อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1152 สังหารราชินี

เวินเส้าหยีเอ่ย “เย่จิ่งหานกับเซียวหยู่เซวียนล่ะ”

“ถูกราชินีจับตัวอยู่ในวัง เย่จิ่งหานถูกขังอยู่ในหอกระบี่ ส่วนเซียวหยู่เซวียนไม่รู้ว่าถูกขังอยู่ที่ไหน

กู้ชูหน่วนพูดไปเรื่อย

หนึ่งคือถ่วงเวลา

สองคือหลอกล่อให้เวินเส้าหยีไปต่อกรกับไป๋หลี่ป้าและราชินี

องครักษ์ลับในชุดทะมัดทะแมงคนหนึ่งเข้ามาอย่างเงียบเชียบ คุกเข่าข้างหนึ่ง หลังจากคารวะเวินเส้าหยีแล้ว ก็พูดสองสามประโยคที่ข้างหูของเวินเส้าหยี

กู้ชูหน่วนฟังไม่ชัดว่าพวกเขากำลังพูดอะไรอยู่กันแน่ เห็นเวินเส้าหยีมองนางอยู่ตลอด ราวกับต้องการมองนางให้ทะลุปรุโปร่ง

ครู่หนึ่งแล้วเวินเส้าหยีจึงเอ่ย “จะเชื่อเจ้าสักครั้ง ถ้าเจ้ากล้าโกหกข้า รับรองว่าข้าต้องให้เจ้าเสียใจภายหลังแน่”

กู้ชูหน่วนยิ้มเจื่อน “ชีวิตอยู่ในกำมือเจ้า ข้าจะกล้าโกหกหรือ”

นางไม่ลืมหรอก คราวก่อนเพื่อชิงแหวนมิติจากมือนาง เวินเส้าหยีลงมือเหี้ยมโหดกับนางอย่างไรบ้าง

“หัวหน้าเผ่า แล้วเขาล่ะขอรับ”

สามารถหาวิญญาณไปพร้อมกับขึ้นระดับเจ็ดได้

จอมมารขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของกู้ชูหน่วนด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรกับเขาขึ้นมาอีก

เวินเส้าหยีมองจอมมารที่ตื่นตระหนกขวัญผวาราวกับมีความคิดแวบหนึ่ง

นึกถึงความสูงส่งบ้าอำนาจกู้ก้องฟ้า เพียงข้าเอกระในสมัยก่อนแล้ว แววตาก็บังเกิดความซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย

“ช่างเถอะ เก็บเขาไว้ก่อน ถึงอย่างไรก็หนีไม่รอด”

“หัวหน้าเผ่า…”

ผู้อาวุโสใหญ่ทั้งแปดต่างร้อนรน

กว่าจะหาวิธีที่ขึ้นระดับเจ็ดได้

ทำไมไม่ขึ้นระดับเจ็ดก่อนเล่า

ต่อให้นังคนนี้ข่มขู่แล้วจะอย่างไร พวกเขามีวิธีมากมายที่จะทำให้นางยอมเชื่อฟังแต่โดยดี

ทว่าเวินเส้าหยียืนกราน พวกเขาก็กระดากจะพูดอะไรล่วงเกินเขา ได้แต่เฝ้ากู้ชูหน่วนและจอมมารอย่างแน่นหนา

ทุกคนออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงกู้ชูหน่วนกับจอมมาร

กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเขา ยิ้มเอ่ย “ไม่ต้องกลัว พวกเขาไปกันหมดแล้ว”

“พี่สาว…”

“ยังเจ็บหรือไม่”

“อื่ม”

“ข้าจะเป่าให้เจ้า”

“ดี”

“ยังเจ็บหรือไม่”

“ดีขึ้นบ้างแล้ว พี่สาว พวกเขาจะฆ่าพวกเราหรือไม่”

“ไม่หรอก ข้าจะไม่ให้พวกเขาฆ่าเจ้า”

“ห้องลับนี้สร้างด้วยศิลาพันชั่ง ประตูใหญ่ของห้องลับก็ติดตั้งพันชั่งเหมือนกัน ทั้งยังถูกคนที่มีอาคมสูงส่งร่ายยันต์ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ นอกจากจะเคลื่อนกลไกและกำจัดยันต์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นใครก็เปิดห้องลับไม่ได้ พี่สาว พวกเราไม่มีทางออกไปได้”

“ไม่ต้องหนี พวกเขาจะปล่อยพวกเราไปเอง”

จอมมารฟังด้วยสติพร่าเบลอ กลับไม่ถามมากอีก แอบอิงอยู่ในอ้อมอกนางเท่านั้น

ราวกับมีเพียงอย่างนี้ เขาถึงรู้สึกปลอดภัย

“เจ้าลุกขึ้นมาก่อน อาศัยช่วงเวลานี้ ข้าจะทำพลังให้มั่นคงก่อน”

“ข้าจะสอนท่าน”

กู้ชูหน่วนอยากบอกว่าไม่ต้องด้วยปฏิกิริยาแบบมีเงื่อนไข

แต่พอนึกถึงเมื่อครู่ พวกเขาบอกว่าซือโม่เฟยเคยเป็นยอดฝีมือระดับหกขั้นสูง นางจึงพยักหน้า

มีเขาชี้แนะ ไม่แน่ว่านางอาจบรรลุได้เร็วกว่าเดิม

เวลาผ่านไปทีละนิด

พริบตาก็ผ่านไปสามวันแล้ว

ด้วยความช่วยเหลือจากซือโม่เฟย กู้ชูหน่วนไม่เพียงแต่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ พลังมั่นคงแล้ว ยังรู้สึกจะเพิ่มพูนขึ้นอีกนิดๆ ด้วย

“ครืน” ประตูใหญ่เปิดออก

เวินเส้าหยีในชุดขาวปลอด ดุจเทพเซียนมายังแดนมนุษย์

จอมมารขดตัวไปข้างหลังด้วยปฏิกิริยาแบบมีเงื่อนไข

กู้ชูหน่วนเปิดเผยไม่หวั่นเกรง สบสายตากับเขา

เวินเส้าหยีไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากพูดพล่ามกับนางมากเกินไปหรือไม่

เอ่ยโดยตรง “หาวิญญาณดวงนั้นในมือของราชินีมาให้ข้า แล้วฆ่าราชินีเสีย”

“เจ้าคือระดับหกขั้นสูงไม่ใช่หรือ ยังจะฆ่าราชินีไม่ได้อีก?”

“เจ้าตอบมาก็พอ ตกลงหรือไม่ตกลง”