ในชุมเก้าสายนี้มันยังคงสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันหนักหน่วง
ต่อให้จะอยู่ห่างไกลกันมหาศาลแต่ชุมเก้าสายก็ยังต้องรับถึงผลพลังของมัน
การโจมตีเหนือฟ้านี้มันทำให้ทุกผู้คนได้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างแท้จริง!
เดิมทีแล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่มีใครเข้าใจถึงพลังที่แท้ของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ เพราะนั่นมันคือตัวตนในตำนานสำหรับทุ่งราบสุดอุดรนี้
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจมันอย่างสุดซึ้ง!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่ต้องหรี่ตามองไปไกลด้วยความหวาดกลัวเต็มหัวใจ
“นี่มัน…นี่มันคือการโจมตีด้วยพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างนั้นหรือ? ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาถึงกล่าวกันว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นคือสิ่งมีชีวิตคนละชนชั้นกับเรา พลังเช่นนี้ต่อให้เป็นในฝันข้าก็คงไม่อาจคิดถึงมันได้!” เทพสวรรค์ฉือหยูร้องขึ้นด้วยสีหน้าขาวซีด
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายนั้นคิดไปว่าตัวเองเป็นยอดคนผู้ปกครองโลกหล้า คิดว่าตนเองนั้นเก่งกาจเหนือล้ำใคร ๆ
แต่ตอนนี้พวกเขาได้เข้าใจแล้วว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นตนก็ไม่ได้ต่างไปจากมดปลวก
พลังการทำลายล้างเหนือล้ำปานนี้มันเหนือล้ำเกินกว่าที่จะใช้คำว่าตื่นตะลึงอธิบาย
“มันเป็นพวกเราที่อ่อนแอจนเกินไป ไม่อาจจินตนาการถึงมันได้!” เทพสวรรค์เซียวหยูกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนแรง
จนถึงเวลานี้แสงที่เส้นขอบฟ้านั้นมันก็ยังไม่จางหายไป
ราวกับว่ามันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ไป
ตอนนี้มันย่อมจะไม่มีใครคิดสนใจว่าเทพสวรรค์ปิงหยุนจะอยู่หรือตาย พลังขนาดนั้นต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์เก้าดาวหรือแม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ครึ่งก้าวก็คงไม่อาจจะทนทานรับมันไว้ได้!
มันมีแค่ความตายเท่านั้นที่รอคอยอยู่!
แต่จู่ ๆ มิติในที่นั้นมันก็ได้สั่นสะเทือนเผยให้เห็นเงาร่างหลายผู้คนเดินออกมาจากช่องว่างมิติ เดินมาถึงชุมเก้าสายด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
ตอนนี้เทพสวรรค์หลายต่อหลายคนได้มาถึง มันช่างเป็นกลุ่มกองกำลังที่แข็งแกร่งเหนือล้ำและพวกเขาทั้งหลายก็มาถึงชุมเก้าสายพร้อม ๆ กัน
นั่นมันย่อมจะทำให้คนสุดอุดรตื่นตะลึง!
ตอนนี้ต่อให้จะใช้หัวแม่เท้าคนทั้งหลายก็เข้าใจว่าจุดประสงค์ของคนทั้งหลายนี้คืออะไร
เพียงแค่ว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่เดินนำออกมานั้นไม่ได้มีท่าทีดุดันใด ๆ เขาได้แต่หันไปมองที่เส้นขอบฟ้าด้วยสีหน้าท่าทางกังวลไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ระหว่างที่กำลังเดินทางผ่านห้วงมิติเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันสั่นสะเทือนทั้งโลกา
มันเกือบจะทำให้พวกเขาเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องตกลงสู่คลื่นห้วงมิติ
พลังรุนแรงปานนี้มันทำให้จิตใจของคนทั้งหลายแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ
เพราะนี่มันคือพลังที่ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย!
พลังงานที่มากมายมหาศาลเช่นนี้มันมีอยู่ในทุ่งราบสุดอุดรด้วยอย่างนั้นหรือ?
เทพสวรรค์ที่เดินตามออกมากล่าวขึ้นด้วยสีหน้าซีดเผือด “นี่มัน…มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์เก้าดาวมันก็คงไม่อาจปล่อยพลังหนักหน่วงปานนี้ออกมาได้มิใช่หรือ?”
“พลังนี้ หรือว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์? หรือว่าแท้จริงแล้ว…เฟิงเทียนหยางจะไปลบหลู่จักรพรรดิเทพสวรรค์เข้าจึงถูกฆ่าสังหาร?” เทพสวรรค์เมี่ยหยูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนี้ปกติเวลาแล้วมักจะวางตนอยู่เหนือท่านเสมอ
แต่เมื่อได้เห็นพลังที่เหนือล้ำอยู่ตรงหน้า ความมั่นใจใด ๆ ที่เคยมีย่อมจะจางหายไปสิ้น
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นหรี่ตามองหันไปมองเทพสวรรค์หลัวเฟิงน้องชาย
“หลัวเฟิง มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ใครฆ่าเทียนหยาง?” เทพสวรรค์ห่าวเฟิงถามขึ้นอย่างหนักแน่น
เพียงแค่ว่าคำถามของเขานี้มันแฝงน้ำเสียงอันอ่อนแอออกมาชัดเจน ดูท่าตัวเขาเองก็คงไม่มั่นใจแล้วว่าจะจัดการเรื่องนี้ลงได้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพลังที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขานี้มันก็เหนือล้ำจนเกินกว่าที่เขาจะกล้าวางตัวไปควบคุมมัน
แล้วมีหรือที่เทพสวรรค์หลัวเฟิงจะไม่เข้าใจความคิดของเทพสวรรค์ห่าวเฟิง?
ตอนนี้แท้จริงแล้วคนที่ตื่นตะลึงกับพลังตรงหน้าที่สุดมันก็ย่อมจะเป็นเทพสวรรค์หลัวเฟิงที่รอดพ้นจากความตายมาอย่างหวุดหวิด
แต่เทพสวรรค์ห่าวเฟิงถาม เทพสวรรค์หลัวเฟิงก็ต้องพยายามตั้งสติตอบกลับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแก่พี่ชายไป
เมื่อเขาพูดถึงสายฟ้าสะเทือนสวรรค์เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายรวมไปถึงเทพสวรรค์ห่าวเฟิงก็ถอนหายใจยาวออกมา
เพราะหากเจ้าสิ่งนี้มันถูกปลดปล่อยใส่พวกเขาแล้ว เทพสวรรค์ใด ๆ ในที่นี้มันก็คงไม่มีโอกาสหลบรอดไป
มันจะล้างสังหารเทพสวรรค์ทั้งหลายสิ้น!
เทพสวรรค์กว่าครึ่งของทุ่งราบสุดอุดรนี้ไม่อาจจะต้านทานพลังที่อยู่ตรงหน้าคนทั้งหลายนี้ได้เลย
แต่นอกจากจะตื่นตกใจแล้ว เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ได้แต่รู้สึกโล่งใจกับว่าโง่เง่าของเย่หยวน
สมบัติล้ำค่าเช่นนั้นเขากลับเอามันไปยิงมดปลวก สังหารตัวตนน้อย ๆ อย่างเทพสวรรค์ปิงหยุนแค่คนเดียว มันช่างเป็นการเสียของอย่างแท้จริง!
ตราบเท่าที่เย่หยวนไม่ใช้มัน เขาก็จะสามารถปกครองทุ่งราบสุดอุดรนี้ได้อย่างง่ายดาย!
ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่ออกมาจัดการเรื่องราว แต่เมื่อต้องเผชิญกับสายฟ้าสะเทือนสวรรค์เขาก็คงไม่กล้าทำอะไร
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับใช้มันออกไปเสียแล้ว นี่มันจะไม่เท่ากับขอให้เทพสวรรค์ห่าวเฟิงฆ่าสังหารเขาลงหรือ?
แน่นอนว่าเมื่อเทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้ยินเขาก็ต้องหัวเราะขึ้น “เป็นเจ้าเย่หยวนอย่างนั้นหรือ! กล้ามาฆ่าสังหารลูกข้า เทพสวรรค์ผู้นี้จะทำให้เจ้าตายห่าอย่างไรที่กลบฝัง!”
แม้ว่าคำพูดของเขานี้มันจะฟังดูรุนแรงดุร้าย แต่น้ำเสียงของเขามันก็เปี่ยมไปด้วยความโล่งอก
เพราะหากเย่หยวนยังไม่ได้ใช้สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ออกมาแล้ว แม้เขาจะมาด้วยท่าทางดุดันปานใด สุดท้ายก็คงถูกตบหน้าหันกลับบ้านแน่ ๆ
“แต่ว่าก่อนจะถึงเรื่องนั้น ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าทั้งสองเสียก่อน!”
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงหันไปมองยังหยางเฟยเอ๋อและเทพสวรรค์กู้หงสองคน
เพราะหลังจากเย่หยวนไล่ตามเทพสวรรค์ปิงหยุนไป เทพสวรรค์หลัวเฟิงก็ได้จ้องจับตามองคนทั้งสองนี้ไว้อย่างไม่ละสายตา หากคิดทำอะไรแปลก ๆ เขาก็จะจัดการสังหารลงทันที
แต่คนทั้งสองนี้กลับยืนนิ่งไม่คิดหนีใด ๆ
ทุกผู้คนได้แต่หันไปมองคนทั้งสองด้วยความสมเพช คิดว่าคนทั้งสองนี้ติดตามคนผิดเสียแล้ว
“หึ เฒ่ากู้หง เจ้าเองก็อยู่มาจนแก่ปานนี้แล้วกลับไปติดตามคนโง่เง่าเช่นนั้น เจ้าเด็กคนนั้นมันมีสมบัติล้ำค่าในมือแต่กลับใช้มันฆ่าสังหารมดปลวกตัวหนึ่งอย่างปิงหยุน ตอนนี้เจ้าคงเสียใจตายแล้วใช่ไหมเล่า?” เทพสวรรค์เทียนจือร้องถามขึ้น
เทพสวรรค์กู้หงนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางเศร้าโศกใด ๆ ออกมาแม้แต่น้อย เจาตอบกลับเทพสวรรค์เทียนจือไปด้วยสีหน้าตื่นเต้นแทน “เทียนจือ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! ตอนนี้มิใช่แค่ข้าไม่เสียใจใด ๆ แต่ข้ากลับตื่นเต้นดีใจขึ้นแทนต่างหาก!”
เทพสวรรค์เทียนจือหัวเราะลั่นเมื่อได้ยิน “ตื่นเต้นดีใจ? เจ้าติดตามคนโง่ ๆ เช่นนี้แล้วยังจะดีใจ? ตอนนี้มันได้แต่นั่งรอความตายแล้วแท้ ๆ แต่เจ้ากลับยังดีใจ? เฒ่ากู้หง เจ้าแก่จนสมองเลาะเลือนไปหมดแล้ว!”
แต่ทางเทพสวรรค์กู้หงกลับยิ้มขึ้นมา “การโจมตีเมื่อครู่นี้พวกเจ้าเองก็เห็นใช่หรือไม่? เจ้าคิดว่ามันยิ่งใหญ่เหนือล้ำหรือไม่? เจ้าคิดว่าตนเองอ่อนแอเหลือเกินหรือไม่? พวกเจ้าทั้งหลายคงไม่อาจจะนึกฝันถึงมันได้ไปตลอดชีวิต แต่ข้านั้นจะได้เห็นการกำเนิดขึ้นของยอดคนมากมาย! หรือบางทีในวันหน้า อาจจะเป็นตัวข้าเองก็ได้ที่มีพลังเช่นนั้นในมือ!”
“ฮ่า ๆ ๆ ยอดคน? เจ้าพูดถึงมันหรือ? ไอ้เด็กคนนั้นมันจะตายในไม่ช้านี้แล้ว ไม่ว่ามันจะมากพรสวรรค์เท่าใด แต่หากไม่มีชีวิตแล้วจะมีค่าใดเล่า?” เทพสวรรค์เทียนจือหัวเราะลั่น
เหล่าเทพสวรรค์คนอื่น ๆ เองก็มีสีหน้าเย้ยหยันไม่ต่างกัน รู้สึกว่าเทพสวรรค์กู้หงนั้นบ้าเสียสติไปแล้วจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้หัวเราะขึ้น “เจ้าคิดจะมองดูการเกิดขึ้นของยอดคน? เช่นนั้นก็ไปรอที่โลกหน้าเถอะ ไม่นานมันก็จะได้ตามเจ้าไป ไม่สิ ข้าจะไม่ให้โอกาสมันไปโลกหน้าด้วยซ้ำ ข้าจะถอดจิตศักดิ์สิทธิ์เอาวิญญาณมันมาทรมานไปตลอดกาล ไม่ให้มันได้ไปผุดไปเกิดอีก!”
คลื่นพลังของเทพสวรรค์ห่าวเฟิงพุ่งทะยานจนทำให้แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ที่มาด้วยกันยังรู้สึกหวาดกลัว
ทุกผู้คนต่างเข้าใจดีว่าเวลานี้เทพสวรรค์ห่าวเฟิงกำลังเดือดดาลอย่างแท้จริง
จากนั้นเขาก็ผลักฝ่ามือออกไปด้านหลังพุ่งทะยานตัวใส่กู้หงและหยางเฟยเอ๋อ
แต่คนทั้งสองนั้นไม่ได้สั่นสะท้านใด ๆ พวกเขาทั้งสองแค่หยิบแผ่นหยกขึ้นออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ
“หึ ๆ ห่าวเฟิง ลูกเจ้าตายนั้นมันก็เพราะตัวมันเอง! เจ้าสังหารอาจารย์ข้าไม่ได้! และพวกเราทั้งสองนี้ เจ้าก็ไม่อาจจะสังหารได้เช่นกัน!”
กู้หงหักแผ่นหยกนั้นลงส่งร่างของคนทั้งสองหายไปจากตรงนั้นในพริบตา
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้แต่หัวเราะขึ้น “คิดจะหนีหรือ? มันคงจะไม่ง่ายปานนั้น!”
เขาจึงได้ยื่นมือเข้าไปห้วงมิติหวังจับคว้าคนทั้งสองที่หายไปไว้
เพียงแค่ว่าเมื่อเขามุดเข้ามาในห้วงมิติแล้ว มันจะยังมีคนทั้งสองใด ๆ อยู่?
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้แต่เบิกตากว้างมองความว่างเปล่าตรงหน้า “ให้ตายสิ! วิชาห้วงมิติเปล่าอย่างนั้นหรือ!”
……………….