข้ามสวรรค์ มุ่งหน้าไปยังโลกซ้อนโลก

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้พาผู้อาวุโสสูงสุดจางคุนและลูกศิษย์อายุน้อยจำนวนหนึ่งมุ่งหน้าไปยังโลกผืนสมุทร

หลังจากรวมตัวกับพวกฟู่เอินซูที่นั่นแล้ว ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็กลับมายังโลกซ้อนโลกผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนดินแดนหลวนเซียง

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋มองการสั่นไหวของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เบื้องหน้า ทันใดนั้น บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินออกมา

ขณะมองฟางจุ่นที่ไว้หนวดสามแฉก มีท่าทีอ่อนโยนและสงบนิ่งเหมือนวันวาน เยี่ยนจ้าวเกอก็ทอดถอนใจ “อาจารย์ลุงรอง สบายดีหรือขอรับ”

ฟางจุ่นยิ้มเล็กน้อย “ต่อจากนี้พวกเราจะเป็นฝั่งเป็นฝา หนีพระพ้นหนีวัดไม่พ้น [1]เจ้าคงไม่ได้เดินทางอยู่ด้านนอกสะดวกเหมือนเดิมอีก อีกฝ่ายจะต้องมาคิดบัญชีที่นี่แน่”

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะร่า “ดังนั้นพวกเราจึงต้องแข็งแกร่งขึ้น!”

………………..

[1] หนีพระพ้นหนีวัดไม่พ้น หมายถึง หนีความรับผิดชอบไม่พ้น