“ระลอกคลื่นธาตุไฟแข็งแกร่งมาก นี่มันร่างจิตวิญญาณอัคคี” ในที่สุดหานลี่ที่อยู่ในร่างเทพมารก็พูดขึ้น

“จิตวิญญาณอัคคี? เจ้าจะคิดว่านี่เป็นของสิ่งนั้นก็ไม่ผิดหรอก หึๆ คาดไม่ถึงว่าโลกมนุษย์จะมีคนที่บีบคั้นหม่าเหลียงได้ถึงขนาดนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากจริงๆ แต่เมื่อครู่ข้าได้ทำสัญญากับคนคนนั้น เจ้าก็คงได้ยินแล้ว” หั่วซวีจือตอบพร้อมส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อย

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว งั้นก็แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาได้เลย” เทพมารพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเสียงดัง อาวุธทั้งห้ากวัดแกว่งไปมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฟ้าร้องและลมกรรโชกแรง

เด็กตัวเล็กแค่นหัวเราะเสียงเย็น เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาร่ายคาถา เมฆอัคคีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็ปรากฏออกมา จากนั้นเขาก็กลายร่างเป็นมังกรที่มีความยาวมากมายร้อยจั้งอีกครั้ง

เมื่อเห็นมังกรตัวนี้ปรากฏขึ้น เขาก็แบมือไปด้านหน้าเหมือนคว้าอากาศที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นกลางอากาศ หมอกสีแดงรูปกรงเล็บมังกรขนาดหนึ่งหมู่ก็ปรากฏออกมา แสงสีทองทั้งห้าสายก็พุ่งไปด้านหน้าอย่างไม่หลบไม่หลีก

“ตู้ม” เสียงหนึ่งดังขึ้น

อาวุธทั้งห้ากลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมของตัวเอง จากนั้นก็ถูกหมอกสีแดงเหล่านั้นยกขึ้นไปที่กลางอากาศ

ใบหน้าทั้งสามของเทพมารพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจ ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ และเขารู้ดีที่สุดว่าเมื่อครู่เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุด

เมื่อหม่าเหลียงเห็นดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา หลังจากสะบัดแขนเสื้อออกไป ยันต์สีน้ำเงินเข้มจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็ปรากฏออกมา จากนั้นมันก็กลายเป็นหมอกสีฟ้าลอยเข้ามา ทันใดนั้นเองสภาพร่างกายของเขาก็ฟื้นคืนมาไม่น้อยเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่หานลี่ด้วยสายตาดุร้าย พร้อมกระตุ้นคาถาบางอย่างขึ้นมาอีกด้วย

ในตอนนั้นเอง มังกรแปลกประหลาดก็ได้ส่งเสียงร้องดังลั่น หลังจากนั้นหนวดของเขาก็ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมส่งเสียง “ฟิ้ว” ออกมา และกลายเป็นลำแสงที่มีความร้อนสูงพุ่งเข้าใส่หานลี่อย่างรวดเร็ว

แขนสองข้างของเทพมารก็ขยับไปมา อาวุธที่อยู่กลางฝ่ามือของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่สองมือนั้นกลับยกขึ้นมาร่ายคาถา ด้านหน้าของเขาก็มีเสียงดัง “ปัง” แมลงปีกแข็งตัวใหญ่สีทองก็ปรากฏขึ้น

ร่างกายของแมลงปีกแข็งตัวนี้ค่อยๆ เลือนรางไป จากนั้นก็กลายเป็นโล่ทองคำขนาดใหญ่ ขวางไว้ด้านหน้าของหานลี่

เมื่อลำแสงเหล่านั้นมากระทบกับโล่ ก็มีเสียงเปาะแปะเหมือนฝนกระทบกับหลังคาดังขึ้น แต่นอกจากมีรูตื้นๆ นิดหน่อยแล้ว จากนั้นก็นับว่าไม่มีความเสียหายอื่นๆ อีก

อีกทั้งหานลี่ก็ใช้เวลานี้ในการดึงดูดความสนใจของคู่ต่อสู้ ระลอกคลื่นที่อยู่เหนือศีรษะของเขาก็ปรากฏขึ้น เงาร่างของบางสิ่งก็บินออกมา หลังจากผ่านมาชั่วครู่ เขาก็ไม่สนใจลำแสงวิญญาณที่ปกป้องร่างกายและโจมตีไปที่ศีรษะของเทพมารทันที

“ตู้มๆ” เสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้ง

ศีรษะของเทพมารก็หันเข้ามาด้านใน ระหว่างคิ้วของเขาก็มีปราณมารควบแน่นขึ้น เนตรมารดวงที่สามก็ปรากฏขึ้น พร้อมมีลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากมันด้วย ในขณะเดียวกันมันก็โจมตีไปยังหมอกนั้นอย่างแม่นยำ

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น

ในตอนที่ลำแสงสีดำสองสายตรงเข้าโจมตีนั้น ด้านหลังของเขาก็มีหลุมดำขนาดเท่ากับบ้านหลังหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้นร่างของมันก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และหายไปในที่สุด

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง ทางด้านของหม่าเหลียงก็คำรามเสียงดังพร้อมเอามือกุมศีรษะของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าของเขาดูเจ็บปวดอย่างมาก

หานลี่กวาดสายตามองหม่าเหลียงอย่างเย็นชา หากฝ่ายตรงข้ามกล้าใช้วิชาแยกวิญญาณในการโจมตีโดยตรง ก็ถือเป็นการหาที่ตายเองแล้ว

แม้ว่าการแยกวิญญาณนั้นจะไม่แตกสลายและฉีกขาดด้วยพลังแห่งมิติ แต่ก็ทำให้ถูกโยนลงไปในรอยร้าวของมิติโดยตรง แม้ว่าจะไม่มีการพึ่งพาอาศัยกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน มันจะระเบิดและเป็นการทำลายของจริง

หานลี่กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ในใจ หัวตรงกลางของเทพมารก็อ้าปากขึ้น และพ่นลูกไฟสีเงินออกมา

ทันทีที่ลูกไฟลูกนี้ถูกส่งออกไป มันก็กลายเป็นนกเพลิงสีเงินตัวหนึ่ง ขนาดประมาณหนึ่งชุน ปีกของมันมีเปลวไฟสีเงินส่องประกาย และมีอักษรรูนสีทองอ่อนปรากฏขึ้นมาจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

เทพมารชี้นิ้วไปด้านหน้า พร้อมพูดว่า “ไป”

วิหคเพลิงตัวนี้สยายปีกออกอย่างงดงาม อักษรรูนที่อยู่ตรงปีกก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ในขณะเดียวกันร่างกายของมันก็ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ชั่วพริบตาเดียวมันก็กลายเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีขนาดมากกว่าร้อยจั้ง หลังจากที่หวีดร้องเสียงแหลม มันก็มุ่งตรงไปด้านหน้าทันที

มังกรตัวนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง อ้าปากแล้วพ่นลำแสงสีแดงชาดออกมาทันที พร้อมเบี่ยงทิศทางมาโจมตีนกเพลิงตัวนี้ด้วย

เสียงหนึ่งดังขึ้น

อักษรรูนสีทองบนตัวของนกตัวนั้นก็ส่องประกายเล็กน้อย ลำแสงสีแดงชาดหายเข้าไปในตัวของนกตัวนั้นอย่างไร้สุ้มไร้เสียง มันกลับทำให้นกตัวนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก

“เพลิงแก่นอัคคี นี่มันวิหคเพลิงแก่นอัคคี” เมื่อมังกรตัวนั้นเห็นเช่นนั้น ก็ตกใจอย่างมาก พร้อมตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความตกใจระคนโกรธ อีกทั้งยังมีความหวาดกลัวสอดแทรกขึ้นมาอีกด้วย ความสงบนิ่งดังเดิมหายไปหมดแล้ว

นกเพลิงสีเงินตัวนั้นไม่พูดไม่หือไม่อื้อเลยสักนิด มันทำเพียงแค่สยายปีกออกไปอีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่มังกรตัวนั้น และเปลวเพลิงสีเงินก็ไล่ตามหลังมา

มังกรตัวนั้นกรีดร้องโหยหวนอีกครั้ง เมื่อร่างนั้นเคลื่อนตัว มันก็กลายเป็นลูกบอลเนื้อสีแดงชาดขนาดใหญ่ เครายาวด้านนอกส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง กลับเป็นม่านสีชาดปกคลุมเอาไว้อีกชั้น เพื่อเป็นปราการที่ปกป้องตัวเองไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

หลังจากที่เพลิงสีเงินสัมผัสกับม่านแสงแล้ว ทันใดนั้นแสงสีเงินและแดงก็ระเบิดออกมา จนทำให้เวลาหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อหานลี่เห็นดังนั้น เขาก็พูดขึ้นมาว่า “อย่างนี้นี่เอง”

วิหคเพลิงกลืนวิญญาณของเขาตัวนี้ เดิมทีมันก็เกิดมาเพื่อกินเพลิงวิญญาณทุกอย่างอยู่แล้ว หลังจากที่มันเข้าจำศีลเมื่อครั้งที่แล้ว การควบคุมสัตว์วิญญาณธาตุไฟก็เหมือนจะชัดเจนยิ่งขึ้น นำมาจัดการกับหั่วซวีจือในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

“คิดไม่ถึงว่าระดับการฝึกฝนอย่างเจ้าจะมีเพลิงแก่นอัคคีและเนตรอาคมสูญสลาย อีกทั้งยังฝึกฝนมันจนอยู่ในระดับปรมาจารย์แล้ว ดูเหมือนว่าถ้าข้าไม่ดับเครื่องชนคงจะไม่ได้สินะ” ในที่สุดหม่าเหลียงก็เอามือออกจากศีรษะ ความเจ็บปวดบนใบหน้าก็หายไปหมดแล้ว หลังจากที่เขากวาดสายตาไปมองมังกรและนกสีเงินแล้ว เขาก็พูดขึ้นด้วยท่าทางสงบผิดปกติ

“หึ เจ้ายังมีวิชาอะไรก็แสดงออกมาเลย” เทพมารแค่นหัวเราะดัง หึ เขาไม่ได้สนใจเรื่องที่โดนทุบอาวุธในมือทิ้ง

ทันใดนั้นร่างกายของหม่าเหลียงก็เลือนหายไปจากจุดเดิม หลังจากที่เขาไปปรากฏบริเวณอื่น ในมือของเขาก็มียาอายุวัฒนะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเม็ด ภายนอกเป็นสีขาวสว่างดั่งน้ำนม และยังมีกลิ่นหอมของไม้จันทน์ออกมาอีกด้วย

“คิดไม่ถึงว่า คนอย่างข้าก็มีวันที่ได้กินยาอายุวัฒนะกับเขาด้วย รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปฆ่าเจ้าแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าลิ้มรสความทรมานที่อยู่ไม่สู้ตาย” หม่าเหลียงพูดพร้อมกัดฟันกร๊อด เขาสะบัดมือขึ้น โยนยาอายุวัฒนะเข้าปากไป หลังจากกลืนยาเข้าไปแล้ว

วินาทีต่อมาเขาก็คำรามเสียงดังลั่น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นไม้จันทน์ หมอกจิตวิญญาณสีขาวเหมือนน้ำนมไหลออกมาจากร่างกาย พริบตาเดียวบริเวณใกล้เคียงก็กลายเป็นทะเลหมอกสีขาวไปหมดแล้ว

เกิดระลอกคลื่นขึ้น

เทพมารปรากฏตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงกับเงาร่างนั้น เมื่อแขนทั้งห้ากวัดไกวไปมา ลำแสงสีทองทั้งห้าและเสียงฟ้าร้องลมกรรโชกแรงก็พัดผ่านไปที่ทะเลหมอกแห่งนั้น

“ตู้ม” เสียงหนึ่งดังขึ้น

ลำแสงทั้งห้าหยุดเคลื่อนไหวที่ท่ามกลางหมอก ราวกับว่ามันโจมตีอะไรสักอย่างได้ แต่ทันใดนั้นมันก็กระเด็นออกมาทันที หานลี่เองก็มีร่องรอยความประหลาดใจปรากฏขึ้นมา จากนั้นเขาก็อ้าปากขึ้นพร้อมเป่าลมอย่างแรงไปยังฝ่ายตรงข้าม

ชั่ววินาทีนั้น ลมพายุก็พูดแรงขึ้น หมอกสีขาวก็ถูกพัดออกไปจนหมด ทำให้เห็นสถานการณ์ที่แท้จริงภายในทั้งหมด

เมื่อทะเลหมอกหายไปแล้ว ก็เห็นว่านอกจากหม่าเหลียงแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ หน้าตาของเขาคล้ายกับหม่าเหลียงอย่างมาก เพียงแต่ผิวคล้ำมากกว่า

ผู้ชายคนนี้มีท่าทางผิดปกติ ไหล่ที่บิดผิดรูปผิดร่างค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม

เหมือนอาวุธทั้งห้าของเขา โดนแขนของผู้ชายคนนี้ขวางเอาไว้

“ไร้ประโยชน์จริงๆ คิดไม่ถึงว่าแค่เด็กจากโลกมนุษย์ เจ้ายังต้องเรียกข้ามา ดูจากความกตัญญูที่เจ้ามีต่อข้าในช่วงหลายปีมานี้ ข้าจะช่วยเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน” ชายผิวคล้ำคนนั้นหมุนหัวไหล่ไปมา ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากด้านใน

แขนที่คดงอของเขาก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้ว

“พี่หมัว เก็บจิตวิญญาณขั้นก่อกำเนิดของเขาไว้ ข้าจ่ายค่าตอบแทนไปมากขนาดนั้น หากปล่อยให้มันตายง่ายๆ เกรงว่าอาจจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นได้ง่ายๆ” หม่าเหลียงพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม

“ฮ่าๆ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา” ชายผิวคล้ำพูดพร้อมหัวเราะขึ้นมา

“ปีศาจจากแดนอื่น” แววตาทั้งหกของเทพมารก็เปล่งประกายขึ้น พร้อมกระซิบถามเสียงเบา

“เจ้าเดาได้ถูกต้องเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรางวัลให้” ชายผิวเข้มหัวเราะเสียงเย็น เท้าข้างหนึ่งเหยียบขึ้นที่ความว่างเปล่า ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็พุ่งออกไปราวกับลูกศร พริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าของเทพมารแล้ว

เทพมารมีสีหน้าตกใจอย่างมาก อาวุธทั้งห้ากวัดไกว่ไปด้านหน้า และกลายเป็นแสงสีทองที่สาดซัดออกมาอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะเสียงแหลม แปลกๆ ดังออกมา ร่างของชายผิวเข้มก็ถูกปกคลุมด้วยเพลิงปีศาจสีดำ หลังจากร่างของเขาเลือนรางอีกครั้ง ราวกับว่าร่างของเขานั้นไร้ตัวตน เขาหลบหนีการสกัดกั้นของอาวุธทั้งห้าอย่างง่ายดาย และพุ่งไปสู่ร่างของเทพมารอย่างรวดเร็ว

วินาทีถัดมา อาวุธทั้งห้าของเทพมารก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งตรงหน้าท้องของเทพมารก็มีหลุมสีดำปรากฏขึ้นมาหนึ่งหลุม ทันใดนั้นเพลิงปีศาจก็พวยพุ่งออกมา และปกคลุมทุกอย่างที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

เมื่อหม่าเหลียงเห็นดังนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

แต่ในตอนนั้นเอง ที่กลางอากาศก็มีเสียงเบาๆ ที่พูดขึ้นว่า “วังวนลำแสงสีทอง”

ทันทีที่เขาได้ยินเสียงนี้ ความเจ็บปวดเหมือนมีดแหลมคมมาแทงที่โสตประสาทของเขาทันที หลังจากเขากรีดร้องเสียงดัง ร่างกายของเขาก็บิดงอ แล้วไม่สนใจสิ่งรอบข้างแล้ว

แทบจะในเวลาเดียวกัน ร่างที่สูงมากกว่าสิบจั้งมีสามเศียรหกกร ก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของหม่าเหลียง แขนทั้งห้าของเขาปล่อยลูกบอลแสงสีทองออกไป พร้อมเสียงดัง “ตู้ม” แสงสีทองเหล่านั้นก็กลายเป็นวังวนขนาดใหญ่ ระลอกคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากมันชั่วพริบตาเดียวมันก็ปกคลุมด้านล่างทั้งหมด

หม่าเหลียงสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็ไม่สามารถขยับตัวเองได้ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

แต่ตอนนั้นเอง มือสุดท้ายที่จับกระบี่ไม้ไว้ก็วาดแขนขึ้น เสียงปราณฟ้าดินก็ส่งเสียงดังหึ่งๆ เส้นบางๆ สีเขียวบางก็ปรากฏมาอีกครั้ง ทุบทำลายปราณที่ปกป้องร่างกายของหม่าเหลียงเอาไว้ แล้วพุ่งไปยังคอของเขาโดยทันที

เสียงกลิ้งหลุนๆ ดังขึ้น หัวของเขาตกลงพื้นอย่างแรง

“ตุ้บ” ร่างกายที่ไม่มีหัวก็ล้มลงพื้น