ตอนที่ 1172 แสดงความสามารถต่อหน้าผู้ที่มีความเชี่ยวชาญกว่า

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พลังแห่งการทำลายล้างตกลงมา นายน้อยมังกรปีศาจจำต้องกลายร่างเป็นกายแท้ต้านทาน

สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าหากใช้ร่างมนุษย์ต้านทาน ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคงไม่อยากจะจินตนาการเลย!

ตูม!

เขาที่กลายร่างเป็นกายแท้ต้านการโจมตีนี้ของมู่เฉียนซีเอาไว้ เขากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก! นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะบีบบังคับให้ข้าใช้กายแท้ได้!”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ก็ใครใช้ให้เจ้าใช้ร่างมนุษย์สู้ข้าไม่ได้ล่ะ!”

มังกรปีศาจจ่านคงกล่าว “เจ้าอย่าได้ลำพองใจไปนักเลย จากนี้ไป ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้หายใจดี ๆ แน่!”

เขาปล่อยลมหายใจออกมา และตะโกนขึ้นว่า “มิติกักขัง!”

เผ่ามังกรปีศาจจ่านคงภาคภูมิใจในพลังแห่งมิติของตนเองมาก

หากพวกเขาใช้พลังเช่นนี้แล้ว มันก็ง่ายในการล่าเหยื่อ

เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังแห่งมิตินั้นเข้า สุ่ยอู๋ซินก็กระวนกระวายใจขึ้นแล้ว

“ท่านมู่!”

พื้นที่ทั้งหมดถูกปิดกั้นทำให้ผู้ที่อยู่ด้านในหายใจไม่ออกและไม่สามารถต้านทานได้

ทว่า สีหน้าของมู่เฉียนซีในตอนนี้ยังคงนิ่งสงบมาก ทันใดนั้นร่างของนางก็เคลื่อนไหวออกไป และได้เพิกเฉยต่อมิติกักขังของมังกรปีศาจจ่านคง

“ผนึกมังกรวารี!”

มู่เฉียนซีสามารถฉีกมิติกักขังของเขาได้ นี่เป็นสิ่งที่นายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงคิดไม่ถึงจริง ๆ

และเมื่อมังกรวารีสีฟ้าตัวนั้นพุ่งเข้ามาพัวพันกับเขา เขาก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจว่า “เป็นไปได้ยังไง?”

“เจ้า…เจ้าก็เป็นแค่มนุษย์ผู้อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดถึงได้ฉีกมิติของข้าได้!”

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีจะเป็นเจ้านายของผู้พิทักษ์นิรันดร์อย่างดอกบัวหงส์เก้ากลีบ

สุ่ยจิงอิ๋งเป็นผู้ครอบครองมิติ การที่นายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงใช้พลังเช่นนี้ต่อหน้านาง ช่างไม่ต่างอะไรกับการใช้ขวานต่อหน้าหลู่ปันเลย ความสามารถไม่อาจเทียบนางได้แต่กล้าใช้ทักษะนี้ต่อหน้านาง ช่างไร้ยางอายเสียจริง

นางแค่ใช้พลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถทำให้มู่เฉียนซีทำลายมิติกักขังของนายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงได้แล้ว

ปัง! นายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงถูกมังกรวารีพัวพันชั่วครู่หนึ่งร่างของเขาก็หนาวเหน็บขึ้น

มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิง และโจมตีไปอีกกระบวนท่าหนึ่ง

“มังกรเพลิงสังหาร!”

หลังจากที่มังกรวารีได้อันตรธานหายไป มังกรเพลิงอันแดงฉานก็พุ่งเข้าไปพัวพันกับเขาอีกครั้ง

ในตอนนี้นายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนดวงตาแดงก่ำขึ้นแล้ว เขาสบถด่าออกมาว่า “ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!”

หมอกควันสีดำได้แผ่ซ่านออกมาและขวางการโจมตีของมังกรเพลิงนั้นเอาไว้

ทว่า สีหน้าของเขาในตอนนี้ย่ำแย่ลงมาก!

เขาสูญเสียพลังไปมากในการเปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร จากนั้นเมื่อกลับออกมาก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกคนเหล่านี้ห้อมล้อมโจมตี

มนุษย์เพียงแค่คนเดียว นึกไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้ยากถึงเพียงนี้!

นายน้อยมังกรปีศาจจ่านคงกล่าวว่า “เดิมทีข้าคิดจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ามันช่างไม่รู้จักดีชั่วจริง ๆ ดูท่า ข้าคงทำได้เพียงต้องฆ่าเจ้าแล้วล่ะ”

พรสวรรค์เช่นนี้ยังไม่ทันได้ใช้ประโยชน์ก็จะถูกฆ่าเสียแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

แต่หญิงสาวผู้นี้ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจริง ๆ และเขาก็ไม่อาจสนใจได้มากมายถึงเพียงนั้น

“มิติสังหาร!” เสียงตัดผ่านอากาศนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี

พลังจิตของมู่เฉียนซีแผ่ซ่านออกมา นางรู้ว่ารอบตัวนางเต็มไปด้วยมีดมิติที่จะคร่าชีวิตนางอย่างนับไม่ถ้วน

หากไม่ระวังก็จะถูกฆ่าตายภายในชั่วพริบตาเดียวเฉกเช่นเดียวกับเก๋อเทียน

“ท่านมู่ ระวัง! นี่เป็นถึงทักษะสังหารของเผ่ามังกรปีศาจจ่านคงเชียวนะ!”

“ท่านมู่…”

“……”

คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้แล้วต่างก็หวาดเสียวแทนมู่เฉียนซี

เผชิญหน้ากับมิติสังหารเช่นนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นมังกรขั้นเทพพวกเขาก็หวาดเสียวเช่นกัน ยิ่งพลังของท่านมู่ในตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย พลังของนางไม่ได้สูงอะไรเลย

ขวับ!

เมื่อจับเส้นทางได้ มู่เฉียนซีก็หลบหลีกอย่างรวดเร็วที่สุด

ดวงตาของนายน้อยมังกรปีศาจยิ่งโหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ “เจ้ายังจะหลบหลีกได้อีกเหรอ!”

“ยอดเยี่ยมไปเลย ท่านมู่หลบได้!”

นายน้อยมังกรปีศาจกล่าวอย่างโหดร้ายว่า “อย่าคิดว่าเจ้าหลบได้ครั้งหนึ่งแล้วก็จะหลบไปได้ตลอดนะ ฝันไปเถอะ!”

สีหน้าของนายน้อยมังกรปีศาจพลันซีดเผือดลง พลังในร่างของเขาต้องหมดลงแน่หากเขาใช้พลังแห่งมิติอีกครั้ง

“นายน้อย!”

นายน้อยของตนเองบ้าคลั่งถึงเพียงนี้ก็ทำให้ลูกน้องเหล่านี้ของเขาต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น

“มีดหมื่นสังหาร!”

มู่เฉียนซีรู้สึกว่ามิติบริเวณโดยรอบพลันเปลี่ยนเป็นเกลียวขึ้น มันหมุนอย่างบ้าคลั่งและแย่งชิงมิติที่มู่เฉียนซีอยู่

เมื่อมีดนั้นเข้ามาใกล้ ร่างจะกลายเป็นหมื่นชิ้นพันชิ้นแน่นอน

นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่โหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง หากถูกปิดกั้นก็จะไม่สามารถหลบหลีกได้

สุ่ยจิงอิ๋งนั้นสงบมาก นางยิ้มพลางกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ กระบวนท่านี้ดูเหมือนจะน่าหวาดเสียว และมันกลับมีข้อบกพร่องอยู่มากมาย เจ้าตั้งสติให้ดี อาศัยพลังจิตของเจ้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นเจ้าก็จะสามารถหาช่องโหว่เจอแน่นอน”

มู่เฉียนซีเชื่อในสุ่ยจิงอิ๋งมาก ดังนั้นนางจึงได้เพิกเฉยต่ออันตรายรอบตัว และเริ่มหาช่องโหว่ข้อบกพร่องในกระบวนท่านี้ของนายน้อยมังกรปีศาจ

เมื่อการสังหารเข้ามาใกล้ มู่เฉียนซีก็พุ่งไปที่ที่หนึ่งและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับห่านก็มิปาน

“ซี๊ด! ถึงตอนนี้แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าท่านมู่ยังเคลื่อนไหวได้” คนอื่นต่างกันพาสูดลมหายใจเย็นเข้าปอดด้วยความหวาดเสียว

นายน้อยมังกรปีศาจกล่าวเย้ยหยันว่า “หึ ๆ ๆ! อดทนรอความตายไม่ได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ! ยอมแพ้เร็วเกินไป ช่างทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ!”

เขาภาคภูมิใจในกระบวนท่าของตนเองมาโดยตลอด แล้วจะค้นพบช่องโหว่นี้ได้ด้วยเหตุใด

และในขณะที่มู่เฉียนซีย่างกรายออกมาจากการปิดกั้นนั้นได้อย่างปลอดภัย นายน้อยมังกรปีศาจก็เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมา

“เป็นไปได้ยังไง?”

ทันทีที่เขาโบกมือขึ้น มิติมีดนั้นก็ได้โจมตีมาอีกครั้ง และพุ่งไปทางด้านหลังของมู่เฉียนซี

“เจ้าหนีไปได้ถึงสองสามครั้ง ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหนีได้อีกแล้ว!”

มู่เฉียนซีได้ใช้พลังจิตทั้งหมดเพื่อออกมาจากตรงนั้นได้ เมื่อเผชิญกับการลอบโจมตีเช่นนี้นางจึงไม่สามารถตั้งรับได้ทัน

ใบหน้าของนายน้อยมังกรปีศาจเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา นางต้องตายแน่!

มู่เฉียนซีไม่สามารถตั้งรับได้ทัน สุ่ยจิงอิ๋งจึงต้องลงมือปกป้องนางอย่างดี ลำแสงสีฟ้าอ่อนได้ส่องสว่างขึ้น และมิติมีดนั้นก็ได้อันตรธานหายไปโดยที่ยังไม่ทันได้กระทบกับร่างของมู่เฉียนซี

นายน้อยมังกรปีศาจคิดจนหัวจะระเบิดก็คิดไม่ออกว่าพลังของเขาสูญหายไปได้อย่างไร และในตอนนี้เองมู่เฉียนซีก็ได้เอากระบี่ยาวสีแดงฉานเล่มหนึ่งออกมา และปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา

กระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเข่นฆ่าเล่มนั้นได้ทาบลงบนคอของนายน้อยมังกรปีศาจ มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าแพ้แล้ว!”

เขาทุ่มสุดตัวที่จะโจมตีมู่เฉียนซี จนตอนนี้ไม่มีพลังที่จะตอบโต้กลับแล้ว เขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้นและกล่าวว่า “เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า!”

มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกตลกขบขันขึ้น “ไม่กล้า มีอะไรที่คนอย่างข้าไม่กล้าล่ะ!”

กระบี่มังกรเพลิงได้กรีดลงบนคอเขาจนเกิดรอยเลือดออกมา เขาไม่เพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดที่ผิวหนังเท่านั้น แต่ยังรู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขากำลังถูกบางอย่างกลืนกินไปด้วย

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เขารีบกล่าวขึ้น

มู่เฉียนซีเหลือบมองไปที่คนของกลุ่มเทพที่กำลังลงมือต่อสู้กับยอดฝีมือของเผ่ามังกรทั้งห้าเผ่าเหล่านั้นและกล่าวว่า “พวกเจ้ายังคิดที่จะลงมืออีกอย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้ยินที่นายน้อยของพวกเจ้าสั่งให้หยุดหรอกเหรอ!”

“นายน้อย!”

“ปล่อยนายน้อยเดี๋ยวนี้นะ!”

“……”

คนของกลุ่มเทพเหล่านั้นต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่านายน้อยจะถูกหญิงสาวผู้นั้นจับตัวข่มขู่ได้เช่นนี้

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขายังจับตัวหญิงสาวผู้นี้เอาไว้ข่มขู่สุ่ยอู๋ซินและพวกอยู่เลย ตอนนี้สถานการณ์ได้พลิกผันแล้ว กลับกลายเป็นนายน้อยของพวกเขาที่ถูกจับตัวไว้ข่มขู่

นายน้อยมังกรปีศาจกล่าว “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าบอกให้เจ้าหยุดต่างหากล่ะ!”

เขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าท่าทางที่โหดร้าย มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “ข้าไม่ใช่ลูกน้องของเจ้านะ เหตุใดข้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าด้วยล่ะ!” กระบี่มังกรเพลิงยิ่งกรีดคอของเขาลึกมากเท่าไหร่ เลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาจากคอของเขามากขึ้นเท่านั้น

.