บทที่ 2153 โขกหัวให้ฉันทีสิ
เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจ อะไรนะ ปวด…ท้อง?!!
“แกคิดดูนะ ถึงแม้ในร่างของฉันจะมีพญากู่ หมื่นพิษไม่กล้ำกราย แต่การที่พญากู่จะกินพิษ ก็ต้องเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนกัน ไม่ใช่ยาวิเศษนะ จะได้ยาแล้วโรคหายเลย…ผีเสื้อโรยรานั่นก็เป็นพิษร้ายแรงถึงตายไม่ใช่เหรอ ตอนกู่กินพิษในตัวฉัน ฉันก็ต้องปวดท้องอยู่แล้ว”
เนี่ยอู๋หมิงเล่าไปตามตรง ทำให้เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงไปชั่วขณะ
“แกเล่ามาเลยนะว่าเมื่อวานแกโอ้เอ้อะไร ฉันให้แกหนี แกดันไม่หนี…ถ้าแกหนีไปแต่แรก ฉันก็คงหนีแล้วเหมือนกัน ฉันปวดท้องแทบตาย แกยังไม่ไปอีก แกมันเซ่อ…เซ่อจริงๆ”
เนี่ยอู๋หมิงจ้องเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดออกมา
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปแล้ว สรุปแล้วเธอต้องตอบยังไงกันล่ะเนี่ย
ตัวเองเป็นห่วงแทบตาย กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเนี่ยอู๋หมิง แต่ผลคือ…เขาบอกแค่ประโยคเดียวว่าปวดท้อง
“ถ้าแกหนีไปแต่แรก ฉันเตะพวกมันให้ปลิว ฉันก็หนีได้แล้ว จะถูกคนอื่นซ้อมจนเป็นแบบนี้ได้ยังไง แกเห็นไหมว่าหน้าฉันถูกคนชกจนน่วมแล้ว” เนี่ยอู๋หมิงร้องฮึเสียงเย็น
พอได้ยินคำพูดของเนี่ยอู๋หมิง มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นพลันกระตุกยิกๆ…มีหมาไหม…เธออยากจะเรียกมาสักหน่อย!
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นนับว่ากระจ่างแล้ว สำหรับพี่ชายคนนี้ของตัวเอง เธอไม่สามารถใช้หลักสามัญสำนึกทั่วไปมาสอบถามได้จริงๆ!
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นได้อ้าปากพูด ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก ซือเยี่ยหานถืออาหารเช้าสำหรับสองคนเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย
“น้องเขย ทำไมนายเพิ่งมา นายคิดจะให้ฉันหิวตายเหรอไง”
พอเห็นซือเยี่ยหานกลับมาแล้ว เนี่ยอู๋หมิงก็เข้าไปรับอาหารเช้าสำหรับสองที่มา
“พี่ชายเธอหิว เลยให้ฉันไปซื้ออาหารเช้ามาให้ แต่เห็นเธอหลับอยู่ ก็เลยไม่ได้ปลุกเธอ”
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นจ้องเขา ซือเยี่ยหานจึงเอ่ยตอบเสียงเบา
“นี่ของเธอ”
จากนั้น ซือเยี่ยหานก็หยิบอาหารเช้าออกมาชุดหนึ่ง แล้วส่งให้เยี่ยหวันหวั่น
“น้องเขย ฉันรู้สึกว่าส่วนของน้องสาวฉัน…เหมือนจะน่าอร่อยกว่า” เนี่ยอู๋หมิงมองไปที่ซือเยี่ยหาน
“เหมือนกันนั่นแหละ!” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเนี่ยอู๋หมิงแวบหนึ่ง
“งั้นก็ได้…” เนี่ยอู๋หมิงยักไหล่
“คุณกินรึยัง พวกเรากินด้วยกันเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นดึงซือเยี่ยหานให้นั่งลงบนเตียงผู้ป่วย
“ไม่ต้องหรอก ฉันกินแล้ว” ซือเยี่ยหานตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิง แถมยังมีชายหนุ่มตรงหน้าด้วย มุมปากจึงหยักโค้งขึ้นนิดๆ ในใจเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว…พี่ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดพี่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิง
“ใช่แล้ว ทำไมเหรอ” ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงเต็มไปด้วยความสงสัย
“พี่ พี่อยากได้อะไรเป็นของขวัญ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
เนี่ยอู๋หมิงฟังแล้วก็กุมคาง ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เนี่ยอู๋หมิงก็มองเยี่ยหวันหวั่น ใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งจึงเอ่ยออกมาว่า “ไม่งั้น…”
“พูดมาได้เลย” รอยยิ้มยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่น
“ไม่งั้น แกก็คุกเข่าโขกหัวให้ฉันสักทีสิ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นผงะไปแวบหนึ่ง…
ซือเยี่ยหานนิ่งงัน…
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองเนี่ยอู๋หมิง เขาว่าอะไรนะ จะให้ตัวเองคุกเข่าโขกหัวให้เขางั้นเหรอ
หมายความว่ายังไงกันแน่
“อะไรกัน ถึงจะเป็นวันเกิดของพี่ก็เถอะ แต่จะให้ฉันโขกหัวให้พี่ทำไม?!” เยี่ยหวันหวั่นอยากจะซัดเนี่ยอู๋หมิงลงไปกองกับพื้นใจแทบขาดแล้ว
“แกบอกว่าได้หมดเลยไม่ใช่รึไง ถ้างั้นวันเกิดฉัน ฉันให้แกโขกหัวแล้วมันจะทำไม โขกหัวอวยพรวันเกิดก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยราวกับเป็นเรื่องปกติ
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบลง เธอกับเนี่ยอู๋หมิง ดวงชงกันอยู่บ้างหรือเปล่านะ…
“น้องเขย นายว่ามันมีปัญหาไหม วันเกิดฉัน ให้เมียนายโขกหัวให้ฉันแล้วมันทำไมล่ะ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยกับซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้าง
ซือเยี่ยหานไม่ได้ตอบอะไร…
เนี่ยอู๋หมิงลูบคาง แล้วเอ่ยอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่า “ไม่โขกหัวก็ได้ งั้นแกพูดประโยคที่แกพูดมาก่อนหน้านี้กับฉันอีกรอบแล้วกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นมองเขาด้วยความระแวง “ประโยคไหน”
สองตาของเนี่ยอู๋หมิงเปล่งประกาย จากนั้นก็เผยสีหน้าคาดหวังออกมา “ก็…ประโยคที่ว่าฉันคือฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจแกไง!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่คาดคิดเลยว่า ตอนที่เขาสลบอยู่จะยังได้ยินประโยคนี้ของตัวเองด้วย
เยี่ยหวันหวั่นจึงตอบไปทันควัน “ฉันขอเลือกโขกหัวให้แล้วกัน ขอบคุณ!”
—————————————————————————————
บทที่ 2154 จะไปพักผ่อนกับฉันไหม
เยี่ยหวันหวั่นไม่คาดคิดเลยว่า ถ้อยคำที่ตัวเองพูดไปเมื่อคืนนี้ เขาจะได้ยินทั้งหมด…
“ช่างเถอะ วันเกิดรอบนี้ของฉันไม่ต้องฉลองแล้ว แกก็ไม่ต้องโขกหัวแล้วเหมือนกัน”
ในตอนนี้ เนี่ยอู๋หมิงมองไปที่เยี่ยหวันหวั่นและซือเยี่ยหาน จากนั้นก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “พวกแกสองคน ต้องมีชีวิตที่ดีนะ”
เยี่ยหวันหวั่นถึงกับพูดอะไรไม่ออก
คำพูดแบบนี้เหมือนไม่ใช่เนี่ยอู๋หมิงเลยจริงๆ
“น้องเขย ต่อไปนี้ น้องสาวฉันก็ยกให้นายแล้วนะ ถ้าทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจสักนิด…นายไปถามถึงชื่อเสียงของฉันเนี่ยอู๋หมิงในรัฐอิสระได้เลย” เนี่ยอู๋หมิงจ้องมองซือเยี่ยหาน แล้วร้องฮึเสียงเย็น
ซือเยี่ยหานยังคงนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม
เยี่ยหวันหวั่นอับจนคำพูดอยู่บ้าง ไปถามชื่อเสียงของเขาในรัฐอิสระงั้นเหรอ…เขามีชื่อเสียงรึไง
ทหารรับจ้างบ้านไหนบ้างจะกล้าไปหาตัวเขาเนี่ยอู๋หมิง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความไม่เอาไหน รับเงินแต่ไม่ทำงาน ชื่อเสียงแบบนี้นับไหมล่ะ
“น้องสาว ฉันว่าสามีคนของแก เคร่งขรึมพูดน้อย ดูท่าจะเป็นคนเก็บอารมณ์คนหนึ่ง ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไร ต้องคุยกันทันทีนะ ถ้าเขาไม่เปิดอกกับแก แกก็ต้องเปิดแกกับเขา เข้าใจไหม” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ได้ๆๆ ฉันรู้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ ทำตัวเหมือนผู้ปกครองจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ก็ตะลึงงันไป “พี่…ทำไมพี่เลือดกำเดาไหลล่ะ”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยอู๋หมิงก็ปาดจมูกดูตามสัญชาตญาณ หลังจากมองเห็นคราบเลือดบนมือ ก็เอ่ยอย่างใช้ความคิด “หรือว่าร่างกายฉันจะมีเลือดเยอะเกินไป…พลังแกร่งกล้าเกินไปสินะ…”
เยี่ยหวันหวั่นเหนื่อยหน่ายใจ ถือว่าเธอไม่ได้พูดแล้วกัน
“ย่ามันเถอะ ก่อนหน้านี่ฉันรับออเดอร์ไว้สองสามงาน เกือบลืมไปแล้ว!”
ทันใดนั้น จู่ๆ สีหน้าของเนี่ยอู๋หมิงก็เปลี่ยนไป รีบถอดชุดผู้ป่วยออก แล้วมองไปรอบๆ “เสื้อผ้าฉันล่ะ?!”
“เสื้อผ้าพวกนั้นของพี่เละเทะหมดแล้ว จะใส่ไปได้ยังไงล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเนี่ยอู๋หมิงแวบหนึ่ง
“เวรเอ้ย…งั้นจะทำยังไงดี” สายตาของเนี่ยอู๋หมิงเคลื่อนไปที่ร่างของซือเยี่ยหาน “น้องเขย ไม่งั้น…นายเอาเสื้อผ้านายมาให้ฉันยืมใส่ได้ไหม ฉันมีธุระด่วน!”
ซือเยี่ยหานยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม
“ซื้อมาให้พี่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นหยิบเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมชุดหนึ่งออกมาจากใต้เตียง “กลัวว่าพี่ฟื้นแล้วจะไม่มีชุดใส่ เลยให้ชีซิงเอามาส่งให้เลย ขนาดน่าจะพอดีนะ”
หลังจากเนี่ยอู๋หมิงสวมเสื้อผ้าแล้ว ก็เอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่นว่า “ตอนเย็นกลับไปกินข้าวที่บ้านนะ ฉันจะลงครัวเอง”
พอพูดจบ เนี่ยอู๋หมิงก็พุ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปด้วยความรีบร้อน
“กลับไปพักสักหน่อยเถอะ”
ในตอนนี้ ซือเยี่ยหานมองไปที่เยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นเฝ้าเนี่ยอู๋หมิงอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืน แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย
“อืม จะกลับไปพักผ่อน…ที่บ้านตระกูลเนี่ยกับฉันไหม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างกึ่งยิ้มๆ พลางจ้องมองซือเยี่ยหาน
“ได้สิ” ซือเยี่ยหานพยักหน้า “ถ้าเธอคิดว่าทางเนี่ยหลิงหลงจะไม่เกิดปัญหาขึ้นละก็นะ”
เยี่ยหวันหวั่นลืมนึกถึงจุดนี้ไปเลย…
“ฉันจะกลับไปที่อาชูร่าก่อน จัดการเรียบร้อยแล้วจะไปหาเธอ” ซือเยี่ยหานเอ่ย
“แบบนั้นก็ได้” เยี่ยหวันหวั่นตอบตกลง
อันที่จริง ทางเนี่ยหลิงหลง ต้องให้ซือเยี่ยหานกลับไปดู ถึงจะทำให้เธอวางใจได้
ส่วนทางตระกูลเนี่ย เยี่ยหวันหวั่นยังไม่คิดจะคุมขังเนี่ยหลิงหลงไว้ที่ตระกูลเนี่ย สายสัมพันธ์ที่เนี่ยหลิงหลงมีในตระกูลเนี่ยนั้นซับซ้อนมาก ถ้าขังไว้ที่บ้านตระกูลเนี่ย แล้วเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะมีใครใช้ลูกไม้ แอบปล่อยเนี่ยหลิงหลงออกไปหรือไม่…
….
หลังจากซือเยี่ยหานขับรถมาส่งเยี่ยหวันหวั่นที่หน้าบ้านตระกูลเนี่ยแล้ว ก็จากไปเพียงลำพัง
………………………………………………………….