บทที่ 1386 กำเนิดจอมปีศาจโลหิต

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

นอกภูเขาเสี่ยหมัว

ทันใดนั้นเจดีย์ผลึกแก้วก็สั่นสะท้านก่อนที่จะเริ่มหดตัวลง ร่างเงาปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของทุกคน

“นั่นท่านเทพ!”

เมื่อไป๋ซู่ซู่และเหล่าจอมยุทธ์ในโลกเห็นภาพเงานั่น พวกเขาก็ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ความยินดีกระจายบนใบหน้าทุกคน

พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการต่อสู้ระหว่างมู่เฉินและเสี่ยหมัวจะจบลงรวดเร็วเช่นนี้

เทียบกับเสียงโห่ร้องลั่นสนั่น ฝั่งภูเขาเสี่ยหมัวกลับตกอยู่ในความเงียบงัน ความตกใจและหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าของสมาชิกเผ่าเสี่ยเสียขณะที่เฝ้าดูฉากนี้

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้บัญชาการใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าจะแพ้ให้กับมู่เฉิน…

ทว่ามู่เฉินไม่ใส่ใจกับความตกใจเหล่านั้น สายตาเขาพุ่งตรงไปยังส่วนลึกของภูเขาเสี่ยหมัว ยามนี้เขาสัมผัสถึงรัศมีเสี่ยหมัวไม่ได้อีกต่อไป ชัดว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายซ่อนตัวไว้

ฉากนี้ไม่ได้ทำให้มู่เฉินรู้สึกดีใจ กลับรู้สึกไม่สบายใจด้วยซ้ำ

“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจัดการผู้บัญชาการปีศาจโลหิตอีกสองคนที่เหลือก่อน”

สายตาของมู่เฉินวูบไหวจากนั้นก็ทะยานไปยังสมรภูมิอื่นๆ ไม่ว่าเสี่ยหมัวจะเคลื่อนไหวอื่นใด เขาจะต้องกำจัดผู้บัญชาการปีศาจโลหิตอีกสองคนก่อน ด้วยวิธีนี้เขาจะมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับเสี่ยหมัวได้

สมรภูมิที่มู่เฉินพุ่งไป รัศมีจั้นยี่พวยพุ่งส่งเสียงหวีดหวิวข้ามขอบฟ้าดักจับผู้บัญชาการปีศาจโลหิตไว้

เมื่อมู่เฉินปรากฏตัวขึ้นเหนือมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ ใบหน้าผู้บัญชาการปีศาจโลหิตก็เปลี่ยนไปรุนแรง

มู่เฉินมาปรากฏที่นี่ได้หมายความว่าผู้บัญชาการใหญ่ล้มเหลวแล้ว…

“เป็นไปได้ยังไง?!” ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตคำรามออกมา เสี่ยหมัวแข็งแกร่งกว่าพวกเขา ดังนั้นเขาจะพ่ายแพ้ให้กับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้อย่างไร?

แต่ไม่ว่าจะตกใจแค่ไหน มู่เฉินก็โบกมือใส่อย่างไม่แยแสร่างเทพสุริยะนิรันดร์ปรากฏขึ้น รหัสเทพอมตะบินฉวัดเฉวียนออกมา

เขาเลือกที่จะไม่ใช้วิชาเจดีย์แปดองค์ เนื่องจากต้องใช้ของเหลวจื้อจุนจำนวนมากเกินไป บวกกับการรวมตัวกับมู่เฉินชุดดำก็เพียงพอแล้วที่จะปราบผู้บัญชาการปีศาจโลหิตคนนี้

ตู้ม ตู้ม!

อย่างที่คาดไว้เมื่อร่างหลักของมู่เฉินเข้าร่วมศึก ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตก็พ่ายแพ้ เขาถูกรัศมีจั้นยี่โถมใส่ ก่อนที่หอกสีม่วงทองจะแทงทะลุหน้าอกทำลายร่างกายและพลังงานทั้งหมด

หลังจากจัดการกับผู้บัญชาการปีศาจโลหิตคนนี้ ร่างหลักและร่างรองก็ทะยานสู่สมรภูมิสุดท้าย ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างมู่เฉินชุดขาวกับผู้บัญชาการปีศาจโลหิตอีกคน

แต่เมื่อผู้บัญชาการปีศาจโลหิตเห็นร่างหลักและร่างรองของมู่เฉินเข้ามา ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนี ดังนั้นเขาจึงกัดฟัน ร่างกายพองขึ้นแล้วระเบิดออก

ครืน!

เสียงระเบิดดังก้อง คล้ายกับดวงอาทิตย์สีแดงเข้มลอยคว้างบนท้องฟ้า ราวกับว่าต้องการที่จะกลืนกินทั้งสวรรค์และโลก

แต่ก่อนที่มันจะกระจายออกไป มู่เฉินก็สะบัดแขนเสื้อ เจดีย์ก็ทะยานออกไป ผลึกแสงแผ่เข้าไปห่อหุ้มมันก่อนที่จะเปลี่ยนแสงสีแดงเข้มให้กลายเป็นผลึก ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า…

ขณะที่ผลึกสีแดงเข้มตกลงมา ลำแสงสีแดงก็พุ่งออกไปทางทิศของภูเขาเสี่ยหมัว

“คิดจะหนีไปไหน?”

แต่ขณะที่มันบินออกไป มู่เฉินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพลางเค้นเสียงเย็น แสงผลึกแล่นแปลบปลาบในมือห่อหุ้มมันเอาไว้ ดักไว้ในผลึกอัญมณีสีแดงเข้ม

ใบหน้าสิ้นหวังของผู้บัญชาการปีศาจโลหิตปรากฏขึ้นบนผลึกอัญมณี เมื่อมู่เฉินเห็นก็ไม่ใจอ่อน กำมือแน่นแล้วบดขยี้

“อย่าเพิ่งได้ใจไปเลย! เมื่อไรที่จอมปีศาจของพวกข้าถือกำเนิดแกทุกคนจะต้องตาย!” เมื่อเห็นว่าไร้ประโยชน์ที่จะหลบหนี เสียงหัวเราะแหลมคมก็สะท้อนออกมาอย่างน่าขนลุก

หลังจากบดผลึกอัญมณีแล้ว มู่เฉินก็โยนออกไปอย่างไร้ความรู้สึก

การต่อสู้จบลงด้วยผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งสามถูกกำจัดในกำมือเขา

ชาวโลกส่งเสียงโห่ร้องดังกระหึ่มก่อนที่จะคุกเข่าลงด้วยแรงอารมณ์ ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตเหล่านั้นกดหัวพวกเขามานาน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามต่อต้านอย่างไรก็ไม่ต่างจากมดปลวกที่ถูกเหยียบตาย

แต่ตอนนี้ผู้บัญชาการปีศาจโลหิตทั้งหมดถูกสังหารโดยท่านเทพ นี่ก็หมายความว่าโลกของพวกเขาได้รับอิสรภาพแล้ว!

ทว่าไป๋ซู่ซู่สังเกตเห็นว่ามู่เฉินไม่มีความยินดีบนใบหน้า นางทะยานเข้าไปหา “ท่านเทพมีอะไรผิดปกติเหรอ?”

“ผู้บัญชาการใหญ่ไม่ได้ตาย มันหนีไปได้”

มู่เฉินมองไปที่ภูเขาด้วยสายตาวูบไหว ขณะที่เขาพยายามค้นหาร่องรอย

เมื่อไป๋ซู่ซู่ได้ยินก็ตกใจ “ภูเขาเสี่ยหมัวตอนนี้เป็นกองบัญชาการของเผ่าเสี่ยเสีย ถ้าผู้บัญชาการใหญ่หนีไป มันจะต้องมุ่งหน้าไปที่นั่นแน่”

มู่เฉินพยักหน้า มองไปที่ภูเขาเสี่ยหมัวพร้อมกับแสงเย็นเยือกแล่นแปลบปลาบในดวงตา เขาสะบัดมือ เจดีย์ก็ทะยานออกขยายขนาดเป็นแสนกว่าจั้ง ก่อนที่มันจะลอยอยู่เหนือภูเขาเสี่ยหมัว

ฉากนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนตกตะลึง กระทั่งสมาชิกเผ่าเสี่ยเสียก็ตื่นตระหนกขณะที่หนีกันจ้าละหวั่น

มู่เฉินและร่างรองทั้งสองสร้างตราประทับ คลื่นหลิงเทลงในเจดีย์ก่อนที่ผลึกแสงจะบีบลงไปห่อหุ้มภูเขาเสี่ยหมัวทั้งหมด

เมื่อผลึกแสงบีบลงมา สมาชิกเผ่าเสี่ยเสียที่สัมผัสโดนก็จะหดตัวกลายเป็นผลึกแก้ว

เคร้ง เคร้ง

เสียงผลึกแก้วร่วงหล่นลงบนพื้นดังสะท้อนจากภูเขา

ในส่วนลึก ผู้บัญชาการใหญ่ปีศาจโลหิตเฝ้าดูสิ่งนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ว่าผลึกแสงกำลังทะลุผ่านภูเขา ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะซัดเข้าใส่ในทิศทางของเขา

“ข้าต้องเร่งแล้ว!”

เสี่ยหมัวมองไปที่ไข่สีแดงเข้ม จำนวนรอยแตกเพิ่มขึ้นและความผันผวนที่น่ากลัวก็กระเพื่อมไหว

เขาขบฟันปลดปล่อยเสียงร้องอีกครั้ง จอมยุทธ์เผ่าเสี่ยเสียก็เพิ่มความเร็วพุ่งตัวเข้าสู่ห้วงอเวจีเพื่อให้พลังงานแก่ไข่ใบนั้น

มู่เฉินมองไปที่ภูเขาแม้ว่าจะอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แต่เสี่ยหมัวก็ยังไม่แสดงตัว

มู่เฉินขมวดคิ้ว ทันใดนั้นม่านตาก็หดเกร็ง เนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนที่น่ากลัวซึ่งมาจากส่วนลึกของภูเขา

“ตู้ม!”

ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งเครียดลงหลายส่วน จากนั้นก็วาดตราประทับด้วยมือข้างเดียว เสาผลึกขนาดหมื่นจั้งพุ่งลงมา เล็งเป้าไปที่ความผันผวนนั้น

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ด้วยความระมัดระวังเขารู้ว่าจะต้องทำลายมันให้ได้

ครืน!

เสี่ยหมัวก็สัมผัสได้เช่นกัน ใบหน้าเปลี่ยนแปรไป เขามองไปที่เสาก่อนจะสะบัดมือ

ซ่าๆๆ

น้ำพุเลือดนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากอเวจีโลหิต ก่อตัวเป็นปราการกั้นล้อมรอบทั่วบริเวณราวกับชามที่คว่ำไว้

ตู้ม!

เมื่อเสาผลึกกระแทกกับกำแพง ทำให้เกิดระลอกคลื่นกระจายวงออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากพลังของกำแพงมาจากอเวจีโลหิต จึงสามารถต้านทานการโจมตีได้ ไม่ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ

“เจอแล้ว!”

ดวงตาของมู่เฉินหดลง เขาหมุนวนเจดีย์โดยไม่ลังเลใดๆ ทันใดนั้นเสาผลึกจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงเหมือนสายฟ้าฟาด

ครืน!

พายุสีม่วงสร้างความหายนะในอเวจีโลหิต เมื่อเสี่ยหมัวเห็นว่าปราการเลือดอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดลง

เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะเด็ดเดี่ยวถึงขนาดใช้พลังทั้งหมดทำลายความไม่แน่ใจ

เสี่ยหมัวมองไปที่ไข่สีแดงเข้ม แม้ว่าจะถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตก แต่ก็ยังไม่ฟักออกมาสักที ดูเหมือนจะขาดอะไรบางอย่าง

ใบหน้าของเสี่ยหมัวเปลี่ยนไป สุดท้ายเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปข้างนอกด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อก่อนจะขบฟัน “ไอ้สารเลว ในเมื่อแกพยายามล้างบางเผ่าเสี่ยเสีย ข้าจะให้แกเป็นเครื่องสังเวยคนแรกให้กับจอมปีศาจของเรา!”

พูดจบเขาก็ไม่ลังเล ร่างกายระเบิดกลายเป็นกระแสไหลไปยังไข่สีแดงเข้ม

ในเวลาเดียวกันมู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง สายตามืดครึ้มลง เสาผลึกบดขยี้ปราการจากนั้นก็พุ่งไปยังกระแสสีแดงเข้มที่สร้างขึ้นโดยเสี่ยหมัว

ตู้ม!

อึดใจต่อมาก็เกิดการระเบิดรุนแรงจากภายในอเวจีโลหิตขณะที่พังทลายลง…

ในเวลานั้นไข่สีแดงเข้มก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ลอยอยู่บนยอดเขาเสี่ยหมัว…

เมื่อมองไปที่ไข่ใบนั้น ม่านตามู่เฉินก็หดเกร็ง ภัยคุกคามที่เขารู้สึกได้ทำให้ขนลุกซู่ไปหมด จากนั้นเขาก็หมุนเจดีย์โดยไม่ลังเลใดๆ และเสาผลึกดุร้ายนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมากระแทกกับไข่

แต่จังหวะที่กำลังจะตี ไข่ก็แตกออก มือซีดเซียวข้างหนึ่งยื่นออกมาบดขยี้เสาผลึกอย่างง่ายดาย…