บทที่ 926 ความลำเอียงของความรัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 926 ความลำเอียงของความรัก
แม้แต่เจ้าสุนัขตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้ด้านนอก หลังจากที่มองเห็นฉากนี้ผ่านทางนอกหน้าต่างแล้ว ก็ยังค่อยๆ หันหน้าออกไปมองทางอื่น

ไม่กี่นาทีต่อมา ในที่สุดทั้งสองคนก็เดินทางออกไป

บนยอดเขาในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงนั้นช่างสวยงามจริงๆ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าครามสดใส เหล่าก้อนเมฆสีขาวลอยผ่านเป็นครั้งคราว ก็ช่างสดใสราวกับเหมือนภาพวาดภาพหนึ่ง

ใบไม้ต่างเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ใบหญ้าเองก็ไม่ได้เขียวชอุ่มเหมือนก่อนแล้ว

แต่กลับเพิ่มวิวทิวทัศน์อื่นให้กับภูเขาแห่งนี้ ตัวอย่างเช่น ผลไม้ป่าที่แม้แต่เส้นหมี่เองก็เรียกชื่อไม่ถูก ยังมีใบ เมเปิ้ลสีแดงที่เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะไปหยิบมันมา

ช่วงสวยงามเสียเหลือเกิน

“ที่รัก คุณอยากไปที่ไหนเอ่ย? หรือว่าพวกเราไปเดินเล่นที่แปลงผักหลังบ้านกันไหม ตอนที่มาคุณท่านบอกแล้วว่า ถั่วเหลืองที่เขาปลูกไว้ให้จะสุกแล้ว พวกเราไปดูซะหน่อย ถ้ามันสุกแล้วก็เก็บกลับมาต้มกินกัน หวานมากเลยนะ”

เส้นหมี่ที่ยืนเป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้ท่าทีสบายๆ อยู่ด้านนอกกระท่อมไม้หลังเล็ก

ทันใดนั้น เหมือนเธอฉุกคิดอะไรขึ้นได้ เอียงศีรษะมาจ้องมองเขาด้วยดวงตารูปเมล็ดอัลมอนด์คู่นั้น ภายใต้แสงสาดส่องของดวงอาทิตย์ สว่างสดใสดั่งดวงดาวระยิบระยับ

แสนรักสูดลมหายใจเข้าทันที

แววตาอย่างนี้ มันช่างสว่างสดใสจริงๆ

สว่างจนทำให้เขาเสียสมาธิไปเล็กน้อย และยังสว่างมากจนเขาแทบไม่มีความกล้าพอที่จะจ้องมองเธอโดยตรงได้

แสนรักจึงเลือกที่จะเงียบ

จากนั้น เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด ยัยคนโง่นี้ก็ทั้งลากทั้งอ้อนเขาไปจนถึงแปลงผักแปลงนั้น

“ว้าว สุกแล้วจริงๆด้วย ที่รักคุณรีบดูสิ ถั่วเหล่านี้กินได้แล้วจริงๆด้วย ตาแก่คนนี้สุดยอดจริงๆ ที่ยังปลูกของเหล่านี้ได้”

เส้นหมี่ที่มองเห็นว่าถั่วเหลืองปลูกอยู่เต็มแปลง ก็ดีใจยิ่งนัก

อันที่จริง ไม่ใช่มีเพียงแค่ถั่วเหลือง ยังมีถั่วลิสงด้วย ก่อนที่ไชยันต์จะเข้าเป็นทหาร เขาคือเด็กที่เกิดจากครอบครัวเกษตรกร สำหรับเรื่องการเพราะปลูกเหล่านี้ เขาก็ย่อมมีความรู้ความเข้าใจอยู่แล้ว

เพราะว่าถั่วเหลืองไม่สามารถทานดิบได้ เส้นหมี่จึงถอนต้นถั่วลิสงขึ้นมาหนึ่งต้น

จากนั้น ก็ถือเดินไปล้างยังริมน้ำตกข้างๆ แล้วค่อยๆ เด็ดเป็นเม็ดออกมา

“ที่รัก ชิมหน่อยสิคะ ลองดูว่าหวานไหม?”

“……”

ไม่กิน!

ผู้ชายที่รักความสะอาดและสุขอนามัยเป็นชีวิตจิตใจโดยเฉพาะสิ่งของที่จะกินเข้าปาก หลังจากที่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ยื่นถั่วลิสงที่ยังมีน้ำหยดอยู่ จึงรีบหลบออกตามจิตใต้สำนึก

เส้นหมี่ : “……..”

มันน่าจริงๆเลย เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย? เธอลืมไปได้ยังไงว่าตอนนี้เขาเป็นคนไข้คนหนึ่ง

เส้นหมี่ได้สติขึ้นมา จึงรีบดึงถั่วลิสงนั้นคืนมาทันที : “ขอโทษทีค่ะที่รัก ฉันลืมไปว่าคุณเป็นคนรักความสะอาด เราไม่กินมันแล้ว ไม่กินแล้ว”

เธอจึงโยนถั่วลิสงลงบนพื้น

เมื่อคิดอยากจะพูด รอหลังจากที่ทั้งสองคนกลับไป และส่งคนคนนี้ถึงห้องพักแล้ว จากนั้นตัวเองก็ค่อยกลับไปเก็บใหม่ และค่อยถอนเพิ่มอีกนิดหน่อย

แต่เธอหารู้ไม่ว่า เมื่อทั้งสองคนหันหลังกลับแล้ว ผู้ชายคนนี้ที่ถูกเธอใช้ผ้าไหมสีแดงมัดไว้ด้วยกัน กลับจ้องมองไปยังถั่วลิสงที่ถูกทิ้งไว้บนพื้น ใบหน้าอันหล่อเหลาก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกผิดเล็กน้อย

ทั้งสองคนก็ไปเดินเล่นบนไหล่เขาอยู่อีกสักพัก ท้องฟ้าก็ค่อยๆ เริ่มมืดครึ้ม

“ที่รักคะ คุณดูสิ ดวงอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว วันนี้พวกเราเดินเล่นเพียงแค่นี้ก่อนดีไหม? รอให้พรุ่งนี้สว่างแล้ว ฉันค่อยพาคุณออกมาอีก”

เส้นหมี่เกลี้ยกล่อมผู้ชายคนนี้อย่างอ่อนโยน เพราะเกรงว่าเขาจะไม่ตกลง

โชคยังดี อาจจะเป็นเพราะวันนี้เดินเล่นข้างนอกมาทั้งครึ่งวันบ่าย ชายหนุ่มที่ถูกขังไว้ที่นี่หลายวันแล้ว ในที่สุดก็รู้สึกสบาย เมื่อได้ยินว่ากลับไป เขาจึงพยักหน้าในขณะที่ยืนอยู่บนไหล่เขา

“อืม”

เขาส่งเสียง “อืม” อย่างเรียบเฉย

แต่สำหรับสายตา ถ้าหากตั้งใจมองดูดีๆ จะพบว่าในเวลานี้เขากำลังเพ่งมองไปยังเค้าโครงรูปร่างของเมืองที่อยู่ไกลออกไป

นั่นก็คือเมืองหลวง!

บนไหล่เขาแห่งนี้ ที่จริงแล้วคือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับชมวิวมุมสูงของเมืองหลวง หลังจากที่ผู้คนมาถึงที่นี่แล้ว ก็ไม่ต้องใช้กล้องส่องทางไกล เค้าโครงรูปร่างของเมืองแห่งนี้ก็ถูกรวมไว้ในสายตาได้ทั้งหมด

ความเงียบสงบของมัน

ความเปลี่ยนแปลงไม่มั่นคงของมัน

ทั้งสองอย่างก็สามารถมองเห็นได้จากที่แห่งนี้

เพียงแต่ ทำให้เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขามองดูอยู่นานขนาดนั้น มันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนกับว่าน้ำที่แน่นิ่ง แม้แต่คลื่นน้ำเพียงน้อยนิดเขาก็มองไม่เห็นมันเกิดขึ้นมาเลย

เพราะอะไรกัน?

เกิดเหตุผิดปกติขึ้นระหว่างทาง?

ผู้ชายคนนี้หรี่ตาลง จู่ ๆ สีหน้าอารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ในที่สุดเมื่อท้องฟ้าก็มืดดำสนิท ตอนที่เส้นหมี่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว เธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เงาดำหนึ่งแอบฉวยโอกาสตอนฟ้ามืดย่องเข้ามาในกระท่อมหลังเล็ก

จากนั้น ก็ตรงดิ่งมายังในห้องทางนี้ที่แสนรักอยู่

“ท่านประธาน!”

ตอนที่กระโดดเข้ามา ภายในห้องที่เปิดไว้เพียงโคมไฟแค่หนึ่งดวง เงาดำนี้ก็ตรงดิ่งเข้ามาหาแสนรัก

ในเวลานี้แสนรักนั่งคิดอะไรอยู่บนเก้าอี้ จู่ ๆ ได้ยิน ในที่สุดสายตาแสนเย็นชาของเขา ก็เงยขึ้นมา

“ทำไมกลางวันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร?”

“ครับ หลังจากที่ท่านไชยันต์ไปที่เขตกรมทหารอีกครั้ง ก็ไม่ออกมาอีกเลยครับ”

คนคนนี้อธิบายให้ฟัง

และยังหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาแล้วยื่นให้กับแสนรัก

ดวงตาของแสนรักมัวหมองลง รับโทรศัพท์มากดเปิดวิดีโอ กลับพบว่า เป็นวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของวันนี้ทั้งวันจากเดอะวิวซีกับไวท์ พาเลซ แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ——

ที่เดอะวิวซีนั้น หลังที่เลยช่วงบ่ายไปแล้ว ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีกเลย

“เขาหมายความว่าอะไร? ฉันช่วยเขาขนาดนี้แล้ว เขายังมีท่าทีแบบนี้อีก?” ในที่สุดเขาก็โมโหแล้ว มือก็ขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้ง ตารางหมากรุกตรงหน้าก็ถูกกวาดทิ้งลงบนพื้นจนหมด

โชคยังดีที่เวลานี้เส้นหมี่ยังอยู่ในห้องครัว จึงไม่ได้ยินเสียง

เงาดำเองก็ตกใจนิดหน่อย

อย่างไรก็ตาม เพราะติดตามเขามานานหลายปี เขาก็รู้และคุ้นเคยอารมณ์ของเขาดี ฉะนั้น เขาจึงนิ่งเงียบอยู่สักพัก รอให้เขาอารมณ์ดีขึ้น

“มันเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่?”

“ผมคิดว่าคงเป็นปัญหาของไชยันต์ เขาถอดกุญแจล็อกอันหนึ่งกลับมา ซึ่งก็เป็นของเขตกรมทหารทางนั้น และก็เพื่อกุญแจล็อกอันนี้จึงได้กลับไปที่เขตกรมทหารอีกครั้ง”