“ห่าวเฟิง เจ้าใช้คำสั่งลับลำดับสวรรค์เรียกพวกเราทั้งหลายมานี้ หากไม่มีเรื่องสำคัญจริง ๆ เจ้าต้องชดใช้ค่าเสียเวลาให้แก่เราด้วย!”
เทพสวรรค์เทียนจือถามเทพสวรรค์ห่าวเฟิงขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนัก
ดูท่าแล้วเขาคงไม่ได้เคารพนับถือเทพสวรรค์ห่าวเฟิงแม้แต่น้อย
เทพสวรรค์เทียนจือและสองจอมเทพสวรรค์นี้อ่อนแอกว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงเล็กน้อยหากวัดกันแค่ฝีมือ แต่หากต่อสู้กันจริง ๆ แบบสามต่อหนึ่ง พวกเทพสวรรค์เทียนจือย่อมจะไม่อ่อนแอกว่าแน่
เพราะฉะนั้นต่อให้พวกเขาจะนับเทพสวรรค์ห่าวเฟิงเป็นผู้นำ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนับเป็นเจ้านาย
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงหรี่ตาทั้งสองลงก่อนจะกล่าวขึ้น “ลูกชายข้า เฟิงเทียนหยางตายลง ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามานี้ก็เพื่อให้ช่วยกันปิดทางหนีของคนร้ายไว้ หลังเรื่องราวจบลงข้าย่อมจะตอบแทนอย่างงาม”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของทุกผู้คนก็เปลี่ยนไปทันที
เฟิงเทียนหยางนั้นคือคนอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่ไม่มีใครไม่รู้จัก หากเขาคนนั้นก้าวขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์แล้วเขาคงได้กลายเป็นจอมทัพผู้นำแดนสุดอุดรนี้แน่
แต่ตอนนี้เขากลับตายลง?
ทางพวกเทพสวรรค์เทียนจือย่อมจะตื่นเต้นยินดีกันอยู่ในใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงแล้วมีหรือที่พวกเขาจะกล้าแสดงออกมาตรง ๆ? “ห่าวเฟิง ลูกเจ้าตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราเล่า? เจ้าใช้คำสั่งลับลำดับสวรรค์ออกมาเช่นนี้มันจะไม่โง่เง่าเกินไปหน่อยหรือ?”
“ห่าวเฟิง เจ้ามันจะมากเกินไปแล้ว! คำสั่งลับลำดับสวรรค์นั้นคือข้อตกลงที่เราตกลงกันไว้ว่าจะใช้แค่ยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น แต่เจ้ากลับเรียกเรามาเพราะเรื่องแค่นี้ เจ้าวางแผนร้ายใดไว้กันแน่?” เทพสวรรค์เมี่ยหยูเสริมขึ้น
“หึ! ห่าวเฟิง หากวันนี้เจ้าไม่มีข้ออ้างที่ดีพอ เรื่องมันจะไม่จบลงเท่านี้แน่!” เทพสวรรค์เจิ้งหวงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ
เมื่อเหล่าสามยอดเทพสวรรค์แสดงความไม่พอใจออกมาต่อเทพสวรรค์ห่าวเฟิงเช่นนี้ เหล่าเทพสวรรค์ชั้นรองทั้งหลายต่างได้แต่ยืนเงียบ
เพราะเรื่องราวตรงหน้านี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว
เทพสวรรค์ในที่นี้หลายคนคิดอยากสมน้ำหน้าผู้คนจึงได้รอดูท่าเทพสววรรค์ห่าวเฟิงจะจัดการเรื่องราวอย่างไร
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียแม้เทพสวรรค์ห่าวเฟิงจะเหนือล้ำ แต่มันก็ย่อมจะไม่สามารถรวบรวมทุ่งราบสุดอุดรนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้
ถึงขั้นเรียกเทพสวรรค์จากทั่วแดนมาเพื่อลูกชายของตนเช่นนี้ คนทั้งหลายก็ย่อมจะไม่พอใจอยู่มาก
ความตายของเฟิงเทียนหยางนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ของทุ่งราบสุดอุดร
ในเรื่องนี้ทุกผู้คนต่างมีมุมมองที่แตกต่างกันไป
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงกล่าวออกมา “เจ้าอยากได้คำอธิบาย? เช่นนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้จะอธิบายให้เจ้าเดี๋ยวนี้”
พูดจบเทพสวรรค์ห่าวเฟิงก็ได้ผลักฝ่ามือออกมาจนทำให้ฟ้าดินปั่นป่วน
เทพสวรรค์เจิ้งหวงที่ได้เห็นต้องตกตะลึงรีบยกมือขึ้นมารับฝ่ามือนั้นไว้ทันที
แต่ทว่าพลังของมันนี้กลับหนักแน่นราวขุนเขาทั้งลูกพุ่งทะยานเข้าใส่
ฝ่ามือนี้ตัวเขาไม่อาจต้านทานมันไว้ได้เลย!
เทพสวรรค์เมี่ยหยูที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงหรี่ตามองและรีบชี้ดัชนีออกมาช่วยรับ
กึก กึก กึก…
ฟ้าลมเปลี่ยนทิศทาง แสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วชุม
การปะทะกันของเทพสวรรค์ขั้นกลางนี้มันทำให้ฟ้าดินสั่นสะท้าน
แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น ด้วยฝ่ามือนี้ของเทพสวรรค์ห่าวเฟิง สองเทพสวรรค์หกดาวนั้นกลับไม่อาจจะต้านทานรับมันไว้ได้
เทพสวรรค์เทียนจือจึงได้ยื่นมือของตนออกมาช่วยอีกแรง
เมื่อสามเทพสวรรค์นี้ส่งมือพร้อม ๆ กันมันย่อมจะทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน
แต่ทว่าพลังของทางด้านเทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นมันกลับยังหนักหน่วงกว่า!
ฝ่ามือของเขานี้มันหนักหนาราวกับว่าถูกตบลงมาจากฟ้าสวรรค์ กดดันโลกทั้งใบไว้ภายใต้ฝ่ามือนี้
“อ่อก!”
“อ่อก!”
“อ่อก!”
ไม่นานจากนั้นเทพสวรรค์ทั้งสามก็ไม่อาจต้านทานได้อีกจนต้องกระอักเลือดออกมาคำโตร่วงลงไปด้านล่างทันที
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงใช้ฝ่ามือเดียวนี้จัดการเทพสวรรค์ทั้งสามลงได้!
“เจ้า! เจ้า…บรรลุขั้นปลายแล้ว?” เทพสวรรค์เทียนจือที่ยังมีเลือดกบปากร้องถามขึ้นอย่างตื่นตะลึง
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงถามขึ้น “เจ้ายังไม่พอใจกับคำอธิบายของข้าหรือ?”
เทพสวรรค์เทียนจือนั้นได้แต่หุบปากลงทันทีที่ได้ยิน เพราะเวลานี้เขาไม่อาจจะเถียงใด ๆ ได้แล้ว
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่เห็นเช่นนั้นจึงได้หันไปมองหน้าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่เหลือ “ดูท่าคงไม่มีใครคัดค้านแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ไปกันได้แล้ว”
พูดจบเทพสวรรค์ห่าวเฟิงก็ก้าวเท้าเข้าช่องว่างมิติไป
เหล่าเทพสวรรค์ที่เหลือเองก็ได้ตามติดเขาไปในที่สุด
…
ห่างไกลจากชุมเก้าสายมานับแสน ๆ กิโลเมตร เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้ปรากฏร่างออกมาจากห้วงมิติอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มเย้ยเยาะเต็มใบหน้า
“จะมีสายฟ้าสะเทือนสวรรค์แล้วทำไมเล่า? เมื่อตามไม่ทันมันก็ไร้ค่าใด ๆ!”
เว้นเสียแต่ว่าเสียของนางยังไม่ทันจางหายมันก็เกิดรอยแตกขึ้นกลางอากาศเผยให้เห็นเงาร่างของเย่หยวนเดินออกมา
เทพสวรรค์ปิงหยุนแทบจะต้องสำลักคำพูดของตน
นางนั้นได้แต่หันไปมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง “เจ้า…เจ้าเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”
เย่หยวนยกสายฟ้าสะเทือนสวรรค์มาถือเล่นในมือก่อนจะตอบกลับไป “เจ้าลืมไปแล้วใช่ไหมว่าข้ารู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ”
เทพสวรรค์ปิงหยุนย่อมไม่ได้ลืมเลือนใด ๆ!
เพียงแค่ว่านางนั้นไม่ได้คิดว่าเย่หยวนจะใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติได้เหนือล้ำจนถึงขั้นนี้
นางนั้นเดินทางผ่านมิติมาด้วยพลังของเทพสวรรค์ห้าดาว มันจะรวดเร็วปานใด?
เดิมทีนางนั้นย่อมจะคิดว่าหนีพ้นเย่หยวนแน่แล้ว แต่ใครจะไปคาดคิดว่านางนั้นถูกตามทันอย่างรวดเร็วปานนี้?
เทพถ่องแท้นั้นสามารถใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติจนตามเทพสวรรค์ห้าดาวทัน มันเป็นเรื่องที่ย่อมจะไม่มีใครเชื่อ
“เจ้า…ข้าต้องทำอย่างไรเจ้าจึงจะปล่อยข้าไปเล่า!”
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นหน้าซีดเผือดมองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
“ปล่อยเจ้าไป? หึ ๆ เจ้าคิดมากไปแล้ว วันนี้มันจะเป็นวันตายของเจ้า!” เย่หยวนกล่าว
“เจ้า…เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ของเจ้านั้นมันอาจใช้ฆ่าสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ด้วยซ้ำ เจ้ากลับจะเอามาใช้สังหารข้านี้? นี่มันคือสมบัติที่เปลี่ยนชะตาของโลกหล้าได้เลยนะ! เจ้าใช้มันเช่นนี้จะเสียเปล่าเกินไปแล้ว!” เทพสวรรค์ปิงหยุนพยายามกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่น ๆ
“แล้ว? ในสายตาของข้ามันมีแค่จะใช้หรือไม่เท่านั้น ไม่สนใจหรอกว่ามันควรค่าหรือไม่” เย่หยวนยังคงยืนยันคำเดิม
“เจ้า! เจ้ามันบ้าไปแล้ว! เจ้าไม่รู้หรือว่าหากเจ้าสายฟ้าสะเทือนสวรรค์สังหารข้าไปแล้วพวกเทพสวรรค์หลัวเฟิงทั้งหลายย่อมจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! แล้วยังมีเทพสวรรค์ห่าวเฟิงอีก เขานั้นให้ความสำคัญกับลูกชายอย่างมาก ตอนนี้เขาคงกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เสียแล้วด้วยซ้ำ หากเจ้ามีสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ พวกเขาทั้งหลายก็คงไม่กล้าทำอะไรบ้าบิ่น แต่หากเจ้าใช้มันฆ่าข้าแล้วเจ้าจะเอาอะไรมาจัดการคนทั้งหลายนั้นเล่า!” เทพสวรรค์ปิงหยุนพยายามโน้มน้าวเย่หยวน
แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่แสดงท่าทางลังเลใด ๆ ออกมา “เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงไป แล้วก็อย่าได้คิดว่าจะโชคดีอีกเลย เวลานี้ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าก็ไม่อาจหนีความตายได้แล้ว!”
เมื่อเห็นว่าเย่หยวนนั้นไม่คิดจะรับฟังเหตุผลใด ๆ เทพสวรรค์ปิงหยุนจึงแทบสิ้นสติลง
นางนั้นไม่อาจจะคิดใด ๆ ได้อีก ตอนนี้จึงได้แต่พุ่งตัวคิดหนีหายเข้าไปในห้วงมิติอีกครั้ง
แต่เย่หยวนแค่ยิ้มตอบกลับไปเมื่อเห็น ก่อนจะบีบมือขวาเบา ๆ ส่งสายฟ้าสะเทือนสวรรค์พุ่งทะยานเข้าไปในห้วงมิติบ้าง
การใช้มิติต่อหน้าเย่หยวนเช่นนี้มันเหมือนเด็กน้อยที่มาอวดรู้ต่อหน้าปรมาจารย์!
จากนั้นภายในห้วงมิติรอบ ๆ นี้จึงได้เกิดพลังงานมหาศาลปะทุขึ้น
แสงเจิดจ้าสว่างขึ้นจนเห็นได้จากระยะนับแสน ๆ กิโลเมตร
ในเวลานี้ราวกับว่าโลกทั้งใบนั้นมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสีเหลืองทอง
ตู้ม!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ยังอยู่ในชุมเก้าสายนั้นต้องหันไปมองต้นเสียงอย่างตกตะลึง
มันช่างเป็นคลื่นพลังงานที่เหนือล้ำ เสียงของมันนี้ดังสนั่นราวกับว่าการระเบิดนั้นเกิดขึ้นข้าง ๆ ใบหูของพวกเขา
แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าคลื่นพลังนี้มันถูกปลดปล่อยออกไปไกลนับแสนกิโลเมตร
หากมันถูกปล่อยลงกลางชุมเก้าสายนี้ ทั้งชุมเก้าสายมันคงได้กลายเป็นแค่พื้นดินว่างเปล่าอย่างแน่นอน!
เทพสวรรค์ที่ได้เห็นพลังโจมตีนี้ต้องร้องขึ้นมา “นี่… นี่หรือคือพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ ช-ช่างน่าหวาดกลัวนัก! จะบอกว่ามันเป็นพลังที่ทำลายโลกหล้าได้ก็คงไม่ผิด!”
ในเวลานี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่ต้องหันไปมองหน้ากันด้วยท่าทางโล่งใจไม่น้อย
เพราะหากเทพสวรรค์ปิงหยุนไม่หนีออกไปแล้วเย่หยวนคงได้ทำลายชุมเก้าสายลงพร้อม ๆ กับพวกเขาทั้งหลายแน่!
……………….