ตอนที่ 881 ให้กำเนิด

หมอดูยอดอัจฉริยะ

“ดีสิ ฉันไม่ได้ไปต่างประเทศมาหลายปีแล้ว เยี่ยเทียน เราไปยุโรปกันเถอะ?”

ได้ยินดังนั้นอวี๋ชิงหย่าจับมือเยี่ยเทียนแน่นอย่างดีใจ เธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดของสามี ขณะเดียวกันใช้ปฏิกริยาทางร่างกายของตัวเองบอกเยี่ยเทียนว่าแค่มีเขาอยู่ข้างกาย เธอก็พอใจมากที่สุดแล้ว

“ยุโรป?”

เยี่ยเทียนคิดตาม

“ถ้าอย่างนั้นรอไปอีกหน่อยแล้วกัน เราไปเล่นสกีหิมะที่สวิสเซอร์แลนด์ก็ได้”

“ได้ ที่รัก ฉันว่าตามนาย”

อวี๋ชิงหย่าเอนกายซบเยี่ยเทียน สำหรับเธอแล้ว ขอแค่ได้อยู่กับเยี่ยเทียน ไปไหนก็ไม่สำคัญ

สองสามีภรรยาเดินเล่นจนกลับมาถึงบ้าน ฉางเฮ่ารออยู่หน้าบ้านแล้ว เห็นเยี่ยเทียนกลับมาถึงก็รีบเดินเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม

“คุณเยี่ยครับ คนๆนั้นจะไม่มารบกวนคุณผู้หญิงอีก นี่เป็นเพราะผมบกพร่องในหน้าที่ ขออภัยด้วยจริงๆครับ!”

แม้เยี่ยเทียนไม่ให้เขาปรากฏตัวต่อคนในบ้าน แต่เรื่องนี้ฉางเฮ่าต้องอธิบายให้เยี่ยเทียนฟัง เพราะเขาเคยดูเอกสารของเยี่ยเทียนมาก่อน ชายหนุ่มที่เป็นราวกับเทพเซียน โทสะไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่

“รู้แล้ว คนๆนั้นไม่ได้ทำผิดอะไร อย่าทำให้เขาลำบาก”

เยี่ยเทียนพยักหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาต้องได้ซ้อมจ้าวจัวจวินสักยก แต่ตอนนี้เขาจิตใจกว้างขวางขึ้น จึงไม่ถือสาหาความคนแบบนั้น ในโลกนี้นอกจากคนในครอบครัวแล้ว แทบไม่มีใครยั่วโมโหเยี่ยเทียนได้

“ครับ คุณเยี่ย”

ฉางเฮ่ารับปาก เห็นท่าทีรำคาญของเยี่ยเทียนก็รีบขอตัวออกไป

“ที่รัก คนๆนั้นไม่ใช่ว่าอยู่บ้านตรงปากซอยหรือ? เขาเป็นใครกันแน่?”

เดินเข้ามาในบ้านแล้วอวี๋ชิงหย่าถามเยี่ยเทียนอย่างข้องใจ ทุกวันเธอออกไปทำงาน มักเห็นฉางเฮ่าคนนี้เล่นหมากรุกอย่างสนุกสนาน ความสัมพันธ์กับพวกเพื่อนบ้านก็ดีใช้ได้

เยี่ยเทียนยิ้ม

“สถานะของแม่เราเธอก็รู้ ทางการส่งคนมาคุ้มครองแม่!”

ซ่งเวยหลันเป็นผู้บริหารใหญ่ของบริษัทระดับนานาชาติ ทั้งยังเป็นบุตรสาวของซ่งเฮ่าเทียน แค่สองสถานะนี้ เยี่ยเทียนใช้นำมาอ้างเป็นเหตุผลได้ ขอแค่ไม่ให้ภรรยาไปสอบถามจากมารดาอีก

หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้ว เยี่ยเทียนพบว่าพวกฉางเฮ่าทำงานกันอย่างรอบคอบ แม้แต่ป้าใหญ่โต้เถียงกับแม่ค้าขายผักในตลาดไม่กี่คำวันรุ่งขึ้นแผงขายผักนั้นได้อันตรธานหายไป แน่นอนว่านอกจากเยี่ยเทียนแล้วคนอื่นๆไม่รู้

การเล่นสกีที่สวิสฯเดือนมกราคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เยี่ยเทียนกับอวี๋ชิงหย่าวางแผนกันเรียบร้อย หลิวหลันหลันคร่ำครวญว่าอยากไปด้วย และด้วยเหตุที่คุณป้าทั้งหลายของเยี่ยเทียนไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อน          ซ่งเวยหลันจึงวางแผนพาทั้งบ้านไปเที่ยวยุโรป แล้วไปฉลองเทศกาลตรุษจีนที่สวิสฯเสียเลย

แต่ในขณะที่คนทั้งบ้านกำลังทำพาสปอร์ตพร้อมกันนั้น ก็เกิดเรื่องที่ทำให้แผนการผันผวนไปหมด นั่นก็คือ….อวี๋ชิงหย่าตั้งครรภ์

“ศิษย์พี่ใหญ่ นี่เป็นชีพจรตั้งครรภ์แน่นอน พี่ลองจับดูสิ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า??”

เยี่ยเทียนสิ้นเปลืองพลอยวิเศษไปห้าก้อนเพื่อเนรมิตค่ายกลขึ้นใหม่ทั้งหมด แม้ว่าเมื่อก่อนพลังธรรมชาติจะไม่ค่อยเพียงพอ ตอนนี้กลางฤดูหนาวจัด แต่อากาศภายในบ้านอบอุ่นกว่านอกบ้านเป็นสิบองศา มวลดอกไม้ยังไม่ร่วงโรย

ตอนนี้คนทั้งบ้านนั่งกันเกือบพร้อมหน้าอยู่ในสวน ยังมีอวี๋เฮ่าหรานและภรรยาที่พอได้ข่าวก็รีบเดินทางมา ลูกสาวคนเดียวตั้งครรภ์ ก็เป็นเรื่องมงคลของตระกูลอวี๋เหมือนกัน

อวี๋ชิงหย่าที่ถูกทุกคนนั่งล้อมวงอยู่ ข้างกายเธอมีโก่วซินเจียที่รีบเดินทางมาจากฮ่องกง กำลังวางนิ้วบนข้อมือ    ของอวี๋ชิงหย่าเพื่อตรวจชีพจร

ผู้ที่ค้นพบว่าอวี๋ชิงหย่าตั้งครรภ์คือเยี่ยเทียนที่หลังจากรับปราะทานอาหารเช้าแล้วเธอมีอาการคลื่นไส้ เยี่ยเทียนถึงจะรู้วิชาแพทย์เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นอาการไข้หวัดทั่วไปก็ตรวจโรคได้ พอเขาตรวจชีพจรให้ภรรยาก็พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ตอนที่เยี่ยเทียนจับชีพจรรู้สึกว่าลักษณะชีพจรของภรรยาไหลลื่น เหมือนไข่มุกกลิ้งบนจาน แรงชีพจรที่สัมผัสนิ้วนั้นกลมเกลี้ยงลื่นไหลอย่างแรง ทำให้เขาชะงักไป เพราะนี่เป็นลักษณะของชีพจรตั้งครรภ์

ตอนนั้นเยี่ยเทียนยังไม่กล้าประกาศออกไป เขาออกไปซื้อชุดตรวจตั้งครรภ์มา แล้วก็ตั้งครรภ์จริงๆ เยี่ยเทียนถึงกล้าบอกข่าวดีกับคนอื่นๆ

พวกเขาแต่งงานกันมาหลายปีแต่ไม่มีลูกสักที ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อวี๋ชิงหย่ากับป้าๆของเยี่ยเทียนกังวลใจ พอข่าวการตั้งครรภ์ของเธอถูกประกาศออกไป ทำให้บ้านตระกูลเยี่ยตื่นเต้นเป็นการใหญ่ แผนการเดินทางไปสวิสฯนั้นต้องถูกระงับ จิตใจของตระกูลเยี่ยตอนนี้อยู่ที่อวี๋ชิงหย่าคนเดียว

ซ่งเวยหลันคิดจะเชิญแพทย์แผนกสูตินารีเวชที่มีชื่อเสียงมาจากอเมริกา แต่เมื่อเยี่ยเทียนรู้ว่าหมอคนนั้นเป็นผู้ชายแล้วก็ถูกปฏิเสธทันที

สุดท้ายได้แพทย์เฉพาะทางสูตินารีเวชจากโรงพยาบาลชื่อดังแห่งปักกิ่งโดยการจัดการของซ่งเฮ่าเทียนส่งกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นศาสตราจารย์หญิงสูงวัยอายุเกือบเจ็ดสิบปี ซึ่งเคยเป็นผู้ทำคลอดให้ลูกหลานคนมีตระกูลและระดับผู้นำประเทศมาแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ เยี่ยเทียนยังใช้เครื่องบินส่วนตัวของแม่เขาไปรับโก่วซินเจียกลับมาจากเกาะฮ่องกง เพราะถ้าเทียบกับเยี่ยเทียนแล้ว โก่วซินเจียมีวิชาแพทย์สูงส่งกว่า ทั้งการฝังเข็มที่ได้ผลชะงัก ที่เยี่ยเทียนไม่มีทางเทียบติด

“ศิษย์น้องเล็ก ยินดีด้วย เป็นชีพจรตั้งครรภ์จริง”

หลังจากจับชีพจรให้อวี๋ชิงหย่าแล้วโก่วซินเจียยืนขึ้นแล้วพูดว่า

“เด็กน่าจะอายุครรภ์ประมาณห้าสิบวัน…”

ตอนนั้นเองโก่วซินเจียขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อว่า

“ตำแหน่งของครรภ์ไม่ค่อยถูกที่ถูกทาง ฉันว่าพวกเธอหละหลวมกันไปแล้ว ทำไมถึงไม่สังเกตุกันบ้าง?”

เยี่ยเทียนอึ้งไป รีบตอบว่า

“ไม่หรอกมั้ง? ศิษย์พี่ใหญ่เมื่อเช้าศาสตราจารย์หวังตรวจดูแล้วบอกว่าปกติดี!”

โก่วซินเจียเบะปาก

“จะเชื่อเขาหรือเชื่อฉัน?”

“แน่นอนว่าต้องเชื่อศิษย์พี่ใหญ่อยู่แล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ ถ้ายังงั้นทำยังไงดี?”

เยี่ยเทียนรีบหัวเราะกลบเกลื่อน ถ้าไม่กลัวว่าดวงจิตของเขาจะทำร้ายตัวเด็ก เขาเกือบจะปล่อยดวงจิตเข้าไปสัมผัสตำแหน่งของตัวเด็กที่อยู่ในท้องภรรยา

“ไม่เป็นอะไรมาก ฉันเปิดยาให้กินไม่กี่ตำรับก็หายแล้ว”

เห็นเยี่ยเทียนเครียดมากโก่วซินเจียโบกมือ

“ศิษย์น้องเล็ก พวกเธอยังหนุ่มสาว ต้องรู้จักถนอมร่างกายไว้บ้าง อนาคตยังอีกยาวไกล!”

“อะแฮ่ม …..” เยี่ยเทียนรู้สึกเก้อเขินกับโก่วซินเจียจึงแกล้งกระแอมออกมา

“เหอะๆ ศิษย์พี่ใหญ่ ผม…ผมไม่มีประสบการณ์ ไม่มีประสบการณ์น่ะสิ”

“จะบ้าตาย ถ้าพูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด!”

เยี่ยเทียนยังพูดไม่ทันขาดคำ อวี๋ชิงหย่ายื่นนิ้วเรียวยาวหยิกเข้าที่เอวเขาอย่างแรง เป็นการลงโทษตอนที่เขาไม่อยู่บ้านแล้วทำให้อวี๋ชิงหย่าถูกละเลย เยี่ยเทียนกลับมาครั้งนี้ได้ครึ่งปีกว่าแล้ว พวกเขาร่วมรักกันเกือบทุกวัน ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเทียนใช้พลังของตัวเองแอบปกป้องร่างกายของอวี๋ชิงหย่าเอาไว้ เธอคงจะทนไม่ไหวไปนานแล้ว

“ไม่พูด ไม่พูด….”

เยี่ยเทียนได้แต่ยิ้มแหย ตั้งแต่เมื่อวานที่รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มอยู่เกือบตลอดเวลา พบใครก็ยิ้มให้ เมื่อเช้าออกไปซื้ออาหารเช้าให้ภรรยายังโยนบุหรี่ให้ฉางเฮ่าซองหนึ่ง ทำเอาฉางเฮ่าตกใจจนต้องรีบไปรายงานผู้บังคับบัญชาเพราะกลัวว่าเยี่ยเทียนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว?

เรื่องที่อวี๋ชิงหย่าตั้งครรภ์แพร่สะพัดออกไปเร็วมาก เว่ยหงจวินและจู้เหวยเฟิงเพื่อนเก่าที่อยู่ในเมืองหลวงต่างพากันมาแสดงความยินดี มีของขวัญไม่น้อยทั้งแก้วแหวนหยกเครื่องประดับวางจนเต็มบ้านไปหมด

ส่วนเฟิงค่วงกับพี่อิ๋งอิ๋งที่อยู่ในยุทธภพได้ข่าวแล้วก็มาหาถึงบ้าน หวังอิ๋งรีบเร่งให้สามีกลับไป ส่วนตัวเองยังอยู่ที่เรือนสี่ประสานนี้ต่อ ไม่ถึงเดือน ของใช้เด็กที่จำเป็นเช่นผ้าอ้อม ไปจนถึงเสื้อผ้าเด็กสี่ห้าขวบก็ถูกผู้หญิงกลุ่มนี้เตรียมไว้จนพร้อมแล้ว

ส่วนพ่อของลูกกลายเป็นหมาหัวเน่าไป เขาเข้าใกล้ภรรยาไม่ได้เลย เพราะหลังจากวันที่โก่วซินเจียจับชีพจรตรวจครรภ์แล้วก็สั่งให้ทั้งสองแยกห้องนอนกัน ภรรยาถูกเหล่าป้าๆล้อมหน้าล้อมหลังทั้งวัน เยี่ยเทียนกลายเป็นคนนอกทันที

เห็นท้องของภรรยาที่โตขึ้นทุกวันๆ รู้สึกได้ว่าอวี๋ชิงหย่าต้องเผชิญกับการคลอดบุตร เป็นความรู้สึกที่หล่อเลี้ยงจิตใจของเยี่ยเทียน การสืบทอดทางสายเลือด พวกเคล็ดวิชาจินตัน การอยู่ยงคงกระพันอะไรพวกนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป

เวลาผ่านไปเจ็ดแปดเดือนอย่างรวดเร็ว ภรรยาของเขาใกล้คลอดเต็มที เยี่ยเทียนยิ่งเครียดหนักขึ้น ทั้งวันจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่าถูกมารดาของเขาแซวไปกี่ครั้งแล้ว

“แม่ ไม่เป็นไรนะ? ทำไมเข้าไปตั้งนาน?”

ตอนเช้าตื่นนอน อวี๋ชิงหย่ามีอาการเจ็บท้อง จึงถูกส่งตัวเข้าไปในห้องคลอดที่เพิ่งดัดแปลงขึ้นมาในเรือนกลาง ส่วนผู้หญิงที่มาทำคลอดได้ย้ายเข้ามาอยู่ได้สัปดาห์หนึ่งแล้ว ก็รีบลงมือทำงานทันที

ตอนแรกเยี่ยเทียนจะอยู่ด้านในด้วย แต่ถูกป้าใหญ่ไล่ออกมา เมื่อครู่เห็นมารดาของเขาเปิดม่านหน้าต่างออกมาก็รีบวิ่งเข้าไป ตอนนั้นอากาศเย็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของเดือนมีนาคม บนหน้าผากของเยี่ยเทียนมีเหงื่อเม็ดเป้งผุดออกมา แสดงว่าเขาเคร่งเครียดมากแต่ไหน

“ไม่เป็นไร แค่ครรภ์เคลื่อนไหวเฉยๆ แต่ว่าลูกชายแกไม่ยอมออกมาเสียที เหมือนแกตอนนั้นเลย!”

เห็นท่าทีเคร่งเครียดของบุตรชายแล้วซ่งเวยหลันเคาะเบาๆที่หน้าผากของเขาอย่างหงุดงหงิด ตอนกำลังจะเอ่ยปาก ในห้องคลอดมีเสียงตะโกนดังโหวกเหวกออกมาว่า

“น้ำคร่ำแตกแล้ว จะคลอดแล้ว เสี่ยวอวี๋ ไม่ต้องกลัว ออกแรง  ออกแรงอีก!”

“ไม่เป็นไร!” ซ่งเวยหลันปลอบลูกชาย หมุนตัวเดินเข้าห้องไป ทิ้งสองพ่อลูกยืนว้าเหว่อยู่หน้าห้อง สีหน้าหมองคล้ำด้วยความวิตกกังวล

หลังจากนั้นทุกวินาทีช่างยาวนาน เยี่ยเทียนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ “อุแว๊” เสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าดังออกมาจากห้องคลอด!

“คลอดแล้ว ลูกฉันคลอดแล้ว!”

เสียงร้องไห้ของทารกก้องเข้าไปถึงใจ เยี่ยเทียนไม่สนใจอย่างอื่น เขาดึงผ้าม่านพุ่งตัวเข้าไปด้านในทันที!

 ……………………………..