บทที่ 984 จากไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด + ตอนที่ 985 ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 984 จากไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด + ตอนที่ 985 ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 984 จากไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

เพียงแต่ในบ้านมีคุณย่าที่สติเลอะเลือนอยู่ เกิดมาเพื่อเป็นคู่หูโง่ ๆของคุณปู่ หลังจากที่เธอได้ยินเหมยเหมยพูดจบ ความโมโหก็พุ่งปรี๊ด

คุณย่าหัวเราะถากถางพูดตำหนิออกมาว่า “แกเป็นนางฟ้าสวรรค์ชั้นเก้าเหรอ ใครก็ไม่สามารถทำให้แกต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมได้? คนเราชั่วชีวิตหนึ่งมีใครบ้างที่ไม่เคยต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม? แกพูดจาอะไรก็ไม่ผ่านสมองเอาเสียบ้างเลย!”

“ดังนั้นหนูจึงต้องทน แล้วก็ทำได้แต่เพียงเก็บไว้งั้นเหรอ คุณย่าต่อไปนี้คุณย่าไม่ต้องกังวลว่าหนูจะทำลายชื่อเสียงอันสูงส่งของคุณย่าแล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องเห็นหนูอยู่ขัดหูขัดตาอีก เป็นเรื่องดีจะตาย!”

เหมยเหมยมองคุณย่าอย่างเย้ยหยัน คิด ๆแล้วก็ยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไร จึงตั้งใจพูดเสริมเข้าไปอีกว่า “วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่หนูจะได้พูดกับคุณย่า ถึงอย่างไรก็เรียกคุณว่าคุณย่ามาสองปี หนูก็ขอให้คุณย่าร่างกายแข็งแรง อายุยืนร้อยปีแล้วกันค่ะ!”

เธอพูดไปยิ้มไป เพียงแต่ในสายตาของพวกคุณปู่ที่มอง มักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ารอยยิ้มของเหมยเหมยนั้นแปลกประหลาดทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

คุณย่าชะงักไปครู่หนึ่งแล้วด่าออกมาว่า “นังสารเลวไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ อะไรคือครั้งสุดท้าย แกคิดจะก่อกบฏหรือยังไง?”

อันที่จริงเธอก็ไม่ได้คิดจะไล่เหมยเหมยไป ไล่หลานสาวแท้ ๆของตัวเอง คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องจะหัวเราะเยาะเธอเช่นไร!

เหมยเหมยยักไหล่ ไม่คิดจะอยู่ที่ตระกูลจ้าวอีก

เหมยเหมยหันไปโค้งคำนับให้กับคุณปู่ พูดว่า “หนูขอลาตรงนี้ สำหรับเรื่องเมื่อวาน หนูว่าหนูพูดให้ชัดเจนหน่อยจะดีกว่า ไม่ควรให้คนที่มีเจตนาไม่ดีทำลายชื่อเสียงของหนู เงินที่เมื่อวานหนูใช้จ่ายนั้นเป็นเงินของหนู เพียงแต่ให้พี่เหยียนหมิงซุ่นช่วยเก็บเอาไว้ให้ ไม่กี่พันเท่านั้นเอง ตัวหนูเองสามารถหามาได้ไม่คุ้มที่จะต้องไปยั่วยวนผู้ชายหรอก วันหลังคุณย่าจะฟังคนอื่นพูดจาอะไร กรุณาพกสมองไปด้วยก็ดีค่ะ!”

พูดจบเธอก็ไม่สนใจท่าทางตกตะลึงของคนตระกูลจ้าวอีก หันหลังเดินออกไป ต่อไปก็จะไม่ย่างเท้าเข้ามาที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว

คุณย่าตกตะลึงไปอยู่ชั่วครู่ อยู่ดี ๆก็ตะคอกออกมาว่า “แกเอาเงินมากมายขนาดนั้นฝากไว้กับคนนอก แกเป็นคนโง่หรือยังไง? ยังไม่รีบไปเอาเงินออกมาอีก!”

คำพูดของคุณย่านี้ไม่ได้มีความหมายอื่นเลยจริง ๆ เธอไม่ใช่คนโลภมากเห็นแก่เงินทอง คุณธรรมในด้านนี้ไม่มีปัญหาอะไร

เธอเพียงแต่กังวลอย่างบริสุทธิ์ใจว่าเหมยเหมยอายุยังน้อยยังไม่รู้เรื่องจะโดนคนอื่นหลอกได้ เงินตั้งหลายพันนะ!

ถ้าหากเธอรู้ว่าเงินที่เหมยเหมยฝากไง้กับเหยียนหมิงซุ่นนั้น ไม่ใช่แค่เพียงหลายพัน แล้วก็ไม่ใช่หลายหมื่น แต่เป็นหลายแสนแล้วล่ะก็ กลัวว่าคุณย่าคงจะตื่นตะลึงจนเป็นลมตายไปเลยมั้ง

เหมยเหมยส่งเสียงหึอย่างเย็นชา หมดคำพูดกับสมองของคุณย่าเสียจริง ๆ คิดแต่ละเรื่องไม่เคยตรงจุดเลย!

”คุณย่าก็เป็นกังวลมากไปแล้ว เทียบกับพวกคุณแล้ว หนูเชื่อใจพี่หมิงซุ่นมากกว่าอีก!”

เธอเดินออกจากห้องโถงใหญ่ของตระกูลจ้าว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ที่คนอื่นใฝ่ฝันหา แล้วก็ยังเป็นจุดสูงสุดของปิรามิดซึ่งผู้คนนับไม่ถ้วนอยากจะแย่งชิง แต่เหมยเหมยกลับจากไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

คนอื่นอิจฉาริษยาตำแหน่งฐานะเจ้าหญิงแห่งตระกูลจ้าว เธอไม่เคยได้รับประโยชน์จากความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของมันเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันยังพาปัญหาความวุ่นวายมาให้เธออีกไม่น้อย

เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ แต่ในครอบครัวมีคุณย่าที่ไร้จิตสำนึกไร้คุณธรรมขนาดนี้ เธอรีบหาโอกาสออกไปก่อนจะถลำลึกจะดีกว่า!

จ้าวเสวียหลินมองคุณปู่คุณย่าอย่างลำบากใจ กัดฟันแล้วสุดท้ายก็ตามเหมยเหมยไป

เขาต้องปฎิบัติตามคำสั่งของจ้าวอิงหัวว่าจะไม่ห่างเหมยเหมย ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดที่คุณย่าว่าเหมยเหมยแบบนั้น เขาก็โมโหมากเช่นกัน!

แต่ว่าเขาก็ยังไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเหมยเหมยที่พูดอย่างโหดร้ายแบบนั้น ต่อให้คุณย่าจะผิดแต่ถึงอย่างไรก็เป็นผู้อาวุโสของพวกเขา อย่างมากก็แค่ทำหูทวนลม แต่ถึงโต้เถียงกับคุณย่าถึงขั้นพูดคำพูดว่าจะตัดขาดกับตระกูลจ้าวมันออกจะมากเกินไปหน่อย

อีกครู่เขาต้องพูดคุยเหตุผลกับเหมยเหมยดี ๆ รอความโมโหของเหมยเหมยเบาบางลงก่อน ค่อยให้เหมยเหมยไปขอขมาคุณย่า ก็จะสามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้เฒ่าทั้งสองมันก็ดีกับเหมยเหมยอยู่แล้ว

แต่จ้าวเสวียหลินกลับไม่รู้เลย เหมยเหมยไม่ได้ใส่ใจชื่อเสียงฐานะเจ้าหญิงแห่งตระกูลจ้าวโดยสิ้นเชิง อีกอย่างตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ——

ตระกูลจ้าวจะไม่สามารถหาผลประโยชน์อะไรจากตัวของเหมยเหมยได้อีกต่อไป!

……………………………………………

ตอนที่ 985 ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ

คุณปู่มองเงาที่เด็ดเดี่ยวของหลานสาวอย่างเย็นชา ไม่รู้ว่าทำไมในใจของเขาถึงได้รู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

ราวกับว่าของสำคัญบางอย่างกำลังจะจากเขาไปแล้ว

สิ่งที่พูดออกมามันไม่ได้ชัดเจน!

เพียงแต่ตอนนี้คุณปู่ยังไม่ทันรู้ตัว คำพูดของเหมยเหมยที่พูดก่อนหน้านี้หมายความว่าอะไร หลังจากหลายปีที่ผ่านมา ร่างกายของเขาอ่อนแอลงทุกวันทุกวัน คุณปู่ถึงได้เข้าใจ ——

สำหรับตระกูลจ้าวแล้วเหมยเหมย เป็นทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่ามากจริง ๆ

แต่พวกเขากลับไม่ได้เห็นคุณค่าและรักษาเอาไว้ดี ๆ!

คุณย่าโมโหจนกัดฟันกรอดหันไปตะคอกใส่คุณปู่ว่า “คุณดูสิ คุณดู ยังมีมารยาทอยู่ไหม? แม้แต่คำว่าญาติยังไม่รู้เลยว่าจะนับกันอยู่ไหม แถมยังไปเข้าข้างคนอื่นอีก?”

จ้าวเสวียกงขมวดคิ้วแน่น ทนไม่ไหวพูดออกมาว่า “คุณย่าพูดจาอะไรก็ระวังหน่อย ยังดีที่ตอนนี้มีแต่คนในครอบครัวกันเอง คุณย่าจะพูดมั่วซั่วแค่ไหนก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าออกไปข้างนอกก็อย่าพูดแบบนี้อีก คุณย่าอยากจะให้คนข้างนอกมองเหมยเหมยเป็นคนอย่างไร?”

คุณย่าด่าออกมาอย่างไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ฉันพูดผิดตรงไหน? ยัยเด็กสมควรตายนี่ไม่ระมัดระวังตัวเอง ทำไมฉันจะพูดมากไม่ได้!”

“เหมยเหมยเธอไม่ระมัดระวังตัวตรงไหน? เมื่อวานผมและพี่สี่ก็อยู่ด้วย เหมยเหมยมีมารยาทจะตาย มีคนเลวที่ไหนมาพูดซุบซิบนินทามั่วซั่วอีกล่ะ?” จ้าวเสวียกงที่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองรู้สึกไม่เป็นธรรม

จ้าวเสวียไห่หน้าตาท่าทางผิดแปลกไป สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หรือคนที่พูดซุบซิบนินทามั่วซั่ว มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น…

คุณย่าตวาดออกมา “ไอ้สารเลวอะไรกันล่ะ เป็นป้าสะใภ้รองของแกพูดต่างหาก”

จ้าวเสวียกงหันไปมองทางจ้าวเสวียไห่ จ้าวเสวียไห่รีบพูดแก้ต่างว่า “ไม่ใช่ฉันพูดนะ”

อันที่จริงพวกเขาต่างก็รู้ว่าเป็นใครที่พูด จ้าเสวียกงยิ้มเยาะพูดว่า “พี่สี่ลูกพี่ลูกน้องของพี่ก้าวก่ายเกินไปแล้วมั้ง? ยุ่งเรื่องของชาวบ้านจนลามมาถึงตระกูลจ้าวของพวกเราแล้วเหรอ?”

อันที่จริงที่เขาอยากจะพูดถึงก็คือหานซู่ฉิน ถึงอย่างไรหานป๋อหยวนก็เพียงแค่พูดให้เพียงแค่หานซู่ฉินฟังเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะพูดเช่นไร และต่อให้เหมยเหมยจะทำผิดจริง ๆ ในฐานะที่หานซู่ฉินเป็นคนของตระกูลจ้าว ก็ควรจะปกป้องชื่อเสียงของหลานสาวสิ

หรือแค่คิดที่จะถามจ้าวเสวียไห่ก็ยังไม่ทำ แต่กลับพูดบิดเบือนความจริงเป่าหูคุณย่า ร่วมมือกับคนนอกทำลายชื่อเสียงของเหมยเหมย

มิน่าล่ะแม่ของเขาถึงไม่ชอบป้าสะใภ้รอง ที่แท้ก็ไม่ใช่คนดีแถมจิตใจยังชั่วร้ายมาก

หน้าของจ้าวเสวียไห่ถอดสี นึกไม่พอใจหานซู่ฉินและหานป๋อหยวนเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าคนที่เขาเกลียดที่สุดก็คือหานป๋อหยวน เมื่อก่อนทำไมมองไม่ออกนะว่าหานป๋อหยวนมีความสามารถในการนินทาผู้หญิงได้!

คุณปู่ซักไซ้ถามเรื่องเมื่อวานอย่างละเอียด เลยค่อนข้างไม่พอใจหานซู่ฉินเป็นอย่างมากที่ไม่ตรวจสอบพิจารณาใด ๆ ก่อน  เมื่อก่อนมองว่าสะใภ้รองเป็นคนดี แล้วตอนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไปไม่หนักแน่นแล้วล่ะ

“วันหลังก็พกสมองหน่อย อย่าเห็นพายุเป็นแค่ฝน ตอนนี้ก่อเรื่องจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว พอใจหรือยัง?”

คุณปู่หันไปตวาดใส่คุณย่า ตอนนี้เขายังไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะร้ายแรงกว่าที่คิด เพียงคิดแค่ว่าปล่อยผ่านไปก่อนไม่กี่วันค่อยไปปลอบหลานสาวก็น่าจะจบไปได้

อย่างไรก็เป็นแค่เด็กน้อยจะแค้นข้ามวันข้ามคืนอะไรได้?

เพียงแต่เขากลับไม่รู้ว่าหลานสาวของเขาไม่ใช่แค่เด็กน้อยคนหนึ่งแต่กลับเป็นผู้ใหญ่ที่ใจแคบเสียยิ่งกว่าเข็ม  แถมยังผูกอาฆาตพยาบาทจะตาย!

เดิมทีคุณย่ายังคิดจะพูดอีกหลายประโยคแต่ยังไม่ทันเปิดปาก ร่างกายก็สั่นเทิ้มในทันที จ้าวเสวียไห่รีบเข้าไปประคองเธอไว้จึงเห็นสีหน้าของคุณย่าที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้

ตอนแรกคุณปู่ยังคิดที่จะตำหนิภรรยาผู้เลอะเลือนอีกสักหน่อย แต่เห็นเธอเป็นแบบนี้ก็ใจไม่แข็งพอ จึงถอนหายใจแล้วให้จ้าวเสวียไห่ประคองคุณย่ากลับไปพักที่ห้อง

ในภายหลังเหมยเหมยก็หาตัวคนนินทาได้ ความเคารพนับถือที่มีให้หานซู่ฉินก็หายไปในชั่วพริบตา

ที่แท้ก็รู้หน้าไม่รู้ใจ หานซู่ฉินก็เป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ!

…………………………………………