เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1516

ชั้นห้าของเจดีย์สูง เครื่องรางวางเรียงรายเต็มไปหมด

ลู่ฝานเดินช้าๆ ท่ามกลางเครื่องรางต่างๆ นานา เล่นเครื่องรางต่างๆ ไปทั่ว

สำหรับผู้ฝึกชี่ พู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึก ภาพวาด มุก หม้อ ล้วนเป็นเครื่องรางได้ทั้งนั้น

ดาบ หอก กระบี่ ง้าวก็มีเหมือนกัน แต่จำนวนน้อยมาก คิดว่าผู้ฝึกชี่คงไม่ค่อยเลือกของพวกนี้มาเป็นเครื่องรางของตัวเอง นั่นเป็นของของนักบู๊

“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันกินเครื่องรางที่นี่ได้ไหม ของดีทั้งนั้นเลย!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรโผล่ออกมาเอง แสงกะพริบวิบวับ เหมือนอยากกินของพวกนี้มาก

ลู่ฝานพูดว่า “ฉันน่าจะเอาได้แค่ชิ้นเดียว แต่ดูเหมือนที่นี่ไม่มีเครื่องรางที่ดีเป็นพิเศษ ล้วนเป็นของธรรมดาทั้งนั้น ถ้าแกอยากได้ก็หากินเองสักชิ้นสิ”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรผิดหวังเล็กน้อย “แค่อันเดียวเองเหรอ ก็ได้ ดีกว่าไม่ได้อะไร เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันต้องการหม้อใบนั้น”

เงาเจดีย์เสวียนเก้ามังกรปล่อยแสงออกมา ส่องไปยังเครื่องรางชิ้นหนึ่งที่อยู่ด้านซ้ายข้างหน้าลู่ฝาน

นั่นเป็นหม้อเล็กๆ ใบหนึ่ง เป็นหยกทั้งชิ้น ด้านบนมีลายไฟสีม่วง

ลู่ฝานหยิบหม้อขึ้นมา มองไม่กี่ทีแล้วพูดว่า “ของชิ้นนี้ดีมากเลยเหรอ”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ไม่ดีเท่าไรหรอก แต่พลังที่แฝงอยู่ในของชิ้นนี้ค่อนข้างสมบูรณ์ เอามันนี่แหละ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันจะกินแล้วนะ!”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ออกไปค่อยว่ากัน ดูเหมือนเขาต้องลงทะเบียนด้วยนะ”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรขานรับเบาๆ จู่ๆ มันพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ มีคนมา”

เมื่อพูดจบ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหายไปจากมือลู่ฝาน

ลู่ฝานหันไปมอง เห็นผู้อาวุโสชุดคลุมแดงสองคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เจอลูกหลานตระกูลหั่วมาไม่น้อย ลู่ฝานพอรู้อยู่บ้าง ในตระกูลหั่วคนที่สามารถใส่ชุดคลุมแดงได้ ฐานะไม่ธรรมดาทั้งนั้น

ผู้อาวุโสสองคนนี้คนหนึ่งสูงคนหนึ่งเตี้ย รูปร่างอ้วนกับผอม

ผู้อาวุโสรูปร่างผอมสูงไว้เคราแพะ มีไฝตรงหว่างคิ้ว เป็นไฝห้าแฉกด้วย

ผู้อาวุโสรูปร่างอ้วนเตี้ยลูกตาดำข้างหนึ่ง ขาวข้างหนึ่ง ใบหน้าเคร่งขรึม ถือลูกเหล็กทรงกลมอยู่ในมือสองเม็ด

ลู่ฝานมองผู้อาวุโสทั้งสองแล้วทำความเคารพเล็กน้อย ตอนนี้ธรรมเนียมประเพณีของเขาไม่ขาดตกบกพร่อง

ผู้อาวุโสชุดคลุมแดงสองคนมองเขาอย่างประหลาดเล็กน้อย ในความทรงจำของพวกเขา ไม่มีคนชื่อลู่ฝานเลย

ผู้อาวุโสรูปร่างผอมสูงขมวดคิ้วพูดว่า “เมื่อกี้นายฝึกวิชาอาทิตย์ลุกโชนที่ชั้นสี่เหรอ”

ลู่ฝานตอบว่า “ใช่ ผู้อาวุโสทั้งสองมีเรื่องอะไรเหรอ”

ผู้อาวุโสทั้งสองมองหน้ากัน ผู้อาวุโสรูปร่างอ้วนเตี้ยพูดว่า “นายรู้จักเราสองคนไหม”

ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ

ผู้อาวุโสรูปร่างผอมสูงพูดว่า “เราคือหัวหน้าภายในของตระกูลหั่ว ฉันอยู่อันดับที่แปด ส่วนเขาอยู่อันดับที่เก้า”

ลู่ฝานพูดอย่างตกใจว่า “หัวหน้าแปด หัวหน้าเก้า ไม่ใช่สิ ฉันจำได้ว่าผู้อาวุโสหั่วตันซูคือหัวหน้าเก้า!”

ผู้อาวุโสรูปร่างอ้วนเตี้ยพูดว่า “เราเป็นหัวหน้ารุ่นก่อน เขาเป็นหัวหน้าคนปัจจุบัน ฉันชื่อหั่วเจ๋อ เขาชื่อหั่วซง คนแก่อย่างพวกเราลงจากตำแหน่งแล้ว ตอนนี้ใช้ชีวิตยามชราอยู่ในตระกูล ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายรู้จักหั่วตันซู งั้นนายเป็นอะไรกับเขา แล้วนายชื่ออะไร”

ลู่ฝานตอบว่า “ฉันชื่อลู่ฝาน ผู้อาวุโสหั่วตันซูเป็นคนพาเข้ามา ผู้อาวุโสหั่วตันซูเห็นความสำคัญ ให้เป็นองครักษ์ส่วนตัวของเขา ตอนนี้มาเรียนรู้เรื่องพื้นฐาน!”

หั่วซงยิ้มแล้วพูดว่า “เรื่องพื้นฐานเหรอ อาทิตย์ลุกโชนไม่ใช่เรื่องพื้นฐานนะ เมื่อกี้นายฝึกอาทิตย์ลุกโชนสำเร็จจริงเหรอ”

หั่วเจ๋อก็พูดด้วยใบหน้าตื่นเต้น “โชว์ให้เราดูหน่อยสิ”

ลู่ฝานมองทั้งสองคน เขาไม่สามารถปฏิเสธได้

เปลวไฟปรากฏบนฝ่ามือลู่ฝาน มิติรอบๆ มีเสียงแตกหักดังขึ้นเบาๆ

ลูกไฟสีทองสว่างสะดุดตามาก ทัดเทียมกับแสงอาทิตย์เลย

ผู้อาวุโสสองคนยื่นมือมาสัมผัส แล้วพูดอย่างตกใจพร้อมกันว่า “อาทิตย์ลุกโชนจริงด้วย!”

หั่วเจ๋อพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “นายเข้าตระกูลหั่วมาเมื่อไร หนึ่งหรือสองเดือน”

ลู่ฝานลูบจมูกแล้วพูดว่า “วันนี้!”

หั่วซงชะงักไปทั้งตัว เขาพูดเสียงดังว่า “อะไรนะ วันนี้เหรอ นายกำลังล้อเล่นอยู่หรือไง”

หั่วเจ๋อพูดด้วยสีหน้าเหยเก “ลู่ฝาน ลูกหลานตระกูลหั่วของเราพูดล้อเล่นไปเรื่อยไม่ได้นะ บอกความจริงมาว่าเมื่อไร”

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “วันนี้ไง! ผู้อาวุโสทั้งสองไปถามผู้อาวุโสหั่วตันซูได้เลย หรือถามผู้ฝึกชี่หั่วไฉที่พาฉันเข้ามาก็ได้”

หั่วเจ๋อใบหน้าไม่อยากเชื่อ เขาพึมพำว่า “อย่าบอกนะว่าในใต้หล้านี้มีอัจฉริยะจริงๆ!”

หั่วซงพูดเสียงดังว่า “ฉันไม่เชื่อ นายตามฉันมา ฉันจะถามให้ชัดเจน!”

พูดพลาง หั่วซงดึงลู่ฝานเดินออกไปด้านนอก

ลู่ฝานเดินตามออกไปโดยไม่สามารถพูดอะไรได้

ทั้งสามมาถึงเจดีย์ชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานถือโอกาสเรียกหลิงเหยา หลิงเหยาถือชุดคลุมที่เลือกเสร็จแล้วเดินเข้ามาอย่างไว เธอถามว่า “มีอะไรเหรอ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เหมือนจะทำเกินขอบเขตไปหน่อย”

หลิงเหยาตระหนกขึ้นมาทันที เธอส่งเสียงกระแสจิต “จะหนีออกไปไหม”

ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ “น่าจะเป็นเรื่องดี”

กลุ่มคนรออยู่นอกเจดีย์สูงนานแล้ว

เห็นพวกลู่ฝานเดินออกมา พวกเขาอุทานอย่างตกใจว่า “นี่ใครกัน ทำไมไม่เคยเห็นเลย”

“ผู้อาวุโสหั่วซงกับผู้อาวุโสหั่วเจ๋อดึงเขาทำไม อย่าบอกนะว่าคนที่เพิ่งทะลุระดับเมื่อกี้คือเขา!”

หั่วซงตะโกนเสียงดัง “หั่วไฉ ออกมา!”