บทที่ 2155 ไปเถลไถลที่ไหนมา
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นกลับมา บอดี้การ์ดหลายคนของตระกูลเนี่ยก็ยืดตัวตรง ค้อมหัวให้เยี่ยหวันหวั่น
เรื่องของเนี่ยหลิงหลง คนตระกูลเนี่ยรู้กันหมดแล้ว ตอนนี้ หัวหน้าตระกูลเนี่ยจึงกลายเป็นเนี่ยอู๋โยวแล้ว
หลังจากกลับถึงบ้านตระกูลเนี่ย ผู้อาวุโสใหญ่ก็เข้ามาหาเป็นคนแรก
“อู๋โยว ทางเนี่ยหลิงหลง สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น พลางขมวดคิ้วแน่น
ก่อนหน้านี้เขาก็รู้สึกผิดปกติอยู่บ้าง ผู้อาวุโสหลายคนในตระกูลเนี่ยโยกย้ายอำนาจบัญชาการกองกำลังบางส่วนไปให้เนี่ยหลิงหลง แต่กลับไม่มาแจ้งให้ตัวเองรับรู้
“ปู่รองคะ เนี่ยหลิงหลงพาคนไปล้อมสังหารหนูกับพี่ชาย” เยี่ยหวันหวั่นมองผู้อาวุโสใหญ่แล้วเล่าออกมา
ในเวลานี้ ทั่วทั้งตระกูลเนี่ย เพียงคนเดียวที่เยี่ยหวันหวั่นสามารถไว้ใจได้ นอกเหนือจากพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องคนนั้นของตัวเองแล้ว ก็มีแค่ปู่รองที่เหลืออยู่คนนี้ ดังนั้น จึงบอกเล่าต้นสายปลายเหตุกับผู้อาวุโสใหญ่
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“นังเดรัจฉานเนี่ยหลิงหลงคนนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้!” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยด้วยความโกรธแค้น
โชคดีที่เยี่ยหวันหวั่นกับเนี่ยอู๋หมิงปลอดภัยทั้งคู่…
“ตอนนี้ เนี่ยหลิงหลงถูกคุมตัวไว้ที่อาชูร่าแล้วค่ะ แค่ต้องรอไต่สวนหาข้อมูลของคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ดี แบบนั้นปู่รองก็วางใจแล้ว ยังมีอีก พวกระดับสูงทั้งหมดที่เข้าร่วมปิดล้อมสังหารเธอในครั้งนี้ ต้องจัดการให้หมด” หลังจากผู้อาวุโสใหญ่ก็ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว ระดับสูงของตระกูลเนี่ยพวกนั้น จะต้องถูกจัดการ แต่ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ต้องรอให้พวกเขาส่งมอบอำนาจในมือออกมาก่อน ไม่งั้น ตระกูลเนี่ยจะวุ่นวาย
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็หารือเรื่องแผนรับมือกับผู้อาวุโสใหญ่
หลังจากกำหนดแผนการเสร็จ ก็ตกเย็นแล้ว
“เอาละ อู๋โยว ปู่รองจะดำเนินตามแผนการที่วางไว้ก่อน ยังมีอีกนะ ระยะนี้ ส่งคนออกไปสืบหาข่าวของพ่อแม่หลานให้มากหน่อยจะดีที่สุด…ยังมีเนี่ยหลิงหลงอีก ปู่ว่าเธอน่าสงสัยมาก” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ย
ข้อนี้ ไม่ต้องให้ผู้อาวุโสใหญ่เตือน เยี่ยหวันหวั่นก็รู้อยู่แก่ใจดี ทางเนี่ยหลิงหลงนั้น เธอจะไม่ละเลยแน่
ทันทีที่ผู้อาวุโสใหญ่จากไป เนี่ยอู๋หมิงก็เปิดประตูแล้วเดินเข้ามา
“ไปเถลไถลที่ไหนมา”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นมองเห็นเนี่ยอู๋หมิง ก็เอ่ยถาม
“บอกแกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไปทำธุรกิจไง” เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง “แก่แล้วขี้ลืมสินะ”
เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจ เขาอยากมีเรื่องกับเธอใช่ไหม
“ฉันกลับมาตั้งนานแล้ว ยุ่งวุ่นวายอยู่ในครัวตั้งครึ่งค่อนวัน ฉันทำมื้อเย็นเสร็จแล้ว รีบไปกินกันเถอะ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย
ในความทรงจำ เนี่ยอู๋หมิงทำกับข้าวเป็นจริงๆ แถมรสชาติก็ไม่เลวเลยด้วย
“งั้นฉันมีลาภปากแล้ว”
ระหว่างที่พูด เยี่ยหวันหวั่นก็เดินตามหลังเนี่ยอู๋หมิง มุ่งหน้าไปที่ห้องรับแขกของบ้านตระกูลเนี่ย
ภายในห้องรับแขก เจ้าคนตายกับพวกอี้จือฮวาก็อยู่ด้วย
บนโต๊ะอาหาร เนี่ยอู๋หมิงคีบกับข้าวให้เยี่ยหวันหวั่นไม่หยุด “นี่เป็นอาหารที่แกชอบกินทั้งนั้น ยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆ แกชอบกินซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานที่ฉันทำที่สุด กินเยอะๆ หน่อย”
“อร่อยใช้ได้เลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยชม
กับข้าวที่เนี่ยอู๋หมิงทำไว้เต็มโต๊ะ ถูกพวกหนุ่มกรรมกรต่างชาติกินไปกว่าครึ่ง เยี่ยหวันหวั่นจัดการไปแค่ส่วนเล็กๆ
“ใช่แล้ว น้องสาว ฉันเพิ่งรับภารกิจใหญ่งานหนึ่งมา ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะได้กลับมา ไม่มีฉันอยู่ข้างๆ แล้ว แกต้องระวังตัวหน่อยนะ แกจำคำพูดของฉันไว้ อย่าสนใจเรื่องหยุมหยิมพวกนั้นมากไป อะไรก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตตัวเอง” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยกำชับเยี่ยหวันหวั่นอย่างมีนัยยะ
“ได้เลยๆ ฉันเข้าใจแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง วันนี้ฟังเขาจ้ำจี้จ้ำไชมาทั้งวันแล้ว ใครบ้างจะไม่รู้ว่าชีวิตสำคัญที่สุด
———————————————————————
บทที่ 2156 ราคาเท่าไร ฉันจะซื้อ
“เอาละ พวกแกกินไปก่อนนะ ฉันจะไปเก็บข้าวของเตรียมตัวแล้ว”
พอเนี่ยอู๋หมิงพูดจบ ก็ลุกออกไปเลย
เยี่ยหวันหวั่นมองโต๊ะอาหารที่ถูกพายุกวาดม้วนไปแล้ว ด้วยสีหน้ามึนงง กินไปก่อน…จะให้กินอะไรล่ะ?!
“อร่อยมากๆ…วันนี้โชคดีจริงๆ ไม่เคยกินข้าวฝีมือหัวหน้ามาก่อนเลย ไม่น่าเชื่อว่าหัวหน้าจะซ่อนความสามารถแบบนี้ไว้ด้วย…” หนุ่มกรรมกรต่างชาติตบๆ พุงด้วยความพึงพอใจ
เยี่ยหวันหวั่นมองหนุ่มกรรมกรต่างชาติ รู้สึกไม่ชินอยู่บ้างจริงๆ ที่เขาพูดว่าข้าว
“อย่าว่าแต่นายเลย แม้แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!” อี้จือฮวาเอ่ย
“ใช่แล้ว!”
ในเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตามองหนุ่มภูเขาน้ำแข็ง “คือว่า…มาทำการค้ากันหน่อยไหม”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดออกมา หูของนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาก็ผึ่งขึ้นมาแล้ว
“ทำการค้าเหรอ…การค้าอะไร?! เถ้าแก่ต้องดูแลพวกเราให้มากหน่อยนะ!” นักพรตใจบริสุทธิ์มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดขึ้นมา
“ไม่ได้จะทำการค้ากับนายสักหน่อย” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ พวกเราเป็นทีมเดียวกัน…เถ้าแก่ ถ้าคุณว่าจ้างงาน จะจ้างเจ้าคนตายคนเดียวไม่ได้นะ พวกเราเป็นทีมเดียวกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต้องจ้างทั้งทีม ไม่งั้น…จะแสดงพลังออกมาไม่ได้นะ ลดทอนลงไปเยอะเลยนะ!” นักพรตใจบริสุทธิ์รีบพูดขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นคร้านจะสนใจนักพรตใจบริสุทธิ์แล้ว สายตาเคลื่อนไปที่ร่างของหนุ่มภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านข้างอีกครั้ง “แบบว่า…กู่ของนาย ร้ายกาจสุดๆ เลยนะ…”
“ต้องร้ายกาจแน่อยู่แล้ว กู่ของเจ้าคนตายน่ะ เอาละ ไม่พูดแล้ว คุณเองก็เคยมีประสบการณ์นี่” อี้จือฮวาเอ่ยยิ้มๆ
เยี่ยหวันหวั่นโมโหอยู่ในใจ เวรเอ้ย ดันทักเรื่องที่ควรทักซะได้!
“เรื่องกู่เสน่หาครั้งก่อน ฉันจะไม่คิดบัญชีกับนายก็ได้…กู่หมื่นพิษไม่กล้ำกรายตัวนั้นของนาย…ขายให้ฉันสักสองสามตัวสิ ฉันยอมจ่ายราคาสูงนะ! นายบอกราคามาเลย ฉันก็จะไม่กะพริบตา ไม่ต่อราคาแน่นอน นายพูดมาเลยว่ากี่หมื่น!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ใบหน้าของนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาก็เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง ราคาสูง…ไม่ต่อราคาเลย…กี่หมื่น…
นี่เป็นราคาที่สูงมากจริงๆ!
หัวหน้าตระกูลเนี่ยผู้ยิ่งใหญ่ ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย นายหญิงของอาชูร่า เธอพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้แบบสบายๆ เลย!
“เถ้าแก่ ไม่สู้คุณมาซื้อกับผมดีกว่า คุณให้กี่หมื่น ผมก็ขายทั้งนั้น ผมไม่ขึ้นราคาแน่!” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยพลางจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวขึ้นมาบ้างแล้ว…
คนพวกนี้ โลภมากแล้วสินะ!
เมื่อก่อน ได้แค่หลักร้อยหลักพันก็ดีอกดีใจแทบเป็นแทบตายกันแล้ว ตอนนี้สองสามหมื่นก็ยังไม่พอใจอีก…
“ไอ้ลูกหมา พวกนายเปลี่ยนไป…” เยี่ยหวันหวั่นมองพวกอี้จือฮวาอย่างปวดใจอยู่บ้าง แล้วจึงถอนหายใจอย่างจนปัญญา
“เอาละๆๆ ให้เจ้าคนตายขายกู่หมื่นพิษไม่กล้ำกรายพวกนั้นให้ฉันเถอะ ฉันจะซื้อหลายตัวเลย ลดให้ด้วยล่ะ พวกนายบอกราคามาเลย ถ้าโอเคก็ตกลงเลย ไม่โอเคพวกเราก็มาคุยกันใหม่” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างประนีประนอม
ในสถานที่อย่างรัฐอิสระ กู่ชนิดนี้เป็นของดีแน่นอน ต่อให้ต้องจ่ายเงินมากแค่ไหน เยี่ยหวันหวั่นก็ต้องได้มาครองสักสองสามตัว
ให้ตัวเองหนึ่งตัว ถังถังหนึ่งตัว ซือเยี่ยหานหนึ่งตัว…ถ้าซื้อได้เยอะขึ้นอีกหน่อยก็ดี จะได้ยกกู่ชนิดนี้ให้คนสนิทใกล้ตัว!
“ไม่”
ในที่สุด หนุ่มภูเขาน้ำแข็งที่เงียบงันมาโดยตลอด ก็เอ่ยออกมาคำหนึ่งอย่างที่หาได้ยากยิ่ง
“ทำไมล่ะ กลัวว่าฉันจะจ่ายไม่ไหวรึไง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง
เธอไม่เชื่อหรอกนะว่าแม้แต่กู่ตัวเดียว เธอจะซื้อไม่ไหว!
“เถ้าแก่ผมถามทีสิ คุณจริงจัง หรือว่ากำลังล้อพวกเราเล่นอยู่” นักพรตใจบริสุทธิ์จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยด้วยความแปลกใจ
————————————————-