บทที่ 1212 อุดแผ่นเลื่อนโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

ชาตินี้ ไม่พบกัน

หวังเป่าเล่อนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ช่องโหว่เลื่อนระดับโลกา มองทุกอย่างจากไกลๆ เขารู้เรื่องราวชาติก่อนของศพยักษ์และจื่อเยว่ดี รู้ว่าศพยักษ์นี้เป็นความหวังของสำนักวังเต๋าไพศาล เป็นดั่งศิษย์เต๋าอันดับหนึ่ง

แต่สุดท้าย ก็ยังคงพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของจื่อเยว่ เพราะจื่อเยว่มัวแต่คลั่งไคล้อยู่กับเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์ดาราเต๋า ด้วยเหตุนี้จึงสังหารเขาอย่างโหดร้ายโดยไม่เสียดาย ไม่เพียงสะกด ทั้งยังตรึงร่างกายเอาไว้ ทำให้วิญญาณและร่างของอีกฝ่ายตกอยู่ในท่ามกลางความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ใช้มันเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อสืบทอดเมล็ดพันธุ์ดาราเต๋าในท้ายที่สุด

ที่สุดแล้ว ก็รักคนผิด

และเหตุที่จื่อเยว่เป็นดั่งตอนนี้ ก็เพราะหลังจากความทรงจำฟื้นฟูกลับมา รับรู้เหตุและผลทั้งหมดแล้ว เมล็ดพันธุ์ดาราเต๋านั้น เดิมทีก็เป็นสิ่งที่ชาติก่อนนางสร้างขึ้นมา เดิมทีก็เพื่อเป็นเคล็ดวิชาของตนถึงได้กระทำกับคนรักอย่างโหดร้ายในตอนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีคำขอโทษออกมา

แน่นอนว่าในนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้บางอย่างอยู่ คือ…จื่อเยว่จงใจทำเช่นนี้ เพื่อแสดงความสำนึกผิดและเจตนาดีให้ตนดู เพื่อที่จะได้รับประกันความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

รายละเอียดจะเป็นเช่นไร หวังเป่าเล่อไม่สนใจ นี่ไม่สำคัญ เพราะโลกใบนี้…เรื่องราวสารพัดดูที่การกระทำไม่ดูที่ใจ ดูที่ใจใต้หล้านี้ก็ไม่มีคนสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าในใจจื่อเยว่จะคิดอย่างไร สำหรับหวังเป่าเล่อแล้วขอแค่ไปสะกดเลื่อนระดับโลกาที่ขาดหายไปได้ก็เพียงพอแล้ว

และก็ดูเหมือนจื่อเยว่จะเข้าใจข้อนี้ดี ดังนั้นการไปดวงจันทร์ครั้งนี้จึงไม่มีพฤติกรรมที่เลยเถิดสักนิดเดียว ขณะที่กลับมาแม้นัยน์ตาจะยังเหลือความซับซ้อน แต่ก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อกลับมาถึงหน้าหวังเป่าเล่อแล้ว นางก็ค้อมคำนับ

“ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”

“ดี” หวังเป่าเล่อพยักหน้า มือขวายกขึ้นชี้อากาศ ทันใดนั้นจักรพิภพที่ช่องโหว่เลื่อนระดับโลกาอยู่พลันส่งเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าเกิดคลื่นขนาดใหญ่ก่อนกลายเป็นน้ำวนขนาดยักษ์ ภายในน้ำวนมีลูกประคำเพลิงอยู่หนึ่งเม็ด

ในลูกประคำอบอวลไปด้วยดวงดารา ขณะที่เกิดภาพจำลองดาราจักรไฟก็มีเส้นใยหลายสายปลดปล่อยออกมา เส้นใยเหล่านี้คืบคลานไปในน้ำวนแผ่ขยายไปทั่วทั้งบริเวณถักทอดินแดนเขตนี้เป็นดั่งตาข่าย

เห็นเช่นนี้ จื่อเยว่ก็รู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง แต่ไม่รอให้นางลังเล หวังเป่าเล่อยกมือขวาขึ้นคว้าลูกประคำที่เกิดจากดาราจักรไฟ ทันใดนั้นพลังท่วมท้นขุมหนึ่งหอบม้วนลูกประคำเม็ดนั้นเข้าไป สลัดหลุดจากตาข่ายยักษ์ออกจากกระแสน้ำวนเข้าสู่มือของหวังเป่าเล่อในทันที

และเมื่อดาราจักรไฟถูกคว้าไว้ได้ ก็เกิดระลอกคลื่นเป็นระลอกค่อยๆ ออกมาจากตำแหน่งช่องโหว่แผ่กระจายไปทั่วระบบสุริยะด้วยเสียงดังสนั่น ถึงขนาดที่หากเวลานี้มองมาจากนอกระบบสุริยะก็จะเห็นว่าระบบสุริยะกำลังสั่นไหว

ราวกับเสียความสมดุลไป เกิดอาการทรุดเอียงขึ้น ทำให้อารยธรรมต่างๆ ในระะบบสุริยะล้วนจิตใจสั่นไหว ดีที่หวังเป่าเล่อได้เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว แผ่กระแสเต๋าออกไปกดไว้เล็กน้อยก็ทำให้สภาพเสียสมดุลของระบบสุริยะสงบลงชั่วคราว

“จื่อเยว่ ไม่กระโดดลงไปยังจะรออะไร!” เสียงหวังเป่าเล่อราวกับฟ้าผ่าสะท้อนขึ้นในจิตใจของจื่อเยว่ ทำให้ในใจนางสั่นเทา แววตาลังเลถูกแทนที่ด้วยความเด็ดเดี่ยว นางรู้ว่าตัวเองหลบไม่พ้น เวลานี้จึงได้แต่หมุนกายคำนับหวังเป่าเล่ออีกครา

“หวังว่าศิษย์พี่จะรักษาคำพูด” กล่าวจบ จื่อเยว่ก็ไม่ละล้าละลัง ไหวร่างกระโดดเข้าไปในน้ำวนท้องฟ้าทันที ทันใดนั้นเหตุเพราะสูญเสียดาราจักรไฟจึงพังครืนลงมา ขาดจุดเชื่อมประสานเส้นใยตาข่ายยักษ์นั่น พริบตาก็มีปฏิกิริยาพุ่งตรงไปยังจื่อเยว่

ด้วยความรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มีเส้นใยนับร้อยมัดตัวจื่อเยว่ หลังจากทะลวงเข้าไปอย่างรวดเร็วก็เชื่อมเข้ากับดวงวิญญาณเทพของนาง สีหน้าจื่อเยว่บิดเบี้ยวราวกับเจ็บปวดทรมานอย่างรุนแรง ทว่าวิญญาณของนางพิเศษ แบกรับความหนักหน่วงของกาลเวลาไว้ ดังนั้นแม้จะเจ็บปวดแต่กลับไม่พังทลาย ถึงขนาดปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นใยยิ่งเข้ามาหลอมรวมอย่างไม่ขาดสายจากทุกสารทิศ

จำนวนเพิ่มเป็นหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน ร้อยล้านอย่างรวดเร็วถึงขนาดนับไม่ไหว จวบจนในที่สุด…จื่อเยว่ถูกเส้นใยจำนวนมหาศาลนี้ห่อคลุมไว้ภายใน หลังจากถูกดึงเข้าไปในน้ำวนแล้ว น้ำวนบนท้องฟ้าก็ค่อยๆ เลือนหายไป

หลังจากเลือนหายไป กระแสคลื่นขุมใหม่ก็กระจายออกมาจากในระบบสุริยะ นั่นคือพลังระเบิดหลังจากเลื่อนระดับโลกาที่สมบูรณ์ ในขณะเดียวกันยังมีปราณวิญญาณเป็นระลอกออกมาจากกลางอากาศของระบบสุริยะอบอวลไปทั่วท้องฟ้า

นี่คือการตอบแทน เหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้สามารถพูดได้ว่าการสะกดของจื่อเยว่นั้นเหมาะสมกับเลื่อนระดับโลกามากกว่าการสะกดของดาราจักรไฟ ถึงแม้จะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์อย่างแท้จริง แต่ก็ใกล้เคียงอย่างไร้ข้อจำกัดแล้ว

และพลังตอบแทนนี้ก็ถูกหวังเป่าเล่อจัดการในมือเดียว หลอมรวมเข้าไปในลูกประคำดาราจักรไฟในมือ ทำให้พลังสะกดลูกประคำในเวลานี้ค่อยๆ หมดลง พริบตาก็ได้รับแรงเสริม ถึงขั้นเหนือขึ้นกว่าเดิม

จนกระทั่งตอนนี้ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว หวังเป่าเล่อจึงหันหน้ากลับไปมองความว่างเปล่าด้านหลังตนเองที่ปรากฏเงาร่างของปรมาจารย์แห่งไฟ

“อาจารย์” หวังเป่าเล่อโค้งคำนับก่อนยื่นลูกประคำที่แปรสภาพมาจากดาราจักรไฟในมือให้

ปรมาจารย์แห่งไฟมาตั้งนานแล้ว เขาย่อมรับรู้ถึงการกลับมาของหวังเป่าเล่อรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเขตแดนช่องโหว่นี้ เวลานี้เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อทำได้อย่างที่พูดในตอนแรก หลังจากรับลูกประคำดาราจักรไฟกลับมา ในใจปรมาจารย์แห่งไฟพลันรู้สึกเสียดาย ดังนั้นหลังจากกะพริบตาไปมาก็โยนลูกประคำดาราจักรไฟในมือทิ้งไป

ทันใดนั้นลูกประคำนี้ก็กลายเป็นแสงสีแดงเส้นหนึ่ง ขณะที่พุ่งไปยังท้องฟ้า ปรมาจารย์แห่งไฟมือขวาผนึกมุทรา ลูกประคำระเบิดขยายขนาดขึ้นในฉับพลัน ท่ามกลางเสียงระบิดติดต่อกัน ในที่สุดลูกประคำนี้ก็เปลี่ยนเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง!

ขนาดพอๆ กับดารานิรันดร์ แต่กลับเป็นดาวพระเคราะห์ แม้จะไม่ได้ผนวกรวมเข้ากับสหพันธรัฐ แต่ก็อยู่ในระบบสุริยะ อีกทั้งดูคล้ายกับดาวพระเคราะห์ แต่หากเดินเข้าไปก็จะเห็นว่าเป็นเพียงแค่ประตูบานหนึ่ง ด้านในถึงจะเป็นดาราจักรไฟ

“ไอ้หยา อาจารย์อยู่ที่นี่รู้สึกสบายดีจริง ไม่กลับไปแล้ว เป่าเล่อ อาจารย์ทิ้งดาราจักรไฟไว้ที่นี่ เจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่?”

“วางใจเถอะ วางใจเถอะ รอถึงช่วงเวลาสำคัญ ข้าผสานดาราจักรไฟรวมเข้ากับระบบสุริยะ อาจจะมีประโยชน์ต่อเจ้าไม่มากเท่าไร แต่สำหรับคนอื่นก็นับว่าเพิ่มขึ้นอีกระดับแล้ว”

“เฮ้อ แก่แล้ว อายุเยอะ ไม่อยากทรมานแล้ว” ปรมาจารย์แห่งไฟกระแอมไอหลายที มองไปยังหวังเป่าเล่อ

หวังเป่าเล่อใบหน้ายิ้มแย้ม ประสานหมัดคารวะไปยังปรมาจารย์แห่งไฟ

“อาจารย์มีความสุขก็พอ ศิษย์ต้อนรับอาจารย์พักที่สหพันธรัฐ”

ปรมาจารย์แห่งไฟหัวเราะร่า พออกพอใจเป็นอย่างมาก

เขาไม่มีทางไปจากสหพันธรัฐหรอก สำหรับหวังเป่าเล่อแล้ว สหพันธรัฐมีความสำคัญต่อเขามาก และในใจของปรมาจารย์แห่งไฟ หวังเป่าเล่อ…ในตอนนี้คือหนึ่งในศิษย์จากทั้งสอง

และก็เป็นหนึ่งในสองที่เขาสนิทที่สุดในจักรวาลแห่งนี้แล้ว ระดับความสำคัญไม่ใช่สิ่งที่คำพูดจะสามารถพรรณาออกมาได้ ดังนั้นเขาไม่ไปไหนทั้งนั้น จะคอยปกป้องอยู่ที่นี่ ในใจลึกๆ ของเขา เวทคำสาปนั้น สุดท้ายแล้วก็ยังต้องใช้ เขาหวังว่าจะใช้กับลูกศิษย์คนนี้ของตนในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

เป็นเช่นนี้ หลังจากปรมาจารย์แห่งไฟไม่ได้ถูกควบคุม ยังคงอยู่ที่ระบบสุริยะ กลายเป็นไพ่ใบสุดท้ายหนึ่งเดียวของระบบสุริยะ ในขณะที่ทำให้ความสามารถในการสู้ของระบบสุริยะเพิ่มขึ้น ตำแหน่งอื่นๆ และภายในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายก็ไต่ระดับถึงจุดสุดยอดแล้ว

ต่อให้เต๋าเก้ารัฐไม่ยินยอม แต่ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็จะไม่บุ่มบ่ามอีก เพราะ…หลังจากนี้อีกครึ่งเดือน แม่น้ำแห่งความมืดของนพภูมิปรากฏขึ้นบนโลก ปรากฏขึ้นในใจกลางจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นในจักรวาล

บนแม่น้ำแห่งความมืดนั้น ดวงดาวแห่งความมืดอันกว้างใหญ่ ขณะที่ทำให้ทั้งแปดทิศตกตะลึง กองทัพใหญ่สำนักแห่งความมืดก็ลงมาจากทั่วทุกด้าน

การต่อสู้ของสำนักแห่งความมืดกับตระกูลไม่รู้สิ้น…ก็เริ่มต้นขึ้นที่จุดนี้

การต่อสูู้ที่หอบเอาหายนะมาให้แก่จักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น กำลังจะมาถึงอย่างแท้จริงแล้ว!

………………………